ทั้งหมดนี้คือ Skin Care Routine ที่ใช้ในปี 2013 นะคะ
ไอ้ 4 ขวดใหญ่ด้านหลังซื้อมาอย่างแพง ให้เพื่อนเกาหลีแนะนำให้ โดนจัดไปเต็มยก
ขอบอกว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ห่วยแตกมากๆ กลิ่นเหม็นยังกะรากไม้ ที่สำคัญไม่ได้ให้
ความรู้สึกที่ดีกับผิวหน้าเลย ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ใช้เพราะซื้อมาแล้ว
เสียดายเงินมากๆ ส่วนด้านหน้ากระปุกสีฟ้าคือ eye cream จาก CD ซื้อเป็นเซทมากับครีมทาหน้า
แต่ว่าใช้ครีมทาหน้าหมดไปภายในครึ่งปี เหลือแต่ครีมทาตา รู้สึกว่าใช้ดี กลิ่นหอมอ่อนๆ รู้สึกว่าเนื้อครีมมันซึมเข้าสู่ผิวหนัง
ทันที ไม่เหนียวเหนอะหน่ะ ต่อมาเป็น Bobbi Brown ครีมทาหน้าและครีมทาตา ราคาค่อนข้างแพง แต่ว่าเป็นจิตอย่างนึงคือชอบของ
แบรนด์นี้มากๆ มาก่อน เวลาซื้อเลยอยากให้มันครบเซททุกอย่างตั้งแต่เรื่องผิว เครื่องสำอางค์ แปรง ไปจนถึงขั้นตอนการทำความสะอาด
ครีมก็ไม่ได้โชว์ความพิเศษอะไร ก็ทำหน้าที่ของมันอ่ะนะคะ ให้ความชุ้นชื้น จบ คิดว่าหมดคงไม่ซื้ออีก ส่วนเซทสุกท้ายเป็นของ Estee Lauder
เซทนี้เหมาะกับวัย 30 ขึ้นไป ช่วยในเรื่องของริ้วรอยและลิฟท์หน้า ลองซื้อเซทเล็กมาใช้ ซึ่งแถมมากับลิปสติกอีก 2 แท่ง สีชมพูกับสีน้ำตาลกลางๆ ทั้งเซทเพิ่ง 1200 บาท คุ้มโคด ที่สำคัญใช้แล้วชอบมากๆ เลยด้วย กลิ่นหอมหวานๆ เนื้อครีมนุ่มๆ ซึมเข้าสู่ผิวด้วยความรวดเร็ว ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่ทำให้หน้ามัน
ถัดมาเป็นรองพื้นที่ใช้อยู่ในขณะนี้ เราเป็นคนผิวผสม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบางทีหน้าผากแห้งเป็นขุยๆ ตามจมูกบ้างอะไรบ้างก็ต้องมีการลงมอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงกันดีๆเลยทีเดียว รองพื้นที่ชอบไม่เคยเปลี่ยนคือ Bobbi Brown รองลงมาคือ MAC แต่ว่า MAC ที่เราใช้เป็น Medium-full coverage เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่จะใช้ตอนกลางคืน หรือไม่ก็ใช้รวมกับ Primer แล้วใช้ Lose Powder ตบตาม แทนที่จะใช้ Press Powder เหมือนกับวันที่แต่งหน้าทั่วๆ ไป อันดับ 3 ยกให้ Clinique Pore Refining Solution เป็นรองพื้นที่ถูกจัดอันดับให้เป็นรองพื้นยอดเยี่ยมอันดับ 2 ของปี 2013 เกลี่ยง่าย ปกปิดดี ไม่เปลี่ยนสี ส่วนอีก 4 ขวดที่เหลือลองซื้อมาลองเล่น ไม่มีอะไรหวือหวา หรือก็ไม่มีอะไรให้ด่า หยิบมาใช้บ้างเป็นครั้งคราว เห็นเค้าว่าเป็นของ Drug store ที่ดีราคาไม่แพง เลยลองซื้อมาเล่น ก็ถือว่าโอเค สมราคา ไม่อยากไปตั้งความหวังสูง จ่ายแค่ไหนได้แค่นั้น
