ประมาณเกือบ 6 ปีก่อน เคยผ่าตัดซีสต์ที่รังไข่ข้างขวา (แบบส่องกล้อง ) ตอนนั้นหมอบอกว่า ผ่าตัดเอาเนื้อรังไข่ออกไป 1 ส่วน 3 และข้างซ้ายมีซีสต์อีกชนิดหนึ่ง ( ชื่อเป็นภาษาอังกฤษยาวมาก จำไม่ได้ค่ะ ) ซึ่งเป็นเหมือนจุดเล็กๆๆๆ กระจายที่รังไข่ แต่หมอเอาออกให้แล้ว แต่ไม่ได้ตัดเนื้อรังไข่ทิ้ง หมอบอกว่า ซีสต์ชนิดนี้จะทำให้หน้ามัน เป็นสิว มีหนวดขึ้น และเอาพังผืดที่อยู่ด้านหลังของมดลูกออกไปด้วย หลังจากผ่าประมาณ 2 ปี เราก็แต่งงาน แต่ช่วงประมาณ 6-7 เดือนก่อนน้ำท่วม หมอตรวจเจอว่า มีซีสต์ที่รังไข่ แต่ครั้งนี้อยู่ที่รังไข่ข้างซ้าย หมอแนะนำให้ผ่าตัดอีก ถ้าอยากมีลูก แต่เราไม่อยากผ่าแล้ว หมอก็เลยแนะนำให้ฝังเข็ม ( เราไปหาหมอที่ร.พ.รัฐบาลค่ะ ) ไปฝังทุกเดือน จนน้ำท่วมก็ไม่ได้ไปอีกเลย ประมาณปีก่อนเราไปปรึกษาที่คลีนิคสำหรับคนมีลูกยากที่ตึกชาญอิสระ คุณหมอตรวจมดลูกและรังไข่ให้ ปรากฏว่า คุณหมอบอกว่า ขนาดของรังไข่ข้างขวา ( ที่เราเคยเป็นซีสต์และผ่าตัดออกไป ) เหลือเนื้อรังไข่แค่ 1 ส่วน 3 แปลว่า ครั้งนั้น หมอผ่าตัดเอาเนื้อรังไข่ออกไป 2 ส่วน 3 แต่รังไข่ข้างซ้ายที่หมอบอกว่า มีซีสต์ช็อคโกแลต ปรากฏว่าไม่เจอ ไม่มีซีสต์ค่ะ แล้วเราก็ถามหมอว่า เราจัดอยู่ในภาวะมีบุตรยากรึเปล่า ตอนนั้นเราแต่งงานได้ 1 ปีกว่านิดๆ แต่เราไม่ได้อยู่กับสามี หมอบอกว่า นอนด้วยกันน้อยเกินไป ให้พยายามนอนด้วยกันให้เยอะขึ้น ถี่ขึ้น พยายามแบบธรรมชาติก่อน ถ้าหลังจาก 1 ปีแล้ว ยังไม่มีค่อยกลับมาหาหมอใหม่
ปีนี้เดือนมิ.ย. เราไปหาหมอจีนชื่อดังเกี่ยวกับเรื่องมีบุตรยาก แต่หลังจากเรากินยาจีนได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เราป่วยเข้าร.พ. ก็เลยหยุดกินยา และยาที่หมอจีนให้กินก่อนอาหาร เรากินแล้วรู้สึกคลื่นไส้มาก เลยทำให้ไม่อยากกินยาด้วย พอประจำเดือนของเดือนก.ค.มา เราก็เลยลองไปหาหมอที่นวบุตร ไปถึง เขาให้เจาะเลือด หลังจากนั้น 6 วันหมอนัดฟังผล และตรวจภายใน เพราะหมออยากรู้ว่า เราเป็นซีสต์ชอคโกแลตจริงรึเปล่า
หลังจากตรวจภายในเสร็จ หมออธิบายให้ฟังทั้งผลเลือด และผลการตรวจภายใน หมอบอกว่า รังไข่ข้างขวาขนาดเล็กกว่าปกติ เพราะเคยผ่าตัด แต่ยังผลิตไข่ได้ประมาณ 1-3 ฟอง ส่วนรังไข่ข้างซ้ายไม่เจอซีสต์ และไม่เจอรอยแผลว่าเคยเอาซีสต์ชนิดที่ทำให้หน้ามัน เป็นสิวออก แปลว่า ไม่เคยเป็นซีสต์ชนิดนั้น ขนาดรังไข่ปกติ และผลิตไข่ได้ประมาณ 4-5 ฟอง มดลูกปกติ อาจจะมีพังผืด เพราะเคยผ่าตัด แต่ผลฮอร์โมนตัวอื่นปกติ มีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่มีปัญหา คือ ค่าฮอร์โมน FSH คือ 12.3 สูงกว่าปกติ ( ปกติ 7-10 ) ซึ่งจัดว่าอยู่ในภาวะมีบุตรยาก เพราะว่าแต่งงาน 2 ปีกว่าแล้ว หมอเลยแนะนำให้ทำเด็กหลอดแก้ว
แต่ที่จริง เรานอนกับสามีเราไม่บ่อยเลย เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง บางเดือนไม่ได้นอนด้วยกันเลยค่ะ แต่พอดีหมอไม่ได้ถาม แล้วเราก็มัวแต่สนใจเรื่องค่าฮอร์โมนนี้
เราก็เลยถามหมอว่า เป็นไปได้ไหม เพราะว่าเราเคยเป็นธัยรอยด์ เลยทำให้ค่าฮอร์โมนนี้สูง หมอบอกว่าไม่เกี่ยว
เราถามอีกว่า ถ้ามีพังผืด ทำให้มีบุตรยากด้วยใช่ไหม ถ้าเราผ่าเอาพังผืดออกก่อน แล้วลองวิธีธรรมชาิติก่อน จะมีลูกเองได้ไหม หรือว่าใช้วิธีฉีดเชื้อได้ไหม เพราะเรามีญาติ และเพื่อนๆ เราที่มีพังผืด หลังจาผ่าเอาพังผืดออก ก็มีลูกกันโดยวิธีธรรมชาติค่ะ หมอก็บอกว่า ไม่เกี่ยว ทุกคนไม่เหมือนกัน และหมอไม่แนะนำให้ผ่าตัดเอาพังผืดออก เพราะว่าจะเจ็บตัวอีกทำไม
ยังไงหมอก็ฟันธงว่า ต้องทำเด็กหลอดแก้ว ไม่แนะนำวิธีอื่น
อยากถามว่า
1.ค่าฮอร์โมน FSH 12.3 ทำให้เราอยู่ในภาวะมีบุตรยากรึเปล่าคะ
2.เคยได้ยินว่าถ้ามีพังผืด ทำให้ตัวอ่อนไม่เกาะ ก็เลยมีลูกยาก แล้วถ้าเราไม่เอาพังผืดออกก่อนทำเด็กหลอดแก้ว แล้วเวลาฝังตัวอ่อน ตัวอ่อนจะเกาะได้ไหมคะ
ขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะ