25. คำถามสำหรับพี่น้องชาวคริสต์ ?
1) คุณปฏิบัติตามคัมภีร์ไบเบิลทั้งพันธสัญญาเก่าและพันธะสัญญาใหม่หรือเปล่า ?
มัทธิว 5:17-19 : “ อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ เรามิได้มาเลิกล้าง แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าตราบใดที่ฟ้าและดินดำรงอยู่ แม้อักษรหนึ่งหรือขีดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากธรรมบัญญัติจนกว่าสิ่งที่จะต้องเกิดได้เกิดขึ้นแล้ว”
2) คุณรู้ไหมว่าเด็กผู้ชายจะต้องทำสุนัต (การขลิบหนังปลายอวัยวะเพศชาย) ?
เยเนซิศ 17:10-11 : นี่เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งเจ้าจะต้องรักษาระหว่างเรากับเจ้าและเชื้อสายของเจ้าที่จะสืบมา คือผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าสุนัต เจ้าจงเข้าสุนัตตัดหนังหุ้มปลายองคชาติของเจ้า นี่จะเป็นหมายสำคัญของพันธสัญญาระหว่างเรากับเจ้า ทั้งยอห์นแบพติสต์
(ลูกา1:59) และพระเยซู (ลูกา 2:21) ก็เข้าสุนัต
3) คุณรู้หรือเปล่าว่าดอกเบี้ยก็เป็นที่ต้องห้าม ?
เลวีนิติ 25:36-37 : อย่าเอาดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มอะไรจากเขา แต่จงยำเกรงพระเจ้าเพื่อว่าพี่น้องเจ้าจะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าได้ เจ้าอย่าให้เขายืมเงินด้วยคิดดอกเบี้ย
สดุดี 15:5 : เขาเป็นผู้ที่มิได้ให้คนอื่นกู้เงินโดยคิดดอกเบี้ยและไม่ยอมรับสินบนต่อสู้ผู้ไร้ความผิด ผู้ซึ่งกระทำสิ่งเหล่านี้จะไม่หวั่นไหวเป็นนิตย์
4) คุณปฏิเสธรักร่วมเพศหรือไม่ ?
เยเนซิศ 19:24 -25 : แล้วพระเจ้าทรงให้กำมะถันและไฟจากพระเจ้าตกจากฟ้าลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และพระองค์ทรงขยี้เมืองเหล่านั้น ลุ่มน้ำทั้งหมด ชาวเมืองทั้งสิ้นและพืชต่างๆ
5) คุณรู้หรือไม่ว่าการตั้งต้นคริสต์มาสเป็นประเพณีของพวกบูชาเทวรูป ?
เยเรมีย์ 10:2 - 4 : พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า “อย่าเอาอย่างบรรดาประชาชาติหรืออย่าคร้ามกลัวเพราะหมายสำคัญของท้องฟ้าตามที่บรรดาประชาชาติคร้ามกลัวนั้น เพราะเนียมของชนชาติทั้งหลายก็เท็จ เขาตัดต้นไม้จากป่าต้นหนึ่งเป็นสิ่งที่มือช่างได้กระทำด้วยขวาน เขาทั้งหลายก็เอาเงินและทองมาประดับ เขาตอกไว้แน่นด้วยค้อนและตาปู มันก็เคลื่อนไหวไปมาไม่ได้
6) คุณปฏิบัติตามบัญญัติ 10 ประการหรือไม่ ?
มัทธิว 5:19 : เหตุฉะนั้น ผู้ใดได้ทำให้ข้อเล็กน้อยสักข้อหนึ่งในธรรมบัญญัตินี้เบาขึ้น ทั้งสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้น้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผู้ใดที่ประพฤติและสอนตามธรรมบัญญัติ ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์
มาระโก 12:29 : พระเยซูจึงตรัสตอบคนนั้นว่า “ธรรมบัญญัติเอกนั้นคือว่า โอ ชนชาติอิสราเอล จงฟังเถิด พระเจ้าของเราทั้งหลายทรงเป็นพระเจ้าเดียว……”
7) คุณละเว้นจากการค้อมคารวะรูปปั้นของนักบุญหรือเปล่า ?
อพยพ 20:4 –5 :อย่าทำรูปเคารพสำหรับตนเป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่อยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือพระเจ้าของเจ้า
คุณไม่สักการะบูชาสิ่งอื่นใดนอกไปจากพระเจ้าหรือเปล่า ?
