วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
สถาบันเอไอทีประกาศผู้ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานฯ
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2556 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ได้ประกาศรายชื่อบุคคลจำนวน 66 คนที่ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุนการศึกษาพระราชทานในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และทุนการศึกษาลุ่มน้ำโขงพิจัย เพื่อศึกษาในระดับปริญญาโทที่สถาบันเอไอที ในภาคการศึกษาสิงหาคม 2556 โดยแต่ละทุนครอบคลุมค่าลงทะเบียน ค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ทุนการศึกษานี้ รัฐบาลไทยจัดตั้งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยได้มอบให้แก่นักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกจากนักศึกษาในภูมิภาคเอเชียที่สมัครเข้าศึกษาต่อในสถาบันเอไอทีจำนวนกว่า 1,400 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ที่มีคะแนนเฉลี่ยในระดับปริญญาตรี 3.50 ขึ้นไปจำนวน 332 คน ซึ่งได้รับพิจารณาเข้าชิงทุนการศึกษาพระราชทานจำนวน 66 ทุนดังกล่าว
กระบวนการคัดเลือกเป็นไปอย่างครอบคลุม โดยผ่านคณะทำงานสองชุดและคณะกรรมการคัดเลือกขั้นสุดท้าย ซึ่งประกอบด้วยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญภายในของสถาบันฯ และมีผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์อุดมศึกษาต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย การคัดเลือกผู้รับทุนการศึกษารอบสุดท้ายได้จัดให้มีขึ้นที่สถาบันเอไอทีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ศ.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย อธิการบดี (เฉพาะกาล) ของสถาบันเอไอที ประธานคณะกรรมการคัดเลือก ได้แสดงความคิดเห็นว่า ภายหลังจากที่สถาบันฯได้หวนกลับมาใช้กฎบัตรสถาบันฯปี พ.ศ. 2510 ตามคำแนะนำของรัฐบาลไทยแล้ว สถาบันฯก็ได้คืนสู่ภาวะปกติ ใบปริญญาบัตรของสถาบันฯที่บัณฑิตใหม่พึงได้รับ จึงเป็นปริญญาตามกฎบัตรเดิมที่สถาบันฯได้ประสาทแก่ศิษย์เก่าจำนวนกว่า 20,000 คนในช่วง 54 ปีที่ผ่านมา เป็นปริญญาที่บัณฑิตใหม่ในอดีตเคยใช้ในการสมัครเข้าทำงานและเข้าเรียนต่อในขั้นปริญญาเอกทั่วโลกตลอดมา เมื่อสถาบันได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว รัฐบาลไทยก็ได้กลับมาสนับสนุนทุนพระราชทานดังกล่าว ดังที่สถาบันได้ดำเนินการมากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว
ศ. วรศักดิ์ ยังได้แสดงความประทับใจในคุณภาพที่สูงมากของผู้สมัครขอรับทุนการศึกษาครั้งนี้ โดยกล่าวว่าผู้สมัครที่ได้รับพิจารณาผ่านรอบแรกต่างเป็นนักศึกษาที่ได้รับคะแนนเกียรตินิยมในระดับปริญญาตรี และผู้ที่ได้รับคัดเลือกส่วนใหญ่จะมีผลการศึกษาเป็นลำดับที่หนึ่งและลำดับต้นๆของชั้นเรียนจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไทยและของเอเชีย
“เพื่อให้นักศึกษาระดับมันสมองของไทยได้ร่วมเรียนและทำงานวิจัยในสิ่งแวดล้อมที่เป็นนานาชาติตามเจตนารมณ์ดั้งเดิมของการก่อตั้งเมื่อ 54 ปีที่แล้ว สถาบันเอไอทีพยายามกระจายทุนการศึกษาให้แก่ผู้สมัครชั้นนำจากประเทศต่างๆในเอเชีย เพราะมันสมองของประเทศต่างๆเหล่านี้ เมื่อสำเร็จการศึกษาไปแล้ว มักจะเจริญก้าวหน้าในวงราชการและเป็นผู้นำในวิชาชีพ เช่นเดียวกับศิษย์เก่าของสถาบันฯในอดีตที่ได้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะศิษย์เก่าจำนวนหนึ่งของสถาบันฯได้เป็นรัฐมนตรี กระทรวงต่างๆทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เช่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ปากีสถาน เวียตนาม และเนปาล เป็นต้น ศิษย์เก่าที่เคยได้รับทุนพระราชทานเหล่านี้ ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และได้ทำหน้าที่ประหนึ่งเป็นทูตที่ดีสำหรับประเทศไทย” อธิการบดีเอไอทีกล่าว
สำหรับผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 34 คน จำนวนครึ่งหนึ่งเป็นชาวไทยและอีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้สมัครจากประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ โดยได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาด้านวิศวกรรมเทคโนโลยี และวิทยาการการจัดการ
ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น มีชาวไทยจำนวน 8 คน และคนชาติอื่นๆจำนวน 8 คน โดยเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากร
ส่วนทุนการศึกษาลุ่มน้ำโขงพิจัยซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 16 ทุน มอบให้นักศึกษาเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมอบให้นักศึกษาจาก 5 ประเทศและ 1 มณฑลในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์ และมณฑลยูนนานซึ่งอยู่ทางใต้ของจีน
ในบรรดาผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้รับทุนการศึกษาทั้งหมด 66 คน เป็นหญิง 36 คน และชาย 30 คน เป็นนักศึกษาไทย 28 คน ที่เหลือมาจากประเทศบังคลาเทศ ภูฐาน กัมพูชา อินเดีย ลาว เมียนมาร์ เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และเวียดนาม
