สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ชีวิตประจำวันเพื่อการเป็นจ่าฝูงตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อมนุษย์ผู้แสนใจดีรับสุนัขเข้าบ้านเพื่อเป็นสมาชิกใหม่ภายในครอบครัว ไม่ว่าจะรับสุนัขโตแล้ว หรือ ลูกสุนัข คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะมองสุนัขเหมือนเป็นมนุษย์ขนปุกปุย เพื่อนซี้สี่ขา ตุ๊กตายัดนุ่นที่มีชีวิต หรือ แม้แต่เหมาว่าเป็นลูกของตนเอง แต่เชื่อหรือไม่ว่าสุนัขมองโลกใบนี้ต่างจากเราอย่างสิ้นเชิง
เมื่อสุนัขเข้ามาอยู่กับครอบครัว เข้ามาในบ้านของเราสิ่งแรกที่สุนัขมอง ไม่ใช่ว่า บ้านนี้ใหญ่โตแค่ไหน มีที่นอนแสนอุ่น มีเสื้อแสนสวย มีอาหารยี่ห้อดีๆ หรือ มีของเล่นให้เล่นเยอะหรือเปล่า แต่สุนัขไม่ว่าจะเป็นหมาโต หรือลูกหมา จะมองว่า มันอยู่ในตำแหน่งใดในฝูงใหม่ฝูงนี้ จ่าฝูงหรือลูกฝูง หรือถ้าฝูงนี้มีจ่าฝูง(มนุษย์)อยู่แล้ว มันก็จะมองว่า เป็นจ่าฝูงที่ใช้ได้หรือเปล่า ถ้าใช้ไม่ได้ สุนัขก็จะเสียบตำแหน่งจ่าฝูงเสียเอง
ในโลกของสุนัขมีแค่ 2 ตำแหน่งคือ จ่าฝูง หรือ ลูกฝูง
ลูกฝูงจะทำตามจ่าฝูงทุกอย่างเท่าที่จ่าฝูงจะสั่งให้ทำ ไม่รบกวนการกินของจ่าฝูง ไม่รบกวนการนอนของจ่าฝูง ไม่เห่าสั่ง ให้อยู่ไหนก็อยู่ตรงนั้นจนกว่าจ่าฝูงจะสั่งให้ไปที่อื่น กินเมื่อจ่าฝูงสั่ง เล่นเมื่อจ่าฝูงบอก เรียกเมื่อไหร่ก็มาหา บอกให้หยุดก็หยุด ไม่มีการหวงของ เพราะของทุกอย่างเป็นของจ่าฝูง เป็นต้น
ถ้าคุณรู้สึกว่า สุนัขนั้นดื้อเหลือเกิน พูดไม่ฟัง แถมเห่าเถียง เห่าสั่งอีกต่างหาก หรือเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ลักปิดลักเปิด หรือ ทำเป็นหูทวนลม เรียกก็มาบ้าง ไม่มาบ้าง จะสั่งให้ทำอะไรก็ต้องมีขนมติดสินบน เห่าไม่หยุด กัด ขู่ หวง ก้าวร้าว ฯลฯ
ตอนนี้พวกเราเหล่ามนุษย์ก็จะทราบคร่าวๆแล้วว่า ในฝูงนี้ คุณอยู่ในตำแหน่งใดกันแน่ จ่าฝูง หรือ ลูกฝูง ?
วิธีการเป็นจ่าฝูง ต้องเป็นตลอด 24 ชั่วโมง ทุก 7 วัน และต้องสม่ำเสมอต่อการควบคุมกฎระเบียบ กฎทุกอย่างในบ้านจ่าฝูงเป็นผู้ตั้ง กฎต้องเป็นกฎ ไม่มีการผ่อนผันหรือประณีประณอม มีแต่ขาวและดำ ไม่มีเทา ถ้าคุณทำได้ 100% สุนัขก็จะยอมเป็นผู้ตามหรือ เป็นลูกฝูงที่น่ารัก เชื่อฟังได้ทั้ง 100% แต่ถ้าคุณเป็นจ่าฝูงได้ 80% แปลว่าอีก 20% ที่เหลือคุณยอมให้สุนัขเป็นจ่าฝูง หรือคุณเป็นจ่าฝูงได้แค่ 20% นั้นคืออีก 80%ที่เหลือ หมาคุมคน
ถ้าคุณรู้สึกว่าสุนัขเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย แปลว่าคุณไม่ได้ครองตำแหน่งจ่าฝูงได้ 100% จริงๆแล้ว คุณครองกี่ %กันเอ่ย หรือ ให้สุนัขครองความเป็นจ่าฝูงทั้ง 100% หรือเปล่า ?