อุปกรณ์แต่งตาบางส่วน และเป็นส่วนที่ใช้บ่อยในช่วงนี้ ปีนี้รู้สึกชอบ Smoky eye เป็นพิเศษ ปีที่แล้วชอบออกโทนน้ำตาล บลอนซ์ แล้วก็ประกายๆ นิดๆ ปีนี้ชอบสี eye shadow ที่เป็นเนื้อ Matte ซะส่วนใหญ่ ที่ใช้บ่อยๆ คือ Eye Shadow Palette ของ Bobbi Brown ที่เห็น 2 อันยาวๆ ในรูปเป็น Palette ที่ใช้กลางวันและกลางคืน เปรียบเสมือน Naked 2 เห็นว่าสีคล้ายๆ กันเลยไม่มีโอกาศได้ลองเล่น Naked 2 ดูสักที แต่ละก็ไปค้นพบ eye shadow แบบแท่ง เนื้อครีม ของ Rimmel จากประเทศอังกฤษ (ในรูปคือดินสอที่มี 5 สี เขียว ดำ น้ำตาล เทา และขาว) สิ่งนี้ทำให้การแต่งตา Smoky eye ของเราง่ายกว่าเดิม 10 เท่า เบลนง่าย สีสวย วิธีที่เราทำคือ เอาดินสอเขียนขอบตาของ MAC เขียนให้ชิดเส้นแนวขนตา แล้วใช้แปรงอันเล็กเบลนขึ้นให้มันฟุ้งๆ ขึ้น หลังจากนั้นก็โบกออยแชโดดินสอสิ่งนี้ลงไป แล้วใช้ Blending Brush เกลี่ยให้สีฟุ้งขึ้นไปเลยเส้นพับตาเพื่อเพิ่มมิติให้กับเบ้าตา เท่านั้นเองค่า ง่ายๆ ได้ใจความไว้แล้วจะมาสาธิตวิธีทำให้ดูกันนะคะ ส่วนของถูกและดีอีก 2 สิ่งที่ใช้แล้วชอบในตอนนี้คือ Maybelline Palette สี Caffeine กับ L'Oreal eye shadow สี midnight blue กับ golden sage ในรูป เป็น eye shadow เนื้อฝุ่นที่เบลนง่าย สีชัด สีติดทน ลองใช้กันดูได้ ไม่ผิดหวัง
มาถึงแป้งและ Bronzer กันบ้าง ก็ไม่มีอะไรใหม่ แป้ง MAC รุ่นผสมรองพื้น สีของเราคือ NC42 Bronzer ของ Bobbi Brown สี 3 Dark ใช้เท่าไหร่ไม่หมดซะที แป้ง MAC เราใช้เติมระหว่างวัน แต่เวลาแต่งหน้าตอนเช้าๆ เราจะใช้ Lose Powder เพราะต้องการเซทเนื้อครีมต่างๆ เช่นครีมทาหน้า รองพื้น ให้มันอยู่กับที่ไม่ไหลย้อย แล้วพกแป้งตลับ เพื่อเติมระหว่างวัน ส่วนที่ทาแก้มก็ส่วนมากจะออกแนวชมพูเข้มนิดนึง เพราะเป็นคนผิว 2 สี จะให้แต่งออกหวานมากๆ มันไม่เข้า หนำซ้ำตายังดุๆแบบเฉี่ยวๆ อีกต่างหาก เฮ้อ
มาถึงเรื่องของปากกันบ้าง ลิปสติกสุดปลื้มแห่งปีนี้คือ ลิปสติกสี Nude กับ Pink ของ Rimmel
ที่เราเทียบสองสิ่งนี้กับ MAC รุ่น Lady GAGA เลยทีเดียว อย่างที่บอกว่าช่วงนี้ชอบ Smoky eye ซึ่งสีปากที่เหมาะกับการแต่งตาแบบนั้นคือ
สี Nude ซึ่งบางทีรู้สึกถ้า Nude เลยเนี่ย เราไม่รอด ดูแย่ ดูป่วย เลยผสม 2 สีเข้าด้วยกัน ออกมาเป๊ะโช๊ะมาก เข้ากันกะสีแก้มที่เราชอบใช้ ลิปสติกติดทนนาน ไม่ทำให้ปากแห้งระหว่างวัน เริ่ดอ่ะ ถูกมากด้วย ราคาที่อเมริกาแท่งละไม่ถึง 5 เหรียญมั้ง คิดว่าจะซื้อตุน เพราะว่าเราใช้เปลือง เนื่องจากต้องมาผสมสีบนหลังมือแล้วใช้แปรงในการทาลงบนริมฝีปาก ทำให้ใช้เนื้อลิปสติกมากเกินความเป็นจริง แต่ว่าเป็นวิธีที่จะได้สีเริ่ดๆ แล้วก็เนี๊ยบอย่างที่เราชอบ