มัทธิว 4:10 : พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “ ไอ้ซาตาน จงไปเสียให้พ้น เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่าจงกราบนมัสการพระองค์ผู้เป็นพระเจาของท่านและปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว…”
ยอห์น 4:23-24 : แต่ว่าวาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริงเพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นนมัสการพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณและผู้ที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง
9) คุณรู้หรือไม่ว่าพระเยซูไม่ใช่พระเจ้า ?
ยอห์น 5:37 : และพระบิดาทรงใช้เรามา พระองค์เองก็ได้ทรงเป็นพยานให้แก่เรา ท่านทั้งหลายไม่เคยได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์และไม่เคยเห็นรูปร่างของพระองค์
ยอห์น 14:28 : ท่านได้ยินเรากล่าวแก่ท่านว่า “เราจะจากไปและจะกลับมาหาท่าน” ถ้าท่านรักเรา ท่านก็จะชื่นชมยินดีที่เราไปพระบิดา เพราะพระบิดาทรงเป็นใหญ่กว่าเรา
10) คุณรู้ไม่ว่าพระเยซูไม่เคยอ้างตัวเป็นพระเจ้า ?
ยอห์น 8:28 : “เรามิได้ทำสิ่งใดตามใจชอบ”
มาระโก 12:29 : “พระเจ้าของเราคือพระเจ้าองค์เดียว”
11) คุณรู้หรือไม่ว่าพระเยซูไม่ใช่บุตรของพระเจ้า ?
มัทธิว 16:27-28 :เหตุว่าเมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระสิริแห่งพระบิดาและพร้อมด้วยทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นจะประทานบำเหน็จให้ทุกคนตามการกระทำของตน เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าในพวกท่านที่ยืนอยู่ที่นี่บางคนที่ยังจะไม่รู้รสความตายจนกวาจะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาด้วยราชอำนาจของพระองค์ท่าน
ลูกา 3:38 : ไคนานเป็นบุตรเอโนส เอโนสเป็นบุตรเสท เสทเป็นบุตรอาดัม อาดัมเป็นบุตรพระเจ้า
ลูกา 22:48 : แต่พระเยซูตรัสถามเขาว่า “ยูดาส ท่านจะมอบบุตรมนุษย์ด้วยการจูบหรือ”
โรม 8:14 : เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำผู้ใด ผู้นั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า
12) พระเจ้าเท่านั้นหรือที่คุณขอให้อภัยบาปของคุณ ?
มาระโก 11:25-26 : เมื่อท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าท่านมีเหตุกับผู้หนึ่งผู้ใด จงยกโทษให้ผู้นั้นเสียเพื่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะโปรดยกความผิดของท่านด้วย แต่ถ้าท่านทั้งหลายไม่ยกความผิด พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในวรรค์จะไม่ทรงโปรดยกความผิดของท่านเหมือนกัน
ลูกา 11:2-4 : พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เมื่ออธิษฐาน จงว่า ‘ ข้าแต่พระบิดา ขอให้พรนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกๆวัน ขอทรงโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์ทั้งหลาย ด้วยว่าข้าพระองค์ยกความผิดของทุกคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์นั้น ขออย่าทรงนำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง’”
13) คุณรู้ไหมว่าคำสอนของพระเยซูนั้นมิใช่สำหรับมนุษย์ทุกคน ?
มัทธิว 15:24 : เรามิได้รับใช้มาหาผู้ใด เว้นแต่แกะหลงของวงศ์วานอิสราเอล”
14) คุณรู้ไหมว่าวิญญาณบริสุทธิ์มิได้ดลใจผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลฉบับลูกา ?
ลูกา 1:1-3 : ท่านเธโอฟีลัสที่เคารพอย่างสูง ท่านทราบแล้วว่า มีหลายคนได้อุตส่าห์เรียบเรียงเรื่องราวเหล่านั้นซึ่งสำเร็จแล้วในท่ามกลางเราทั้งหลายตามที่เขาผู้ได้เห็นกับตาเองตั้งแต่ต้นและเป็นผู้ประกาศวจนะนั้นได้แสดงให้เรารู้ เหตุฉะนั้น เนื่องจากข้าพเจ้าเองสืบเสาะถ้วนถี่ตั้งแต่ต้นมาจึงเห็นดีด้วยที่จะเรียบเรียงเรื่องตามลำดับเพื่อประโยชน์แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้รับความจริงอันเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นซึ่งมีผู้แจ้งให้ท่านทราบ
15) คุณรู้ไหมว่ามาระโกและลูกามิได้ถูกระบุชื่อไว้ในสานุศิษย์ 12 คน ?
