5 ข้อดีของการไม่เชื่อเรื่องดวงชะตา
ตั้งแต่เล็กจนโตใครกล้าปฏิเสธว่าสังคมเราไม่เชื่อเรื่องดวงชะตา ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์หรือแม้แต่ลูกอมยังมีคำพยากรณ์สอดไส้เอาไว้เพื่อชูโรงและเป็นตัวเลือกสำหรับสร้างจุดขาย กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เราอ่านคำทำนายตามราศีแล้วนั่งเฝ้ารอสิ่งดีๆตามที่ผู้ทำนายเขียนเอาไว้ รอเท่าไหร่มันก็ไม่นานจนกระทั่งผู้ทำนายออกปักษ์ใหม่อีกแล้ว กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เราไปหาหมอดูด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาว่าจะทำอะไรซักอย่างตามฝันแต่หมอดูทักว่าอย่าทำเลย ทำไปก็มีแต่เสียกับเสีย ถ้าเราเป็นสังคมที่มีศาสนาแห่งปัญญาจริง ลองเดิมพันความเชื่อดูสักตั้งไหมครับ จะดีแค่ไหนถ้าเราเป็นอิสระ อยากทำอะไรก็สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้โดยไม่ต้องง้อโชคชะตาราศี อยากเป็นนักร้องแต่ดวงไม่ให้ อยากเป็นหมอแต่ดวงดาวบอกเป็นทนายรุ่งกว่า อยากไปต่างประเทศแต่ไม่มีไพ่บอกว่าจะได้ไป ถ้าอยากทำอะไรแล้วดวงชะตาบอกว่าไม่ได้ แล้วไงหละ นี่คือ 5 ข้อดีของการไม่เชื่อเรื่องดวงชะตา
1. เรามีสิทธิ์จะเติมเต็มชีวิตด้วยความฝันอย่างไรก็ได้
อย่างที่ได้เขียนไปในข้างต้น ถ้าคุณอยากเป็นนักเขียน หมอ ทหาร พ่อครัว นักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งนักลงทุน นักเล่นทอง นักธุรกิจ คุณไม่จำเป็นต้องนั่งกังวลว่าคุณจะทำได้หรือไม่ การหาความมั่นใจจากคำทำนายดวงอาจจะช่วยทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าคุณควรจะลุยหรือไม่ลุย แต่จากการศึกษาชีวประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จแทบทุกคน ผมฟันธงว่าคนเหล่านั้นก็มีความกลัวที่จะทำตามความฝันเหมือนกับพวกเรากันทั้งนั้น แต่คนเหล่านั้นกล้าที่จะเชื่อมั่นในตนเอง กล้าที่จะเชื่อมั่นในความปรารถนา เขาเดิมพันทั้งหมดที่มีเพื่อขับเคลื่อนชีวิตให้ไปข้างหน้าโดยไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ แล้วทำไมพวกเราจะเป็นแบบนั้นบ้างไม่ได้หละครับ ถ้ากายเราพร้อม ใจเราพร้อม พระเจ้าก็ไม่อาจจะประธานสิ่งอื่นสิ่งใดให้เราได้นอกจากความสำเร็จ
2. เจอปัญหา เลือกผลลัพธ์ได้
กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเวลาที่คนเราเจอความไม่สะดวกสบายในชีวิตหรือปัญหาหนักๆ เราจะหยิบยกเรื่องโชคชะตามาปลอบใจตัวเอง แล้วเราก็ไม่ยอมแก้ไขอะไรเพราะเราคิดเอาเองว่าโชคชะตาลิขิตให้เราเป็นอย่างนั้น มีลูกค้ามาบ่นให้ผมฟังหลายคนมากๆเกี่ยวกับเรื่องกรรมเก่าและเจ้ากรรมนายเวรที่คอยทำร้ายจิตใจพวกเขาเหล่านั้น ทำให้พวกเขาไม่เจริญ ไม่ก้าวหน้า และไม่มีความสุข คนเหล่านั้นไม่รู้จะแก้ไขปัญหายังไงเพราะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของดวง แต่ในทางกลับกันผมไม่ได้มองว่าปัญหาในชีวิตเหล่านั้นคือพรหมลิขิตที่จะทำให้ชีวิตเราแย่ลง แต่มันเข้ามาเหมือนเป็นบันไดเพื่อให้เราเหยียบเพื่อผลักดันให้เราเดินสูงขึ้น