It started with Bitter Sweet Absinth, Citrusy Mandarin, a little bite Dusty Spicy and Smoky aroma from blend of Cumin, Ginger and Saffron. I did not get much of cumin which is great. The color I got from the opening is Sandy Orange with dark Green Ripple.
After 6 hours I believe this is the middle notes. The silage has lessen to the point of almost skin scent.but I still get a whiff once in a while. By the way, I have not smell copahu balm before so I do not know how strong this note is. I get smoky yet creamy & slightly sweeter, I guess this is from the mix of Immortelle & Frankincense. I also get the feeling of getting an exotic oil massage with something peppery, could this comes from copahu balm ? The rose in here blend beautifully with Ladender to form soapy aroma. Saffron is still around with dry tobacco like smell. The color I got from this phase is Dark Yellow almost golden with smoky grey mist on it.
After 12 hours, I get the base notes. It is sweeter and woodier. The creamy Sandalwood is the lead player in this stage. The Immortelle is still hang around, it is not maple syrupy, but dried fruit like. I also get something quit boozy & bitter sweet, it must be Liquorice. The other notes also blend beautifully to form Brown Caramelly Skin.
Love it.
The best Amouage, if not the best perfume I ever smelt.
Extremely Rich & Complex, but still readily wearable.
Package : A (Look like a million bucks)
Originality : A (Have not smelt anything like it)
Smell : A (Pleasant, Well-blended & Complex)
Longevity : A (More than 12 hours)
Projection : B (Become less projects after 6 hours)
Versatility : B (Too sweet for hot summer)
Overall : A (A must try from this house)
น้ำหอมที่ผมจะมา review วันนี้ คือ
Fate Man จาก Amouage ครับ
ภาพยนตร์โฆษณาของน้ำหอมยี่ห้อนี้สวย ศิลป์ งดงาม และอลังการทุกตัวครับ อันนี้เป็นโฆษณาของรุ่น Fate นี้ครับ
น้ำหอมขวดนี้ฝากเพื่อนซื้อมาจากเมืองนอกครับ
Amouage ออกแบบขวดของน้ำหอมรุ่น Fate Man ได้หรูหรา และโดดเด่นมากครับ ใช้เคลือบด้วนสีเหลือบมุกสีเหลือง ม่วง เขียวอ่อน และฟ้าอ่อน รายละเอียดอื่นๆ ของขวดเป็นสีทองเพิ่มความหรูหรา พร้อมทั้งประดับ Crystal จาก Swarovski บนฝาติดติดแม่เหล็กครับ ฝาติดแน่นดีมาก เป็น Amouage รุ่นแรกที่เปลี่ยนมาให้ฝาแบบมีแม่เหล็ก แบบ Exclusive Line ของ Chanel (มีขายที่ Siam Pargon) และ Dior ครับ ( อ้างอิงจาก BA ของ Dior นะครับ
http://ppantip.com/topic/30750548 La Collection Privée Christian Dior จะมาขายที่ Siam Paragon ตั้งแต่พฤษจิกายน 2556 เป็นต้นไปครับ)