มัทธิว 10:2-4 : อัครทูตสิบสองคนนั้นมีชื่อดังนี้ คนแรกชื่อซีโมนที่เรียกว่าเปโตร กับอันดรูว์น้องของเขา ยากอบบุตรเศเบดี กับยอห์นน้องของเขาฟีลิป และบาร์โธโลมิว โธมัส และมัทธิวคนเก็บภาษี ยากอบบุตรอัลเฟอัสและเลบเบอัส ผู้ที่มีชื่ออีกว่าธัดเดอัส ซีโมน ชาวคะนาอันและยูดาส อิสคาริโอท ผู้ทรยศพระองค์
16)คุณรู้ไหมว่าชีวิตนิรันดรได้ถูกเปรียบเหมือนกับการเชื่อฟังคำบัญชาของพระเจ้า ?
มัทธิว 19:16-17 : ดูเถิด มีคนหนึ่งมาทูลพระองค์(พระเยซู)ว่า “ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำดีประการใดจึงจะได้ชีวิตนิรันดร ?” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ท่านถามเราถึงสิ่งที่ดีทำไม ผู้ทีดีมีแต่ผู้เดียว แต่ถ้าท่านปรารถนาจะเข้าในชีวิต ก็ให้ถือรักษาพระบัญญัติไว้”
ลูกา 10:25-28 : ดูเถิด มีบาเรียน(นักกฎหมาย)คนหนึ่งยืนขึ้นทดลองพระองค์ ทูลถามว่า “อาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้าจะต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร ?” พระองค์ตรัสตอบว่า “ในธรรมบัญญัติมีคำเขียนว่าอย่างไร ท่านได้อ่านเข้าใจอย่างไร ?” เขาทูลตอบว่า “จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า ด้วยสุดกำลังและสิ้นสุดความคิดของเจ้า และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงกระทำอย่างนั้นแล้วจะได้ชีวิต”
17) คุณรู้ไหมว่าไม่มีใคร ( เช่น พระเยซู) สามารถแบกภาระ(บาป)ของอีกคนหนึ่งได้?
เฉลยธรรมบัญญัติ 24:16 : “อย่าให้บิดาต้องรับโทษถึงตายแทนบุตรของตนหรือให้บุตรต้องรับโทษถึงตายแทนบิดาของตน ให้ทุกคนรับโทษถึงตายด้วยโทษของตนนั้นเอง”
18) คุณรู้ไหมว่าพระเยซูมิได้ทำสิ่งใดตามอำเภอใจของท่านเอง ?
ยอห์น 8:28 : “เรามิได้ทำสิ่งใดตามใจชอบ”
กิจการของอัครทูต 2:22 : “ ท่านทั้งหลายผู้เป็นชนชาติอิสราเอล ขอฟังคำข้าพเจ้า คือพระเยซูชาวนาซาเร็ธเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดชี้แจงให้ท่านทั้งหลายทราบโดยการอิทธิฤทธิ์ การอัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำโดยพระองค์นั้นท่ามกลางท่านทั้งหลายดังที่ท่านทราบอยู่แล้ว”
19) คุณรู้ไหมว่าคำสอนของปอลไม่ใช่คำสอนของพระเยซู ?
โรมัน 7:6 : ปอลได้กล่าวว่า “ แต่บัดนี้ไป เราได้พ้นจากธรรมบัญญัติ คือได้ตายจากธรรมบัญญัติที่ได้ผูกมัดเราไว้เพื่อเราจะได้ไม่ประพฤติตามตัวอักษรในประมวลธรรมบัญญัติเก่า แต่จะดำเนินชีวิตใหม่ตามลักษณะพระวิญญาณ
มัทธิว 5:17-18 : พระเยซูได้ตรัสว่า “ อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ เรามิได้มาเลิกล้าง แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าตราบใดที่ฟ้าและดินดำรงอยู่ แม้อักษรหนึ่งหรือขีดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากธรรมบัญญัติจนกว่าสิ่งที่จะต้องเกิดได้เกิดขึ้นแล้ว”
20) คุณทักทายพี่น้องร่วมศรัทธาของคุณด้วยคำว่า “ขอความสันติจงอยู่กับท่าน”หรือเปล่า ?
ยอห์น 20:26 : พระเยซูได้เสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ท่ามกลางเขา ตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” (ตรงกับภาษาอาหรับว่า “อัสสะลามุอะลัยกุม”)
21) คุณก้มกราบหรือเปล่าตอนคุณสวดภาวนา ?