สุุดท้ายเป็นเรื่องของ Brush หากใครเพิ่งเริ่มแต่งหน้า แนะนำที่จะให้มีจริงๆ ไม่กี่อย่าง
แปรงที่เราใช้มาเป็น 10 ปีและยังใช้อยู่คือแปรงของ MAC แต่ว่าก็ราคาแพง ทางเลือกก็คือ
Sigma ที่พอจะเทียบเคียง ซึ่งเซทนึงครบๆ เลยก็ตก 4000 กว่าบาท หรือถูกลงมากว่านั้นอีก คือ Real Technique
เซทนึงครบๆ ทั้งแปรงหน้า แปรงตา ก็อยู่ประมาณ 2000 กว่าบาท แล้วแต่แพคเกจ อย่างที่ถูกที่สุดและถือว่าใช้ได้เลยเนี่นคือ
Eco Tools ได้ทั้งเซทเบ็ดเสร็จน่าจะประมาณไม่เกิน 750 บาท เราใช้ผสมๆกัน ค่อยซื้อไปเรื่อยๆ สิ่งที่ปลื้มๆเลยนอกเหนือจาก MAC แล้ว
ก็คิดว่า Sigma อ่ะที่ใช้ได้ กับ Sephora ส่วนไอ้ฟองน้ำรูปไข่ที่เค้าใช้กันทั้วบ้านทั่วเมือง ที่นี่ซื้อได้ในราคา ไม่เกิน 200 เราไม่ค่อยชอบใช้เท่าไหร่ ชอบใช้แปรงมากกว่า
ขอขอบคุณสาวๆที่แวะเข้ามาชมกันนะคะ เราอยู่ที่อเมริกา ตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำงานเพราะว่าท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว เลยมีเวลามานั่งดูแลเรื่องผิวพรรณกับสิ่งของที่ใช้บนใบหน้าเป็นพิเศษ หากใครมีข้อสงสัยอะไรสอบถามได้นะคะ อยากฝากซื้ออะไรบอก เรามี Homepage ขายของบน Facebook ด้วย ส่วนตัวแล้วเราจะอินกับเครื่องสำอางค์เป็นพิเศษ แวะมาคุยมาทักทายกันได้นะคะ
เปิดโต๊ะเครื่องแป้งให้ชมกันค่ะ มีของเกาหลี ของอังกฤษ ของอเมริกา Hi-end ยัน Drug Store ค่ะ
ทั้งหมดนี้คือ Skin Care Routine ที่ใช้ในปี 2013 นะคะ
ไอ้ 4 ขวดใหญ่ด้านหลังซื้อมาอย่างแพง ให้เพื่อนเกาหลีแนะนำให้ โดนจัดไปเต็มยก
ขอบอกว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ห่วยแตกมากๆ กลิ่นเหม็นยังกะรากไม้ ที่สำคัญไม่ได้ให้
ความรู้สึกที่ดีกับผิวหน้าเลย ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ใช้เพราะซื้อมาแล้ว
เสียดายเงินมากๆ ส่วนด้านหน้ากระปุกสีฟ้าคือ eye cream จาก CD ซื้อเป็นเซทมากับครีมทาหน้า
แต่ว่าใช้ครีมทาหน้าหมดไปภายในครึ่งปี เหลือแต่ครีมทาตา รู้สึกว่าใช้ดี กลิ่นหอมอ่อนๆ รู้สึกว่าเนื้อครีมมันซึมเข้าสู่ผิวหนัง
ทันที ไม่เหนียวเหนอะหน่ะ ต่อมาเป็น Bobbi Brown ครีมทาหน้าและครีมทาตา ราคาค่อนข้างแพง แต่ว่าเป็นจิตอย่างนึงคือชอบของ
แบรนด์นี้มากๆ มาก่อน เวลาซื้อเลยอยากให้มันครบเซททุกอย่างตั้งแต่เรื่องผิว เครื่องสำอางค์ แปรง ไปจนถึงขั้นตอนการทำความสะอาด
ครีมก็ไม่ได้โชว์ความพิเศษอะไร ก็ทำหน้าที่ของมันอ่ะนะคะ ให้ความชุ้นชื้น จบ คิดว่าหมดคงไม่ซื้ออีก ส่วนเซทสุกท้ายเป็นของ Estee Lauder
