Porsche Tips
คุณมีปัญหาให้การเลือกประเภทและสีของรองพื้น หรือแม้กระทั่งการใช้งานสิ่งนี้หรือเปล่า? ถ้าคุณกำลังประสบปัญหา ปอมีวิธีการเลือกและการใช้งานมาฝาก
"รองพื้น (Foundation)"
รองพื้นนั้นปอจะแบ่งหลักๆ ออกเป็น 3 ประเภท คือ รองพื้นเนื้อน้ำ (Liquid Foundation), รองพื้นเนื้อครีม (Cream Foundation) และแป้งผสมรองพื้น (Powder Foundation) ซึ่งทั้งสามสิ่งนี้ก็จะให้ในสิ่งที่แตกต่างกัน
- รองพื้นเนื้อน้ำ เป็นรองพื้นที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้มากที่สุด เพราะใช้ง่าย และสามารถให้ระดับการปกปิดที่หลากหลาย ตั้งแต่ ปกปิดน้อย (Light Coverage) ไปจนถึงปกปิดมาก (Full Coverage) ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน จะต้องใช้แป้งฝุ่นในการเซ็ตตัว
- รองพื้นเนื้อครีม เป็นรองพื้นที่ให้การปกปิดที่สูง บางตัวอาจให้การปกปิดที่เรียกว่าเป็นระดับ Full High-Definition Coverage เลยทีเดียว แต่รองพื้นชนิดนี้จะติดปัญหาอย่างหนึ่งคือถ้าเกลี่ยไม่ดีหรือไม่ชำนาญ อาจจะเป็นคราบและดูหนาจนเกินไปได้ และก็ต้องใช้แป้งฝุ่นในการเซ็ตตัวเช่นกัน
- แป้งผสมรองพื้น เป็นการรองสองผลิตภัณฑ์ไว้ในหนึ่งเดียว คือ การนำแป้งมาผสมกับรองพื้น ที่สามารถให้การปกปิดได้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับรองพื้น โดยไม่ต้องใช้แป้งตบตามเพื่อเซ็ตตัว
"การเลือกรองพื้น"
หลักการเลือกรองพื้นสำหรับปอจะแบบออกเป็น 2 ขั้นตอนเพื่อความง่ายต่อความเข้าใจและไม่สับสน โดยปอจะแบ่งออกเป็น
1. เลือกตามความต้องการ ในที่นี้หมายถึงเนื้อสัมผัสและการปกปิดรวมกัน การเลือกเนื้อสัมผัสนั้น ส่วนตัวปอไม่มีหลักเกณฑ์ที่ตายตัว (หลักเกณฑ์ที่ว่าคนผิวมันต้องใช้รองพื้นเนื้อแมตต์ คนผิวแห้งต้องใช้รองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้น) ปอคิดว่ามันไม่จำเป็นเสมอไป คนผิวมันสามารถเลือกรองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้นได้ หรือแม้แต่คนผิวแห้งเองก็สามารถใช้รองพื้นเนื้อแมตต์ได้เช่นกัน ปอคิดว่าสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการมากกว่า ส่วนเรื่องของการปกปิด ปอขอแนะว่าให้เลือกตามสภาพผิวของตัวเอง ถ้าผิวไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรมากมาย ก็เลือกรองพื้นที่ให้การปกปิดระดับต่ำและเนื้อบางเบา (Lightweight) แต่ถ้าต้องการการปกปิด ก็ให้เลือกตามความเหมาะสม ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ระดับการปกปิดที่สูงเสมอไป
