สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เอาจริงๆนะ เราไม่เห็นว่าลูกคุณทำผิดตรงไหน ที่ใช้ผ้าผืนเดียวที่มีติดตัวทำความสะอาดสิ่งที่ตัวเองทำเลอะเอาไว้
เราจะไม่สอนให้ลูกเราคอยแต่พึ่งพาคนอื่น ทำน้ำหก บอกให้แม่มาเช็ด บอกให้ครูมาเช็ด บอกให้ภารโรงมาเช็ด
ไม่ค่ะ ถ้าลูกทำน้ำหก ลูกก็ต้องเช็ดเอง ถ้าเป็นที่บ้านเขารู้อยู่แล้วว่าผ้าขี้ริ้วอยู่ตรงไหน แต่ที่โรงเรียนมันไม่มี ที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือผ้าเช็ดหน้า
(จริงๆแล้ว เราคงให้ลูกพกทิชชู่ไปโรงเรียนแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะมันสะอาดกว่า ใช้แล้วทิ้งไปเลย) ก็ต้องใช้มันทำความสะอาดของสาธารณะที่ตัวองทำเลอะไว้
ถ้าลูกเกิดเข้าห้องน้ำไปอึ แล้วเกิดไม่มีกระดาษทิชชู่ ลูกเราคงไม่ต้องเดินออกมาเรียกครูไปเช็ดให้
เขาก็ต้องใช้ผ้าผืนน้อยผืนเดียวที่มีอยู่ ทำความสะอาดตัวเองอยู่ดี เขาควรต้องคิดได้ ว่าจะต้องทำอย่างนั้น
ผ้าเช็ดหน้า ยังไงก็ของนอกกาย ลูกไม่ควรไปยึดติดว่ามันคือผ้าเช็ดหน้า เอาไว้เช็ดหน้าเท่านั้น ถ้ามันจะต้องใช้ มันก็ต้องใช้ ก็เท่านั้น
เราจะไม่สอนให้ลูกเราคอยแต่พึ่งพาคนอื่น ทำน้ำหก บอกให้แม่มาเช็ด บอกให้ครูมาเช็ด บอกให้ภารโรงมาเช็ด
ไม่ค่ะ ถ้าลูกทำน้ำหก ลูกก็ต้องเช็ดเอง ถ้าเป็นที่บ้านเขารู้อยู่แล้วว่าผ้าขี้ริ้วอยู่ตรงไหน แต่ที่โรงเรียนมันไม่มี ที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือผ้าเช็ดหน้า
(จริงๆแล้ว เราคงให้ลูกพกทิชชู่ไปโรงเรียนแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะมันสะอาดกว่า ใช้แล้วทิ้งไปเลย) ก็ต้องใช้มันทำความสะอาดของสาธารณะที่ตัวองทำเลอะไว้
ถ้าลูกเกิดเข้าห้องน้ำไปอึ แล้วเกิดไม่มีกระดาษทิชชู่ ลูกเราคงไม่ต้องเดินออกมาเรียกครูไปเช็ดให้
เขาก็ต้องใช้ผ้าผืนน้อยผืนเดียวที่มีอยู่ ทำความสะอาดตัวเองอยู่ดี เขาควรต้องคิดได้ ว่าจะต้องทำอย่างนั้น
ผ้าเช็ดหน้า ยังไงก็ของนอกกาย ลูกไม่ควรไปยึดติดว่ามันคือผ้าเช็ดหน้า เอาไว้เช็ดหน้าเท่านั้น ถ้ามันจะต้องใช้ มันก็ต้องใช้ ก็เท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
ไม่ได้โลกสวยแต่เราสอนลูกแบบนี้เหมาะมั้ยค้ะ
