หากคุณสีเกดหรือคุณนุชนาฏ ผู้ช่วยของคุณเจนนิเฟอร์ คิ้ม ผ่านมาอ่านเพื่อสำรวจความพึงพอใจของผู้ชม ฝากข้อความนี้ถึงพี่เค้าด้วยนะคะ (และเมื่ออ่านเสร็จแล้วกรุณาทำปากจู๋.... :3)
ผ่านไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบหลายปีของดีว่าคนโปรดของใครหลายๆ คน แม้ว่าเธอจะไม่ขอรับตำแหน่งดีว่าแถวหน้าของเมืองไทย แต่สำหรับเราแล้ว คุณเจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นนักร้องหญิงในดวงใจของเราเสมอนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้อ่านหนังสือ และได้ฟังเพลงที่เธอร้องจากดีวีดีคอนเสิร์ต สโนว์คิ้ม
คอนเสิร์ตนี้จัดว่าเป็นคอนเสิร์ตของเราก็ว่าได้ เพราะแม้ว่าอายุจะเข้าสู่วัยทำงานตอนต้นแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีคอนเสิร์ตไหนได้ดูดเงินจากกระเป๋าเรามาก่อน นับตั้งแต่การไปต่อคิวซื้อบัตรก่อนเวลาห้างเปิดที่เซ็นทรัล ชิดลม ได้บัตรแล้วเดินอมยิ้มขึ้นรถไฟฟ้า จนถึงวินาทีนี้ ทำให้เรารู้สึกถึงความ ฟินนนนน…… (ภาษาทางการว่าอิ่มอกอิ่มใจ) ที่น่าจดจำครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเป็นคอนเสิร์ตที่ไม่มีทางจะคาดเดาได้เลยว่าจะต้องไปเจอกับอะไร ซ้อมร้องเพลงไปก่อนก็ไม่ได้ (ได้แค่เพลง คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว) นอกนั้นทางผู้จัดปล่อยให้คนดูลุ้นระทึกเอาเอง
หากวิจารณ์แบบพื้นๆ ตามประสาคนไม่ได้มีความรู้ลึกซึ้งด้านงานดนตรี คอนเสิร์ตนี้เอาใจเราไปเลย 1000 เต็ม 100 เพราะเป็นการผสมผสาน การร้องเพลง เต้น ทอล์คโชว์ และละครเวทีที่เต็มไปด้วย เสื้อผ้า ฉาก แสง และองค์ประกอบอื่นๆ ไว้อย่างลงตัว คุณคิ้มดูเป็นนางพญาในทุกๆ ชุดที่คุณสวมออกมาตั้งแต่ชุดแดงเพลิง ชุดขาวปีกนก ชุดกระโปรงบานปริศนา จนถึงชุดดำที่ปรากฎใน OK magazine ล้วนแล้วแต่ทำให้ผู้หญิงหลายๆ คน (รวมถึงเรา) อ้าปากค้างในความสวยสง่า จนทำให้นึกอยากแปลงสุภาษิตไทยเป็น "ไก่ (คิ้ม) งามเพราะแต่ง" จริงๆ
บทเพลงที่คัดสรรมาแต่ละเพลง เต็มไปด้วยความหมายในตัวของมันซื่งสอดคล้องกับเรื่องราวชีวิตที่คุณคิ้มเล่าให้พวกเราฟังอยู่ตลอดเวลาผ่านตัวหนังสือหรือบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร ซึ่งทำให้คนฟังอย่างเรายิ่ง "อิน" เข้ากับเพลงนั้นๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง แสงสุดท้าย อยากหยุดเวลา คืนสุดท้าย ไปจนถึงเพลงไม่ยอมหมดหวังซึ่งเป็นการปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นที่น่าประทับใจและน่าภูมิใจสำหรับคุณคิ้มที่การอุบเรื่องแขกรับเชิญนั้นเงียบเป็นเป่าสาก (ถึงคุณโก้จะแอบโพสต์รูปก่อนหน้านี้สองสามวัน แต่ทุกคนน่าจะเดาได้อยู่แล้วว่าคุณโก้ต้องมา) แต่กระนั้นบัตรก็ยังคงเต็มทุกที่นั่ง ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่า ความนิยมชมชอบในตัวของคุณคิ้มได้ทวีเพิ่มขึ้นอย่างมากและแขกรับเชิญไม่ได้มีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อบัตรคอนเสิร์ตครั้งนี้แต่อย่างใด ทุกคนไปรับรู้เอาพร้อมกันตอนที่คุณต่าย เพ็ญพัตร์ คุณนก ฉัตรชัย คุณเบน ชาวเดอะ ว๊อยซ์และคนอื่นๆ ขึ้นแสดงบนเวที ซึ่งยิ่งกระตุ้นอะดรีนาลีน และเสียงกรีดร้องจากผู้ชมให้ดังยิ่งขึ้นไปอีก
สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณคุณเจนนิเฟอร์ คิ้ม ที่นำพรสวรรค์และพรแสวงที่สะสมมาตลอด 45 ปีมาแบ่งปันกับพวกเราผ่านเสียงเพลงและเสียงพูด แม้ว่าจะไม่สามารถเบียดเสียดคนเข้าใจถ่ายรูปคุณคิ้มใกล้ๆ ได้ แต่ภาพการแสดงในวันนี้จะประทับอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน และขอบคุณทีมงานทุกๆ คนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่สร้างสรรค์ผลงานสุดตราตรึงในหัวใจดวงน้อยๆ ของเรา และหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ชาวแฟนคลับทุกคนจะได้กลับมาเจอกันอีกในคอนเสิร์ตครั้งหน้าค่ะ
