สวัสดีครับ
ผมขอนำประสบการณ์ที่ดีครั้งหนึ่งในชีวิตของผม มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
เนื่องจากที่ทำงานอยู่ในมาเลย์ แล้วโปรเจคงานกำลังจะเสร็จ หลายคนที่ทำงานผมเริ่มย้ายกลับสิงคโปร์(บริษัทแม่)
ส่วนผมได้วันหยุดยาว เลยขอร่วมงานองค์กรหนึ่งในที่ทำงาน (บริษัทผมเป็นสปอนเซอร์ให้องค์กรนี้ครับ)
ซึ่งการร่วมครั้งนี้ จริงๆจุดประสงค์คือได้เที่ยวแบบ ฟรี และการได้หักลดค่าภาษีในปีนี้อีกด้วย
ผมร่วมงานกับองค์กรหนึ่ง ที่ตั้งอยู่สิงคโปร์ เป็นองค์กรด้านอาเซียนโดยตรง ดูแลเรื่องคุณภาพชีวิต ...และทริปนี้ เป็นทริปเก็บข้อมูล
ผมได้ประเทศ "เวียดนาม" ซึ่งเป็นประเทศที่ผมไปเที่ยวและไปทำงานบ่อยอยู่แล้ว จึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรนัก
หลักๆทีมงานกลุ่มผมมีด้วยกัน 12 คนที่เดินทางร่วมกันในครั้งนี้ และมีผู้สนับสนุนรออยู่ที่เวียดนามอีก ซึ่งเป็นคนท้องถิ่น
โดยกลุ่มผมได้รับเลือกมาเมือง โฮจิมินห์ ซิตี้ เมืองเศรษฐกิจหลักของเวียดนามนั่นเอง
ผมขอพูดเข้าประเด็นเลยนะครับ
หลังจากที่อยู่ที่นี่มา 7 วันแล้วได้สัมผัสมุมมองอีกด้านนั้น ผมเข้าใจอะไรของที่นี่มากขึ้น กว่าสมัยเป็นนักท่องเที่ยวเยอะครับ
ความเจริญเข้ามาเร็วเกินกว่าที่คนที่นี่จะปรับตัวกันทัน ไม่เหมือนประเทศเราที่ขยับมาเรื่อยๆ
ผมได้รับหน้าที่หลัก ดูเรื่องความเป็นอยู่ของวัยรุ่น ซึ่งมีผมกับเพื่อนสิงคโปร์อีกคนได้หัวข้อนี้กัน
แต่เพื่อนผม ได้ตัวอย่างที่ดูดี เป็นวัยรุ่นที่มีชีวิตค่อนข้างดี ฐานะดีมากๆด้วยซ้ำ
ส่วนของผม เป็นเด็กผู้ชาย อายุ 22 ปี ชื่อธัน (Thanh)
ผมไปเจอเด็กหนุ่มคนนี้ ครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยของเขา ซึ่งเป็นช่วงเวลา บ่าย 4 โมงเย็นของวันศุกร์
ผมนั่งคุยกับเขาไปเรื่อยๆ เขาพอฟัอังกฤษออกบ้าง เข้าใจบ้าง ใช้ภาษามือช่วยเยอะ .....ก็เข้าใจตรงส่วนนี้
เขานังคุยกับผมสักพัก 16.40 น. เขาก็ขอตัวไปเรียน ซึ่งเขาเรียนด้านวิศวะก่อสร้าง มีเรียนห้าโมงเย็นถึงสองทุ่ม
ผมก็แปลกใจนะ เรียนอะไรกันค่ำ..... เป็นบ้านเราเลิกเรียนแล้วเวลานี้
ผมต้องกลับโรงแรม เพราะไม่สามารถติดตามเขาได้แน่ๆในคืนนี้ เพราะเขาบอกไม่สะดวก เรียนเสร็จต้องไปทำงานต่อ
ผมก็แปลกใจ ว่าทำไมต้องส่งผมมาสังเกตุและบันทึกจากเด็กคนนี้?