ลองคิดดูนะครับ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Steve Jobs ยอมแพ้ในวันที่เขาถูกไล่ออกจากบริษัท Apple ที่เขาก่อนตั้ง จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Walt Disney ยอมแพ้ให้กับคำสบประมาทเรื่องการสร้างการ์ตูนยาวเรื่องแรกของโลก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณตัน ภาสกรนที ยอมแพ้หลังจากเป็นหนี้ 50 ล้าน คนเหล่านั้นทำได้ ผมก็เชื่อว่าพวกเราก็สามารถทำได้เช่นกัน
3. ไม่มีคำว่า “ไม่”
บางครั้งมหาเศรษฐีหลายๆคนมีดาวดีๆในดวงจนอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นทำกรรมเก่าอะไรมาถึงได้ประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ แต่ถ้าคุณศึกษาให้ลึกถึงความเป็นจริงคุณจะค้นพบว่ามหาเศรษฐีทุกคนต้องเคยล้มเคยเจ็บมาก่อน ถ้าบอกว่ากรรมเก่าลิขิตให้เขารวย ทำไมต้องมีบทพิสูจน์หรืออุปสรรคมาทำให้เขาล้มลงก่อนและลุกขึ้นสู้ใหม่ด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อเรื่องดวง คุณจะเชื่อมั่นว่าเราก็สามารถเป็นแบบนั้นได้ ขอเพียงเรามีหัวใจและแนวทางที่ถูกต้องตรงทางเท่านั้น
4. เพิ่มเพดานความเป็นไปได้
ถ้าคุณเชื่อดวง คุณจะค้นพบว่าชีวิตคุณมีลิมิต เช่นคุณอาจจะมีตังค์ได้แค่หลักแสนเพราะดาวเรื่องการเงินไม่ดี คุณอาจจะค้นพบว่าคุณไม่สิทธิ์จะว่ายน้ำเพราะนั่นเป็นสาเหตุที่จะทำให้คุณตายในดวง คุณไม่สิทธิ์จะทำตามความฝันเพราะดาวกำหนดให้คุณเป็นอะไรบางอย่างทั้งชีวิต คุณจะไม่มีสิทธิ์แหกคอกไปทำตามความฝันเพราะดวงดาวบอกว่าสิ่งที่คุณทำมันไม่เหมาะกับคุณ ผมอยากจะบอกว่าุทุกคนบนโลกนี้เป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็นปราบเท่าที่ความต้องการและความพยายามของเราไปถึง อย่าให้ดวงมากดให้คุณเป็นในสิ่งที่คุณไม่อยากจะเป็นอีกต่อไป
5. สามารถโทษตัวเองได้เต็มปาก และปรับปรุงตัวเองได้เต็มที่
ถ้าหมอดูทักว่าช่วงนี้ให้คุณระวังภัยจากพาหนะ แล้วคุณเชื่อ คุณจะค้นพบว่าหมอดูช่างแม่นจริงๆ เพราะทุกๆวันเราต้องพบปะกับพาหนะเยอะมากๆ บางทีคุณอาจจะถูกมอเตอร์ไซด์บีบแตรใส่บนทางเท้า ข้ามถนนแล้วรถไม่เบรค ขับรถเฉี่ยวฟุตบาร์ท หรือโดนรถชน สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นกับชีวิตคนอยู่แล้วไม่ว่าจะเวลาไหน ทีนี้เปลี่ยนคำถามวถ้าวันนี้คุณยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน แฟนคุณอยากขอเลือกกับคุณ พ่อแม่ทะเลาะแยกทาง งานทำไม่สำเร็จ แทนที่จะไปหาเหตุว่าดวงดาวอะไรทำร้ายคุณขนาดนี้ หรือไปหาพิธีแก้กรรมให้คุณผ่านปัญหาอย่างง่ายขึ้น ถ้าคุณไม่เชื่อเรื่องดวง สิ่งแรกที่คุณจะทำคือการค้นหาว่าอะไรเป็นสาเหตุ ตัวคุณพยายามพอแล้วหรือไม่ และคุณจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร นี่คือปัญญาที่เกิดขึ้นจากการศรัทธาตัวเอง
ถ้าชอบบทความนี้ ขอชวนให้ติตตามข่าวสารผ่านทาง
https://www.facebook.com/vittarot ครับผม
ขอบคุณมากๆครับ วิชญ์