ขอบคุณค่ะ
คอนเสิร์ตจบ ความฟินไม่จบ กับ 45 ปี เจนนิเฟอร์ คิ้ม คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายก่อนวัยทอง
ผ่านไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบหลายปีของดีว่าคนโปรดของใครหลายๆ คน แม้ว่าเธอจะไม่ขอรับตำแหน่งดีว่าแถวหน้าของเมืองไทย แต่สำหรับเราแล้ว คุณเจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นนักร้องหญิงในดวงใจของเราเสมอนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้อ่านหนังสือ และได้ฟังเพลงที่เธอร้องจากดีวีดีคอนเสิร์ต สโนว์คิ้ม
คอนเสิร์ตนี้จัดว่าเป็นคอนเสิร์ตของเราก็ว่าได้ เพราะแม้ว่าอายุจะเข้าสู่วัยทำงานตอนต้นแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีคอนเสิร์ตไหนได้ดูดเงินจากกระเป๋าเรามาก่อน นับตั้งแต่การไปต่อคิวซื้อบัตรก่อนเวลาห้างเปิดที่เซ็นทรัล ชิดลม ได้บัตรแล้วเดินอมยิ้มขึ้นรถไฟฟ้า จนถึงวินาทีนี้ ทำให้เรารู้สึกถึงความ ฟินนนนน…… (ภาษาทางการว่าอิ่มอกอิ่มใจ) ที่น่าจดจำครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเป็นคอนเสิร์ตที่ไม่มีทางจะคาดเดาได้เลยว่าจะต้องไปเจอกับอะไร ซ้อมร้องเพลงไปก่อนก็ไม่ได้ (ได้แค่เพลง คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว) นอกนั้นทางผู้จัดปล่อยให้คนดูลุ้นระทึกเอาเอง
หากวิจารณ์แบบพื้นๆ ตามประสาคนไม่ได้มีความรู้ลึกซึ้งด้านงานดนตรี คอนเสิร์ตนี้เอาใจเราไปเลย 1000 เต็ม 100 เพราะเป็นการผสมผสาน การร้องเพลง เต้น ทอล์คโชว์ และละครเวทีที่เต็มไปด้วย เสื้อผ้า ฉาก แสง และองค์ประกอบอื่นๆ ไว้อย่างลงตัว คุณคิ้มดูเป็นนางพญาในทุกๆ ชุดที่คุณสวมออกมาตั้งแต่ชุดแดงเพลิง ชุดขาวปีกนก ชุดกระโปรงบานปริศนา จนถึงชุดดำที่ปรากฎใน OK magazine ล้วนแล้วแต่ทำให้ผู้หญิงหลายๆ คน (รวมถึงเรา) อ้าปากค้างในความสวยสง่า จนทำให้นึกอยากแปลงสุภาษิตไทยเป็น "ไก่ (คิ้ม) งามเพราะแต่ง" จริงๆ
บทเพลงที่คัดสรรมาแต่ละเพลง เต็มไปด้วยความหมายในตัวของมันซื่งสอดคล้องกับเรื่องราวชีวิตที่คุณคิ้มเล่าให้พวกเราฟังอยู่ตลอดเวลาผ่านตัวหนังสือหรือบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร ซึ่งทำให้คนฟังอย่างเรายิ่ง "อิน" เข้ากับเพลงนั้นๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง แสงสุดท้าย อยากหยุดเวลา คืนสุดท้าย ไปจนถึงเพลงไม่ยอมหมดหวังซึ่งเป็นการปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นที่น่าประทับใจและน่าภูมิใจสำหรับคุณคิ้มที่การอุบเรื่องแขกรับเชิญนั้นเงียบเป็นเป่าสาก (ถึงคุณโก้จะแอบโพสต์รูปก่อนหน้านี้สองสามวัน แต่ทุกคนน่าจะเดาได้อยู่แล้วว่าคุณโก้ต้องมา) แต่กระนั้นบัตรก็ยังคงเต็มทุกที่นั่ง ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่า ความนิยมชมชอบในตัวของคุณคิ้มได้ทวีเพิ่มขึ้นอย่างมากและแขกรับเชิญไม่ได้มีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อบัตรคอนเสิร์ตครั้งนี้แต่อย่างใด ทุกคนไปรับรู้เอาพร้อมกันตอนที่คุณต่าย เพ็ญพัตร์ คุณนก ฉัตรชัย คุณเบน ชาวเดอะ ว๊อยซ์และคนอื่นๆ ขึ้นแสดงบนเวที ซึ่งยิ่งกระตุ้นอะดรีนาลีน และเสียงกรีดร้องจากผู้ชมให้ดังยิ่งขึ้นไปอีก
สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณคุณเจนนิเฟอร์ คิ้ม ที่นำพรสวรรค์และพรแสวงที่สะสมมาตลอด 45 ปีมาแบ่งปันกับพวกเราผ่านเสียงเพลงและเสียงพูด แม้ว่าจะไม่สามารถเบียดเสียดคนเข้าใจถ่ายรูปคุณคิ้มใกล้ๆ ได้ แต่ภาพการแสดงในวันนี้จะประทับอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน และขอบคุณทีมงานทุกๆ คนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่สร้างสรรค์ผลงานสุดตราตรึงในหัวใจดวงน้อยๆ ของเรา และหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ชาวแฟนคลับทุกคนจะได้กลับมาเจอกันอีกในคอนเสิร์ตครั้งหน้าค่ะ
ขอบคุณค่ะ