มัทธิว 26:39 : แล้วเสด็จดำเนินไปอีกหน่อยหนึ่งก็ซบพระพักตร์ลงถึงดินอธิษฐานว่า….
โยชัว 5:15, พงศ์กษัตริย์ฉบับที่หนึ่ง 18:42, กันดารวิถี 20:6, ปฐมกาล 17:31 และโครินธ์ 14:25 : ความลับที่ซ่อนอยู่ในใจของเขาจะเด่นชัดขึ้น เขาก็จะกราบลงนมัสการพระเจ้า
22) คุณรู้หรือไม่ว่าคุณต้องถือศีลอด ?
มัทธิว 9:14-15 : แล้วลูกศิษย์ของยอห์นมาหาพระเยซูทูลว่า“เหตุไฉนพวกข้าพระองค์และพวกฟาริสีถืออดอาหาร แต่พวกศิษย์ของพระองค์ไม่ถือ ?”
มาระโก 2:18-20 , ลูกา 5:33-35 :มีพวกศิษย์ของยอห์นและพวกฟาริสีกำลังถืออดอาหาร ประชาชนจึงมาทูลถามพระองค์ว่า “เหตุไฉนพวกศิษย์ของยอห์นและศิษย์ของพวกฟาริสีถืออดอาหาร แต่พวกศิษย์ของพระองคืไม่ถือ ?” พระเยซูจึงตรัสแก่เขาว่า “ท่านจะให้สหายของเจ้าบ่าวถืออดอาหารเมื่อเจ้าบ่าวยังอยู่กับเขากระนั้นหรือ ?”
มัทธิว 4:2 : และพระองค์ทรงอดพระกระยาหารสี่สิบวันสี่สิบคืน ภายหลังพระองค์ก็ทรงอยากพระกระยาหาร
23) คุณรู้ไหมว่าการดื่มเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มมึนเมาเป็นที่ต้องห้าม ?
ลูกา 1:15 : เพราะว่าเขาจะเป็นใหญ่จำเพาะพระเจ้า เขาจะไม่กินน้ำองุ่นหมักและเหล้าเลย และจะประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่ครรภ์มารดา
โรมัน 14:21 : เป็นการดีที่จะไม่กินเนื้อสัตว์หรือเหล่าองุ่นหรือทำสิ่งใดๆที่จะเป็นให้พี่น้องสะดุด
24) คุณรู้ไหมว่าการกินเนื้อหมูเป็นที่ต้องห้าม ?
เลวีนิติ 11:7-8 : ….หมู เพราะมันเป็นสัตว์แยกกีบและมีกีบผ่าแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์มลทินแก่เจ้า อย่ารับประทานเนื้อของสัตว์เหล่านี้เลยและเจ้าอย่าแตะต้องซากของมัน มันเป็นมลทินแก่เจ้า
25) คุณรู้ไหมว่ามักก๊ะฮ์ได้ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ไบเบิล ?
สดุดี 84:4-6 : ความสุขเป็นของบุคคลที่อาศัยอยู่ในพระนิเวศของพระองค์ เขาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์เสมอ ความสุขเป็นของบุคคลที่กำลังของเขาอยู่ในพระองค์ คือคนที่ในหัวใจของเขาเป็นทางหลวงไปศิโยน ขณะที่เขาผ่านไปตามหว่างเขาบาคา
---------------------------------------------
قُلْ يَا أَهْلَ الْكِتَابِ تَعَالَوْا إِلَىٰ كَلِمَةٍ سَوَاءٍ بَيْنَنَا وَبَيْنَكُمْ أَلَّا نَعْبُدَ إِلَّا اللَّهَ وَلَا نُشْرِكَ بِهِ شَيْئًا وَلَا يَتَّخِذَ بَعْضُنَا بَعْضًا أَرْبَابًا مِّن دُونِ اللَّهِ ۚ فَإِن تَوَلَّوْا فَقُولُوا اشْهَدُوا بِأَنَّا مُسْلِمُونَ
ความว่า... จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า โอ้บรรดาผู้ได้รับ
คัมภีร์ ! จงมายังถ้อยคำหนึ่งซึ่งเท่าเทียมกัน ระหว่างเราและพวก
ท่าน ว่าเราจะไม่เคาระสักการะสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์เท่า
นั้น และเราจะไม่ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์ และพวกเราบางคนก็จะไม่ยึดถืออีกบางคนเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์ แล้วหากพวกเขาผินหลังให้ ก็จงกล่าวเถิ
เห็นเพื่อนแชร์ในเฟส อ่านแล้วเนื้อหาดี เลยเอามาเตือนพี่น้องชาวคริสตชนทุกท่าน
1) คุณปฏิบัติตามคัมภีร์ไบเบิลทั้งพันธสัญญาเก่าและพันธะสัญญาใหม่หรือเปล่า ?
