ผมซื้อ oppo find gemini แบบสองซิมมาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2555 จาก TG ครับ เพราะเห็นว่าสเป็คคุ้มราคา
ใช้มาถึงเดือนเมษายน 2556 ประมาณ 7 เดือนนับจากซื้อมา เครื่องเกิดอาการหน้าจอค้าง และค้างบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งจะค้างประมาณ 3-4 ครั้ง ผมเลือก factory reset ครับ แต่มันก็ยังไม่หาย หนทางสุดท้ายคือ เอาเครื่องเข้าศูนย์ครับ ผมเอาเข้าที่สาขาซีคอน
พนังงานที่ซีคอนบอกว่าจะทำการ
แฟลช เฟิร์มแวร์ ให้ผมรอหนึ่งชั่วโมงแล้วนำเครื่องไปใช้
กลับไปบ้านอาการก็ยังไม่หาย ผมจึงนำเครื่องไปหาพนังงานที่ซีคอนอีกครั้ง คราวนี้แกบอกว่าต้องส่งเข้าศูนย์
เปลี่ยนบอร์ดใหม่ให้
ผมส่งเครื่องเข้าศูนย์ปลายเดือนเมษายน ได้เครื่องอีกที ปลายเดือนพฤษภาคม ใช้เวลาเข้าศูนย์ประมาณ 1 เดือน ระหว่าง 1 เดือนนี้ ทางศูนย์ OPPO ได้ทำการ
แฟลช เฟิร์มแวร์ ให้ผมอีกรอบนึง ผมถามกับพนักงานซีคอนซึ่งเป็นคนละคนกับที่รับเครื่องผมว่าทำไมไม่เปลี่ยนบอร์ดให้เหมือนที่คุยกัน ผมได้รับคำตอบว่า
ไม่รู้คะหนูพึ่งมาใหม่ ส่วนตัวแล้วผมเห็นว่า
การสื่อสารระหว่างผู้รับงานกับผู้ซ่อมเครื่องมีปัญหาและ
ไม่มีการตรวจสอบตัวเครื่องหลังการซ่อมเท่าที่ควร
ผมนำเครื่องกลับมาใช้อีกครั้ง อาการยังเหมือนเดิม ผมจึงตัดสินใจส่งซ่อมกับศูนย์ OPPO มาบุญครอง (เผื่ออะไรจะดีขึ้น) ผมส่งเข้าศูนย์ วันที่ 29 พฤษภาคม 2556 และย้ำกับทางพนักงานว่าผมแฟลช เฟิร์มแวร์ มาสองรอบแล้ว
ระหว่างนั้นผมก็ได้โทรเข้าไปที่ call center 02-415-3888 เพื่อที่จะย้ำกับ call center อีกครั้งว่าผม แฟลช เฟิร์มแวร์ มาสองรอบแล้ว และอยากได้ตรวจสอบเครื่องหลังการซ่อมด้วย call center พูดจาดีมาก และบอกกับผมว่า ทางเราจะย้ำกับช่างและจะดูแลให้เป็นพิเศษ (เสียงของ call center คล้ายกับผู้ชายแต่ใจเป็นหญิง)
ผมได้รับเครื่องส่งมาทางไปรษณีย์ที่บ้านวันที่ 19 มิถุนายน 2556 รวมระยะเวลาซ่อมประมาณ 3 สัปดาห์ พร้อมกับใบซ่อมที่ระบุว่าเปลี่ยนบอร์ดให้แล้ว
แต่เครื่องก็ยังมีอาการเหมือนเดิม
คาดว่าไม่ได้ตรวจสอบเครื่องหลังการซ่อมเช่นเคย ผมจึงส่งเครื่องเข้าศูนย์ OPPO มาบุญครอง อีกครั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2556
วันที่ 22 กรกฎาคม 2556 ผมโทรไปตามงานซ่อมที่เบอร์ 02-415-3888 เนื่องจากเห็นว่ามัน
ผ่านมาเดือนนึงแล้ว ผมได้รับคำตอบว่ากำลังเข้าซ่อมอยู่ ผมจึง
