ถึงคนรักกระเป๋าหนัง ตอนที่ 2

...ผ่านไปหลายวันแล้ว กว่าจะมีเวลามานั่งทำบทความนี้ต่อ เว้นช่วงไปก็ต้องมาเริ่มกันใหม่ เรื่องราวถึงไหนแล้วนะ เอาเป็นว่าต่อที่เรื่องกระเป๋าหนังใบต่อๆมาของผมก็แล้วกันนะครับ คงไม่ได้เรียงลำดับว่าเหตุการณ์ไหนเกิดขึ้นก่อนหลัง แต่จะประมาณว่า
...หลังจากกระเป๋าหนังใบที่สองเสียหายไปอย่างรวดเร็ว ไอ้หนุ่มเงินเดือนน้อยคนนั้นก็เก็บตังเพื่อกระเป๋าหนังใบต่อไปทันที ด้วยวัยวุฒิและหน้าที่การงานที่สูงขึ้นอำนาจการจับจ่ายก็สูงขึ้นตามไปด้วย กระเป๋าหนังใบต่อๆมาก็ถูกใช้ไปสะสมไป บีบคอขายต่อเพื่อนๆไป หรือให้ฟรีๆไป ในเมื่อใบนั้นๆมันไม่ถูกใจตัวเรา ...ก็มีไม่บ่อยที่ไปเดินเรียบๆเคียงตามห้างหรู โชว์รูมกระเป๋าหนังแบรนเนมจากเมืองนอกก็มีเข้ามาในใจ แบบว่าหลับฝันถึงทุกคืนวัน แต่ว่า
...ถูกแล้วครับ ใครอ่านมาถึงตรงนี้เดาถูกแล้วครับว่า กระเป๋าหนังแบรนเนมจากเมืองนอกนั้น คุณภาพไม่ต่างจากบ้านเราหรือบ้านไหนๆ หมายถึงที่คุณภาพอย่างดีเยี่ยมนะครับ แต่การตลาดและความเป็นของนอกตีตราว่านำเข้านั่นละ ที่มัดใจไฮโซและผู้อยากเป็นไฮโซซะอยู่หมัด นั่นนะสิ ผมเลยได้แค่นอนฝันถึงอยู่เนืองๆ เพราะสู้ราคาไม่ไหวหรอกครับ แล้วทำอย่างไรดีละ ในตลาดมือสองกระเป๋าหนังแบรนเนมเหล่านั้นก็ยังหลายหมื่นอัปอยู่ดี แต่ว่าตาดีได้ตาร้ายเสียนะดูๆกันไป ส่วนตัวผมต่อให้เป็นมือสองก็เถอะ ก็ยังฝันๆต่อไป และกลับมาตั้งใจสะพายกระป๋าหนังแบรนไทยชื่อฝรั่งเหมือนเดิม
...บังเอิญจริงๆกับความฝันวนเวียนถึงกระเป๋าหนังแบรนเนมนั่นอยู่ไม่นาน ผมก็ได้ไปเที่ยวฮ่องกงครับ ท่องๆเที่ยวๆเฉี่ยวๆลัดเลาะ จนถัดไปอีกเมืองหนึ่งชื่อว่าเซิ่นเจิ้น โอววววพระเจ้า กระเป๋าหนังแบรนเนมที่อยู่ในฝันของเรา ราคาแค่สองพันสามพันบาท เป็นไปได้อย่างไร จากในห้างหรูที่กรุงเทพตั้งไว้เกือบแสน ...ต้องออกตัวเลยนะครับว่า ไม่รู้จริงๆว่าก่อนหน้านั้นมีของก๊อปปี้ขายด้วย เคยเห็นแต่เสื้อผ้า ...ไม่สิ ผมอาจจะพูดโอเว่อเกินไป คงเคยเห็นผ่านตามาบ้างแหละ แต่ไม่ทันนึกถึงตะหาก ที่ว่าเคย ก็คือเห็นมีคนถือกระเป๋าหนังแบรนกุดจี่ลุยติ๊งต๊องพาดาแอเม็ดเอามานี่โคต (ขออภัยเพื่อความเป็นธรรมเลยเขียนถึงชื่อแบรนได้แค่นั้น) บางคนถือกระเป๋าหนังที่ว่าลงจากรถยุโรปบางคนถือลงจากรถสองแถว บางคนถือเดินในพารากอนบางคนถือเดินในพาราเซตามอน(ตลาดที่ฝุ่นเยอะๆเดินแล้วปวดหัวอะคับ)  นั่นละๆ ผมเคยเห็น แต่ก็มองผ่านๆไป ในเมื่อไม่ใช่ของเรา ก็เลยคิดไม่ทันว่าอันไหนก๊อปอันไหนจริง แต่ที่นี่สิ ดาษดื่นไปหมด แรกๆก็งงๆไม่รู้จะหันหน้าเข้าร้านไหนดี และแล้วคุณไกด์ก็บอกว่า ไปร้านร้านหนึ่งไหมพี่ ก๊อปเกรดมิลเล่อ ...เอาละสิงงเป็นไก่ตาแตก แค่ก๊อปปี้ ก็งงเต็มที่แล้ว งงไป แต่ก็เดินตามไกด์ไปนะ ในร้านที่ว่า ปลีกออกไปจากความพลุกพล่านเข้าไปในซอกในซอยเปลี่ยวๆในห้างนั้นแหละ (มารู้ทีหลังว่าไกด์ได้เปอเซ็นจากยอดซื้อขายของจากร้านนั่นนะครับ) ...