ท่านที่เคารพ ที่เคยอ่าน กระบี่เย้ยยุทธจักร ย่อมที่จะอดนำเอา ลิ้มเพ้งจือ
มาเปรียบเทียบกับ โป่วเง็กจื้อ จากกระบี่ไร้เทียมทานไม่ได้
ความเหมือนระหว่าง โป่วเง็กจื้อ ที่เข้าสู่บู๊ตึง และลิ้มเพ้งจือ ที่เข้าสู่ ฮั้วซัว
นั่นคือ คนทั้งสองมี " เป้าหมาย "
สภาวะของคนทั้งสอง คล้ายกันคือ " เข้าถ่ำเสือ "
โป่วเง็กจื้อ และลิ้มเพ้งจือ เข้าถ่ำเสือ เพื่อที่ต้องการคือความ " ไว้ใจ " ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
พูดให้ชัดๆ คือก่อนที่จะดำเนินการ ก้าว ตามอุบาย ต่อไป
ขออนุญาตย้อนอดีตไปนอกเรื่องสักนิดครับ
คงจำกันได้ว่า ยามที่กอร์ปศักดิ์ เสนอตัวลงเป็นตัวแทนพรรค ลงสมัครเป็น ผู้ว่ากรุงเทพฯนั้น
กอร์ปศักดิ์โดยโจมตีว่า ที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์นำพาพรรคพ่ายแพ้ ถึงสองครั้ง ไม่สมควรที่จะมาเสนอการนำพรรคอีก
การพ่ายแพ้สองครั้งนั้น จะยังไม่พูดลงรายละเอียด ว่าคือการ ยุบสภาหรือไม่
แต่มันนำมาซึ่ง หล่อใหญ่แสร้งลาออก แล้วหักคอไก่ กรณ์ หล่อโย่งที่ลวงว่าจะดันขึ้น หัวหน้าพรรค
เท่านั้นยังไม่พอ ไม่ว่าในฐานะไหน หรือฐานะเพื่อน มาร์คยัง หักคอ กอร์ปศักดิ์ อีกครั้ง
ยามร่วมกับสุเทพ เสนอให้ หล่อเอ๋อ ลงสมัครผู้ว่าฯอีกสมัคร
หรือแม้แต่กรณี เลขาพรรคคนใหม่ มาร์คก็เออออ ตามสุเทพ หักคอชำนิ วิทยา ชินวรณ์ คุณหญิงกัลยา
ด้วยการเสนอเฉลิมชัย ตามสุเทพ เลขาเงา ชี้นำ
การเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของท่านนายกฯปู
คอการเมืองวิพากษ์กันต่างๆนานาว่า นี่คือ กลยุทธ์ " ไม่เข้าถ่ำเสือ ใยจะได้ลูกเสือ "
อันเป็นการมองจากมุมปรกติ เพราะเงื่อนปมการแต่งตั้งโยกย้าย
อันเป็นผลพวงตามมาจากการเพิ่มตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯอีกตำแหน่งนั้น
เป็นเรื่องใหญ่โตมาก
ใหญ่โตมากสำหรับฝ่ายค้าน ใหญ่โตขนาด นายกฯเงาหนีทหารกินไม่ได้ นอนไม่หลับ
ตรรกะที่ว่า ชาวนารัก ต้องเสี้ยม เสื้อแดงรัก ต้องเสี้ยม ทหารชื่นชอบ ต้องเสี้ยม
ออกอาการระแวงกันว่า การเข้าถ่ำเสือแบบ รุกคืบ ถูกที่ ถูกเวลา ของท่านนายกฯปู
ผลก็คือใกล้เข้าถึงห้วงเวลาที่ " กำหนด " ไว้แล้วว่า หลังจาก " ตู่ " เกษียณอายุราชการ
การกระชับอำนาจ จะพลิกจาก บูรพาพยัคฆ์ เป็นวงศ์เทวัญ แบบทันที!
สิ้นสุดข้อต่อระบบวางทายาท ของกลุ่ม 3 ป. ป้อม ป๊อก ประยุทธ์ ซะที มาร์คยอมไม่ได้ เพราะนี่คือผู้มีบุญคุณ ทางการเมือง
คอการเมืองจะระลึกได้ว่า กลุ่ม 3 ป. 1 ส. และ 1 น . คือผู้มีพระคุณกับมาร์ค อันเป็นที่มาของคำว่า
" มีวันนี้ เพราะพี่ ห้อย "
หากกอร์ปศักดิ์ ชำนิ สุเทพ คือเบื้องหลัง เฉกเช่นกับ สมชาย จาตุรนต์ ภูมิธรรม คือเบื้องหลังเป็นฝ่ายยุทธศาสตร์ทางการเมือง
แล้วกองทัพมีเบื้องหลังหรือไม่ ?