มัทธิว 5:17-19 : “ อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ เรามิได้มาเลิกล้าง แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าตราบใดที่ฟ้าและดินดำรงอยู่ แม้อักษรหนึ่งหรือขีดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากธรรมบัญญัติจนกว่าสิ่งที่จะต้องเกิดได้เกิดขึ้นแล้ว”
2) คุณรู้ไหมว่าเด็กผู้ชายจะต้องทำสุนัต (การขลิบหนังปลายอวัยวะเพศชาย) ?
เยเนซิศ 17:10-11 : นี่เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งเจ้าจะต้องรักษาระหว่างเรากับเจ้าและเชื้อสายของเจ้าที่จะสืบมา คือผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าสุนัต เจ้าจงเข้าสุนัตตัดหนังหุ้มปลายองคชาติของเจ้า นี่จะเป็นหมายสำคัญของพันธสัญญาระหว่างเรากับเจ้า ทั้งยอห์นแบพติสต์
(ลูกา1:59) และพระเยซู (ลูกา 2:21) ก็เข้าสุนัต
3) คุณรู้หรือเปล่าว่าดอกเบี้ยก็เป็นที่ต้องห้าม ?
เลวีนิติ 25:36-37 : อย่าเอาดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มอะไรจากเขา แต่จงยำเกรงพระเจ้าเพื่อว่าพี่น้องเจ้าจะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าได้ เจ้าอย่าให้เขายืมเงินด้วยคิดดอกเบี้ย
สดุดี 15:5 : เขาเป็นผู้ที่มิได้ให้คนอื่นกู้เงินโดยคิดดอกเบี้ยและไม่ยอมรับสินบนต่อสู้ผู้ไร้ความผิด ผู้ซึ่งกระทำสิ่งเหล่านี้จะไม่หวั่นไหวเป็นนิตย์
4) คุณปฏิเสธรักร่วมเพศหรือไม่ ?
เยเนซิศ 19:24 -25 : แล้วพระเจ้าทรงให้กำมะถันและไฟจากพระเจ้าตกจากฟ้าลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และพระองค์ทรงขยี้เมืองเหล่านั้น ลุ่มน้ำทั้งหมด ชาวเมืองทั้งสิ้นและพืชต่างๆ
5) คุณรู้หรือไม่ว่าการตั้งต้นคริสต์มาสเป็นประเพณีของพวกบูชาเทวรูป ?
เยเรมีย์ 10:2 - 4 : พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า “อย่าเอาอย่างบรรดาประชาชาติหรืออย่าคร้ามกลัวเพราะหมายสำคัญของท้องฟ้าตามที่บรรดาประชาชาติคร้ามกลัวนั้น เพราะเนียมของชนชาติทั้งหลายก็เท็จ เขาตัดต้นไม้จากป่าต้นหนึ่งเป็นสิ่งที่มือช่างได้กระทำด้วยขวาน เขาทั้งหลายก็เอาเงินและทองมาประดับ เขาตอกไว้แน่นด้วยค้อนและตาปู มันก็เคลื่อนไหวไปมาไม่ได้
6) คุณปฏิบัติตามบัญญัติ 10 ประการหรือไม่ ?
มัทธิว 5:19 : เหตุฉะนั้น ผู้ใดได้ทำให้ข้อเล็กน้อยสักข้อหนึ่งในธรรมบัญญัตินี้เบาขึ้น ทั้งสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้น้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผู้ใดที่ประพฤติและสอนตามธรรมบัญญัติ ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์
มาระโก 12:29 : พระเยซูจึงตรัสตอบคนนั้นว่า “ธรรมบัญญัติเอกนั้นคือว่า โอ ชนชาติอิสราเอล จงฟังเถิด พระเจ้าของเราทั้งหลายทรงเป็นพระเจ้าเดียว……”
7) คุณละเว้นจากการค้อมคารวะรูปปั้นของนักบุญหรือเปล่า ?
อพยพ 20:4 –5 :อย่าทำรูปเคารพสำหรับตนเป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่อยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือพระเจ้าของเจ้า
คุณไม่สักการะบูชาสิ่งอื่นใดนอกไปจากพระเจ้าหรือเปล่า ?
