สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ร่วมสนทนา นะครับ
จากคำถามตามกระทู้นั้น ผมไม่ทราบว่า เขาทั้งคู่ ทำกรรมอะไรมา แต่ก็ทราบโดยปริยายว่า อกุศลกรรมอันเป็นวิบากกรรม ได้สงผลอย่างรุนแรง กับชีวิตที่กำลังมีความสุข และความเจริญทางโลก อย่างเฉียบพลันครับ.
ทำไมผมจึงกล่าว ถึงเรื่องกรรม เรื่องวิบากกรรม เพราะชีวิตผมก็เกือบสิ้นแบบเฉียบพลันมาก่อน เพราะเกิดสะโตรก เส้นเลือดอุดตันในสมองอย่างเฉียบพลัน น็อกแบบขณะที่มีสติชัดเจน ทั้งที่สดชื่นร่างกายก็ดีในยามเช้า ขณะกำลังเดินอยู่ หมดสิ้นสิ้นสติไป ต้องอยู่ในห้องไอชียู 2 วัน 2 คืน หรือ 48 ชั่วโมง โชดดีที่เส้นเลือดสมองไม่แตก อาจจะเป็นเพราะขณะที่เชขณะเดินเปิดประตูบ้าน ทรงตัวไม่ได้ทั้งยืนนั้น สติรู้ทันจึงผลิกตัวตามที่เชนั้น เอาหลังพิงยันประตูที่ปิดล็อกอยู่ แล้วปล่อยให้คลูดลงไปเอง แล้วหมดสติไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ไม่ได้เหมือนกับคนทั่วไป เพราะสมองยังไม่ปกติ เข้ามาถึงบ้าน ก็เหมือนไม่มีความเคยชินกับบ้านตนเอง การรับรู้ต่างๆ มันรวนๆ มาก การเคลื่อนไหวร่างกายก็ไม่ปกติ เดินเพียงระยะทางแค่ 50 เมตร ก็เริ่มแก่วงแล้ว หัวนี้ต้องตั้งตรงถ้าเอียงหรือหันช้ายขวาก็จะมีปัญหา ก็จะแกว่งๆ
และที่น่ากลัวมากๆ ก็คือ มีสภาวะคล้ายจะเป็นเจ้าชายนิทรา คือหลายๆ ครั้ง ตื่นนอนขึ้นมาใจรู้ว่าตื่นแล้ว แต่ไม่สามารถปลุกให้ร่างกายตนเองตื่นรับรู้ได้ โดนขังอยู่เช่นนั้น ดิ้นรนอยู่เช่นนั้น เพื่อให้ร่างกายตื่นรับรู้ ก็ไม่ได้ เป็นเวลานานมาก จนต้องสลดและเสียใจอย่างยิ่งว่าตนเองกำลังจะเป็นเจ้าชายนิทรา ความสลดเสียใจนั้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นๆ กดใจตนเองเพิ่มขึ้น จนเหมือนจะกลั่นเป็นน้ำตา ร่างกายจึงคอยๆ ตื่นขึ้นมาได้
อาการที่จะเป็นเจ้าชายนิทรา ก็จะค่อยเป็นถี่ขึ้น และชัดเจนขึ้น จนน่ากลัว ก็มีผู้แนะนำในเน็นว่าเมื่ออยู่ในสภาวะนั้นก็ให้นึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สิครับ เผือจะช่วยได้ จึงรู้ว่า โอ้ เรานี้ลืมไปได้อย่างไร
เมื่อได้รับการแนะนำ เช้าในวันต่อมาก็เกิดอาการแบบเจ้าชายนิทราอีก ก็ดิ้นรนและติดอยู่นานเช่นเดิม ก็นึกขึ้นได้ว่าเราควร ระลึกถึง คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตามที่ผู้แนะนำ จึงภาวนา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในใจที่ติดอยู่นั้น และระลึกถึงคุณพระรัตณตรัยจริงๆ ปีติก็เกิดขึ้นกับใจ แล้วปีติก็จะแรงมากขึ้นๆ ๆ จนสร้านเต็มไปทั้งใจแล้วแผ่ไปทางกาย สามารถตื่นขึ้นมาได้