สำหรับกล่องก็งดงามไม่แพ้กันครับ Fate Man ที่อลังการมากครับลวดลายพระจันทร์ พระอาทิตย์ และดวงดาว สื่อดวงดาวที่ลิขิตโชคชะตามนุษย์ตามแนวคิดด้านโหราศาสตร์ครับ
ชาว Net หลายคนว่า กลิ่นนี้คล้าย Tribute Attar ของ Amouage ( http://www.luckyscent.com/shop/section/1/item/41823/brand/Amouage/Tribute_Attar.html ) ที่ราคาแพงกว่า Fate Man ประมาณ 2 - 3 เท่าครับ
อ้างอิงจาก
http://www.amouage.com/history.php
http://www.fragrantica.com/designers/Amouage.html
Amouage เป็นภาษาอารบิค แปลว่า Waves หรือ เกียวคลื่น เป็นผู้ผลิตน้ำหอมที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มหรือน้ำหอมประเภท Niche ครับ ก่อตั้งขึ้นมือ ปี ค.ศ. ๑๙๘๓ โดย
สุลต่าน Sayyid Hamad bin Hamoud al bu Said แห่ง Oman ผู้ทรงมีดำริที่จะบูรณะศาสตร์โบราณของอาหรับในการผลิตน้ำหอมให้เฟื่องฟูอีกครั้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ถึงถือว่า Amouage เป็นโรงพระสุคนธ์ในพระราชูปถัมภ์ขององค์สุลต่านแห่งประเทศ Oman อย่างแท้จริงครับ (จะมีตรามงกฎอยู่บนฝาขวดน้ำหอมครับ)
น้ำหอมของ Amouage เกือบทุกกลิ่นบรรจุในขวดน้ำหอมที่ออกแบบให้สื่อถึง Oman ครับ
- น้ำหอมสำหรับผู้หญิงบรรจุในขวดที่ออกแบบเหมือนหลังคาของ Ruwi Mosque Palace ในกรุง Muskat ประเทศ Oman
- น้ำหอมสำหรับผู้ชายบรรจุในขวดที่ออกแบบเหมือน Khanjar หรือดาบสั้นแบบดั่งเดิมของประเทศ Oman และมีคริสตัลของ Swarovski ที่เจียรนัยมาอย่างงดงามประดับอยู่บนฝาครับ
Credit รูป:
http://www.fragrantica.com/perfume/Amouage/Fate-for-Men-18543.html
Amouage ใช้ส่วนผสมดั่งเดิมในการสร้างสรรค์น้ำหอมแบบอาหรับ อาทิ ไม้กฤษณา ธูปหอม มัสค์ ดอกกุหลาบ และเครื่องเทศ แต่ผู้สร้างสรรค์กลิ่นต่างๆ คือ ช่างทำน้ำหอมแนวหน้าจากบริษัทน้ำหอมชื่อดังครับ
ประเทศนี้มีผลิตภัณฑ์ยางไม้ Frankencense ที่คุณภาพดีที่สุดของโลกครับ ซึ่งส่วนผสมตัวนี้จะมีอยู่ในน้ำหอมของ Amouage แทบทุกรุ่น กลิ่นคล้ายธูปหอมครับ
ทุกขวดของ Amouage บรรจุกล่องที่สวยงาม ข้างในบุผ้าอย่างดี กันกระแทกได้อย่างดี แม้ว่าขวดของผมจะส่งมาไกลมาก แต่ไม่มีรอยเลยครับ
อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเวลาเปิดกล่องครั้งแรก ขวดอาจไม่ติดกับฐาน เสี่ยงที่ขวดจะตกลงมาแตกได้ครับ
Fate Man ออกจำหน่ายครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2556 เพิ่งออกมาไม่ถึง 2 สัปดาห์ครับ (ออกมาขายที่ Hong Kong ก่อนเพื่อนผมซื้อประมาณ 3 วันครับ) เป็นน้ำหอมแนว Oriental Spicy (Balmy, Fresh Spicy, Sweet, Warm Spicy และ Smoky) ที่ทำเพื่อสื่อถึงพลังอำนาจของโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ครับ โดยช่างปรุงน้ำหอมกลิ่นนี้ คือ
Karine Vinchon Spehner ( http://www.fragrantica.com/noses/Karine_Vinchon_Spehner.html )
อ้างอิงจาก