มัทธิว 4:10 : พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “ ไอ้ซาตาน จงไปเสียให้พ้น เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่าจงกราบนมัสการพระองค์ผู้เป็นพระเจาของท่านและปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว…”
ยอห์น 4:23-24 : แต่ว่าวาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริงเพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นนมัสการพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณและผู้ที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง
9) คุณรู้หรือไม่ว่าพระเยซูไม่ใช่พระเจ้า ?
ยอห์น 5:37 : และพระบิดาทรงใช้เรามา พระองค์เองก็ได้ทรงเป็นพยานให้แก่เรา ท่านทั้งหลายไม่เคยได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์และไม่เคยเห็นรูปร่างของพระองค์
ยอห์น 14:28 : ท่านได้ยินเรากล่าวแก่ท่านว่า “เราจะจากไปและจะกลับมาหาท่าน” ถ้าท่านรักเรา ท่านก็จะชื่นชมยินดีที่เราไปพระบิดา เพราะพระบิดาทรงเป็นใหญ่กว่าเรา
10) คุณรู้ไม่ว่าพระเยซูไม่เคยอ้างตัวเป็นพระเจ้า ?
ยอห์น 8:28 : “เรามิได้ทำสิ่งใดตามใจชอบ”
มาระโก 12:29 : “พระเจ้าของเราคือพระเจ้าองค์เดียว”
11) คุณรู้หรือไม่ว่าพระเยซูไม่ใช่บุตรของพระเจ้า ?
มัทธิว 16:27-28 :เหตุว่าเมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระสิริแห่งพระบิดาและพร้อมด้วยทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นจะประทานบำเหน็จให้ทุกคนตามการกระทำของตน เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าในพวกท่านที่ยืนอยู่ที่นี่บางคนที่ยังจะไม่รู้รสความตายจนกวาจะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาด้วยราชอำนาจของพระองค์ท่าน
ลูกา 3:38 : ไคนานเป็นบุตรเอโนส เอโนสเป็นบุตรเสท เสทเป็นบุตรอาดัม อาดัมเป็นบุตรพระเจ้า
ลูกา 22:48 : แต่พระเยซูตรัสถามเขาว่า “ยูดาส ท่านจะมอบบุตรมนุษย์ด้วยการจูบหรือ”
โรม 8:14 : เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำผู้ใด ผู้นั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า
12) พระเจ้าเท่านั้นหรือที่คุณขอให้อภัยบาปของคุณ ?
มาระโก 11:25-26 : เมื่อท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าท่านมีเหตุกับผู้หนึ่งผู้ใด จงยกโทษให้ผู้นั้นเสียเพื่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะโปรดยกความผิดของท่านด้วย แต่ถ้าท่านทั้งหลายไม่ยกความผิด พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในวรรค์จะไม่ทรงโปรดยกความผิดของท่านเหมือนกัน
ลูกา 11:2-4 : พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เมื่ออธิษฐาน จงว่า ‘ ข้าแต่พระบิดา ขอให้พรนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกๆวัน ขอทรงโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์ทั้งหลาย ด้วยว่าข้าพระองค์ยกความผิดของทุกคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์นั้น ขออย่าทรงนำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง’”
13) คุณรู้ไหมว่าคำสอนของพระเยซูนั้นมิใช่สำหรับมนุษย์ทุกคน ?
มัทธิว 15:24 : เรามิได้รับใช้มาหาผู้ใด เว้นแต่แกะหลงของวงศ์วานอิสราเอล”
14) คุณรู้ไหมว่าวิญญาณบริสุทธิ์มิได้ดลใจผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลฉบับลูกา ?
ลูกา 1:1-3 : ท่านเธโอฟีลัสที่เคารพอย่างสูง ท่านทราบแล้วว่า มีหลายคนได้อุตส่าห์เรียบเรียงเรื่องราวเหล่านั้นซึ่งสำเร็จแล้วในท่ามกลางเราทั้งหลายตามที่เขาผู้ได้เห็นกับตาเองตั้งแต่ต้นและเป็นผู้ประกาศวจนะนั้นได้แสดงให้เรารู้ เหตุฉะนั้น เนื่องจากข้าพเจ้าเองสืบเสาะถ้วนถี่ตั้งแต่ต้นมาจึงเห็นดีด้วยที่จะเรียบเรียงเรื่องตามลำดับเพื่อประโยชน์แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้รับความจริงอันเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นซึ่งมีผู้แจ้งให้ท่านทราบ
15) คุณรู้ไหมว่ามาระโกและลูกามิได้ถูกระบุชื่อไว้ในสานุศิษย์ 12 คน ?