4-5 วันต่อมาก็เกิดสภาวะเดิมอีก ก็ได้กระทำการภาวนาแบบเดิม เป็นแบบเดิมอีกที่ตืนมาได้ แล้วในวันถัด มาก็เป็นแบบเดิมอีก ก็ภาวนาแบบเดิมอีก ก็หลุดพ้นมาได้ หลังจากนั้นสภาวะนั้นก็ค่อยๆ เป็นแบบห่างๆ ไป แล้วไม่ต้องถึงขั้นภาวนา ก็จะตืนขึ้นมาได้เอง จนอาการนั้นหายไป ก็รวมเป็นเวลา ประมาณ 4 เดือน (หมายเหตุ กว่าผมจะดูเป็นปกติและมั่นใจในตนเอง ก็ประมาณ 1 ปี นี้ก็ 2 ปีกว่าไปแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะปกติเหมือนเดิมจริงๆ ยังมีร่องลอยอยู่ เว่อๆ วูบๆ อยู่บ้างในบางครั้งแต่ไม่มาก ซึ่งภายนอกก็จะดูเหมือนปกติครับ)
วันหนึ่งหลังจากผมกำหนดภาวนา ผมก็เกิดคำนึงขึ้นว่า ด้วยกรรมกรรมอะไรหนอ ผมจึงเกือบตายด้วยโรคนี้ ผมจึงอธิษฐานและกำหนดดู เมื่อกำหนดภาวนาไปตามปกติสมาธิก็ผลิกวูบไป ก็เกิดภาพนิมิตขึ้นมา เสมือนผม กับอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้กุมเฝ้าผู้ถูกกุมขังยืนอยู่ และมีผู้ถูกกุมขัง เป็นนักโทษ มีโซ้ตรวนอยู่ที่มือและเท้า นั่งชันเข่าอยู่ แล้วผมเหมือนเอาไม้หน้า 3 เหวี่ยงตี นักโทษคนนั้น อย่างแรงตรงหัว แล้วนักโทษคนนั้นก็ยกมือและแขนป้องหัวของตนเอง ผมตีไปน่าจะ 2 หรือ 3 ครั้ง จนนักโทษคนนั้นหมอบลงไป หลังจากนั้นสมาธิผมก็ถอนออกมารับรู้ปกติ
ผมก็คิดว่า โอ้... ในชีวิตผมตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 50 กว่าไปแล้ว ก็ไม่เคยทำร้ายคนอย่างนี้มาก่อนเลย คงเป็นวิบากกรรมที่ผมทำไว้ืเมื่ออดีตชาติก่อนๆ นั้นเอง
หมายเหตุ ที่ผมเล่าและพิมพ์เสนอนี้ก็เพื่อชี้ให้ทราบว่า กรรมที่เป็น บุญ บาป และ โลกนี้มี โลกหน้า นั้นเป็นจริง มีจริง.
จากคำถามตามกระทู้นั้น ผมไม่ทราบว่า เขาทั้งคู่ ทำกรรมอะไรมา แต่ก็ทราบโดยปริยายว่า อกุศลกรรมอันเป็นวิบากกรรม ได้สงผลอย่างรุนแรง กับชีวิตที่กำลังมีความสุข และความเจริญทางโลก อย่างเฉียบพลันครับ.
ทำไมผมจึงกล่าว ถึงเรื่องกรรม เรื่องวิบากกรรม เพราะชีวิตผมก็เกือบสิ้นแบบเฉียบพลันมาก่อน เพราะเกิดสะโตรก เส้นเลือดอุดตันในสมองอย่างเฉียบพลัน น็อกแบบขณะที่มีสติชัดเจน ทั้งที่สดชื่นร่างกายก็ดีในยามเช้า ขณะกำลังเดินอยู่ หมดสิ้นสิ้นสติไป ต้องอยู่ในห้องไอชียู 2 วัน 2 คืน หรือ 48 ชั่วโมง โชดดีที่เส้นเลือดสมองไม่แตก อาจจะเป็นเพราะขณะที่เชขณะเดินเปิดประตูบ้าน ทรงตัวไม่ได้ทั้งยืนนั้น สติรู้ทันจึงผลิกตัวตามที่เชนั้น เอาหลังพิงยันประตูที่ปิดล็อกอยู่ แล้วปล่อยให้คลูดลงไปเอง แล้วหมดสติไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ไม่ได้เหมือนกับคนทั่วไป เพราะสมองยังไม่ปกติ เข้ามาถึงบ้าน ก็เหมือนไม่มีความเคยชินกับบ้านตนเอง การรับรู้ต่างๆ มันรวนๆ มาก การเคลื่อนไหวร่างกายก็ไม่ปกติ เดินเพียงระยะทางแค่ 50 เมตร ก็เริ่มแก่วงแล้ว หัวนี้ต้องตั้งตรงถ้าเอียงหรือหันช้ายขวาก็จะมีปัญหา ก็จะแกว่งๆ
และที่น่ากลัวมากๆ ก็คือ มีสภาวะคล้ายจะเป็นเจ้าชายนิทรา คือหลายๆ ครั้ง ตื่นนอนขึ้นมาใจรู้ว่าตื่นแล้ว แต่ไม่สามารถปลุกให้ร่างกายตนเองตื่นรับรู้ได้ โดนขังอยู่เช่นนั้น ดิ้นรนอยู่เช่นนั้น เพื่อให้ร่างกายตื่นรับรู้ ก็ไม่ได้ เป็นเวลานานมาก จนต้องสลดและเสียใจอย่างยิ่งว่าตนเองกำลังจะเป็นเจ้าชายนิทรา ความสลดเสียใจนั้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นๆ กดใจตนเองเพิ่มขึ้น จนเหมือนจะกลั่นเป็นน้ำตา ร่างกายจึงคอยๆ ตื่นขึ้นมาได้