สถาบันเอไอทีประกาศผู้ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานฯ
สถาบันเอไอทีประกาศผู้ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานฯ
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2556 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ได้ประกาศรายชื่อบุคคลจำนวน 66 คนที่ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุนการศึกษาพระราชทานในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และทุนการศึกษาลุ่มน้ำโขงพิจัย เพื่อศึกษาในระดับปริญญาโทที่สถาบันเอไอที ในภาคการศึกษาสิงหาคม 2556 โดยแต่ละทุนครอบคลุมค่าลงทะเบียน ค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ทุนการศึกษานี้ รัฐบาลไทยจัดตั้งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยได้มอบให้แก่นักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกจากนักศึกษาในภูมิภาคเอเชียที่สมัครเข้าศึกษาต่อในสถาบันเอไอทีจำนวนกว่า 1,400 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ที่มีคะแนนเฉลี่ยในระดับปริญญาตรี 3.50 ขึ้นไปจำนวน 332 คน ซึ่งได้รับพิจารณาเข้าชิงทุนการศึกษาพระราชทานจำนวน 66 ทุนดังกล่าว
กระบวนการคัดเลือกเป็นไปอย่างครอบคลุม โดยผ่านคณะทำงานสองชุดและคณะกรรมการคัดเลือกขั้นสุดท้าย ซึ่งประกอบด้วยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญภายในของสถาบันฯ และมีผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์อุดมศึกษาต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย การคัดเลือกผู้รับทุนการศึกษารอบสุดท้ายได้จัดให้มีขึ้นที่สถาบันเอไอทีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ศ.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย อธิการบดี (เฉพาะกาล) ของสถาบันเอไอที ประธานคณะกรรมการคัดเลือก ได้แสดงความคิดเห็นว่า ภายหลังจากที่สถาบันฯได้หวนกลับมาใช้กฎบัตรสถาบันฯปี พ.ศ. 2510 ตามคำแนะนำของรัฐบาลไทยแล้ว สถาบันฯก็ได้คืนสู่ภาวะปกติ ใบปริญญาบัตรของสถาบันฯที่บัณฑิตใหม่พึงได้รับ จึงเป็นปริญญาตามกฎบัตรเดิมที่สถาบันฯได้ประสาทแก่ศิษย์เก่าจำนวนกว่า 20,000 คนในช่วง 54 ปีที่ผ่านมา เป็นปริญญาที่บัณฑิตใหม่ในอดีตเคยใช้ในการสมัครเข้าทำงานและเข้าเรียนต่อในขั้นปริญญาเอกทั่วโลกตลอดมา เมื่อสถาบันได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว รัฐบาลไทยก็ได้กลับมาสนับสนุนทุนพระราชทานดังกล่าว ดังที่สถาบันได้ดำเนินการมากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว
ศ. วรศักดิ์ ยังได้แสดงความประทับใจในคุณภาพที่สูงมากของผู้สมัครขอรับทุนการศึกษาครั้งนี้ โดยกล่าวว่าผู้สมัครที่ได้รับพิจารณาผ่านรอบแรกต่างเป็นนักศึกษาที่ได้รับคะแนนเกียรตินิยมในระดับปริญญาตรี และผู้ที่ได้รับคัดเลือกส่วนใหญ่จะมีผลการศึกษาเป็นลำดับที่หนึ่งและลำดับต้นๆของชั้นเรียนจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไทยและของเอเชีย
“เพื่อให้นักศึกษาระดับมันสมองของไทยได้ร่วมเรียนและทำงานวิจัยในสิ่งแวดล้อมที่เป็นนานาชาติตามเจตนารมณ์ดั้งเดิมของการก่อตั้งเมื่อ 54 ปีที่แล้ว สถาบันเอไอทีพยายามกระจายทุนการศึกษาให้แก่ผู้สมัครชั้นนำจากประเทศต่างๆในเอเชีย เพราะมันสมองของประเทศต่างๆเหล่านี้ เมื่อสำเร็จการศึกษาไปแล้ว มักจะเจริญก้าวหน้าในวงราชการและเป็นผู้นำในวิชาชีพ เช่นเดียวกับศิษย์เก่าของสถาบันฯในอดีตที่ได้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะศิษย์เก่าจำนวนหนึ่งของสถาบันฯได้เป็นรัฐมนตรี กระทรวงต่างๆทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เช่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ปากีสถาน เวียตนาม และเนปาล เป็นต้น ศิษย์เก่าที่เคยได้รับทุนพระราชทานเหล่านี้ ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และได้ทำหน้าที่ประหนึ่งเป็นทูตที่ดีสำหรับประเทศไทย” อธิการบดีเอไอทีกล่าว
สำหรับผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 34 คน จำนวนครึ่งหนึ่งเป็นชาวไทยและอีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้สมัครจากประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ โดยได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาด้านวิศวกรรมเทคโนโลยี และวิทยาการการจัดการ
ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น มีชาวไทยจำนวน 8 คน และคนชาติอื่นๆจำนวน 8 คน โดยเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากร
ส่วนทุนการศึกษาลุ่มน้ำโขงพิจัยซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 16 ทุน มอบให้นักศึกษาเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมอบให้นักศึกษาจาก 5 ประเทศและ 1 มณฑลในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์ และมณฑลยูนนานซึ่งอยู่ทางใต้ของจีน
ในบรรดาผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้รับทุนการศึกษาทั้งหมด 66 คน เป็นหญิง 36 คน และชาย 30 คน เป็นนักศึกษาไทย 28 คน ที่เหลือมาจากประเทศบังคลาเทศ ภูฐาน กัมพูชา อินเดีย ลาว เมียนมาร์ เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และเวียดนาม