มัทธิว 10:2-4 : อัครทูตสิบสองคนนั้นมีชื่อดังนี้ คนแรกชื่อซีโมนที่เรียกว่าเปโตร กับอันดรูว์น้องของเขา ยากอบบุตรเศเบดี กับยอห์นน้องของเขาฟีลิป และบาร์โธโลมิว โธมัส และมัทธิวคนเก็บภาษี ยากอบบุตรอัลเฟอัสและเลบเบอัส ผู้ที่มีชื่ออีกว่าธัดเดอัส ซีโมน ชาวคะนาอันและยูดาส อิสคาริโอท ผู้ทรยศพระองค์
16)คุณรู้ไหมว่าชีวิตนิรันดรได้ถูกเปรียบเหมือนกับการเชื่อฟังคำบัญชาของพระเจ้า ?
มัทธิว 19:16-17 : ดูเถิด มีคนหนึ่งมาทูลพระองค์(พระเยซู)ว่า “ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำดีประการใดจึงจะได้ชีวิตนิรันดร ?” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ท่านถามเราถึงสิ่งที่ดีทำไม ผู้ทีดีมีแต่ผู้เดียว แต่ถ้าท่านปรารถนาจะเข้าในชีวิต ก็ให้ถือรักษาพระบัญญัติไว้”
ลูกา 10:25-28 : ดูเถิด มีบาเรียน(นักกฎหมาย)คนหนึ่งยืนขึ้นทดลองพระองค์ ทูลถามว่า “อาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้าจะต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร ?” พระองค์ตรัสตอบว่า “ในธรรมบัญญัติมีคำเขียนว่าอย่างไร ท่านได้อ่านเข้าใจอย่างไร ?” เขาทูลตอบว่า “จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า ด้วยสุดกำลังและสิ้นสุดความคิดของเจ้า และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงกระทำอย่างนั้นแล้วจะได้ชีวิต”
17) คุณรู้ไหมว่าไม่มีใคร ( เช่น พระเยซู) สามารถแบกภาระ(บาป)ของอีกคนหนึ่งได้?
เฉลยธรรมบัญญัติ 24:16 : “อย่าให้บิดาต้องรับโทษถึงตายแทนบุตรของตนหรือให้บุตรต้องรับโทษถึงตายแทนบิดาของตน ให้ทุกคนรับโทษถึงตายด้วยโทษของตนนั้นเอง”
18) คุณรู้ไหมว่าพระเยซูมิได้ทำสิ่งใดตามอำเภอใจของท่านเอง ?
ยอห์น 8:28 : “เรามิได้ทำสิ่งใดตามใจชอบ”
กิจการของอัครทูต 2:22 : “ ท่านทั้งหลายผู้เป็นชนชาติอิสราเอล ขอฟังคำข้าพเจ้า คือพระเยซูชาวนาซาเร็ธเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดชี้แจงให้ท่านทั้งหลายทราบโดยการอิทธิฤทธิ์ การอัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำโดยพระองค์นั้นท่ามกลางท่านทั้งหลายดังที่ท่านทราบอยู่แล้ว”
19) คุณรู้ไหมว่าคำสอนของปอลไม่ใช่คำสอนของพระเยซู ?
โรมัน 7:6 : ปอลได้กล่าวว่า “ แต่บัดนี้ไป เราได้พ้นจากธรรมบัญญัติ คือได้ตายจากธรรมบัญญัติที่ได้ผูกมัดเราไว้เพื่อเราจะได้ไม่ประพฤติตามตัวอักษรในประมวลธรรมบัญญัติเก่า แต่จะดำเนินชีวิตใหม่ตามลักษณะพระวิญญาณ
มัทธิว 5:17-18 : พระเยซูได้ตรัสว่า “ อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ เรามิได้มาเลิกล้าง แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าตราบใดที่ฟ้าและดินดำรงอยู่ แม้อักษรหนึ่งหรือขีดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากธรรมบัญญัติจนกว่าสิ่งที่จะต้องเกิดได้เกิดขึ้นแล้ว”
20) คุณทักทายพี่น้องร่วมศรัทธาของคุณด้วยคำว่า “ขอความสันติจงอยู่กับท่าน”หรือเปล่า ?
ยอห์น 20:26 : พระเยซูได้เสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ท่ามกลางเขา ตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” (ตรงกับภาษาอาหรับว่า “อัสสะลามุอะลัยกุม”)
21) คุณก้มกราบหรือเปล่าตอนคุณสวดภาวนา ?
