ผ่านมาเกือบสัปดาห์กับกระแสข่าว “น้องปัน ปัน” เสพยาไอซ์ ลำดับเหตุการณ์ย่อๆ ของเรื่องนี้คือ....
สัปดาห์ที่แล้วภาพหลุดของดาราวัยรุ่นจากซีรี่ส์เรื่อง “Hormones” วัยว้าวุ่น ข่าวว่าดาราคนดังกล่าวติดยาเสพติด
พีอาร์ต้นสังกัดออกมาให้ข่าวว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพสปอตรณรงค์ ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นสร้างกระแส PR หนัง
คุณพ่อของนักแสดงวัยรุ่นออกมาแถลงข่าววันที่ 24 ก.ค. ยอมรับว่าลูกสาวลองเสพย์ยาไอซ์จริง แต่เป็นการทดลองเสพย์เพียง 1 ครั้งเท่านั้น
25 ก.ค. “สิน ยงยุทธ ทองกองทุน” ผู้บริหารจีทีเอช และ “ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์” ผู้กำกับซีรีส์เรื่องดังกล่าว ได้ออกมาเปิดแถลงข่าวว่า “รู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกชื่นชมที่พ่อของปันปันเลือกที่จะออกมาพูดความจริง”
รองล่าสุด 26 ก.ค.นักการเมืองรุ่นเก๋าเฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมานับญาติกับดาราวัยรุ่นคนนี้ และแถลงข่าวร่วมกับกับดาราสาวพร้อมกับคุณพ่อว่า .....ไม่พบสารเสพติดในตัวนางสาวสุทัตตา แสดงว่านักแสดงสาวไม่ได้เสพยา และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด แต่สาเหตุที่บิดาของปันปันออกมาแถลงข่าวเมื่อวานนั้น เพราะตกใจที่เห็นภาพลูกสาวเสพยาในอินเทอร์เน็ต เลยแถลงข่าวว่าลูกสาวเคยทดลองเสพยา ซึ่งจริง ๆ แล้วภาพนั้นอาจเป็นภาพตัดต่อก็ได้ เพราะภาพแบบนี้ใครก็ทำได้......
ล่าสุด 2 วันที่ผ่านมา (27 ก.ค.) คุณพ่อสุรศักดิ์ อุดมศักดิ์ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตนเอง สอนลูกมาตลอดว่า " โกหกคนอื่นได้แต่โกหกตัวเองไม่ได้" โดยได้ออกมายืนยันคำเดิมที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งขอโทษทุกฝ่ายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและยืนยันที่จะสั่งพักงานปันปัน ตามเดิม
!!!!!?????!?!??!!!!?!?!?!?!????!!
ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะจบ หรือลงเอยอย่างไร จะมีอีกข่าวต้องให้ผู้เกี่ยวข้อง(และไม่เกี่ยวข้อง) ต้องแถลง สิ่งหนึ่งที่สังคมไทยควรเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ......
1. การยอมรับความจริง การยอมรับผิด เป็นเรื่องช็อคโลกของสังคมไทย เพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่าคุณพ่อของดาราสาวจะออกมายอมรับเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ต้นสังกัดได้แก้ข่าวให้แล้ว และถ้าเงียบๆ ไป เรื่องก็อาจจะจบลงด้วยดี ดีไม่ดีอาจจะทำตอนหนังเพิ่มว่าด้วยเรื่องการเสพยาเข้าให้
2. ผู้กำกับ นายทุนก็ยังเป็นนักธุรกิจอยู่วันยังค่ำ เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง แทนที่จะออกมายอมรับผิดชอบต่อการแก้ข่าวของค่ายตัวในตอนแรก ก็แถลงข่าวว่า …..รู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น….. และสัมภาษณ์ว่า ...ชื่นชมคุณพ่อของดาราสาว... แทนที่จะช็อคที่ PR ของตัวเองแก้ข่าวโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลก่อนว่าเป็นภาพส่วนตัวหรือภาพจากหนัง (ในกรณีที่มองโลกในแง่ดีว่าหนังมีสปอตรณรงค์ในเรื่องนี้จริง)
3. ส่วนนักการเมืองไทยนี่ยิ่งมหัศจรรย์ใจไทยแลนด์ เข้าไปใหญ่ เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวก็ออกมาทำตัวให้เกี่ยวข้องได้อีก แล้วมันเรื่องอะไรกันที่จะต้องใช้มาตรฐานการในแวดวงตัวเองไปใช้กับคนที่เขาพอจะเป็นแบบอย่างของสังคมได้ คนเขายอมรับความผิดของลูกสาวที่พลาดทดลองเสพยาแแล้วยังจะมาแก้ตัวแบบสิ้นคิดว่า “....คุณพ่อตกใจ เลยออกมายอมรับ.....” !!!