http://www.nstperfume.com/2013/06/18/amouage-fate-new-fragrances/
และ
http://www.fragrantica.com/perfume/Amouage/Fate-for-Men-18543.html
โดยมีส่วนผสมหลัก ตามข้อมูลอ้างอิง
http://www.amouage.com/fate/
ดังนี้
Top Notes
- ส้มแมนดาริน
- หญ้าฝรั่น
- Absinthe: อ่านว่า แอ๊บแซ๊งธ์ คือ เหล้าที่มีแอลกอฮอลล์เพียวๆ 70-90 % ทำจากต้น Worm Wood
- ขิง
- ขมิ่น
Middle Notes
- ดอกบานไม่รู้โรยฝรั่ง ( Immortelle, Straw flower, Everlasting flower )
- ดอกกุหลาบ
- ยางไม้หอม Frankencense สินค้าขึ้นชื่อของประเทศ Oman ครับ กลิ่นคล้ายธูปหอม ( Oman เป็นแหล่งผลิตยางไม้หอม Frankencense ที่ดีที่สุดในโลก พวกที่เอามาผสมในน้ำหอมของ Amouage ว่ากันว่าเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้จุดในวังของสุลตานครับ )
- Lavandin ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์หนึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัว ( อ้างอิงจาก
http://blog.jerseylavender.co.uk/?p=260 )
- Cistus ยางไม้จากพุ่มกุหลาบหิน ( อ้างอิงจาก
http://www.nstperfume.com/perfume-glossary )
- Copahu หรือ Copaiba น้ำมันจากต้น Copahu ที่ปลูกกันบริเวณอเมริกาตะวันตก และอเมริกาใต้ กลิ่นหอมแบบไม้และพริกไทยครับ ( อ้างอิงจาก
http://thefragrantman.com/2013/06/05/copahu/ )
Base Notes
- Labdanum ยางไม้จากพุ่มกุหลาบหิน ( อ้างอิงจาก
http://www.nstperfume.com/perfume-glossary )
- ไม้สน Cedar
- Licorice
- ถั่วทองก้า
- ไม้แก่นจันทน์ Sandalwood
- มัสค์ Musk
แปลจากที่ผมโพสลง Fragrantica นะครับ ดังนั้น สำนวนอาจเป็นฝรั่งไปบ้างครับ ขออภัย
Fate Man ทักคุณด้วยกลิ่นแบบ Bitter Sweet จาก Absinth ผสานกับกลิ่นของส้ม Mandarin ร่วมด้วยส่วนผสมที่ลงตัวจากขมิ่น ขิง และหญ้าฝรั่น (กลิ่น Dusty Spicy และ Smoky) กลิ่นขมิ่นในน้ำหอมนี้ไม่เหมือนขมิ่นที่เราใช้ทำอาหาร แปลกและหอมดีครับ
ภาพที่ผมเห็นจากการดม Top Notes คือ ทะเลทรายสีส้ม มีโอเอซิสที่น้ำในนั้นเป็น Absinth สีเขียวเข้ม
หลังจาก 6 ชั่วโมงผ่านไป เข้ามาสู่ Middle Notes หลายชั่วโมงแล้ว
Sillage (ออกเสียงว่า "See Yazh") ลดลงมาก จนเกือบจะเป็น Skin Scent แล้ว แต่ก้ยังได้กลิ่นโชยมาเข้าจมูกบ้างครับ
Sillage เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า Trail คือ ระยะทางที่คนอื่นได้กลิ่นน้ำหอมของคุณหลังจากคุณเดินผ่านไปแล้ว (ต่างจาก Projection นะครับ เพราะ Projection หรือการกระจายของกลิ่น คือ ระยะทางที่คนได้กลิ่นคุณ แม้ว่าคุณไม่ได้เดินไปแถวนั้น)
ผมไม่เคยได้กลิ่น Copahu มาก่อน แต่ได้กลิ่นมัน ๆ และกลิ่นพริกไทย (ซึ่งดูจากที่ผมค้นข้อมูลมาน่าจะมาจาก Note ตัวนี้) นอกจากนี้ยังได้กลิ่นควัน กลิ่นครีม ๆ ออกหวาน ที่น่าจากมาจากการผนึกกำลังของดอกบานไม่รู้โรยฝรั่งกับยางไม้หอม Frankencense