มัทธิว 26:39 : แล้วเสด็จดำเนินไปอีกหน่อยหนึ่งก็ซบพระพักตร์ลงถึงดินอธิษฐานว่า….
โยชัว 5:15, พงศ์กษัตริย์ฉบับที่หนึ่ง 18:42, กันดารวิถี 20:6, ปฐมกาล 17:31 และโครินธ์ 14:25 : ความลับที่ซ่อนอยู่ในใจของเขาจะเด่นชัดขึ้น เขาก็จะกราบลงนมัสการพระเจ้า
22) คุณรู้หรือไม่ว่าคุณต้องถือศีลอด ?
มัทธิว 9:14-15 : แล้วลูกศิษย์ของยอห์นมาหาพระเยซูทูลว่า“เหตุไฉนพวกข้าพระองค์และพวกฟาริสีถืออดอาหาร แต่พวกศิษย์ของพระองค์ไม่ถือ ?”
มาระโก 2:18-20 , ลูกา 5:33-35 :มีพวกศิษย์ของยอห์นและพวกฟาริสีกำลังถืออดอาหาร ประชาชนจึงมาทูลถามพระองค์ว่า “เหตุไฉนพวกศิษย์ของยอห์นและศิษย์ของพวกฟาริสีถืออดอาหาร แต่พวกศิษย์ของพระองคืไม่ถือ ?” พระเยซูจึงตรัสแก่เขาว่า “ท่านจะให้สหายของเจ้าบ่าวถืออดอาหารเมื่อเจ้าบ่าวยังอยู่กับเขากระนั้นหรือ ?”
มัทธิว 4:2 : และพระองค์ทรงอดพระกระยาหารสี่สิบวันสี่สิบคืน ภายหลังพระองค์ก็ทรงอยากพระกระยาหาร
23) คุณรู้ไหมว่าการดื่มเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มมึนเมาเป็นที่ต้องห้าม ?
ลูกา 1:15 : เพราะว่าเขาจะเป็นใหญ่จำเพาะพระเจ้า เขาจะไม่กินน้ำองุ่นหมักและเหล้าเลย และจะประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่ครรภ์มารดา
โรมัน 14:21 : เป็นการดีที่จะไม่กินเนื้อสัตว์หรือเหล่าองุ่นหรือทำสิ่งใดๆที่จะเป็นให้พี่น้องสะดุด
24) คุณรู้ไหมว่าการกินเนื้อหมูเป็นที่ต้องห้าม ?
เลวีนิติ 11:7-8 : ….หมู เพราะมันเป็นสัตว์แยกกีบและมีกีบผ่าแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์มลทินแก่เจ้า อย่ารับประทานเนื้อของสัตว์เหล่านี้เลยและเจ้าอย่าแตะต้องซากของมัน มันเป็นมลทินแก่เจ้า
25) คุณรู้ไหมว่ามักก๊ะฮ์ได้ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ไบเบิล ?
สดุดี 84:4-6 : ความสุขเป็นของบุคคลที่อาศัยอยู่ในพระนิเวศของพระองค์ เขาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์เสมอ ความสุขเป็นของบุคคลที่กำลังของเขาอยู่ในพระองค์ คือคนที่ในหัวใจของเขาเป็นทางหลวงไปศิโยน ขณะที่เขาผ่านไปตามหว่างเขาบาคา
---------------------------------------------
قُلْ يَا أَهْلَ الْكِتَابِ تَعَالَوْا إِلَىٰ كَلِمَةٍ سَوَاءٍ بَيْنَنَا وَبَيْنَكُمْ أَلَّا نَعْبُدَ إِلَّا اللَّهَ وَلَا نُشْرِكَ بِهِ شَيْئًا وَلَا يَتَّخِذَ بَعْضُنَا بَعْضًا أَرْبَابًا مِّن دُونِ اللَّهِ ۚ فَإِن تَوَلَّوْا فَقُولُوا اشْهَدُوا بِأَنَّا مُسْلِمُونَ
ความว่า... จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า โอ้บรรดาผู้ได้รับ
คัมภีร์ ! จงมายังถ้อยคำหนึ่งซึ่งเท่าเทียมกัน ระหว่างเราและพวก
ท่าน ว่าเราจะไม่เคาระสักการะสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์เท่า
นั้น และเราจะไม่ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์ และพวกเราบางคนก็จะไม่ยึดถืออีกบางคนเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์ แล้วหากพวกเขาผินหลังให้ ก็จงกล่าวเถิ