ประเทศชาตินี้ยิ่งหาแบบอย่างคนดีๆ ที่รู้ผิด รู้ชอบ ได้ยากๆ อยู่
ไหนๆ “อาเหลิม” ก็มาเปิดประเด็นคู่กับ “คุณพ่อน้องปันปัน” งานนี้แล้ว เพื่อไม่ให้เสียศรัทธา และมีคุณประโยชน์ต่อสังคมบ้าง ขอนำเสนอเป็น Model เปรียบเทียบด้วยสุภาษิตไทยง่ายๆ “คนดีแก้ไข คน.......แก้ตัว
โปรดใช้วิจารณญาณในการเลือกนะคะ คุณอยากเป็นแบบไหน
ช็อควงการ “อาเหลิม” ปะทะ พ่อ “น้องปัน ปัน” เรื่องจริงที่สังคมต้องเรียนรู้
สัปดาห์ที่แล้วภาพหลุดของดาราวัยรุ่นจากซีรี่ส์เรื่อง “Hormones” วัยว้าวุ่น ข่าวว่าดาราคนดังกล่าวติดยาเสพติด
พีอาร์ต้นสังกัดออกมาให้ข่าวว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพสปอตรณรงค์ ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นสร้างกระแส PR หนัง
คุณพ่อของนักแสดงวัยรุ่นออกมาแถลงข่าววันที่ 24 ก.ค. ยอมรับว่าลูกสาวลองเสพย์ยาไอซ์จริง แต่เป็นการทดลองเสพย์เพียง 1 ครั้งเท่านั้น
25 ก.ค. “สิน ยงยุทธ ทองกองทุน” ผู้บริหารจีทีเอช และ “ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์” ผู้กำกับซีรีส์เรื่องดังกล่าว ได้ออกมาเปิดแถลงข่าวว่า “รู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกชื่นชมที่พ่อของปันปันเลือกที่จะออกมาพูดความจริง”
รองล่าสุด 26 ก.ค.นักการเมืองรุ่นเก๋าเฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมานับญาติกับดาราวัยรุ่นคนนี้ และแถลงข่าวร่วมกับกับดาราสาวพร้อมกับคุณพ่อว่า .....ไม่พบสารเสพติดในตัวนางสาวสุทัตตา แสดงว่านักแสดงสาวไม่ได้เสพยา และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด แต่สาเหตุที่บิดาของปันปันออกมาแถลงข่าวเมื่อวานนั้น เพราะตกใจที่เห็นภาพลูกสาวเสพยาในอินเทอร์เน็ต เลยแถลงข่าวว่าลูกสาวเคยทดลองเสพยา ซึ่งจริง ๆ แล้วภาพนั้นอาจเป็นภาพตัดต่อก็ได้ เพราะภาพแบบนี้ใครก็ทำได้......
ล่าสุด 2 วันที่ผ่านมา (27 ก.ค.) คุณพ่อสุรศักดิ์ อุดมศักดิ์ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตนเอง สอนลูกมาตลอดว่า " โกหกคนอื่นได้แต่โกหกตัวเองไม่ได้" โดยได้ออกมายืนยันคำเดิมที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งขอโทษทุกฝ่ายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและยืนยันที่จะสั่งพักงานปันปัน ตามเดิม
!!!!!?????!?!??!!!!?!?!?!?!????!!
ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะจบ หรือลงเอยอย่างไร จะมีอีกข่าวต้องให้ผู้เกี่ยวข้อง(และไม่เกี่ยวข้อง) ต้องแถลง สิ่งหนึ่งที่สังคมไทยควรเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ......
1. การยอมรับความจริง การยอมรับผิด เป็นเรื่องช็อคโลกของสังคมไทย เพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่าคุณพ่อของดาราสาวจะออกมายอมรับเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ต้นสังกัดได้แก้ข่าวให้แล้ว และถ้าเงียบๆ ไป เรื่องก็อาจจะจบลงด้วยดี ดีไม่ดีอาจจะทำตอนหนังเพิ่มว่าด้วยเรื่องการเสพยาเข้าให้
2. ผู้กำกับ นายทุนก็ยังเป็นนักธุรกิจอยู่วันยังค่ำ เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง แทนที่จะออกมายอมรับผิดชอบต่อการแก้ข่าวของค่ายตัวในตอนแรก ก็แถลงข่าวว่า …..รู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น….. และสัมภาษณ์ว่า ...ชื่นชมคุณพ่อของดาราสาว... แทนที่จะช็อคที่ PR ของตัวเองแก้ข่าวโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลก่อนว่าเป็นภาพส่วนตัวหรือภาพจากหนัง (ในกรณีที่มองโลกในแง่ดีว่าหนังมีสปอตรณรงค์ในเรื่องนี้จริง)
3. ส่วนนักการเมืองไทยนี่ยิ่งมหัศจรรย์ใจไทยแลนด์ เข้าไปใหญ่ เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวก็ออกมาทำตัวให้เกี่ยวข้องได้อีก แล้วมันเรื่องอะไรกันที่จะต้องใช้มาตรฐานการในแวดวงตัวเองไปใช้กับคนที่เขาพอจะเป็นแบบอย่างของสังคมได้ คนเขายอมรับความผิดของลูกสาวที่พลาดทดลองเสพยาแแล้วยังจะมาแก้ตัวแบบสิ้นคิดว่า “....คุณพ่อตกใจ เลยออกมายอมรับ.....” !!!
ประเทศชาตินี้ยิ่งหาแบบอย่างคนดีๆ ที่รู้ผิด รู้ชอบ ได้ยากๆ อยู่
ไหนๆ “อาเหลิม” ก็มาเปิดประเด็นคู่กับ “คุณพ่อน้องปันปัน” งานนี้แล้ว เพื่อไม่ให้เสียศรัทธา และมีคุณประโยชน์ต่อสังคมบ้าง ขอนำเสนอเป็น Model เปรียบเทียบด้วยสุภาษิตไทยง่ายๆ “คนดีแก้ไข คน.......แก้ตัว
โปรดใช้วิจารณญาณในการเลือกนะคะ คุณอยากเป็นแบบไหน