ดอกกุหลาบและดอก Lavandin ผสมกันอย่างลงตัวให้ความรู้สึกถึงสบู่หัวน้ำหอม (Savon) สะอาดและหอมสดชื่น
หญ้าฝรั่นยังคงอยู่แต่เริ่มแห้ง กลิ่นออกมาคล้ายยาสูบ
นึกถึงห้องนอนทำจากทองคำ เต็มไปด้วยควันจากกำยานและยางไม้ต่าง ๆ
ผ่านไป 12 ชั่วโมง มาถึง Base Notes เสียที นานมากกกกกก
กลิ่นหวานมากขึ้น และมีกลิ่นไม้เพิ่มเข้ามา ไม้แก่นจันทน์ Sandalwood ที่มีความครีมมี หอมเนี่ยนๆ เป็นดารานำในช่วงนี้ครับ ดอกบานไม่รู้โรยฝรั่งก็ยังคงอยู่ แต่แห้งคงกลิ่นไม่เหมือนน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแบบที่ดอกบานไม่รู้โรยฝรั่งมักจะเป็นเวลาผสมในน้ำหอมอื่น ๆ ครับ กลิ่นของดอกบานไม่รู้โรยฝรั่งในช่วงนี้หอมคล้ายผลไม้ตากแห้ง นอกจากนั้นยังได้กลิ่นคล้ายเวลาดื่มเหล้า (กลิ่น Boozy) และ Bitter Sweet น่าจะมาจาก Licorice ครับ
Note ทั้งหมดผสานกันอย่างกลมกล่อมงดงามหาที่ติ เคลือบผิวกายดั่งคาราเมลหอมหวาน
กล่าวโดยสรุป
Package : 5/5 ( ดูจากรูปก็เห็นว่าคุณภาพสูง และงดงามมากแค่ไหน )
Originality : 5/5 (เกิดมาจะเลข 3 แล้ว ดมน้ำหอมมาเป็นร้อยกลิ่นแล้ว ก็ไม่เคยได้กลิ่นน้ำหอมไหนเหมือนกลิ่นนี้ครับ )
Scent : 5/5 ( กลิ่นหอม กลมกล่อม และซับซ้อน กลิ่นเปลี่ยนผ่านจาก Notes สู่ Notes ได้อย่างราบรื่น )
Longevity : 5/5 (เกิน 12 ชั่วโมงยังได้กลิ่นอยู่ครับ ครั้งแรกฉีดตอนบ่ายสาม เจ็ดโมงเข้าวันรุ่งขึ้นยังได้กลิ่น)
Projection : 4/5 (กระจายได้กีประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นกลิ่นเริ่มติดผิว แต่ถ้าขยับตัวก็ยังได้กลิ่นครับ)
***ความทนและการกระจายของกลิ่นบนผิวแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ กลิ่นเดียวกัน ขวดเดียวกัน คนหนึ่งผ่านไป ๑ ชั่วโมงกลิ่นหาย แต่อีกคนได้กลิ่นทั้งวันครับ
Versatility : 4/5 (กลิ่นอาจหวานไปสำหรับวันที่อากาศร้อน ๆ ถ้าเจอคนไม่ชอบกลิ่นแน่น ๆ ได้กลิ่นแล้วอาจเวียนหัว สลบ Knock เข้าโรงพยาบาล แล้วตายใน 24 ชั่วโมงครับ)
Overall : 5/5 น้ำหอมดีมาก กลิ่นแน่น เข้มข้น แต่ยังใช้ได้ง่าย (สำหรับคนที่ใช้น้ำหอมกลิ่นแน่นๆ แบบนี้อยู่แล้ว) กลิ่นอาจหรูและซับซ้อนไปนิดสำหรับคนทั่วไป โดย Fate Man ถือเป็นน้ำหอมที่สุดขั่วครับไม่รักมาก ก็เกลียดไปเลย กลิ่นกระจายดี ตีขึ้นจมูกตลอดครับ แต่กลิ่นแปลกมากสำหรับตลาดเมืองไทยที่ชอบใช้กันแต่กลิ่นสดชื่นครับ ควรหาตัวอย่างมาลองสักเดือนก่อนซื้อครับ กลิ่นนี้ต้องระวัง Olfactory Fatigue หรือ อาการไม่ได้กลิ่นเนื่องจากฉีดน้ำหอมมากไปครับ เพราะกลิ่นแน่นมาก เข้มมาก ซับซ้อนสุด ๆ
[CR] (Review น้ำหอมออกใหม่) Amouage Fate Man น้ำหอมในพระราชูปถัมภ์ขององค์สุลต่านแห่งประเทศ Oman
It started with Bitter Sweet Absinth, Citrusy Mandarin, a little bite Dusty Spicy and Smoky aroma from blend of Cumin, Ginger and Saffron. I did not get much of cumin which is great. The color I got from the opening is Sandy Orange with dark Green Ripple.