เซทนี้เหมาะกับวัย 30 ขึ้นไป ช่วยในเรื่องของริ้วรอยและลิฟท์หน้า ลองซื้อเซทเล็กมาใช้ ซึ่งแถมมากับลิปสติกอีก 2 แท่ง สีชมพูกับสีน้ำตาลกลางๆ ทั้งเซทเพิ่ง 1200 บาท คุ้มโคด ที่สำคัญใช้แล้วชอบมากๆ เลยด้วย กลิ่นหอมหวานๆ เนื้อครีมนุ่มๆ ซึมเข้าสู่ผิวด้วยความรวดเร็ว ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่ทำให้หน้ามัน
ถัดมาเป็นรองพื้นที่ใช้อยู่ในขณะนี้ เราเป็นคนผิวผสม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบางทีหน้าผากแห้งเป็นขุยๆ ตามจมูกบ้างอะไรบ้างก็ต้องมีการลงมอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงกันดีๆเลยทีเดียว รองพื้นที่ชอบไม่เคยเปลี่ยนคือ Bobbi Brown รองลงมาคือ MAC แต่ว่า MAC ที่เราใช้เป็น Medium-full coverage เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่จะใช้ตอนกลางคืน หรือไม่ก็ใช้รวมกับ Primer แล้วใช้ Lose Powder ตบตาม แทนที่จะใช้ Press Powder เหมือนกับวันที่แต่งหน้าทั่วๆ ไป อันดับ 3 ยกให้ Clinique Pore Refining Solution เป็นรองพื้นที่ถูกจัดอันดับให้เป็นรองพื้นยอดเยี่ยมอันดับ 2 ของปี 2013 เกลี่ยง่าย ปกปิดดี ไม่เปลี่ยนสี ส่วนอีก 4 ขวดที่เหลือลองซื้อมาลองเล่น ไม่มีอะไรหวือหวา หรือก็ไม่มีอะไรให้ด่า หยิบมาใช้บ้างเป็นครั้งคราว เห็นเค้าว่าเป็นของ Drug store ที่ดีราคาไม่แพง เลยลองซื้อมาเล่น ก็ถือว่าโอเค สมราคา ไม่อยากไปตั้งความหวังสูง จ่ายแค่ไหนได้แค่นั้น
อุปกรณ์แต่งตาบางส่วน และเป็นส่วนที่ใช้บ่อยในช่วงนี้ ปีนี้รู้สึกชอบ Smoky eye เป็นพิเศษ ปีที่แล้วชอบออกโทนน้ำตาล บลอนซ์ แล้วก็ประกายๆ นิดๆ ปีนี้ชอบสี eye shadow ที่เป็นเนื้อ Matte ซะส่วนใหญ่ ที่ใช้บ่อยๆ คือ Eye Shadow Palette ของ Bobbi Brown ที่เห็น 2 อันยาวๆ ในรูปเป็น Palette ที่ใช้กลางวันและกลางคืน เปรียบเสมือน Naked 2 เห็นว่าสีคล้ายๆ กันเลยไม่มีโอกาศได้ลองเล่น Naked 2 ดูสักที แต่ละก็ไปค้นพบ eye shadow แบบแท่ง เนื้อครีม ของ Rimmel จากประเทศอังกฤษ (ในรูปคือดินสอที่มี 5 สี เขียว ดำ น้ำตาล เทา และขาว) สิ่งนี้ทำให้การแต่งตา Smoky eye ของเราง่ายกว่าเดิม 10 เท่า เบลนง่าย สีสวย วิธีที่เราทำคือ เอาดินสอเขียนขอบตาของ MAC เขียนให้ชิดเส้นแนวขนตา แล้วใช้แปรงอันเล็กเบลนขึ้นให้มันฟุ้งๆ ขึ้น หลังจากนั้นก็โบกออยแชโดดินสอสิ่งนี้ลงไป แล้วใช้ Blending Brush เกลี่ยให้สีฟุ้งขึ้นไปเลยเส้นพับตาเพื่อเพิ่มมิติให้กับเบ้าตา เท่านั้นเองค่า ง่ายๆ ได้ใจความไว้แล้วจะมาสาธิตวิธีทำให้ดูกันนะคะ ส่วนของถูกและดีอีก 2 สิ่งที่ใช้แล้วชอบในตอนนี้คือ Maybelline Palette สี Caffeine กับ L'Oreal eye shadow สี midnight blue กับ golden sage ในรูป เป็น eye shadow เนื้อฝุ่นที่เบลนง่าย สีชัด สีติดทน ลองใช้กันดูได้ ไม่ผิดหวัง
