สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เอารุ่นยางต่างเกรดกันมาเปรียบเทียบกันไม่ได้นะครับ
ยางตัวท๊อปจัดระดับในท้องตลาด Comfort and Silent ของ BRIDGESTONE คือ GR-90 ครับ สมรรถนะคือควบคุมรถได้ดีในระดับความเร็วสูงเวลากระชากโค้งแรงๆจะทรงตัวได้ดี เพราะถ้าไปดูที่ตัวโครงยางแก้มยางด้านนอกกับด้านในจะหนาไม่เท่ากันครับ เพราะฉะนั้นเวลาใส่ยางต้องใส่ตาม INSIZE,OUTSIZE ด้วยครับ พร้อมให้ความนิ่มเงียบของดอกยางละเอียดครับ ส่วนยาง EP200 จัดอยู่ในยางจำพวก ECO ครับ ไม่เน้นความเร็วสูงมากๆ การสาดโค้งไม่ดีเท่าตัวท๊อป เพราะเป็นยางที่เน้นด้านการลดพลังงาน และใช้งานทั่วไป ดอกยางก็ไม่ได้ละเอียดเท่าตัว GR-90 นะครับ ร่องยางที่ทำไว้ให้กว้างก็เพื่อที่จะรีดน้ำได้รวดเร็วครับ พอร่องกว้างหน้าสัมผัสถนนจะลดลงครับ การคอนโทรลรถในระดับความเร็วสูงๆ ต้องใช้หน้าสัมผัสมากๆอย่างรถ formula 1 ไงครับ ไม่มีร่องยางเลย ยกเว้นตอนฝนตกต้องเปลี่ยนยางแบบมีร่องไว้รีดน้ำแต่ร่องยางก็ไม่กว้างเพราะรถ formula 1 ต้องการหน้าสัมผัสกับถนนที่เยอะเพราะต้องการการยึดเกาะในความเร็วสูงๆ ครับ
แต่อย่าคิดว่าผู้พัฒนายาง BRIDGESTONE ไม่คิดค้นการรีดน้ำในร่องยางที่เล็กของ GR-90 นะครับ ร่องรีดน้ำของยาง GR-90 มีลักษณะเป็นคลื่นนะครับ ไม่เชื่อลองไปหาสัมผัสกันดูนะครับเอานิ้วแหย่เข้าไปสัมผัสที่ร่องยางสิครับว่ามันเป็นคลื่นจริงๆ หุหุ จาการทดสอบของผู้ผลิตได้ทำการทดสอบว่าร่องยางที่เป็นคลื่นให้เกิดการรีดน้ำเป็นเกลียวคลื่น และรีดน้ำได้รวดเร็วในร่องยางที่เล็ก เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกที่ GR-90 จึงเป็นยางที่ประสิทธิภาพสูงสุดในยางระดับ Comfort and Silent ของ BRIDGESTONE ครับ
มาว่ากันต่อที่ยางตัวใหม่ EP200 นะครับ การกระจายอณูนาโนใน EP200 เป็นเทคโนโลยีใหม่ครับ ซึ่งจากยางตัวเก่าๆ เวลายางวิ่งเสียดสีเกิดความร้อนอณูนาโนจะถ่วงน้ำหนักตามแรงโน้มถ่วงโลกครับ น้ำหนักจึงไปตกที่ใดที่หนึ่งทำให้เกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ จึงทำให้เกิดการกลิ้งที่ไม่ลื่นไหล ส่วนเทคโนโลยีใหม่ของตัว EP200 เมื่อยางเกิดความร้อนอณูนาโนจะกระจายน้ำหนักไปรอบๆยางเท่าๆกันทั้งเส้นทำให้ล้อหมุนด้วยความลื่นไหลครับ และยังสามารถหยุดรถบนถนนเปียกได้ดีขึ้นจากเดิมอีกด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ยางควรจะใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลักครับ ว่าตัวคุณเองขับรถเร็ว หรือใช้งานทั่วๆไป หรือใช้งานสมบุกสมบัน อยากให้จำกันไว้อีกสักนิดนะครับ ผู้ผลิต ผลิตยางรถยนต์ตามการใช้งาน และความต้องการของมนุษย์เป็นหลักครับ และพยายามที่จะพัฒนายางให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ยกเว้นยางถูกๆ นะครับ ที่ว่าเอาถูกเข้าว่าแต่ไม่มีคุณภาพ ก็ถ้าต้องการแค่ถูกอะนะครับ อย่าคิดมาก หุ หุ
เพราะฉะนั้นถ้าจะตอบโจทย์ของเจ้าของกระทู้ที่ว่า "ยาง Bridgestone Ecopia EP200 รุ่นใหม่ ดีไหมครับ" อ่านตามข้อความข้างบนของผมที่โพสต์ไป อาจเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจให้เจ้าของกระทู้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ยางตัวท๊อปจัดระดับในท้องตลาด Comfort and Silent ของ BRIDGESTONE คือ GR-90 ครับ สมรรถนะคือควบคุมรถได้ดีในระดับความเร็วสูงเวลากระชากโค้งแรงๆจะทรงตัวได้ดี