After 6 hours I believe this is the middle notes. The silage has lessen to the point of almost skin scent.but I still get a whiff once in a while. By the way, I have not smell copahu balm before so I do not know how strong this note is. I get smoky yet creamy & slightly sweeter, I guess this is from the mix of Immortelle & Frankincense. I also get the feeling of getting an exotic oil massage with something peppery, could this comes from copahu balm ? The rose in here blend beautifully with Ladender to form soapy aroma. Saffron is still around with dry tobacco like smell. The color I got from this phase is Dark Yellow almost golden with smoky grey mist on it.
After 12 hours, I get the base notes. It is sweeter and woodier. The creamy Sandalwood is the lead player in this stage. The Immortelle is still hang around, it is not maple syrupy, but dried fruit like. I also get something quit boozy & bitter sweet, it must be Liquorice. The other notes also blend beautifully to form Brown Caramelly Skin.
Love it.
The best Amouage, if not the best perfume I ever smelt.
Extremely Rich & Complex, but still readily wearable.
Package : A (Look like a million bucks)
Originality : A (Have not smelt anything like it)
Smell : A (Pleasant, Well-blended & Complex)
Longevity : A (More than 12 hours)
Projection : B (Become less projects after 6 hours)
Versatility : B (Too sweet for hot summer)
Overall : A (A must try from this house)
น้ำหอมที่ผมจะมา review วันนี้ คือ Fate Man จาก Amouage ครับ
ภาพยนตร์โฆษณาของน้ำหอมยี่ห้อนี้สวย ศิลป์ งดงาม และอลังการทุกตัวครับ อันนี้เป็นโฆษณาของรุ่น Fate นี้ครับ
น้ำหอมขวดนี้ฝากเพื่อนซื้อมาจากเมืองนอกครับ
Amouage ออกแบบขวดของน้ำหอมรุ่น Fate Man ได้หรูหรา และโดดเด่นมากครับ ใช้เคลือบด้วนสีเหลือบมุกสีเหลือง ม่วง เขียวอ่อน และฟ้าอ่อน รายละเอียดอื่นๆ ของขวดเป็นสีทองเพิ่มความหรูหรา พร้อมทั้งประดับ Crystal จาก Swarovski บนฝาติดติดแม่เหล็กครับ ฝาติดแน่นดีมาก เป็น Amouage รุ่นแรกที่เปลี่ยนมาให้ฝาแบบมีแม่เหล็ก แบบ Exclusive Line ของ Chanel (มีขายที่ Siam Pargon) และ Dior ครับ ( อ้างอิงจาก BA ของ Dior นะครับ http://ppantip.com/topic/30750548 La Collection Privée Christian Dior จะมาขายที่ Siam Paragon ตั้งแต่พฤษจิกายน 2556 เป็นต้นไปครับ)
สำหรับกล่องก็งดงามไม่แพ้กันครับ Fate Man ที่อลังการมากครับลวดลายพระจันทร์ พระอาทิตย์ และดวงดาว สื่อดวงดาวที่ลิขิตโชคชะตามนุษย์ตามแนวคิดด้านโหราศาสตร์ครับ
