กลับมาอีกครั้งกับมนุษย์กลายพันธุ์อมตะที่หลายๆคนคุ้นเคย ก่อนที่ผมจะไปดูผมนึกว่า Timeline ของหนังเรื่องนี้มันต่อจากภาค Origin แต่จริงๆไม่ใช่ หนังมันเรียงลำดับแบบนี้ครับ Origin --> X-men1 --> X-men2 --> X-men3 --> The Wolverine เพราะฉะนั้นใครที่ไปดูแล้วเรื่องนี้ควรดูให้ครบ Timeline แล้วจะดูเข้าใจและสนุกมากยิ่งขึ้นครับ
หนังดำเนินเรื่องจากการปลีกวิเวกของวูฟเวอรีนแล้วก็มีเหตุให้ต้องไปผจญภัยที่ญี่ปุ่น สำหรับผมซึ่งชอบญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยดูสนุกมากขึ้น เพราะได้เห็นบรรยากาศญี่ปุ่น แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะหนังยังเอาจุดเด่นสำคัญๆของญี่ปุ่นมาใช้เช่น สู้กันบนชินกังเซ็น สู้กันหมู่บ้านโบราณ มีนินจา มีซามูไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันช่วยให้หนังดูแล้วรู้สึกว่า เออนี่มาญี่ปุ่นจริงๆ ไม่เหมือนบางเรื่องที่ดูแล้ว มานั่งคิดว่า เอ่อนี่มาแค่ถ่ายทำแค่นั้นใช่ไหม?
บทของหนังถือว่าทำได้ค่อนข้างลงตัว ตอนที่ผมดูผมก็นั่งขบคิดกับปมต่างๆที่หนังพยายามใส่เข้ามามากมาย ข้องใจอยู่หลายๆสิ่งหลายๆอย่างแต่พอจบแล้วมันเหมือนจิ๊กซอร์ที่กระจัดกระจายมันมาต่อได้ครบกันว่า ทำไมตัวละครตัวนั้นต้องทำแบบนี้ ทำไมตัวละครนี้ต้องทำแบบนั้น ซึ่งช่วงกลางเรื่องอาจจะงงๆว่า ไอ้คนนี้มันทำแบบนี้ทำไม
แน่นอนไปดูวูฟเวอรีนส่วนใหญ่ก็คงต้องถามเรื่องฉากแอคชั่น สำหรับผมฉากแอคชั่นถือว่าไม่ได้เยอะมากนัก ถ้าคอแอคชั่นอาจบ่นได้ว่า เฮ้ยสู้น้อยจังไม่สะใจเลย แต่สำหรับผมถือว่าโอเคเพราะชอบหนังที่มีเนื้อเรื่องมากกว่า ถ้าจะการืตูนก็บู๊ไปเลย ถ้าจะมีเนื้อเรื่องก็ขอให้มันดีและสมเหตุสมผล ซึ่งภาคนี้ผมชอบตรงบทมัน Dark กำลังดี คือถ้าจะพูดให้เห็นภาพก็ประมาณตัวอย่าง Ironman 3 ที่เหมือนชีวิตรันทดต้องเริ่มใหม่ แต่ไปดูแล้วกลับเป็นหนังตลก ส่วนวูฟเวอรีนตัวอย่างเป็นหนังแอคชั่น แต่ทางกลับกันพอไปดูกลับกลายเป็นดราม่าแบบ Ironman ซะงั้น
สรุปคือเกินคาด เพราะตอนดูภาค Origin ไม่ค่อยชอบนักแต่ภาคนี้ถือว่าชอบมากกว่าภาคที่แล้ว แต่ด้อยกว่า X-men Firstclass ซึ่งภาคนั้นผมขึ้นหิ้งเป็น X-men ที่ดีที่สุดไปแล้ว สำหรับคนที่จะไปดูและชอบหนังดาร์คๆไปดูเถอะครับ ได้ขบคิดและสนุกไปกับมัน สำหรับใครที่ชอบญี่ปุ่นก็ไปดูได้เลยครับเพราะหนังค่อนข้างเข้าใจญี่ปุ่นดีทีเดียว ไม่เหมือนหนังบางเรื่องที่ยำความเป็นญี่ปุ่นมั่วๆ ส่วนคอแอคชั่นชอบแต่จะบู๊อย่างเดียวแนะนำให้ทำใจเพราะบู๊ไม่เยอะและไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพราะภาคนี้เน้นที่บทที่มีความซับซ้อนอีรุงตุงนัง
7.5/10
ปล ตอนจบอย่าเพิ่งลุกเพราะมี End Credit และเป็น End Credit ที่น่าทึ่งทีเดียว เพราะมันจะนำไปสู่ X-men Day of Future Past ที่เป็นภาคต่อของ X-men First Class ที่สุดยอดนั่นเองครับ
ปล2 อย่าไปดูพากย์ไทยนะ เพราะหนังมันคุยญี่ปุ่นกัน แต่ดันพากย์ไทยเป็นภาษาญี่ปุ่นทำไมก็ไม่รู้ ทำให้เราเจอสำเนียงญี่ปุ่นแปลกๆตลอดทั้งเรื่อง ถ้าใครฟังสำเนียงญี่ปุ่นรับรองมีปัญหากับความรำคาญข้อนี้แน่ๆ
The Wolverine วูฟเวอรีนสัญชาติ Japan
กลับมาอีกครั้งกับมนุษย์กลายพันธุ์อมตะที่หลายๆคนคุ้นเคย ก่อนที่ผมจะไปดูผมนึกว่า Timeline ของหนังเรื่องนี้มันต่อจากภาค Origin แต่จริงๆไม่ใช่ หนังมันเรียงลำดับแบบนี้ครับ Origin --> X-men1 --> X-men2 --> X-men3 --> The Wolverine เพราะฉะนั้นใครที่ไปดูแล้วเรื่องนี้ควรดูให้ครบ Timeline แล้วจะดูเข้าใจและสนุกมากยิ่งขึ้นครับ
หนังดำเนินเรื่องจากการปลีกวิเวกของวูฟเวอรีนแล้วก็มีเหตุให้ต้องไปผจญภัยที่ญี่ปุ่น สำหรับผมซึ่งชอบญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยดูสนุกมากขึ้น เพราะได้เห็นบรรยากาศญี่ปุ่น แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะหนังยังเอาจุดเด่นสำคัญๆของญี่ปุ่นมาใช้เช่น สู้กันบนชินกังเซ็น สู้กันหมู่บ้านโบราณ มีนินจา มีซามูไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันช่วยให้หนังดูแล้วรู้สึกว่า เออนี่มาญี่ปุ่นจริงๆ ไม่เหมือนบางเรื่องที่ดูแล้ว มานั่งคิดว่า เอ่อนี่มาแค่ถ่ายทำแค่นั้นใช่ไหม?