ลบรูปนะครับ
มองเพื่อนบ้าน AEC ตอน: ชีวิตวัยรุ่นเวียดนาม ...ชีวิตมันช่างโหดร้ายนัก, มองเขาแล้วกลับมามองเรา
ผมขอนำประสบการณ์ที่ดีครั้งหนึ่งในชีวิตของผม มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
เนื่องจากที่ทำงานอยู่ในมาเลย์ แล้วโปรเจคงานกำลังจะเสร็จ หลายคนที่ทำงานผมเริ่มย้ายกลับสิงคโปร์(บริษัทแม่)
ส่วนผมได้วันหยุดยาว เลยขอร่วมงานองค์กรหนึ่งในที่ทำงาน (บริษัทผมเป็นสปอนเซอร์ให้องค์กรนี้ครับ)
ซึ่งการร่วมครั้งนี้ จริงๆจุดประสงค์คือได้เที่ยวแบบ ฟรี และการได้หักลดค่าภาษีในปีนี้อีกด้วย
ผมร่วมงานกับองค์กรหนึ่ง ที่ตั้งอยู่สิงคโปร์ เป็นองค์กรด้านอาเซียนโดยตรง ดูแลเรื่องคุณภาพชีวิต ...และทริปนี้ เป็นทริปเก็บข้อมูล
ผมได้ประเทศ "เวียดนาม" ซึ่งเป็นประเทศที่ผมไปเที่ยวและไปทำงานบ่อยอยู่แล้ว จึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรนัก
หลักๆทีมงานกลุ่มผมมีด้วยกัน 12 คนที่เดินทางร่วมกันในครั้งนี้ และมีผู้สนับสนุนรออยู่ที่เวียดนามอีก ซึ่งเป็นคนท้องถิ่น
โดยกลุ่มผมได้รับเลือกมาเมือง โฮจิมินห์ ซิตี้ เมืองเศรษฐกิจหลักของเวียดนามนั่นเอง
ผมขอพูดเข้าประเด็นเลยนะครับ
หลังจากที่อยู่ที่นี่มา 7 วันแล้วได้สัมผัสมุมมองอีกด้านนั้น ผมเข้าใจอะไรของที่นี่มากขึ้น กว่าสมัยเป็นนักท่องเที่ยวเยอะครับ
ความเจริญเข้ามาเร็วเกินกว่าที่คนที่นี่จะปรับตัวกันทัน ไม่เหมือนประเทศเราที่ขยับมาเรื่อยๆ
ผมได้รับหน้าที่หลัก ดูเรื่องความเป็นอยู่ของวัยรุ่น ซึ่งมีผมกับเพื่อนสิงคโปร์อีกคนได้หัวข้อนี้กัน
แต่เพื่อนผม ได้ตัวอย่างที่ดูดี เป็นวัยรุ่นที่มีชีวิตค่อนข้างดี ฐานะดีมากๆด้วยซ้ำ
ส่วนของผม เป็นเด็กผู้ชาย อายุ 22 ปี ชื่อธัน (Thanh)
ผมไปเจอเด็กหนุ่มคนนี้ ครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยของเขา ซึ่งเป็นช่วงเวลา บ่าย 4 โมงเย็นของวันศุกร์
ผมนั่งคุยกับเขาไปเรื่อยๆ เขาพอฟัอังกฤษออกบ้าง เข้าใจบ้าง ใช้ภาษามือช่วยเยอะ .....ก็เข้าใจตรงส่วนนี้
เขานังคุยกับผมสักพัก 16.40 น. เขาก็ขอตัวไปเรียน ซึ่งเขาเรียนด้านวิศวะก่อสร้าง มีเรียนห้าโมงเย็นถึงสองทุ่ม
ผมก็แปลกใจนะ เรียนอะไรกันค่ำ..... เป็นบ้านเราเลิกเรียนแล้วเวลานี้
ผมต้องกลับโรงแรม เพราะไม่สามารถติดตามเขาได้แน่ๆในคืนนี้ เพราะเขาบอกไม่สะดวก เรียนเสร็จต้องไปทำงานต่อ
ผมก็แปลกใจ ว่าทำไมต้องส่งผมมาสังเกตุและบันทึกจากเด็กคนนี้?
ลบรูปนะครับ