ชาว Net หลายคนว่า กลิ่นนี้คล้าย Tribute Attar ของ Amouage ( http://www.luckyscent.com/shop/section/1/item/41823/brand/Amouage/Tribute_Attar.html ) ที่ราคาแพงกว่า Fate Man ประมาณ 2 - 3 เท่าครับ
อ้างอิงจาก
http://www.amouage.com/history.php
http://www.fragrantica.com/designers/Amouage.html
Amouage เป็นภาษาอารบิค แปลว่า Waves หรือ เกียวคลื่น เป็นผู้ผลิตน้ำหอมที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มหรือน้ำหอมประเภท Niche ครับ ก่อตั้งขึ้นมือ ปี ค.ศ. ๑๙๘๓ โดยสุลต่าน Sayyid Hamad bin Hamoud al bu Said แห่ง Oman ผู้ทรงมีดำริที่จะบูรณะศาสตร์โบราณของอาหรับในการผลิตน้ำหอมให้เฟื่องฟูอีกครั้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ถึงถือว่า Amouage เป็นโรงพระสุคนธ์ในพระราชูปถัมภ์ขององค์สุลต่านแห่งประเทศ Oman อย่างแท้จริงครับ (จะมีตรามงกฎอยู่บนฝาขวดน้ำหอมครับ)
น้ำหอมของ Amouage เกือบทุกกลิ่นบรรจุในขวดน้ำหอมที่ออกแบบให้สื่อถึง Oman ครับ
- น้ำหอมสำหรับผู้หญิงบรรจุในขวดที่ออกแบบเหมือนหลังคาของ Ruwi Mosque Palace ในกรุง Muskat ประเทศ Oman
- น้ำหอมสำหรับผู้ชายบรรจุในขวดที่ออกแบบเหมือน Khanjar หรือดาบสั้นแบบดั่งเดิมของประเทศ Oman และมีคริสตัลของ Swarovski ที่เจียรนัยมาอย่างงดงามประดับอยู่บนฝาครับ
Credit รูป:
http://www.fragrantica.com/perfume/Amouage/Fate-for-Men-18543.html
Amouage ใช้ส่วนผสมดั่งเดิมในการสร้างสรรค์น้ำหอมแบบอาหรับ อาทิ ไม้กฤษณา ธูปหอม มัสค์ ดอกกุหลาบ และเครื่องเทศ แต่ผู้สร้างสรรค์กลิ่นต่างๆ คือ ช่างทำน้ำหอมแนวหน้าจากบริษัทน้ำหอมชื่อดังครับ
ประเทศนี้มีผลิตภัณฑ์ยางไม้ Frankencense ที่คุณภาพดีที่สุดของโลกครับ ซึ่งส่วนผสมตัวนี้จะมีอยู่ในน้ำหอมของ Amouage แทบทุกรุ่น กลิ่นคล้ายธูปหอมครับ
ทุกขวดของ Amouage บรรจุกล่องที่สวยงาม ข้างในบุผ้าอย่างดี กันกระแทกได้อย่างดี แม้ว่าขวดของผมจะส่งมาไกลมาก แต่ไม่มีรอยเลยครับ
อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเวลาเปิดกล่องครั้งแรก ขวดอาจไม่ติดกับฐาน เสี่ยงที่ขวดจะตกลงมาแตกได้ครับ
Fate Man ออกจำหน่ายครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2556 เพิ่งออกมาไม่ถึง 2 สัปดาห์ครับ (ออกมาขายที่ Hong Kong ก่อนเพื่อนผมซื้อประมาณ 3 วันครับ) เป็นน้ำหอมแนว Oriental Spicy (Balmy, Fresh Spicy, Sweet, Warm Spicy และ Smoky) ที่ทำเพื่อสื่อถึงพลังอำนาจของโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ครับ โดยช่างปรุงน้ำหอมกลิ่นนี้ คือ Karine Vinchon Spehner ( http://www.fragrantica.com/noses/Karine_Vinchon_Spehner.html )