**จำสิ่งนี้ไว้ให้ดี! สำหรับการเลือกรองพื้นตามความต้องการ ให้ลองเนื้อรองพื้นที่ "ท้องแขน" ลองสังเกตเนื้อสัมผัสและการปกปิด ถ้าเป็นตัวที่ต้องการก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกสี
2. เลือกตามสีผิว ในระหว่างที่ลองสีรองพื้น อย่ากังวลเรื่องอันเดอร์โทนของผิว เพราะมันจะทำให้เราสับสน และไม่กล้าที่จะลองในอันเดอร์โทนที่ผิดแปลกไปจากที่เราเคยใช้หรือเคยได้ยินมา ขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้เวลานิดหน่อย แต่ปอคิดว่ามันคุ้มค่านะ เพราะจะซื้อทั้งที่ก็อย่าซื้อผิดแล้วมาเสียดายทีหลังเลยดีกว่า
**จำสิ่งนี้ไว้ให้ดี! สำหรับการเลือกรองพื้นตามสีผิว ให้ลองสีรองพื้นบริเวณ "กราม" หรือ "รอยต่อระหว่างใบหน้าและลำคอ" (Jawline) ลองเทียบสีประมาณ 3 - 4 สีที่ใกล้เคียงกับสีผิวของคุณ แล้วเกลี่ยให้เนียนไปกับผิว จากนั้นให้สังเกตที่ไฟเคาน์เตอร์ว่าสีไหนใกล้เคียงกับสีผิวสุด จำสีนั้นเอาไว้ (สีนั้นจะเหมาะเวลาคุณไปออกงาน) จากนั้นลองปลีกตัวออกมาหาแสงธรรมชาติ แล้วลองสังเกตอีกทีว่าสีไหนกลืนกับผิวมากที่สุด ยิ่งสีที่กลืนกับผิวตรงกันกับแสงธรรมชาติและแสงเคาน์เตอร์ นั่นยิ่งเหมาะกับคุณ แต่ถ้าไม่ตรงกัน ให้ยึดแสงธรรมชาติเป็นหลัก
แต่อย่างไรก็ตาม การมีรองพื้นยืนพื้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ปอก็แนะนำให้มีรองพื้นที่สีเข้มกว่าผิวและอ่อนกว่าผิวติดเอาไว้ด้วย เผื่อบางครั้งผิวเราขาวขึ้นหรือคล้ำลงก็สามารถใช้ผสมกับรองพื้นหลักได้
"How to apply FOUNDATION"
หลายคนคงต้องการใบหน้าที่ดูเนียน ปกปิด แต่ดูเป็นธรรมชาติหลังจากการใช้รองพื้น ปอเองก็เช่นกัน มันไม่มีหลักการใช้งานที่ตายตัวว่าแบบไหนถูกและแบบไหนผิด แต่บางทีมันอาจจะเป็นการใช้งานที่ผิดวิธีมากกว่า
- โดยส่วนตัวปอเป็นคนที่ไม่ชอบรองพื้นที่ระดับการปกปิดสูง เพราะมันรู้สึกหนักหน้า และเหมือน Cake Face หรือก็คือการโบกหน้าหนาๆ ปอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้รองพื้น Full Coverage ถ้าไม่จำเป็น แต่ใช้เป็นวิธีการค่อยๆ สร้างชั้นการปกปิดให้มากขึ้นดีกว่า
- อุปกรณ์ที่ใช้ลงรองพื้น ไม่ว่าจะเป็น แปรงแบบต่างๆ ฟองน้ำ หรือแม้แต่นิ้วมือของเราเอง ไม่มีสิ่งไหนถูกหรือว่าผิดเช่นกัน มันขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล
— แปรง ก็จะแบ่งออกได้เป็นอีกหลากหลายแบบ หลากหลายระดับการปกปิด แต่หลักๆ แล้วแปรงจะสามารถเข้าถึงตามมุม, ร่องหรือริ้วรอยต่างๆ และรูขุมขนได้ดี แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำด้วยเช่นกัน อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพราะแปรงที่ใช้กับรองพื้น หรือของเหลวอื่นๆ เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียจำนวนมาก แปรงแต่งหน้าที่ปอรู้จัก หลักๆ จะแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้