ทุกอย่างมีทางแก้ไข การทวงตำแหน่งจ่าฝูงนั้นไม่ยาก ถ้าคุณยินดีรับตำแหน่งจ่าฝูง สุนัขยินดีและพร้อมทั้งกาย ใจ จะมอบตำแหน่งนั้นคืนให้คุณอย่างแน่นอน ถ้าคุณทำได้ดี ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เมื่อไหร่คุณเผลอไม่เป็นจ่าฝูงแล้วหละก็ สุนัขก็พร้อมจะเสียบตำแหน่งจ่าฝูงแทนอย่างแน่นอน ไม่ว่ามันจะเต็มใจ หรือ ฝืนใจ รับตำแหน่งนี้ก็ตาม
ชีวิตประจำวันเพื่อการเป็นจ่าฝูงตลอด 24 ชั่วโมง
- เวลาเช้า เราเป็นผู้กำหนดเวลาที่จะปล่อยให้สุนัขออกไปขับถ่าย ไม่ว่าจะปล่อยออกจากกรง หรือ เปิดประตูห้อง ให้ออกไปขับถ่าย สุนัขต้องนั่งรออย่างสงบหน้าประตูกรง หรือประตูห้อง เมื่อสุนัขสงบถึงอนุญาตให้ออกไปขับถ่ายในบริเวณที่กำหนดได้ ถ้าเขาเห่าเรียกก็ต้องห้าม ตักเตือน และไม่อนุญาติให้ออก จนกว่าเขาจะสงบก่อน
-การพาสุนัขไปเดินตอนเช้า (Mastering the walk) สุนัขต้องสงบตั้งแต่เราเริ่มหยิบสายจูง สุนัขนั่งรออย่างสงบหน้าประตู คนออกก่อน สุนัขออกทีหลัง ระหว่างการเดินสุนัขต้องไม่เดินดึงสายจูง ไม่เดินนำ ไม่วอกแวก ไม่ดมพื้น ก่อนเข้าบ้าน สุนัขก็ต้องนั่งรออย่างสงบ คนเข้าบ้านก่อนสุนัขเข้าทีหลัง เมื่อเข้าบ้านแล้วให้สุนัขนั่งรออย่างสงบบริเวณใดบริเวณหนึ่งก่อนเพื่อรอให้เราเก็บสายจูง เรากินน้ำให้เรียบร้อย แล้วเราค่อยเอาน้ำให้สุนัขกิน เขาจะกินน้ำได้เมื่อเราเป็นผู้อนุญาต แล้วค่อยปล่อยให้สุนัขพักผ่อนตามอิสระ หรือ ขึ้นอยู่กับภารกิจของแต่ละบ้าน ดูรายละเอียดได้ที่ Dog training; Mastering the walk
- ประตูทุกประตู ถ้าเราจะผ่านประตูนั้นๆพร้อมกับสุนัข ไม่ว่าเวลาไหนๆ หรือกิจกรรมใดๆ เราต้องผ่านก่อน สุนัขนั่งรออย่างสงบ แล้วเราค่อยอนุญาตให้สุนัขผ่านตามมา
-กิจกรรมระหว่างวันเราผู้เป็นจ่าฝูงต้องเป็นผู้กำหนด เช่น เมื่อไหร่เล่นได้ เมื่อไหร่ต้องหยุดเล่น สุนัขห้ามหวงของเล่น เรากำหนดว่าจะให้เล่นของเล่นอันไหน เมื่อไหร่ เพราะของเล่นเป็นของจ่าฝูง หรือห้ามเห่าสั่งเพื่อให้เราปาบอลให้ และเราควรกำหนดบริเวณที่จะให้สุนัขอยู่ เช่น ให้อยู่ในห้องนี้ ห้ามไปห้องนั้น หรือตอนนี้ต้องอยู่กันอย่างเงียบๆห้ามส่งเสียงดัง เป็นต้น
- ในกรณีที่ต้องพาสุนัขขึ้นรถไปเที่ยวนอกบ้าน สุนัขต้องนั่งรออย่างสงบ ขึ้นรถได้ก็ต่อเมื่อเราอนุญาต อยู่ในรถก็ต้องอยู่อย่างสงบ ก่อนลงจากรถก็ต้องสงบก่อนลง ลงจากรถได้เมื่อเราอนุญาต