ถามถึงสาเหตุของความล่าช้า ทางศูนย์ให้คำตอบผมว่า เขาพึ่งได้รับโทรศัพท์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมาเอง (ในใบส่งซ่อมด้านบนระบุ 21 มิถุนายน ผมคิดในใจว่าระหว่างนั้นโทรศัพท์หายไปไหนมา) ผมย้ำกับทางศูนย์อีกครั้งว่า ผมส่งซ่อมรอบนี้รอบที่ 4 แล้ว ผมอยากให้ตรวจสอบเครื่องหลังการซ่อมด้วย call center พูดจาดีเช่นเคย และบอกกับผมว่า ทางเราจะย้ำกับช่างและจะดูแลให้เป็นพิเศษ รวมถึงจะคุยกับผู้จัดการดูแลเรื่องนี้ให้อย่างดี (เสียงของ call center คล้ายกับผู้ชายแต่ใจเป็นหญิง น่าจะเป็นคนเดียวกัน)
วันที่ 25 กรกฏาคม 2556 มีโทรศัพท์จาก call center มาหาผมสามครั้่ง
ครั้งแรกโทรมาบอกว่า
คุณมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมล้างบอร์ดประมาณ 200 บาทคะ ผมจึงสาธยายไปว่าเครื่องอยู่ในประกัน (ประกันหมด พย ปีนี้) ส่งซ่อมครั้งนี้ครั้งที่สามแล้ว อากาศก็เหมือนเดิม แล้วทำไมถึงมีค่าใช้จ่าย บอร์ดก็พึ่งเปลี่ยน เปลี่ยนแล้วยังไม่หาย จะล้างบอร์ดทำไม จากนั้นเธอก็ขอตัวไปหาข้อมูลก่อน
ครั้งที่สองโทรมาถามว่า
เครื่องผมค้างด้วยโปรแกรมอะไร ผมก็บอกเธอตามจริงว่า ไลน์ค้าง เมล์ค้าง เกมส์ค้าง อยู่หน้าจอไม่ได้เปิดโปรแกรมก็ค้าง เธอบอกว่าเดี๋ยวจะคุยกับผู้จัดการให้ แล้วจะโทรมาคุยกับผมอีกทีพรุ่งนี้
ครั้งที่สามโทรมาบอกว่า
ช่างตรวจเจอความชื้นจากแผ่นวัดความชื้นในเครื่องอย่างหนัก อากาศนี้ไม่สามารถแก้ได้ นั่นหมายความว่าโทรศัพท์ผมก็จะไม่สามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม ผมจึงถามว่าจากบันทึกการซ่อม ช่างตรวจเจอเมื่อไร เธอตอบว่าในการซ่อมครั้งที่ 3 ช่างตรวจเจอความชื้นของเครื่องอย่างหนัก แต่ครั้งแรกและครั้งที่สองตรวจไม่เจอความชื้น นั่นหมายความว่า ระหว่างที่ผมใช้โทรศัพท์ 3 วันตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน ถึง 21 มิถุนายน โทรศัพท์ผมเจอความชื้นจนหน้าจอมันค้างอีกครั้ง... ความเห็นส่วนตัวแล้ว ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย
ผมขอเธอบันทึกการสนทนาครั้งที่สามนี้ไว้ และบอกให้ผู้จัดการโทรกลับมาผม.. แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครโทรมา
เรื่องนี้ยังไม่รู้จะจบอย่างไร แต่ถ้า customer service ของ OPPO ที่ใส่ใจในภาพลักษณ์ของแบรนด์มาเจอ ผมพร้อมจะคุยด้วยนะครับ หรือจะขอเทปบันทึกการสนทนา ก็ยินดีนะครับ แต่ถ้าไม่มีใครสนใจ ผมก็คงทำใจและไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับแบรนด์นี้อีก ผ่อนสินค้ายังไม่หมดเลย เครื่องก็ไม่ได้ใช้มาสามเดือนและ แถมยังเจอการบริการแบบนี้