อ้างอิงจาก
http://www.nstperfume.com/2013/06/18/amouage-fate-new-fragrances/
และ
http://www.fragrantica.com/perfume/Amouage/Fate-for-Men-18543.html
โดยมีส่วนผสมหลัก ตามข้อมูลอ้างอิง
http://www.amouage.com/fate/
ดังนี้
Top Notes
- ส้มแมนดาริน
- หญ้าฝรั่น
- Absinthe: อ่านว่า แอ๊บแซ๊งธ์ คือ เหล้าที่มีแอลกอฮอลล์เพียวๆ 70-90 % ทำจากต้น Worm Wood
- ขิง
- ขมิ่น
Middle Notes
- ดอกบานไม่รู้โรยฝรั่ง ( Immortelle, Straw flower, Everlasting flower )
- ดอกกุหลาบ
- ยางไม้หอม Frankencense สินค้าขึ้นชื่อของประเทศ Oman ครับ กลิ่นคล้ายธูปหอม ( Oman เป็นแหล่งผลิตยางไม้หอม Frankencense ที่ดีที่สุดในโลก พวกที่เอามาผสมในน้ำหอมของ Amouage ว่ากันว่าเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้จุดในวังของสุลตานครับ )
- Lavandin ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์หนึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัว ( อ้างอิงจาก http://blog.jerseylavender.co.uk/?p=260 )
- Cistus ยางไม้จากพุ่มกุหลาบหิน ( อ้างอิงจาก http://www.nstperfume.com/perfume-glossary )
- Copahu หรือ Copaiba น้ำมันจากต้น Copahu ที่ปลูกกันบริเวณอเมริกาตะวันตก และอเมริกาใต้ กลิ่นหอมแบบไม้และพริกไทยครับ ( อ้างอิงจาก http://thefragrantman.com/2013/06/05/copahu/ )
Base Notes
- Labdanum ยางไม้จากพุ่มกุหลาบหิน ( อ้างอิงจาก http://www.nstperfume.com/perfume-glossary )
- ไม้สน Cedar
- Licorice
- ถั่วทองก้า
- ไม้แก่นจันทน์ Sandalwood
- มัสค์ Musk
แปลจากที่ผมโพสลง Fragrantica นะครับ ดังนั้น สำนวนอาจเป็นฝรั่งไปบ้างครับ ขออภัย
Fate Man ทักคุณด้วยกลิ่นแบบ Bitter Sweet จาก Absinth ผสานกับกลิ่นของส้ม Mandarin ร่วมด้วยส่วนผสมที่ลงตัวจากขมิ่น ขิง และหญ้าฝรั่น (กลิ่น Dusty Spicy และ Smoky) กลิ่นขมิ่นในน้ำหอมนี้ไม่เหมือนขมิ่นที่เราใช้ทำอาหาร แปลกและหอมดีครับ
ภาพที่ผมเห็นจากการดม Top Notes คือ ทะเลทรายสีส้ม มีโอเอซิสที่น้ำในนั้นเป็น Absinth สีเขียวเข้ม
หลังจาก 6 ชั่วโมงผ่านไป เข้ามาสู่ Middle Notes หลายชั่วโมงแล้ว
Sillage (ออกเสียงว่า "See Yazh") ลดลงมาก จนเกือบจะเป็น Skin Scent แล้ว แต่ก้ยังได้กลิ่นโชยมาเข้าจมูกบ้างครับ
Sillage เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า Trail คือ ระยะทางที่คนอื่นได้กลิ่นน้ำหอมของคุณหลังจากคุณเดินผ่านไปแล้ว (ต่างจาก Projection นะครับ เพราะ Projection หรือการกระจายของกลิ่น คือ ระยะทางที่คนได้กลิ่นคุณ แม้ว่าคุณไม่ได้เดินไปแถวนั้น)