อาการที่จะเป็นเจ้าชายนิทรา ก็จะค่อยเป็นถี่ขึ้น และชัดเจนขึ้น จนน่ากลัว ก็มีผู้แนะนำในเน็นว่าเมื่ออยู่ในสภาวะนั้นก็ให้นึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สิครับ เผือจะช่วยได้ จึงรู้ว่า โอ้ เรานี้ลืมไปได้อย่างไร
เมื่อได้รับการแนะนำ เช้าในวันต่อมาก็เกิดอาการแบบเจ้าชายนิทราอีก ก็ดิ้นรนและติดอยู่นานเช่นเดิม ก็นึกขึ้นได้ว่าเราควร ระลึกถึง คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตามที่ผู้แนะนำ จึงภาวนา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในใจที่ติดอยู่นั้น และระลึกถึงคุณพระรัตณตรัยจริงๆ ปีติก็เกิดขึ้นกับใจ แล้วปีติก็จะแรงมากขึ้นๆ ๆ จนสร้านเต็มไปทั้งใจแล้วแผ่ไปทางกาย สามารถตื่นขึ้นมาได้
4-5 วันต่อมาก็เกิดสภาวะเดิมอีก ก็ได้กระทำการภาวนาแบบเดิม เป็นแบบเดิมอีกที่ตืนมาได้ แล้วในวันถัด มาก็เป็นแบบเดิมอีก ก็ภาวนาแบบเดิมอีก ก็หลุดพ้นมาได้ หลังจากนั้นสภาวะนั้นก็ค่อยๆ เป็นแบบห่างๆ ไป แล้วไม่ต้องถึงขั้นภาวนา ก็จะตืนขึ้นมาได้เอง จนอาการนั้นหายไป ก็รวมเป็นเวลา ประมาณ 4 เดือน (หมายเหตุ กว่าผมจะดูเป็นปกติและมั่นใจในตนเอง ก็ประมาณ 1 ปี นี้ก็ 2 ปีกว่าไปแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะปกติเหมือนเดิมจริงๆ ยังมีร่องลอยอยู่ เว่อๆ วูบๆ อยู่บ้างในบางครั้งแต่ไม่มาก ซึ่งภายนอกก็จะดูเหมือนปกติครับ)
วันหนึ่งหลังจากผมกำหนดภาวนา ผมก็เกิดคำนึงขึ้นว่า ด้วยกรรมกรรมอะไรหนอ ผมจึงเกือบตายด้วยโรคนี้ ผมจึงอธิษฐานและกำหนดดู เมื่อกำหนดภาวนาไปตามปกติสมาธิก็ผลิกวูบไป ก็เกิดภาพนิมิตขึ้นมา เสมือนผม กับอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้กุมเฝ้าผู้ถูกกุมขังยืนอยู่ และมีผู้ถูกกุมขัง เป็นนักโทษ มีโซ้ตรวนอยู่ที่มือและเท้า นั่งชันเข่าอยู่ แล้วผมเหมือนเอาไม้หน้า 3 เหวี่ยงตี นักโทษคนนั้น อย่างแรงตรงหัว แล้วนักโทษคนนั้นก็ยกมือและแขนป้องหัวของตนเอง ผมตีไปน่าจะ 2 หรือ 3 ครั้ง จนนักโทษคนนั้นหมอบลงไป หลังจากนั้นสมาธิผมก็ถอนออกมารับรู้ปกติ
ผมก็คิดว่า โอ้... ในชีวิตผมตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 50 กว่าไปแล้ว ก็ไม่เคยทำร้ายคนอย่างนี้มาก่อนเลย คงเป็นวิบากกรรมที่ผมทำไว้ืเมื่ออดีตชาติก่อนๆ นั้นเอง
หมายเหตุ ที่ผมเล่าและพิมพ์เสนอนี้ก็เพื่อชี้ให้ทราบว่า กรรมที่เป็น บุญ บาป และ โลกนี้มี โลกหน้า นั้นเป็นจริง มีจริง.
แสดงความคิดเห็น
กรรมอะไร ส่งผลให้โดนฟ้าผ่าเสียชีวิต
ที่ตั้งกระทู้ถามเพราะอยากรู้ค่ะ ไม่ได้คิดซ้ำเติมใคร และพาดพิงถึงใคร
และเลือกถามที่ห้องศาสนาเพราะคิดว่าอาจเกี่ยวเนื่องในทางพระพุทธศาสนา
ขอบคุณค่ะ