-พฤติกรรมใดๆที่เป็นข้อห้ามของบ้าน เราผู้เป็นจ่าฝูงต้องเข้าตักเตือน ห้าม ทุกครั้งที่สุนัขทำพฤติกรรมไม่ดีนั้นๆ ต้องควบคุมกฎอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เตือนบ้าง ไม่เตือนบ้าง อีกคนหนึ่งห้าม แต่สมาชิกในบ้านอีกคนหนึ่งอนุญาต พฤติกรรมที่ควรห้ามเช่น ห้ามกัดเฟอร์นิเจอร์ กัดคน ขึ้นโซฟา(ตัวที่ห้ามขึ้น) เห่ามอร์เตอร์ไซด์ เห่าคนผ่านประตู ไล่จักรยาน ขุดสวน เห่าสั่ง เป็นต้น
-ขณะที่คนทานอาหาร สุนัขห้ามเห่าขออาหาร เราจะต้องห้ามและตักเตือน และ เราห้ามให้อาหารแก่สุนัขกินเด็ดขาดขณะที่เรากินอยู่ มื้ออาหารของคนและมื้ออาหารของสุนัขควรแยกกันอย่างชัดเจน แต่ถ้าเวลาและสถานที่ ใกล้เคียงกัน คนทานก่อนให้เสร็จเรียบร้อย แล้วค่อยให้สุนัขทานทีหลัง
-เวลาให้อาหารสุนัข สุนัขต้องสงบตั้งแต่เราเตรียมอาหาร สุนัขนั่งรออย่างเรียบร้อย ห้ามเห่าสั่ง เมื่อสุนัขนั้งเรียบร้อย ค่อยวางจานอาหารลง สุนัขยังคงนั่งรออยู่ จะเข้าไปกินในชามได้ก็ต่อเมื่อเราอนุญาตให้ทานได้ ดูรายละเอียดได้ที่ Dog training; Feeding Ritual 1 และ 2
****** ถ้าจะดียิ่งขึ้น ควรให้อาหารหลังจากที่สุนัขได้ทำงานแล้ว เช่น หลังจาก Mastering the walk หรือ การฝึกกิจกรรมพิเศษ เช่น Dog tricks / Dog Agility (ควรให้สุนัขพักให้หายเหนื่อยก่อนกินอาหาร) เพื่อให้สุนัขได้ความรู้สึกที่ว่า "ได้ทำงานเพื่อแลกน้ำและอาหาร อาหารไม่ได้มาฟรีๆ "
-ก่อนจะเข้าบ้าน หรือเข้ากรง สุนัขต้องสงบก่อนเข้า เพื่อให้พักผ่อนและหลับอย่างสงบ
//////เพิ่มเติม////////
ในกรณีสุนัขที่มีพลังงานสูง ไฮเปอร์ การเดินออกกำลังตอนเช้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรให้มีกิจกรรมระหว่างวันเพิ่มเติมเพื่อเป็นการระบายพลังงานสะสม ควรมีการฝึกสมอง ฝึกจิตใจ เพิ่มความท้าทาย ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สุนัขสงบ ง่ายต่อการควบคุม และยอมรับกฎต่างๆของบ้าน
กิจกรรมเพิ่มเติมต่างๆเช่น วิ่งลู่วิ่ง เล่นสเก็ตหรือปั่นจักรยานแล้วสุนัขวิ่งคู่กับเรา เดินออกกำลังเพิ่มเติมตอนเย็น เล่นAgility ฝึกDog Tricks พาไปว่ายน้ำ เป็นต้น
ถ้าต้องทิ้งให้สุนัขอยู่ตามลำพัง สุนัขควรเหนื่อยและสงบ ก่อนที่เราจะทิ้งเขาให้อยู่ตามลำพัง เช่น พาสุนัขไปเดินนานขึ้น เดินเร็วๆก้าวเร็วๆ หรือ ให้สุนัขวิ่งไปกับจักรยานหรือสเก็ต และ เพิ่มการวิ่งลู่วิ่ง หรือหลังจากออกกำลังกายจนเหนื่อย ต่อจากนั้นให้สุนัขทานอาหาร เพราะสุนัขที่เหนื่อยและอิ่มจะหลับพักผ่อน ทำให้เขาอยู่ตามลำพังได้ และไม่ก่อกวน