ผมไม่เคยได้กลิ่น Copahu มาก่อน แต่ได้กลิ่นมัน ๆ และกลิ่นพริกไทย (ซึ่งดูจากที่ผมค้นข้อมูลมาน่าจะมาจาก Note ตัวนี้) นอกจากนี้ยังได้กลิ่นควัน กลิ่นครีม ๆ ออกหวาน ที่น่าจากมาจากการผนึกกำลังของดอกบานไม่รู้โรยฝรั่งกับยางไม้หอม Frankencense
ดอกกุหลาบและดอก Lavandin ผสมกันอย่างลงตัวให้ความรู้สึกถึงสบู่หัวน้ำหอม (Savon) สะอาดและหอมสดชื่น
หญ้าฝรั่นยังคงอยู่แต่เริ่มแห้ง กลิ่นออกมาคล้ายยาสูบ
นึกถึงห้องนอนทำจากทองคำ เต็มไปด้วยควันจากกำยานและยางไม้ต่าง ๆ
ผ่านไป 12 ชั่วโมง มาถึง Base Notes เสียที นานมากกกกกก
กลิ่นหวานมากขึ้น และมีกลิ่นไม้เพิ่มเข้ามา ไม้แก่นจันทน์ Sandalwood ที่มีความครีมมี หอมเนี่ยนๆ เป็นดารานำในช่วงนี้ครับ ดอกบานไม่รู้โรยฝรั่งก็ยังคงอยู่ แต่แห้งคงกลิ่นไม่เหมือนน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแบบที่ดอกบานไม่รู้โรยฝรั่งมักจะเป็นเวลาผสมในน้ำหอมอื่น ๆ ครับ กลิ่นของดอกบานไม่รู้โรยฝรั่งในช่วงนี้หอมคล้ายผลไม้ตากแห้ง นอกจากนั้นยังได้กลิ่นคล้ายเวลาดื่มเหล้า (กลิ่น Boozy) และ Bitter Sweet น่าจะมาจาก Licorice ครับ
Note ทั้งหมดผสานกันอย่างกลมกล่อมงดงามหาที่ติ เคลือบผิวกายดั่งคาราเมลหอมหวาน
กล่าวโดยสรุป
Package : 5/5 ( ดูจากรูปก็เห็นว่าคุณภาพสูง และงดงามมากแค่ไหน )
Originality : 5/5 (เกิดมาจะเลข 3 แล้ว ดมน้ำหอมมาเป็นร้อยกลิ่นแล้ว ก็ไม่เคยได้กลิ่นน้ำหอมไหนเหมือนกลิ่นนี้ครับ )
Scent : 5/5 ( กลิ่นหอม กลมกล่อม และซับซ้อน กลิ่นเปลี่ยนผ่านจาก Notes สู่ Notes ได้อย่างราบรื่น )
Longevity : 5/5 (เกิน 12 ชั่วโมงยังได้กลิ่นอยู่ครับ ครั้งแรกฉีดตอนบ่ายสาม เจ็ดโมงเข้าวันรุ่งขึ้นยังได้กลิ่น)
Projection : 4/5 (กระจายได้กีประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นกลิ่นเริ่มติดผิว แต่ถ้าขยับตัวก็ยังได้กลิ่นครับ)
***ความทนและการกระจายของกลิ่นบนผิวแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ กลิ่นเดียวกัน ขวดเดียวกัน คนหนึ่งผ่านไป ๑ ชั่วโมงกลิ่นหาย แต่อีกคนได้กลิ่นทั้งวันครับ
Versatility : 4/5 (กลิ่นอาจหวานไปสำหรับวันที่อากาศร้อน ๆ ถ้าเจอคนไม่ชอบกลิ่นแน่น ๆ ได้กลิ่นแล้วอาจเวียนหัว สลบ Knock เข้าโรงพยาบาล แล้วตายใน 24 ชั่วโมงครับ)
Overall : 5/5 น้ำหอมดีมาก กลิ่นแน่น เข้มข้น แต่ยังใช้ได้ง่าย (สำหรับคนที่ใช้น้ำหอมกลิ่นแน่นๆ แบบนี้อยู่แล้ว) กลิ่นอาจหรูและซับซ้อนไปนิดสำหรับคนทั่วไป โดย Fate Man ถือเป็นน้ำหอมที่สุดขั่วครับไม่รักมาก ก็เกลียดไปเลย กลิ่นกระจายดี ตีขึ้นจมูกตลอดครับ แต่กลิ่นแปลกมากสำหรับตลาดเมืองไทยที่ชอบใช้กันแต่กลิ่นสดชื่นครับ ควรหาตัวอย่างมาลองสักเดือนก่อนซื้อครับ กลิ่นนี้ต้องระวัง Olfactory Fatigue หรือ อาการไม่ได้กลิ่นเนื่องจากฉีดน้ำหอมมากไปครับ เพราะกลิ่นแน่นมาก เข้มมาก ซับซ้อนสุด ๆ