มาถึงแป้งและ Bronzer กันบ้าง ก็ไม่มีอะไรใหม่ แป้ง MAC รุ่นผสมรองพื้น สีของเราคือ NC42 Bronzer ของ Bobbi Brown สี 3 Dark ใช้เท่าไหร่ไม่หมดซะที แป้ง MAC เราใช้เติมระหว่างวัน แต่เวลาแต่งหน้าตอนเช้าๆ เราจะใช้ Lose Powder เพราะต้องการเซทเนื้อครีมต่างๆ เช่นครีมทาหน้า รองพื้น ให้มันอยู่กับที่ไม่ไหลย้อย แล้วพกแป้งตลับ เพื่อเติมระหว่างวัน ส่วนที่ทาแก้มก็ส่วนมากจะออกแนวชมพูเข้มนิดนึง เพราะเป็นคนผิว 2 สี จะให้แต่งออกหวานมากๆ มันไม่เข้า หนำซ้ำตายังดุๆแบบเฉี่ยวๆ อีกต่างหาก เฮ้อ
มาถึงเรื่องของปากกันบ้าง ลิปสติกสุดปลื้มแห่งปีนี้คือ ลิปสติกสี Nude กับ Pink ของ Rimmel
ที่เราเทียบสองสิ่งนี้กับ MAC รุ่น Lady GAGA เลยทีเดียว อย่างที่บอกว่าช่วงนี้ชอบ Smoky eye ซึ่งสีปากที่เหมาะกับการแต่งตาแบบนั้นคือ
สี Nude ซึ่งบางทีรู้สึกถ้า Nude เลยเนี่ย เราไม่รอด ดูแย่ ดูป่วย เลยผสม 2 สีเข้าด้วยกัน ออกมาเป๊ะโช๊ะมาก เข้ากันกะสีแก้มที่เราชอบใช้ ลิปสติกติดทนนาน ไม่ทำให้ปากแห้งระหว่างวัน เริ่ดอ่ะ ถูกมากด้วย ราคาที่อเมริกาแท่งละไม่ถึง 5 เหรียญมั้ง คิดว่าจะซื้อตุน เพราะว่าเราใช้เปลือง เนื่องจากต้องมาผสมสีบนหลังมือแล้วใช้แปรงในการทาลงบนริมฝีปาก ทำให้ใช้เนื้อลิปสติกมากเกินความเป็นจริง แต่ว่าเป็นวิธีที่จะได้สีเริ่ดๆ แล้วก็เนี๊ยบอย่างที่เราชอบ
สุุดท้ายเป็นเรื่องของ Brush หากใครเพิ่งเริ่มแต่งหน้า แนะนำที่จะให้มีจริงๆ ไม่กี่อย่าง
แปรงที่เราใช้มาเป็น 10 ปีและยังใช้อยู่คือแปรงของ MAC แต่ว่าก็ราคาแพง ทางเลือกก็คือ
Sigma ที่พอจะเทียบเคียง ซึ่งเซทนึงครบๆ เลยก็ตก 4000 กว่าบาท หรือถูกลงมากว่านั้นอีก คือ Real Technique
เซทนึงครบๆ ทั้งแปรงหน้า แปรงตา ก็อยู่ประมาณ 2000 กว่าบาท แล้วแต่แพคเกจ อย่างที่ถูกที่สุดและถือว่าใช้ได้เลยเนี่นคือ
Eco Tools ได้ทั้งเซทเบ็ดเสร็จน่าจะประมาณไม่เกิน 750 บาท เราใช้ผสมๆกัน ค่อยซื้อไปเรื่อยๆ สิ่งที่ปลื้มๆเลยนอกเหนือจาก MAC แล้ว
ก็คิดว่า Sigma อ่ะที่ใช้ได้ กับ Sephora ส่วนไอ้ฟองน้ำรูปไข่ที่เค้าใช้กันทั้วบ้านทั่วเมือง ที่นี่ซื้อได้ในราคา ไม่เกิน 200 เราไม่ค่อยชอบใช้เท่าไหร่ ชอบใช้แปรงมากกว่า
ขอขอบคุณสาวๆที่แวะเข้ามาชมกันนะคะ เราอยู่ที่อเมริกา ตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำงานเพราะว่าท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว เลยมีเวลามานั่งดูแลเรื่องผิวพรรณกับสิ่งของที่ใช้บนใบหน้าเป็นพิเศษ หากใครมีข้อสงสัยอะไรสอบถามได้นะคะ อยากฝากซื้ออะไรบอก เรามี Homepage ขายของบน Facebook ด้วย ส่วนตัวแล้วเราจะอินกับเครื่องสำอางค์เป็นพิเศษ แวะมาคุยมาทักทายกันได้นะคะ