คงต้องตอบตามตรงครับว่า ไม่มี
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครเปลี่ยนโผกลางอากาศ หรือเป็น ฤษีแปลงสาร ( ฮา )
ยิ่งลักษณ์ ยิ้มเย้ยยุทธจักร 2 " ตู่ "
มาเปรียบเทียบกับ โป่วเง็กจื้อ จากกระบี่ไร้เทียมทานไม่ได้
ความเหมือนระหว่าง โป่วเง็กจื้อ ที่เข้าสู่บู๊ตึง และลิ้มเพ้งจือ ที่เข้าสู่ ฮั้วซัว
นั่นคือ คนทั้งสองมี " เป้าหมาย "
สภาวะของคนทั้งสอง คล้ายกันคือ " เข้าถ่ำเสือ "
โป่วเง็กจื้อ และลิ้มเพ้งจือ เข้าถ่ำเสือ เพื่อที่ต้องการคือความ " ไว้ใจ " ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
พูดให้ชัดๆ คือก่อนที่จะดำเนินการ ก้าว ตามอุบาย ต่อไป
ขออนุญาตย้อนอดีตไปนอกเรื่องสักนิดครับ
คงจำกันได้ว่า ยามที่กอร์ปศักดิ์ เสนอตัวลงเป็นตัวแทนพรรค ลงสมัครเป็น ผู้ว่ากรุงเทพฯนั้น
กอร์ปศักดิ์โดยโจมตีว่า ที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์นำพาพรรคพ่ายแพ้ ถึงสองครั้ง ไม่สมควรที่จะมาเสนอการนำพรรคอีก
การพ่ายแพ้สองครั้งนั้น จะยังไม่พูดลงรายละเอียด ว่าคือการ ยุบสภาหรือไม่
แต่มันนำมาซึ่ง หล่อใหญ่แสร้งลาออก แล้วหักคอไก่ กรณ์ หล่อโย่งที่ลวงว่าจะดันขึ้น หัวหน้าพรรค
เท่านั้นยังไม่พอ ไม่ว่าในฐานะไหน หรือฐานะเพื่อน มาร์คยัง หักคอ กอร์ปศักดิ์ อีกครั้ง
ยามร่วมกับสุเทพ เสนอให้ หล่อเอ๋อ ลงสมัครผู้ว่าฯอีกสมัคร
หรือแม้แต่กรณี เลขาพรรคคนใหม่ มาร์คก็เออออ ตามสุเทพ หักคอชำนิ วิทยา ชินวรณ์ คุณหญิงกัลยา
ด้วยการเสนอเฉลิมชัย ตามสุเทพ เลขาเงา ชี้นำ
การเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของท่านนายกฯปู
คอการเมืองวิพากษ์กันต่างๆนานาว่า นี่คือ กลยุทธ์ " ไม่เข้าถ่ำเสือ ใยจะได้ลูกเสือ "
อันเป็นการมองจากมุมปรกติ เพราะเงื่อนปมการแต่งตั้งโยกย้าย
อันเป็นผลพวงตามมาจากการเพิ่มตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯอีกตำแหน่งนั้น
เป็นเรื่องใหญ่โตมาก
ใหญ่โตมากสำหรับฝ่ายค้าน ใหญ่โตขนาด นายกฯเงาหนีทหารกินไม่ได้ นอนไม่หลับ
ตรรกะที่ว่า ชาวนารัก ต้องเสี้ยม เสื้อแดงรัก ต้องเสี้ยม ทหารชื่นชอบ ต้องเสี้ยม
ออกอาการระแวงกันว่า การเข้าถ่ำเสือแบบ รุกคืบ ถูกที่ ถูกเวลา ของท่านนายกฯปู
ผลก็คือใกล้เข้าถึงห้วงเวลาที่ " กำหนด " ไว้แล้วว่า หลังจาก " ตู่ " เกษียณอายุราชการ
การกระชับอำนาจ จะพลิกจาก บูรพาพยัคฆ์ เป็นวงศ์เทวัญ แบบทันที!
สิ้นสุดข้อต่อระบบวางทายาท ของกลุ่ม 3 ป. ป้อม ป๊อก ประยุทธ์ ซะที มาร์คยอมไม่ได้ เพราะนี่คือผู้มีบุญคุณ ทางการเมือง
คอการเมืองจะระลึกได้ว่า กลุ่ม 3 ป. 1 ส. และ 1 น . คือผู้มีพระคุณกับมาร์ค อันเป็นที่มาของคำว่า
" มีวันนี้ เพราะพี่ ห้อย "
หากกอร์ปศักดิ์ ชำนิ สุเทพ คือเบื้องหลัง เฉกเช่นกับ สมชาย จาตุรนต์ ภูมิธรรม คือเบื้องหลังเป็นฝ่ายยุทธศาสตร์ทางการเมือง
แล้วกองทัพมีเบื้องหลังหรือไม่ ?
คงต้องตอบตามตรงครับว่า ไม่มี
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครเปลี่ยนโผกลางอากาศ หรือเป็น ฤษีแปลงสาร ( ฮา )