[CR] ประสบการตรงกับศูนย์บริการ OPPO ใครจะซื้อมือถือยี่ห้อนี้ เข้ามาพิจารณาบริการหลังการขายก่อนได้ครับ
ใช้มาถึงเดือนเมษายน 2556 ประมาณ 7 เดือนนับจากซื้อมา เครื่องเกิดอาการหน้าจอค้าง และค้างบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งจะค้างประมาณ 3-4 ครั้ง ผมเลือก factory reset ครับ แต่มันก็ยังไม่หาย หนทางสุดท้ายคือ เอาเครื่องเข้าศูนย์ครับ ผมเอาเข้าที่สาขาซีคอน
พนังงานที่ซีคอนบอกว่าจะทำการ แฟลช เฟิร์มแวร์ ให้ผมรอหนึ่งชั่วโมงแล้วนำเครื่องไปใช้
กลับไปบ้านอาการก็ยังไม่หาย ผมจึงนำเครื่องไปหาพนังงานที่ซีคอนอีกครั้ง คราวนี้แกบอกว่าต้องส่งเข้าศูนย์เปลี่ยนบอร์ดใหม่ให้
ผมส่งเครื่องเข้าศูนย์ปลายเดือนเมษายน ได้เครื่องอีกที ปลายเดือนพฤษภาคม ใช้เวลาเข้าศูนย์ประมาณ 1 เดือน ระหว่าง 1 เดือนนี้ ทางศูนย์ OPPO ได้ทำการ แฟลช เฟิร์มแวร์ ให้ผมอีกรอบนึง ผมถามกับพนักงานซีคอนซึ่งเป็นคนละคนกับที่รับเครื่องผมว่าทำไมไม่เปลี่ยนบอร์ดให้เหมือนที่คุยกัน ผมได้รับคำตอบว่า ไม่รู้คะหนูพึ่งมาใหม่ ส่วนตัวแล้วผมเห็นว่าการสื่อสารระหว่างผู้รับงานกับผู้ซ่อมเครื่องมีปัญหาและไม่มีการตรวจสอบตัวเครื่องหลังการซ่อมเท่าที่ควร
ผมนำเครื่องกลับมาใช้อีกครั้ง อาการยังเหมือนเดิม ผมจึงตัดสินใจส่งซ่อมกับศูนย์ OPPO มาบุญครอง (เผื่ออะไรจะดีขึ้น) ผมส่งเข้าศูนย์ วันที่ 29 พฤษภาคม 2556 และย้ำกับทางพนักงานว่าผมแฟลช เฟิร์มแวร์ มาสองรอบแล้ว
ระหว่างนั้นผมก็ได้โทรเข้าไปที่ call center 02-415-3888 เพื่อที่จะย้ำกับ call center อีกครั้งว่าผม แฟลช เฟิร์มแวร์ มาสองรอบแล้ว และอยากได้ตรวจสอบเครื่องหลังการซ่อมด้วย call center พูดจาดีมาก และบอกกับผมว่า ทางเราจะย้ำกับช่างและจะดูแลให้เป็นพิเศษ (เสียงของ call center คล้ายกับผู้ชายแต่ใจเป็นหญิง)
ผมได้รับเครื่องส่งมาทางไปรษณีย์ที่บ้านวันที่ 19 มิถุนายน 2556 รวมระยะเวลาซ่อมประมาณ 3 สัปดาห์ พร้อมกับใบซ่อมที่ระบุว่าเปลี่ยนบอร์ดให้แล้ว
แต่เครื่องก็ยังมีอาการเหมือนเดิม คาดว่าไม่ได้ตรวจสอบเครื่องหลังการซ่อมเช่นเคย ผมจึงส่งเครื่องเข้าศูนย์ OPPO มาบุญครอง อีกครั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2556