5 ข้อดีของการไม่เชื่อเรื่องดวงชะตา
5 ข้อดีของการไม่เชื่อเรื่องดวงชะตา
ตั้งแต่เล็กจนโตใครกล้าปฏิเสธว่าสังคมเราไม่เชื่อเรื่องดวงชะตา ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์หรือแม้แต่ลูกอมยังมีคำพยากรณ์สอดไส้เอาไว้เพื่อชูโรงและเป็นตัวเลือกสำหรับสร้างจุดขาย กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เราอ่านคำทำนายตามราศีแล้วนั่งเฝ้ารอสิ่งดีๆตามที่ผู้ทำนายเขียนเอาไว้ รอเท่าไหร่มันก็ไม่นานจนกระทั่งผู้ทำนายออกปักษ์ใหม่อีกแล้ว กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เราไปหาหมอดูด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาว่าจะทำอะไรซักอย่างตามฝันแต่หมอดูทักว่าอย่าทำเลย ทำไปก็มีแต่เสียกับเสีย ถ้าเราเป็นสังคมที่มีศาสนาแห่งปัญญาจริง ลองเดิมพันความเชื่อดูสักตั้งไหมครับ จะดีแค่ไหนถ้าเราเป็นอิสระ อยากทำอะไรก็สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้โดยไม่ต้องง้อโชคชะตาราศี อยากเป็นนักร้องแต่ดวงไม่ให้ อยากเป็นหมอแต่ดวงดาวบอกเป็นทนายรุ่งกว่า อยากไปต่างประเทศแต่ไม่มีไพ่บอกว่าจะได้ไป ถ้าอยากทำอะไรแล้วดวงชะตาบอกว่าไม่ได้ แล้วไงหละ นี่คือ 5 ข้อดีของการไม่เชื่อเรื่องดวงชะตา
1. เรามีสิทธิ์จะเติมเต็มชีวิตด้วยความฝันอย่างไรก็ได้
อย่างที่ได้เขียนไปในข้างต้น ถ้าคุณอยากเป็นนักเขียน หมอ ทหาร พ่อครัว นักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งนักลงทุน นักเล่นทอง นักธุรกิจ คุณไม่จำเป็นต้องนั่งกังวลว่าคุณจะทำได้หรือไม่ การหาความมั่นใจจากคำทำนายดวงอาจจะช่วยทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าคุณควรจะลุยหรือไม่ลุย แต่จากการศึกษาชีวประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จแทบทุกคน ผมฟันธงว่าคนเหล่านั้นก็มีความกลัวที่จะทำตามความฝันเหมือนกับพวกเรากันทั้งนั้น แต่คนเหล่านั้นกล้าที่จะเชื่อมั่นในตนเอง กล้าที่จะเชื่อมั่นในความปรารถนา เขาเดิมพันทั้งหมดที่มีเพื่อขับเคลื่อนชีวิตให้ไปข้างหน้าโดยไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ แล้วทำไมพวกเราจะเป็นแบบนั้นบ้างไม่ได้หละครับ ถ้ากายเราพร้อม ใจเราพร้อม พระเจ้าก็ไม่อาจจะประธานสิ่งอื่นสิ่งใดให้เราได้นอกจากความสำเร็จ
2. เจอปัญหา เลือกผลลัพธ์ได้
กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเวลาที่คนเราเจอความไม่สะดวกสบายในชีวิตหรือปัญหาหนักๆ เราจะหยิบยกเรื่องโชคชะตามาปลอบใจตัวเอง แล้วเราก็ไม่ยอมแก้ไขอะไรเพราะเราคิดเอาเองว่าโชคชะตาลิขิตให้เราเป็นอย่างนั้น มีลูกค้ามาบ่นให้ผมฟังหลายคนมากๆเกี่ยวกับเรื่องกรรมเก่าและเจ้ากรรมนายเวรที่คอยทำร้ายจิตใจพวกเขาเหล่านั้น ทำให้พวกเขาไม่เจริญ ไม่ก้าวหน้า และไม่มีความสุข คนเหล่านั้นไม่รู้จะแก้ไขปัญหายังไงเพราะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของดวง แต่ในทางกลับกันผมไม่ได้มองว่าปัญหาในชีวิตเหล่านั้นคือพรหมลิขิตที่จะทำให้ชีวิตเราแย่ลง