1. แปรงหัวแบน (Flat Foundation Brush) เป็นแปรงที่คนส่วนมากคุ้นเคยกันดีในการใช้ลงรองพื้น แปรงชนิดนี้เหมาะมากสำหรับรองพื้นเนื้อน้ำ เพราะสามารถเกลี่ยได้ง่าย จะให้ลุคปกปิดปานกลางถึงปกปิดสูง เทคนิคการใช้งานเล็กน้อยก็คือ ควรวอร์มเนื้อรองพื้นที่หลังมือก่อน แล้วค่อยใช้แปรงแตะรองพื้นปริมาณเล็กน้อย ถ้าต้องการมากขึ้นค่อยแตะเพิ่ม
2. แปรงขนสกั๊งค์ (Stippling Brush/Duo Fibre Brush) แปรงชนิดนี้หลายคนอาจจะไม่ค่อยถนัดในการใช้ลงรองพื้น (แต่สำหรับปอถนัดไปชอบมาก) การใช้งานจะสามาถใช้ได้ 2 แบบ คือ ใช้กด (Stippling) เนื้อรองพื้นให้ทั่วๆ หน้า จะให้ลุคที่บางเบามากหรือที่รู้จักกันว่าเทคนิค Airbrush และอีกวิธีคือใช้วนเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าเช่นกัน แบบนี้จะให้การปกปิดที่มากกว่า แต่ต้องระวังการเป็นรอยขนแปรง
3. Buffing Brush/Kabuki Brush เรียกเป็นภาษาไทยไม่ถูกเหมือนกัน ลักษณะจะเป็นหัวพุ่มๆ ขนแปรงจะแน่นและเรียงตัว ตัวแปรงจะมนนิดๆ แปรงชนิดนี้ให้ความเรียบเนียนขั้นเทพ (ปอปลื้มมากที่สุด) การใช้งานจะใช้การบัฟหรือวนให้ทั่วใบหน้า
4. Flat Top Brush ลักษณะจะคล้ายกับ Buffing Brush แต่จะต่างกันที่หัวแปรงชนิดนี้จะตัดตรง ไม่โค้งมน เหมาะกับทั้งรองพื้นเนื้อน้ำและเนื้อครีม แปรงชนิดนี้จะใช้งานค่อนข้างยากสักนิด แม้จะใช้วนเป็นวงกลมเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ชำนาญจริงก็มีสิทธิเป็นคราบและไม่เรียบเนียนสูง แปรงชนิดนี้จะให้การปกปิดที่สูงที่สุดในบรรดาแปรงทั้งหมด
— ฟองน้ำ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการการปกปิดระดับสูง หรือใช้เมื่อต้องไปออกงานที่ต้องหน้าแน่นและเต็ม และอย่าลืมว่าฟองน้ำเป็นสิ่งที่ต้องทำความสะอาดเช่นกัน การใช้งานฟองน้ำนั้นมีหลายวิธี ปอจะแนะนำหลักๆ ก็คือ
1. ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ แล้วใช้กดรองพื้น เหมาะมากสำหรับรองพื้นเนื้อครีมหรือรองพื้นเนื้อน้ำที่เนื้อหนักๆ จะให้ความนวลเนียนและปกปิดสูง อย่า! ลากฟองน้ำเด็ดขาด นอกจากหน้าจะไม่เรียบเนียนแล้ว รองพื้นยังไม่ติดหน้าอีกต่างหาก
2. ใช้ฟองน้ำแห้งๆ กดหรือวงเป็นวงกลม จะได้การปกปิด แต่อาจจะไม่เนียนเท่าฟองน้ำที่ชุบน้ำ
— นิ้วมือ เป็นสิ่งเดียวที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ หลายคนถนัดวิธีนี้มาก เพราะง่ายและรวดเร็ว แถมการใช้นิ้วมือก็ถือเป็นการวอร์มเนื้อรองพื้นไปในตัว ซึ่งจะทำให้ลงรองพื้นได้กลืนไปกับผิวได้มาก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับรองพื้นที่ปอกลั่นกรองเขียนออกมาให้ทุกคนได้รู้ ถ้ารองพื้นมันยังไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของคุณ ครั้งหน้าปอจะเอาเรื่องเกี่ยวกับคอนซีลเลอร์และคอลเล็กเตอร์มาฝาก (:
Written all resources by
Porsche Por
(Porsche Hey-Ha Maquillage)
คุณรู้จักและใช้งานรองพื้นได้ดีแค่ไหน??