Cr. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=yojajiji&month=10-2009&date=11&group=6&gblog=48
ลองเข้าไปทำความเข้าใจและศึกษาดูในบล๊อกของคุณหญิงดูนะคะ เราว่ามีประโยชน์ค่อนข้างมากทีเดียวค่ะ ^^
มีอีกหลายกรณีที่น่าศึกษาเราว่าทางคุณคงต้องพร้อมและรับมือให้เร็วที่สุดแล้วล่ะคะ ก่อนที่เค้าจะก้าวร้าวจนไม่เชื่อฟังเราในที่สุด
เมื่อมนุษย์ผู้แสนใจดีรับสุนัขเข้าบ้านเพื่อเป็นสมาชิกใหม่ภายในครอบครัว ไม่ว่าจะรับสุนัขโตแล้ว หรือ ลูกสุนัข คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะมองสุนัขเหมือนเป็นมนุษย์ขนปุกปุย เพื่อนซี้สี่ขา ตุ๊กตายัดนุ่นที่มีชีวิต หรือ แม้แต่เหมาว่าเป็นลูกของตนเอง แต่เชื่อหรือไม่ว่าสุนัขมองโลกใบนี้ต่างจากเราอย่างสิ้นเชิง
เมื่อสุนัขเข้ามาอยู่กับครอบครัว เข้ามาในบ้านของเราสิ่งแรกที่สุนัขมอง ไม่ใช่ว่า บ้านนี้ใหญ่โตแค่ไหน มีที่นอนแสนอุ่น มีเสื้อแสนสวย มีอาหารยี่ห้อดีๆ หรือ มีของเล่นให้เล่นเยอะหรือเปล่า แต่สุนัขไม่ว่าจะเป็นหมาโต หรือลูกหมา จะมองว่า มันอยู่ในตำแหน่งใดในฝูงใหม่ฝูงนี้ จ่าฝูงหรือลูกฝูง หรือถ้าฝูงนี้มีจ่าฝูง(มนุษย์)อยู่แล้ว มันก็จะมองว่า เป็นจ่าฝูงที่ใช้ได้หรือเปล่า ถ้าใช้ไม่ได้ สุนัขก็จะเสียบตำแหน่งจ่าฝูงเสียเอง
ในโลกของสุนัขมีแค่ 2 ตำแหน่งคือ จ่าฝูง หรือ ลูกฝูง
ลูกฝูงจะทำตามจ่าฝูงทุกอย่างเท่าที่จ่าฝูงจะสั่งให้ทำ ไม่รบกวนการกินของจ่าฝูง ไม่รบกวนการนอนของจ่าฝูง ไม่เห่าสั่ง ให้อยู่ไหนก็อยู่ตรงนั้นจนกว่าจ่าฝูงจะสั่งให้ไปที่อื่น กินเมื่อจ่าฝูงสั่ง เล่นเมื่อจ่าฝูงบอก เรียกเมื่อไหร่ก็มาหา บอกให้หยุดก็หยุด ไม่มีการหวงของ เพราะของทุกอย่างเป็นของจ่าฝูง เป็นต้น
ถ้าคุณรู้สึกว่า สุนัขนั้นดื้อเหลือเกิน พูดไม่ฟัง แถมเห่าเถียง เห่าสั่งอีกต่างหาก หรือเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ลักปิดลักเปิด หรือ ทำเป็นหูทวนลม เรียกก็มาบ้าง ไม่มาบ้าง จะสั่งให้ทำอะไรก็ต้องมีขนมติดสินบน เห่าไม่หยุด กัด ขู่ หวง ก้าวร้าว ฯลฯ
ตอนนี้พวกเราเหล่ามนุษย์ก็จะทราบคร่าวๆแล้วว่า ในฝูงนี้ คุณอยู่ในตำแหน่งใดกันแน่ จ่าฝูง หรือ ลูกฝูง ?