วันที่ 22 กรกฎาคม 2556 ผมโทรไปตามงานซ่อมที่เบอร์ 02-415-3888 เนื่องจากเห็นว่ามันผ่านมาเดือนนึงแล้ว ผมได้รับคำตอบว่ากำลังเข้าซ่อมอยู่ ผมจึงถามถึงสาเหตุของความล่าช้า ทางศูนย์ให้คำตอบผมว่า เขาพึ่งได้รับโทรศัพท์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมาเอง (ในใบส่งซ่อมด้านบนระบุ 21 มิถุนายน ผมคิดในใจว่าระหว่างนั้นโทรศัพท์หายไปไหนมา) ผมย้ำกับทางศูนย์อีกครั้งว่า ผมส่งซ่อมรอบนี้รอบที่ 4 แล้ว ผมอยากให้ตรวจสอบเครื่องหลังการซ่อมด้วย call center พูดจาดีเช่นเคย และบอกกับผมว่า ทางเราจะย้ำกับช่างและจะดูแลให้เป็นพิเศษ รวมถึงจะคุยกับผู้จัดการดูแลเรื่องนี้ให้อย่างดี (เสียงของ call center คล้ายกับผู้ชายแต่ใจเป็นหญิง น่าจะเป็นคนเดียวกัน)
วันที่ 25 กรกฏาคม 2556 มีโทรศัพท์จาก call center มาหาผมสามครั้่ง
ครั้งแรกโทรมาบอกว่า คุณมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมล้างบอร์ดประมาณ 200 บาทคะ ผมจึงสาธยายไปว่าเครื่องอยู่ในประกัน (ประกันหมด พย ปีนี้) ส่งซ่อมครั้งนี้ครั้งที่สามแล้ว อากาศก็เหมือนเดิม แล้วทำไมถึงมีค่าใช้จ่าย บอร์ดก็พึ่งเปลี่ยน เปลี่ยนแล้วยังไม่หาย จะล้างบอร์ดทำไม จากนั้นเธอก็ขอตัวไปหาข้อมูลก่อน
ครั้งที่สองโทรมาถามว่า เครื่องผมค้างด้วยโปรแกรมอะไร ผมก็บอกเธอตามจริงว่า ไลน์ค้าง เมล์ค้าง เกมส์ค้าง อยู่หน้าจอไม่ได้เปิดโปรแกรมก็ค้าง เธอบอกว่าเดี๋ยวจะคุยกับผู้จัดการให้ แล้วจะโทรมาคุยกับผมอีกทีพรุ่งนี้
ครั้งที่สามโทรมาบอกว่า ช่างตรวจเจอความชื้นจากแผ่นวัดความชื้นในเครื่องอย่างหนัก อากาศนี้ไม่สามารถแก้ได้ นั่นหมายความว่าโทรศัพท์ผมก็จะไม่สามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม ผมจึงถามว่าจากบันทึกการซ่อม ช่างตรวจเจอเมื่อไร เธอตอบว่าในการซ่อมครั้งที่ 3 ช่างตรวจเจอความชื้นของเครื่องอย่างหนัก แต่ครั้งแรกและครั้งที่สองตรวจไม่เจอความชื้น นั่นหมายความว่า ระหว่างที่ผมใช้โทรศัพท์ 3 วันตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน ถึง 21 มิถุนายน โทรศัพท์ผมเจอความชื้นจนหน้าจอมันค้างอีกครั้ง... ความเห็นส่วนตัวแล้ว ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย
ผมขอเธอบันทึกการสนทนาครั้งที่สามนี้ไว้ และบอกให้ผู้จัดการโทรกลับมาผม.. แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครโทรมา
เรื่องนี้ยังไม่รู้จะจบอย่างไร แต่ถ้า customer service ของ OPPO ที่ใส่ใจในภาพลักษณ์ของแบรนด์มาเจอ ผมพร้อมจะคุยด้วยนะครับ หรือจะขอเทปบันทึกการสนทนา ก็ยินดีนะครับ แต่ถ้าไม่มีใครสนใจ ผมก็คงทำใจและไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับแบรนด์นี้อีก ผ่อนสินค้ายังไม่หมดเลย เครื่องก็ไม่ได้ใช้มาสามเดือนและ แถมยังเจอการบริการแบบนี้