คุณมีปัญหาให้การเลือกประเภทและสีของรองพื้น หรือแม้กระทั่งการใช้งานสิ่งนี้หรือเปล่า? ถ้าคุณกำลังประสบปัญหา ปอมีวิธีการเลือกและการใช้งานมาฝาก
"รองพื้น (Foundation)"
รองพื้นนั้นปอจะแบ่งหลักๆ ออกเป็น 3 ประเภท คือ รองพื้นเนื้อน้ำ (Liquid Foundation), รองพื้นเนื้อครีม (Cream Foundation) และแป้งผสมรองพื้น (Powder Foundation) ซึ่งทั้งสามสิ่งนี้ก็จะให้ในสิ่งที่แตกต่างกัน
- รองพื้นเนื้อน้ำ เป็นรองพื้นที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้มากที่สุด เพราะใช้ง่าย และสามารถให้ระดับการปกปิดที่หลากหลาย ตั้งแต่ ปกปิดน้อย (Light Coverage) ไปจนถึงปกปิดมาก (Full Coverage) ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน จะต้องใช้แป้งฝุ่นในการเซ็ตตัว
- รองพื้นเนื้อครีม เป็นรองพื้นที่ให้การปกปิดที่สูง บางตัวอาจให้การปกปิดที่เรียกว่าเป็นระดับ Full High-Definition Coverage เลยทีเดียว แต่รองพื้นชนิดนี้จะติดปัญหาอย่างหนึ่งคือถ้าเกลี่ยไม่ดีหรือไม่ชำนาญ อาจจะเป็นคราบและดูหนาจนเกินไปได้ และก็ต้องใช้แป้งฝุ่นในการเซ็ตตัวเช่นกัน
- แป้งผสมรองพื้น เป็นการรองสองผลิตภัณฑ์ไว้ในหนึ่งเดียว คือ การนำแป้งมาผสมกับรองพื้น ที่สามารถให้การปกปิดได้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับรองพื้น โดยไม่ต้องใช้แป้งตบตามเพื่อเซ็ตตัว
"การเลือกรองพื้น"
หลักการเลือกรองพื้นสำหรับปอจะแบบออกเป็น 2 ขั้นตอนเพื่อความง่ายต่อความเข้าใจและไม่สับสน โดยปอจะแบ่งออกเป็น
1. เลือกตามความต้องการ ในที่นี้หมายถึงเนื้อสัมผัสและการปกปิดรวมกัน การเลือกเนื้อสัมผัสนั้น ส่วนตัวปอไม่มีหลักเกณฑ์ที่ตายตัว (หลักเกณฑ์ที่ว่าคนผิวมันต้องใช้รองพื้นเนื้อแมตต์ คนผิวแห้งต้องใช้รองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้น) ปอคิดว่ามันไม่จำเป็นเสมอไป คนผิวมันสามารถเลือกรองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้นได้ หรือแม้แต่คนผิวแห้งเองก็สามารถใช้รองพื้นเนื้อแมตต์ได้เช่นกัน ปอคิดว่าสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการมากกว่า ส่วนเรื่องของการปกปิด ปอขอแนะว่าให้เลือกตามสภาพผิวของตัวเอง ถ้าผิวไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรมากมาย ก็เลือกรองพื้นที่ให้การปกปิดระดับต่ำและเนื้อบางเบา (Lightweight) แต่ถ้าต้องการการปกปิด ก็ให้เลือกตามความเหมาะสม ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ระดับการปกปิดที่สูงเสมอไป