บทของหนังถือว่าทำได้ค่อนข้างลงตัว ตอนที่ผมดูผมก็นั่งขบคิดกับปมต่างๆที่หนังพยายามใส่เข้ามามากมาย ข้องใจอยู่หลายๆสิ่งหลายๆอย่างแต่พอจบแล้วมันเหมือนจิ๊กซอร์ที่กระจัดกระจายมันมาต่อได้ครบกันว่า ทำไมตัวละครตัวนั้นต้องทำแบบนี้ ทำไมตัวละครนี้ต้องทำแบบนั้น ซึ่งช่วงกลางเรื่องอาจจะงงๆว่า ไอ้คนนี้มันทำแบบนี้ทำไม
แน่นอนไปดูวูฟเวอรีนส่วนใหญ่ก็คงต้องถามเรื่องฉากแอคชั่น สำหรับผมฉากแอคชั่นถือว่าไม่ได้เยอะมากนัก ถ้าคอแอคชั่นอาจบ่นได้ว่า เฮ้ยสู้น้อยจังไม่สะใจเลย แต่สำหรับผมถือว่าโอเคเพราะชอบหนังที่มีเนื้อเรื่องมากกว่า ถ้าจะการืตูนก็บู๊ไปเลย ถ้าจะมีเนื้อเรื่องก็ขอให้มันดีและสมเหตุสมผล ซึ่งภาคนี้ผมชอบตรงบทมัน Dark กำลังดี คือถ้าจะพูดให้เห็นภาพก็ประมาณตัวอย่าง Ironman 3 ที่เหมือนชีวิตรันทดต้องเริ่มใหม่ แต่ไปดูแล้วกลับเป็นหนังตลก ส่วนวูฟเวอรีนตัวอย่างเป็นหนังแอคชั่น แต่ทางกลับกันพอไปดูกลับกลายเป็นดราม่าแบบ Ironman ซะงั้น
สรุปคือเกินคาด เพราะตอนดูภาค Origin ไม่ค่อยชอบนักแต่ภาคนี้ถือว่าชอบมากกว่าภาคที่แล้ว แต่ด้อยกว่า X-men Firstclass ซึ่งภาคนั้นผมขึ้นหิ้งเป็น X-men ที่ดีที่สุดไปแล้ว สำหรับคนที่จะไปดูและชอบหนังดาร์คๆไปดูเถอะครับ ได้ขบคิดและสนุกไปกับมัน สำหรับใครที่ชอบญี่ปุ่นก็ไปดูได้เลยครับเพราะหนังค่อนข้างเข้าใจญี่ปุ่นดีทีเดียว ไม่เหมือนหนังบางเรื่องที่ยำความเป็นญี่ปุ่นมั่วๆ ส่วนคอแอคชั่นชอบแต่จะบู๊อย่างเดียวแนะนำให้ทำใจเพราะบู๊ไม่เยอะและไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพราะภาคนี้เน้นที่บทที่มีความซับซ้อนอีรุงตุงนัง
7.5/10
ปล ตอนจบอย่าเพิ่งลุกเพราะมี End Credit และเป็น End Credit ที่น่าทึ่งทีเดียว เพราะมันจะนำไปสู่ X-men Day of Future Past ที่เป็นภาคต่อของ X-men First Class ที่สุดยอดนั่นเองครับ
ปล2 อย่าไปดูพากย์ไทยนะ เพราะหนังมันคุยญี่ปุ่นกัน แต่ดันพากย์ไทยเป็นภาษาญี่ปุ่นทำไมก็ไม่รู้ ทำให้เราเจอสำเนียงญี่ปุ่นแปลกๆตลอดทั้งเรื่อง ถ้าใครฟังสำเนียงญี่ปุ่นรับรองมีปัญหากับความรำคาญข้อนี้แน่ๆ