วิธีการเป็นจ่าฝูง ต้องเป็นตลอด 24 ชั่วโมง ทุก 7 วัน และต้องสม่ำเสมอต่อการควบคุมกฎระเบียบ กฎทุกอย่างในบ้านจ่าฝูงเป็นผู้ตั้ง กฎต้องเป็นกฎ ไม่มีการผ่อนผันหรือประณีประณอม มีแต่ขาวและดำ ไม่มีเทา ถ้าคุณทำได้ 100% สุนัขก็จะยอมเป็นผู้ตามหรือ เป็นลูกฝูงที่น่ารัก เชื่อฟังได้ทั้ง 100% แต่ถ้าคุณเป็นจ่าฝูงได้ 80% แปลว่าอีก 20% ที่เหลือคุณยอมให้สุนัขเป็นจ่าฝูง หรือคุณเป็นจ่าฝูงได้แค่ 20% นั้นคืออีก 80%ที่เหลือ หมาคุมคน
ถ้าคุณรู้สึกว่าสุนัขเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย แปลว่าคุณไม่ได้ครองตำแหน่งจ่าฝูงได้ 100% จริงๆแล้ว คุณครองกี่ %กันเอ่ย หรือ ให้สุนัขครองความเป็นจ่าฝูงทั้ง 100% หรือเปล่า ?
ทุกอย่างมีทางแก้ไข การทวงตำแหน่งจ่าฝูงนั้นไม่ยาก ถ้าคุณยินดีรับตำแหน่งจ่าฝูง สุนัขยินดีและพร้อมทั้งกาย ใจ จะมอบตำแหน่งนั้นคืนให้คุณอย่างแน่นอน ถ้าคุณทำได้ดี ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เมื่อไหร่คุณเผลอไม่เป็นจ่าฝูงแล้วหละก็ สุนัขก็พร้อมจะเสียบตำแหน่งจ่าฝูงแทนอย่างแน่นอน ไม่ว่ามันจะเต็มใจ หรือ ฝืนใจ รับตำแหน่งนี้ก็ตาม
ชีวิตประจำวันเพื่อการเป็นจ่าฝูงตลอด 24 ชั่วโมง
- เวลาเช้า เราเป็นผู้กำหนดเวลาที่จะปล่อยให้สุนัขออกไปขับถ่าย ไม่ว่าจะปล่อยออกจากกรง หรือ เปิดประตูห้อง ให้ออกไปขับถ่าย สุนัขต้องนั่งรออย่างสงบหน้าประตูกรง หรือประตูห้อง เมื่อสุนัขสงบถึงอนุญาตให้ออกไปขับถ่ายในบริเวณที่กำหนดได้ ถ้าเขาเห่าเรียกก็ต้องห้าม ตักเตือน และไม่อนุญาติให้ออก จนกว่าเขาจะสงบก่อน
-การพาสุนัขไปเดินตอนเช้า (Mastering the walk) สุนัขต้องสงบตั้งแต่เราเริ่มหยิบสายจูง สุนัขนั่งรออย่างสงบหน้าประตู คนออกก่อน สุนัขออกทีหลัง ระหว่างการเดินสุนัขต้องไม่เดินดึงสายจูง ไม่เดินนำ ไม่วอกแวก ไม่ดมพื้น ก่อนเข้าบ้าน สุนัขก็ต้องนั่งรออย่างสงบ คนเข้าบ้านก่อนสุนัขเข้าทีหลัง เมื่อเข้าบ้านแล้วให้สุนัขนั่งรออย่างสงบบริเวณใดบริเวณหนึ่งก่อนเพื่อรอให้เราเก็บสายจูง เรากินน้ำให้เรียบร้อย แล้วเราค่อยเอาน้ำให้สุนัขกิน เขาจะกินน้ำได้เมื่อเราเป็นผู้อนุญาต แล้วค่อยปล่อยให้สุนัขพักผ่อนตามอิสระ หรือ ขึ้นอยู่กับภารกิจของแต่ละบ้าน ดูรายละเอียดได้ที่ Dog training; Mastering the walk