**จำสิ่งนี้ไว้ให้ดี! สำหรับการเลือกรองพื้นตามความต้องการ ให้ลองเนื้อรองพื้นที่ "ท้องแขน" ลองสังเกตเนื้อสัมผัสและการปกปิด ถ้าเป็นตัวที่ต้องการก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกสี
2. เลือกตามสีผิว ในระหว่างที่ลองสีรองพื้น อย่ากังวลเรื่องอันเดอร์โทนของผิว เพราะมันจะทำให้เราสับสน และไม่กล้าที่จะลองในอันเดอร์โทนที่ผิดแปลกไปจากที่เราเคยใช้หรือเคยได้ยินมา ขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้เวลานิดหน่อย แต่ปอคิดว่ามันคุ้มค่านะ เพราะจะซื้อทั้งที่ก็อย่าซื้อผิดแล้วมาเสียดายทีหลังเลยดีกว่า
**จำสิ่งนี้ไว้ให้ดี! สำหรับการเลือกรองพื้นตามสีผิว ให้ลองสีรองพื้นบริเวณ "กราม" หรือ "รอยต่อระหว่างใบหน้าและลำคอ" (Jawline) ลองเทียบสีประมาณ 3 - 4 สีที่ใกล้เคียงกับสีผิวของคุณ แล้วเกลี่ยให้เนียนไปกับผิว จากนั้นให้สังเกตที่ไฟเคาน์เตอร์ว่าสีไหนใกล้เคียงกับสีผิวสุด จำสีนั้นเอาไว้ (สีนั้นจะเหมาะเวลาคุณไปออกงาน) จากนั้นลองปลีกตัวออกมาหาแสงธรรมชาติ แล้วลองสังเกตอีกทีว่าสีไหนกลืนกับผิวมากที่สุด ยิ่งสีที่กลืนกับผิวตรงกันกับแสงธรรมชาติและแสงเคาน์เตอร์ นั่นยิ่งเหมาะกับคุณ แต่ถ้าไม่ตรงกัน ให้ยึดแสงธรรมชาติเป็นหลัก
แต่อย่างไรก็ตาม การมีรองพื้นยืนพื้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ปอก็แนะนำให้มีรองพื้นที่สีเข้มกว่าผิวและอ่อนกว่าผิวติดเอาไว้ด้วย เผื่อบางครั้งผิวเราขาวขึ้นหรือคล้ำลงก็สามารถใช้ผสมกับรองพื้นหลักได้
"How to apply FOUNDATION"
หลายคนคงต้องการใบหน้าที่ดูเนียน ปกปิด แต่ดูเป็นธรรมชาติหลังจากการใช้รองพื้น ปอเองก็เช่นกัน มันไม่มีหลักการใช้งานที่ตายตัวว่าแบบไหนถูกและแบบไหนผิด แต่บางทีมันอาจจะเป็นการใช้งานที่ผิดวิธีมากกว่า
- โดยส่วนตัวปอเป็นคนที่ไม่ชอบรองพื้นที่ระดับการปกปิดสูง เพราะมันรู้สึกหนักหน้า และเหมือน Cake Face หรือก็คือการโบกหน้าหนาๆ ปอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้รองพื้น Full Coverage ถ้าไม่จำเป็น แต่ใช้เป็นวิธีการค่อยๆ สร้างชั้นการปกปิดให้มากขึ้นดีกว่า
- อุปกรณ์ที่ใช้ลงรองพื้น ไม่ว่าจะเป็น แปรงแบบต่างๆ ฟองน้ำ หรือแม้แต่นิ้วมือของเราเอง ไม่มีสิ่งไหนถูกหรือว่าผิดเช่นกัน มันขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล
— แปรง ก็จะแบ่งออกได้เป็นอีกหลากหลายแบบ หลากหลายระดับการปกปิด แต่หลักๆ แล้วแปรงจะสามารถเข้าถึงตามมุม, ร่องหรือริ้วรอยต่างๆ และรูขุมขนได้ดี แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำด้วยเช่นกัน อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพราะแปรงที่ใช้กับรองพื้น หรือของเหลวอื่นๆ เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียจำนวนมาก แปรงแต่งหน้าที่ปอรู้จัก หลักๆ จะแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้