เรา : แล้วทำไมไม่ใช้ผ้าอื่น หรือ บอกคุณครูล่ะ จะได้ไม่ต้องเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ด นี่ไม่ได้เอาไว้เช็ดพื้นน้ะลูก
ลูก : พอลูกทำหก เพื่อนก็ฟ้องครู ลูกเช็ดแล้ว มันก็ฟ้องครูอีก
เราเข้่าใจเด็กค่ะ ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ ประมาณว่า กลัวโดนด่า รีบเช็ดๆ ใหญ่เลย อีกทั้งเพื่อนคนนี้นี้ ก็ตะโกนบอกครูอยู่นั่นแหละ ทีนี้ลูกเราคงใจเสีย เรารู้ว่าลูกเราไม่พอใจเพื่อน เลยชวนคุย
เรา : ถ้าเป็นลูกๆ ไม่ต้องบอกครูน้ะครับ ช่วยเพื่อนเช็ด เพื่อนเค้าก็กลัวครูด่า ไม่ต้องบอกหรอก สงสารเพื่ือน
ลูก : ไม่ ลูกจะบอก พอทีเพื่อนๆ ฟ้อง ลูกจะฟ้องมั่ง ฟ้องกลับไปเลย (เรารู้ว่า นี่แหละ คือ การแก้แค้น)
เรา : ไม่สงสารเพื่อนเหรอ
ลูก : ไม่ ทีลูก เพื่อนฟ้อง ลูกจะบอกครูมั่ง (ยังไม่หายแค้น ^_^)
เรา : ลูกจ๋า ถ้าเราเจอคนไม่ดี เราก็ต้องทำดีกับเค้ากลับน้ะ เค้าจะได้รู้งัยลูก ว่าทีหลัง เค้าก็ต้องทำดี (ลูกเรานิ่ง คาดว่า งง รับประทาน)
เรา : ต่อไป ถ้าเรื่องแบบนี้ ไม่ต้องเอาไปบอกครูน้ะค้ะ ช่วยเพื่อน เดี๋ยวพอครูรู้ ครูก็ด่า เพื่อนก็เสียใจ ตัวเองอยากให้เพื่อนเสียใจเรา (ยังนิ่งอยู่)
เรา : เจอใครเลว เราต้องทำดีใส่ ไม่ต้องไปกลัว อัลลอฮ (เราเป็นมุสลิมค่ะ) รู้ เห็น น้ะครับ (ลูกเรา พยักหน้า แต่สีหน้า แบบว่า เซ็งอ่ะ จะฟ้องกลับ)
ลูก : ก็ได้
ตอนนี้ สถานการณ์แบบนี้ คาดว่า จะสอนแบบนี้ก่อน เพราะเรื่องหยุมหยิมมาก แต่โตขึ้น คงต้องเปลี่ยนแนว เพราะการปกปิด ความชั่วของคนอื่น ในเรื่องที่ไม่ควรปกปิด มันก็ส่งผลร้าย ลูกเราแค่ ห้าขวบ ไม่รู้โตเป็นวัยรุ่น จะเจอะ เจอเรื่องอะไรบ้าง แต่เราอยากให้ลูกเราบอกเรา บอกพ่อเค้า ทุกวันนี้ เราค่อนข้างสนิทกับลูก เพราะยิ่งผู้ชาย พอถึงวัยรุ่น เค้าคงติดเพื่อนกว่า ผู้หญิง และการเม้าท์มอยกับปม่ คงไม่ใช่วิสัยเด็กผู้ชาย
เราไม่รู้ว่า ลูกใครเจอ หรือเป็นแบบนี้มั้ยค้ะ ในวัยนี้ เด็กขี้ฟ้อง เยอะมาก มันทำให้อีกคนต้องโดนครูดุ จิตตก กันไป โดยไม่รุ้เลยว่า สิ่งนี้มันคือพื้นฐาน ส่งผลต่อจิตใจไปจนโต ทั้งคนที่ขี้ฟ้อง และคนที่เพื่อนเอาเรื่องความผิดพลาดตัวเอง ไปฟ้องครู
หากใครเห็นต่าง เราขอความเห็นและยินดีค่ะ ว่าเราต้องเพิ่ม ต้องลด การสอนให้เค้าเป็นคนคิดดี ทำดีอย่างไรบ้าง ขอบคุณค่ะ ^_^
แก้ไขคำที่บอกแล้วค่ะ