- ประตูทุกประตู ถ้าเราจะผ่านประตูนั้นๆพร้อมกับสุนัข ไม่ว่าเวลาไหนๆ หรือกิจกรรมใดๆ เราต้องผ่านก่อน สุนัขนั่งรออย่างสงบ แล้วเราค่อยอนุญาตให้สุนัขผ่านตามมา
-กิจกรรมระหว่างวันเราผู้เป็นจ่าฝูงต้องเป็นผู้กำหนด เช่น เมื่อไหร่เล่นได้ เมื่อไหร่ต้องหยุดเล่น สุนัขห้ามหวงของเล่น เรากำหนดว่าจะให้เล่นของเล่นอันไหน เมื่อไหร่ เพราะของเล่นเป็นของจ่าฝูง หรือห้ามเห่าสั่งเพื่อให้เราปาบอลให้ และเราควรกำหนดบริเวณที่จะให้สุนัขอยู่ เช่น ให้อยู่ในห้องนี้ ห้ามไปห้องนั้น หรือตอนนี้ต้องอยู่กันอย่างเงียบๆห้ามส่งเสียงดัง เป็นต้น
- ในกรณีที่ต้องพาสุนัขขึ้นรถไปเที่ยวนอกบ้าน สุนัขต้องนั่งรออย่างสงบ ขึ้นรถได้ก็ต่อเมื่อเราอนุญาต อยู่ในรถก็ต้องอยู่อย่างสงบ ก่อนลงจากรถก็ต้องสงบก่อนลง ลงจากรถได้เมื่อเราอนุญาต
-พฤติกรรมใดๆที่เป็นข้อห้ามของบ้าน เราผู้เป็นจ่าฝูงต้องเข้าตักเตือน ห้าม ทุกครั้งที่สุนัขทำพฤติกรรมไม่ดีนั้นๆ ต้องควบคุมกฎอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เตือนบ้าง ไม่เตือนบ้าง อีกคนหนึ่งห้าม แต่สมาชิกในบ้านอีกคนหนึ่งอนุญาต พฤติกรรมที่ควรห้ามเช่น ห้ามกัดเฟอร์นิเจอร์ กัดคน ขึ้นโซฟา(ตัวที่ห้ามขึ้น) เห่ามอร์เตอร์ไซด์ เห่าคนผ่านประตู ไล่จักรยาน ขุดสวน เห่าสั่ง เป็นต้น
-ขณะที่คนทานอาหาร สุนัขห้ามเห่าขออาหาร เราจะต้องห้ามและตักเตือน และ เราห้ามให้อาหารแก่สุนัขกินเด็ดขาดขณะที่เรากินอยู่ มื้ออาหารของคนและมื้ออาหารของสุนัขควรแยกกันอย่างชัดเจน แต่ถ้าเวลาและสถานที่ ใกล้เคียงกัน คนทานก่อนให้เสร็จเรียบร้อย แล้วค่อยให้สุนัขทานทีหลัง
-เวลาให้อาหารสุนัข สุนัขต้องสงบตั้งแต่เราเตรียมอาหาร สุนัขนั่งรออย่างเรียบร้อย ห้ามเห่าสั่ง เมื่อสุนัขนั้งเรียบร้อย ค่อยวางจานอาหารลง สุนัขยังคงนั่งรออยู่ จะเข้าไปกินในชามได้ก็ต่อเมื่อเราอนุญาตให้ทานได้ ดูรายละเอียดได้ที่ Dog training; Feeding Ritual 1 และ 2
****** ถ้าจะดียิ่งขึ้น ควรให้อาหารหลังจากที่สุนัขได้ทำงานแล้ว เช่น หลังจาก Mastering the walk หรือ การฝึกกิจกรรมพิเศษ เช่น Dog tricks / Dog Agility (ควรให้สุนัขพักให้หายเหนื่อยก่อนกินอาหาร) เพื่อให้สุนัขได้ความรู้สึกที่ว่า "ได้ทำงานเพื่อแลกน้ำและอาหาร อาหารไม่ได้มาฟรีๆ "
-ก่อนจะเข้าบ้าน หรือเข้ากรง สุนัขต้องสงบก่อนเข้า เพื่อให้พักผ่อนและหลับอย่างสงบ