เพราะถ้าไปดูที่ตัวโครงยางแก้มยางด้านนอกกับด้านในจะหนาไม่เท่ากันครับ เพราะฉะนั้นเวลาใส่ยางต้องใส่ตาม INSIZE,OUTSIZE ด้วยครับ พร้อมให้ความนิ่มเงียบของดอกยางละเอียดครับ ส่วนยาง EP200 จัดอยู่ในยางจำพวก ECO ครับ ไม่เน้นความเร็วสูงมากๆ การสาดโค้งไม่ดีเท่าตัวท๊อป เพราะเป็นยางที่เน้นด้านการลดพลังงาน และใช้งานทั่วไป ดอกยางก็ไม่ได้ละเอียดเท่าตัว GR-90 นะครับ ร่องยางที่ทำไว้ให้กว้างก็เพื่อที่จะรีดน้ำได้รวดเร็วครับ พอร่องกว้างหน้าสัมผัสถนนจะลดลงครับ การคอนโทรลรถในระดับความเร็วสูงๆ ต้องใช้หน้าสัมผัสมากๆอย่างรถ formula 1 ไงครับ ไม่มีร่องยางเลย ยกเว้นตอนฝนตกต้องเปลี่ยนยางแบบมีร่องไว้รีดน้ำแต่ร่องยางก็ไม่กว้างเพราะรถ formula 1 ต้องการหน้าสัมผัสกับถนนที่เยอะเพราะต้องการการยึดเกาะในความเร็วสูงๆ ครับ
แต่อย่าคิดว่าผู้พัฒนายาง BRIDGESTONE ไม่คิดค้นการรีดน้ำในร่องยางที่เล็กของ GR-90 นะครับ ร่องรีดน้ำของยาง GR-90 มีลักษณะเป็นคลื่นนะครับ ไม่เชื่อลองไปหาสัมผัสกันดูนะครับเอานิ้วแหย่เข้าไปสัมผัสที่ร่องยางสิครับว่ามันเป็นคลื่นจริงๆ หุหุ จาการทดสอบของผู้ผลิตได้ทำการทดสอบว่าร่องยางที่เป็นคลื่นให้เกิดการรีดน้ำเป็นเกลียวคลื่น และรีดน้ำได้รวดเร็วในร่องยางที่เล็ก เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกที่ GR-90 จึงเป็นยางที่ประสิทธิภาพสูงสุดในยางระดับ Comfort and Silent ของ BRIDGESTONE ครับ
มาว่ากันต่อที่ยางตัวใหม่ EP200 นะครับ การกระจายอณูนาโนใน EP200 เป็นเทคโนโลยีใหม่ครับ ซึ่งจากยางตัวเก่าๆ เวลายางวิ่งเสียดสีเกิดความร้อนอณูนาโนจะถ่วงน้ำหนักตามแรงโน้มถ่วงโลกครับ น้ำหนักจึงไปตกที่ใดที่หนึ่งทำให้เกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ จึงทำให้เกิดการกลิ้งที่ไม่ลื่นไหล ส่วนเทคโนโลยีใหม่ของตัว EP200 เมื่อยางเกิดความร้อนอณูนาโนจะกระจายน้ำหนักไปรอบๆยางเท่าๆกันทั้งเส้นทำให้ล้อหมุนด้วยความลื่นไหลครับ และยังสามารถหยุดรถบนถนนเปียกได้ดีขึ้นจากเดิมอีกด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ยางควรจะใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลักครับ ว่าตัวคุณเองขับรถเร็ว หรือใช้งานทั่วๆไป หรือใช้งานสมบุกสมบัน อยากให้จำกันไว้อีกสักนิดนะครับ ผู้ผลิต ผลิตยางรถยนต์ตามการใช้งาน และความต้องการของมนุษย์เป็นหลักครับ และพยายามที่จะพัฒนายางให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ยกเว้นยางถูกๆ นะครับ ที่ว่าเอาถูกเข้าว่าแต่ไม่มีคุณภาพ ก็ถ้าต้องการแค่ถูกอะนะครับ อย่าคิดมาก หุ หุ
เพราะฉะนั้นถ้าจะตอบโจทย์ของเจ้าของกระทู้ที่ว่า "ยาง Bridgestone Ecopia EP200 รุ่นใหม่ ดีไหมครับ" อ่านตามข้อความข้างบนของผมที่โพสต์ไป อาจเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจให้เจ้าของกระทู้ไม่มากก็น้อยนะครับ
noooon010 ถูกใจ, greentan ถูกใจ, The Sphinx ถูกใจ, ทาสเทวี ถูกใจ, Raptor_X ถูกใจ, ZenteE ถูกใจ, Pun Arun ถูกใจ, ยอมแล้วครับ ถูกใจ, bingoman ถูกใจ, AeRocky ถูกใจรวมถึงอีก 5 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ยาง Bridestone Ecopia EP200 รุ่นใหม่ ดีไหมครับ
ตอนแรกมองๆ AR10 ไว้ ถามราคา 4100 บาทต่อเส้น
แต่เจอบูท bridestone เขาบอกมียาง Ecopia EP200 ผลิตมาแทนยาง EP100 และ AR10 ด้วย ดีกว่า แถมราคาก็ถูกกว่า ราคา 3700 บาทเอง
ก็เลยถามว่า มันดีจริงตามที่เขาว่าไว้ไหมครับ..
ขอบคุณครับ