หน้าร้านทำทีว่าปิดประตูไว้  แล้วก็มีคนมาเปิดเมื่อไกด์เคาะประตูเบาๆ (มารู้ทีหลังอีกนั่นแหละว่าเขาตั้งใจสร้างบรรยากาศให้ดูขลังๆนะครับ) เจ้าของร้านเอ่ยต้อนรับด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว อันนี้เกรดเอพี่ ทางนี้เกรดมิลเล่อพี่ และยิ่งกว่านั้น ทางนี้เลยพี่ เปิดไปอีกห้องหนึ่งของแท้ตกเสป็กจากโรงงานโดยตรง บลาๆๆๆๆเจ้าของร้านนำเสนอจนผมเบลอๆๆๆ กระเป๋าหนัง นาพิกา เข็มขัด แจ๊กเก็ต และอื่นๆ แต่ตอนนั้นไม่รู้อะไรเข้าสิง ไม่ทันได้คิดอะไรจริงๆนะครับ ไม่ได้คิดเลยว่าเราไม่ชอบของก๊อปปี้ ไม่ชอบของละเมิดลิขสิทธิ์ แบบว่ากระเป๋าแบรนเนมที่เราไฝ่ฝันจ๋าระรานตาไปหมดนั่นละที่มันนำพา ...ตัดบทไปเลยละกัน สรุปว่าหมดไปเกือบสามหมื่น ได้กระเป๋าหนังแบรนเนมโคตรดังมาแปดใบ นาพิกาโหลเล็กฝังเพรชบ้าบอ สองเรือน เข็มขัดหนังแบรนเนมอีกนั่นแหละ ครึ่งโหล
...ทั้งหมด ตั้งใจเอามาฝากเพื่อนพ้องญาติมิตรและตัวเอง นาฬิกา สองเดือนเพรชข้างในหลุด สามเดือนน้ำเข้า และไม่ถึงเก้าเดือนมันก็หยุดเดินในที่สุด เข็มขัดสามเดือนเชือกเย็บขาด ห้าเดือนเดือยหัก สิบเดือนหนังลอก หลายปีก็ยังห้อยอยู่ในตู้เสื้อผ้าไม่รู้จะให้ใครต่อก็ในเมื่อมันใช้ไม่ได้แล้ว  แต่นั่นหมายถึงหยุดใช้มันตั้งแต่สิบเอ็ดเดือนแรกที่ซื้อมาแล้วละครับ อืมๆๆๆๆ ในบทความนี้เราคุยกันเรื่องกระเป๋าหนังอยู่ นี่นา
...ก็เหมือนๆกับนาฬิกาและเข็มขัดนั่นละครับ กระเป๋าหนังแบรนเนมก๊อปปี้เกรดเอเกรดมิลเล่อหรือแม้แต่ของแท้ตกเสป็ก หนึ่งเดือนซิปแตก สามเดือนซัปในขาด ห้าเดือนหนังลอก แปดเดือนหลุดหลุ่ย  นี่ไม่ได้แต่งเติมเสริมเพิ่มเรื่องราวใดๆนะครับมันเป็นเรื่องจริงจากประสบการณ์ตรงๆ แต่ประมาณว่ากระเป๋าหนังแปดใบที่ผมซื้อมา ทั้งใช้เองและบีบคอขายต่อเพื่อนๆ อาการมันเกิดขึ้นไล่ๆกันทั้งหมด ...สุดท้ายผมก็จบด้วยความผิดหวังอีกแล้ว แต่คนที่ได้รับต่อจากเราเขาก็ดีใจนะครับ เหมือนที่ผมเคยได้รับ ...พอรู้ว่ามันจะยังใช้ได้อีกพักหนึ่งแน่ๆ ผมก็รีบส่งกระเป๋าหนังนั่นต่อให้ลูกน้องทันที ขยายความนิดหนึ่ง เขียนมาถึงตรงนี้ผมก็อายุและหน้าที่การงานขยับขึ้นมาเยอะแล้วจากที่เอ่ยในตอนต้นนะครับ ขณะที่เกิดเหตุกระเป๋าหนังจากต่างแดนนี่ ในหน้าที่การงานของผมมีลูกน้องใต้ปกครองนับสิบๆคน การเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำบางมื้อพิเศษๆ การให้เสื้อผ้าของใช้แล้วบางอย่าง รวมทั้งกระเป๋าบ้าๆบอๆนั่นด้วย เมื่อรู้ว่าไม่เหมาะกับเราแล้วมอบต่อให้ผู้ที่ด้อยกว่า   นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมนะผมว่า (ดีกว่าเก็บไว้จนหมดอายุใครก็ไม่ได้ใช้งานซะงั้น) ที่นอกเรื่องนิดๆนี่เพราะเกรงว่าผู้อ่านจะมองผมในมุมลบๆนะครับ เลยขอขยายความนิดหนึ่ง
...ผ่านไปอีกหนึ่งหน้ากระดาษ เรื่องราวหลายอย่างไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก ธุรกิจกระเป๋าหนังแฮดเมดแบรนเล็กๆของผมยังไม่ได้เริ่มเข้าเรื่องเลยนะเนี่ย  ...ขอบคุณที่จะติดตามต่อนะครับ  by GooWalker
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่