แต่มันเข้ามาเหมือนเป็นบันไดเพื่อให้เราเหยียบเพื่อผลักดันให้เราเดินสูงขึ้น ลองคิดดูนะครับ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Steve Jobs ยอมแพ้ในวันที่เขาถูกไล่ออกจากบริษัท Apple ที่เขาก่อนตั้ง จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Walt Disney ยอมแพ้ให้กับคำสบประมาทเรื่องการสร้างการ์ตูนยาวเรื่องแรกของโลก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณตัน ภาสกรนที ยอมแพ้หลังจากเป็นหนี้ 50 ล้าน คนเหล่านั้นทำได้ ผมก็เชื่อว่าพวกเราก็สามารถทำได้เช่นกัน
3. ไม่มีคำว่า “ไม่”
บางครั้งมหาเศรษฐีหลายๆคนมีดาวดีๆในดวงจนอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นทำกรรมเก่าอะไรมาถึงได้ประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ แต่ถ้าคุณศึกษาให้ลึกถึงความเป็นจริงคุณจะค้นพบว่ามหาเศรษฐีทุกคนต้องเคยล้มเคยเจ็บมาก่อน ถ้าบอกว่ากรรมเก่าลิขิตให้เขารวย ทำไมต้องมีบทพิสูจน์หรืออุปสรรคมาทำให้เขาล้มลงก่อนและลุกขึ้นสู้ใหม่ด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อเรื่องดวง คุณจะเชื่อมั่นว่าเราก็สามารถเป็นแบบนั้นได้ ขอเพียงเรามีหัวใจและแนวทางที่ถูกต้องตรงทางเท่านั้น
4. เพิ่มเพดานความเป็นไปได้
ถ้าคุณเชื่อดวง คุณจะค้นพบว่าชีวิตคุณมีลิมิต เช่นคุณอาจจะมีตังค์ได้แค่หลักแสนเพราะดาวเรื่องการเงินไม่ดี คุณอาจจะค้นพบว่าคุณไม่สิทธิ์จะว่ายน้ำเพราะนั่นเป็นสาเหตุที่จะทำให้คุณตายในดวง คุณไม่สิทธิ์จะทำตามความฝันเพราะดาวกำหนดให้คุณเป็นอะไรบางอย่างทั้งชีวิต คุณจะไม่มีสิทธิ์แหกคอกไปทำตามความฝันเพราะดวงดาวบอกว่าสิ่งที่คุณทำมันไม่เหมาะกับคุณ ผมอยากจะบอกว่าุทุกคนบนโลกนี้เป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็นปราบเท่าที่ความต้องการและความพยายามของเราไปถึง อย่าให้ดวงมากดให้คุณเป็นในสิ่งที่คุณไม่อยากจะเป็นอีกต่อไป
5. สามารถโทษตัวเองได้เต็มปาก และปรับปรุงตัวเองได้เต็มที่
ถ้าหมอดูทักว่าช่วงนี้ให้คุณระวังภัยจากพาหนะ แล้วคุณเชื่อ คุณจะค้นพบว่าหมอดูช่างแม่นจริงๆ เพราะทุกๆวันเราต้องพบปะกับพาหนะเยอะมากๆ บางทีคุณอาจจะถูกมอเตอร์ไซด์บีบแตรใส่บนทางเท้า ข้ามถนนแล้วรถไม่เบรค ขับรถเฉี่ยวฟุตบาร์ท หรือโดนรถชน สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นกับชีวิตคนอยู่แล้วไม่ว่าจะเวลาไหน ทีนี้เปลี่ยนคำถามวถ้าวันนี้คุณยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน แฟนคุณอยากขอเลือกกับคุณ พ่อแม่ทะเลาะแยกทาง งานทำไม่สำเร็จ แทนที่จะไปหาเหตุว่าดวงดาวอะไรทำร้ายคุณขนาดนี้ หรือไปหาพิธีแก้กรรมให้คุณผ่านปัญหาอย่างง่ายขึ้น ถ้าคุณไม่เชื่อเรื่องดวง สิ่งแรกที่คุณจะทำคือการค้นหาว่าอะไรเป็นสาเหตุ ตัวคุณพยายามพอแล้วหรือไม่ และคุณจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร นี่คือปัญญาที่เกิดขึ้นจากการศรัทธาตัวเอง
ถ้าชอบบทความนี้ ขอชวนให้ติตตามข่าวสารผ่านทาง https://www.facebook.com/vittarot ครับผม
ขอบคุณมากๆครับ วิชญ์