1. แปรงหัวแบน (Flat Foundation Brush) เป็นแปรงที่คนส่วนมากคุ้นเคยกันดีในการใช้ลงรองพื้น แปรงชนิดนี้เหมาะมากสำหรับรองพื้นเนื้อน้ำ เพราะสามารถเกลี่ยได้ง่าย จะให้ลุคปกปิดปานกลางถึงปกปิดสูง เทคนิคการใช้งานเล็กน้อยก็คือ ควรวอร์มเนื้อรองพื้นที่หลังมือก่อน แล้วค่อยใช้แปรงแตะรองพื้นปริมาณเล็กน้อย ถ้าต้องการมากขึ้นค่อยแตะเพิ่ม
2. แปรงขนสกั๊งค์ (Stippling Brush/Duo Fibre Brush) แปรงชนิดนี้หลายคนอาจจะไม่ค่อยถนัดในการใช้ลงรองพื้น (แต่สำหรับปอถนัดไปชอบมาก) การใช้งานจะสามาถใช้ได้ 2 แบบ คือ ใช้กด (Stippling) เนื้อรองพื้นให้ทั่วๆ หน้า จะให้ลุคที่บางเบามากหรือที่รู้จักกันว่าเทคนิค Airbrush และอีกวิธีคือใช้วนเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าเช่นกัน แบบนี้จะให้การปกปิดที่มากกว่า แต่ต้องระวังการเป็นรอยขนแปรง
3. Buffing Brush/Kabuki Brush เรียกเป็นภาษาไทยไม่ถูกเหมือนกัน ลักษณะจะเป็นหัวพุ่มๆ ขนแปรงจะแน่นและเรียงตัว ตัวแปรงจะมนนิดๆ แปรงชนิดนี้ให้ความเรียบเนียนขั้นเทพ (ปอปลื้มมากที่สุด) การใช้งานจะใช้การบัฟหรือวนให้ทั่วใบหน้า
4. Flat Top Brush ลักษณะจะคล้ายกับ Buffing Brush แต่จะต่างกันที่หัวแปรงชนิดนี้จะตัดตรง ไม่โค้งมน เหมาะกับทั้งรองพื้นเนื้อน้ำและเนื้อครีม แปรงชนิดนี้จะใช้งานค่อนข้างยากสักนิด แม้จะใช้วนเป็นวงกลมเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ชำนาญจริงก็มีสิทธิเป็นคราบและไม่เรียบเนียนสูง แปรงชนิดนี้จะให้การปกปิดที่สูงที่สุดในบรรดาแปรงทั้งหมด
— ฟองน้ำ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการการปกปิดระดับสูง หรือใช้เมื่อต้องไปออกงานที่ต้องหน้าแน่นและเต็ม และอย่าลืมว่าฟองน้ำเป็นสิ่งที่ต้องทำความสะอาดเช่นกัน การใช้งานฟองน้ำนั้นมีหลายวิธี ปอจะแนะนำหลักๆ ก็คือ
1. ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ แล้วใช้กดรองพื้น เหมาะมากสำหรับรองพื้นเนื้อครีมหรือรองพื้นเนื้อน้ำที่เนื้อหนักๆ จะให้ความนวลเนียนและปกปิดสูง อย่า! ลากฟองน้ำเด็ดขาด นอกจากหน้าจะไม่เรียบเนียนแล้ว รองพื้นยังไม่ติดหน้าอีกต่างหาก
2. ใช้ฟองน้ำแห้งๆ กดหรือวงเป็นวงกลม จะได้การปกปิด แต่อาจจะไม่เนียนเท่าฟองน้ำที่ชุบน้ำ
— นิ้วมือ เป็นสิ่งเดียวที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ หลายคนถนัดวิธีนี้มาก เพราะง่ายและรวดเร็ว แถมการใช้นิ้วมือก็ถือเป็นการวอร์มเนื้อรองพื้นไปในตัว ซึ่งจะทำให้ลงรองพื้นได้กลืนไปกับผิวได้มาก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับรองพื้นที่ปอกลั่นกรองเขียนออกมาให้ทุกคนได้รู้ ถ้ารองพื้นมันยังไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของคุณ ครั้งหน้าปอจะเอาเรื่องเกี่ยวกับคอนซีลเลอร์และคอลเล็กเตอร์มาฝาก (:
Written all resources by
Porsche Por
(Porsche Hey-Ha Maquillage)