//////เพิ่มเติม////////
ในกรณีสุนัขที่มีพลังงานสูง ไฮเปอร์ การเดินออกกำลังตอนเช้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรให้มีกิจกรรมระหว่างวันเพิ่มเติมเพื่อเป็นการระบายพลังงานสะสม ควรมีการฝึกสมอง ฝึกจิตใจ เพิ่มความท้าทาย ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สุนัขสงบ ง่ายต่อการควบคุม และยอมรับกฎต่างๆของบ้าน
กิจกรรมเพิ่มเติมต่างๆเช่น วิ่งลู่วิ่ง เล่นสเก็ตหรือปั่นจักรยานแล้วสุนัขวิ่งคู่กับเรา เดินออกกำลังเพิ่มเติมตอนเย็น เล่นAgility ฝึกDog Tricks พาไปว่ายน้ำ เป็นต้น
ถ้าต้องทิ้งให้สุนัขอยู่ตามลำพัง สุนัขควรเหนื่อยและสงบ ก่อนที่เราจะทิ้งเขาให้อยู่ตามลำพัง เช่น พาสุนัขไปเดินนานขึ้น เดินเร็วๆก้าวเร็วๆ หรือ ให้สุนัขวิ่งไปกับจักรยานหรือสเก็ต และ เพิ่มการวิ่งลู่วิ่ง หรือหลังจากออกกำลังกายจนเหนื่อย ต่อจากนั้นให้สุนัขทานอาหาร เพราะสุนัขที่เหนื่อยและอิ่มจะหลับพักผ่อน ทำให้เขาอยู่ตามลำพังได้ และไม่ก่อกวน
Cr. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=yojajiji&month=10-2009&date=11&group=6&gblog=48
ลองเข้าไปทำความเข้าใจและศึกษาดูในบล๊อกของคุณหญิงดูนะคะ เราว่ามีประโยชน์ค่อนข้างมากทีเดียวค่ะ ^^
มีอีกหลายกรณีที่น่าศึกษาเราว่าทางคุณคงต้องพร้อมและรับมือให้เร็วที่สุดแล้วล่ะคะ ก่อนที่เค้าจะก้าวร้าวจนไม่เชื่อฟังเราในที่สุด
แสดงความคิดเห็น
สุนัขหวงของกับเจ้าของ มีวิธีแก้ไขไหมค่ะ กังวลใจมากๆ😭
แบบถ้าเค้ายืนกินข้าวแล้วเราเข้าไปใกล้ เค้าก้จะมองแล้วก้เห่า ถ้าเรายังไม่ถอยห่างจากเค้า เค้าจะกัดเราค่ะ เป็นแบบนี้กับทุกคนในบ้าน เราใช้ทั้งไม้อ่อน ก้กัด ใช้ไม้แข็งคือตี ยิ่งตีเหมือนยิ่งแย่ เค้าก้าวร้าวมากๆ เปนสุขนัขพันธุ์ลาบาดอร์ค่ะ ไม่ได้ซื้อมาน่ะค่ะ เราเอามาจากมูลนิธิในเฟสบุค(Unidog) เห้ออออกังวลใจมากค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว กัดแม้กระทั่งคนให้ข้าวกินทุกวัน กัดเราเองจนเปนแผลทั้งแขนทั้งขา เลี้ยงมาเกือบ1ปีแล้วค่ะ เอามาเลี้ยงตั้งแต่1เดือนกว่าๆ รักก้รักน่ะค่ะ เวลาตีเค้าแต่ล่ะครั้งก้มีเหตุผล พอตีเสดเค้าก้จะมามุดขาเลียมือขอโทด เราก้ใจอ่อนค่ะ ตีก้ตีไม่แรงค้ะ เพราะกลัวเค้าเจ็บ เรารู้สึกแย่มากๆเวลาเหนเค้านิสัยแบบนี้ ใครพอมีวิธีช่วยบ้างค่ะ รบกวนด้วยน่ะค่ะ