หมายเหตุ - บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของหนัง
- ศาสนาในที่นี้หมายถึง monotheistic religion (ศาสนาที่มีพราะเจ้าเพียงองค์เดียว) เท่านั้น
1. หลังจากการชกในฉากเปิดเรื่องสิ้นสุดลง Billy ที่ได้รับยาเสพติดมาแล้วบอกกับ Julian ว่า "Time to meet the devil" ซึ่งปีศาจในที่นี้ก็คือตัวเขาที่เมายาเต็มที่และเข้าสู่ความดิบเถื่อนอย่างที่สุด เขาบอกคนเชียร์แขกว่าต้องการมีsexกับเด็ก14 เมื่อไม่ได้ดังใจก็อาละวาดทำร้ายผู้คนไม่เลือกหน้าอย่างป่าเถื่อน ท้ายที่สุดเขาก็ลงเอยด้วยการข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงคนหนึ่ง
- Sigmund Freud (1856 - 1939) บิดาของทฤษฎีจิตวิเคราะห์ได้สรุปว่า พระเจ้านั้นคือสิ่งสมมุติที่มนุษย์สร้างขึ้นมาจากความต้องการทางอารมณ์แบบเด็กที่
ต้องการ"พ่อ"ที่เข้มแข็งและมีอำนาจ กล่าวคือธรรมชาติของมนุษย์แต่ดั้งเดิมนั้นอยู่คู่กับความรุนแรงและพร้อมที่จะฆ่า/ข่มขืนเมื่อสัญชาตญาณดิบ (libido or Eros) เข้าครอบงำ ศาสนาจึงมีบทบาทสำคัญต่อการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมในการก่อสร้างอารยธรรมสำหรับมนุษย์ที่ในยุคแรกเริ่ม
- ในทางทฤษฏี Freud ได้จำแนกจิตออกเป็นสามส่วนได้แก่ id, ego, super-ego เขาสรุปว่า id นั้นคือจิตส่วนที่ไร้สามัญสำนึกเหมือนเด็กและต้องการแต่ความสุข ความเพลิดเพลิน (pleasure principle) และความต้องการพื้นฐานเช่นความหิวและความต้องการทางเพศ โดยขาดความยับยั้งชั่งใจโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ super-ego คือจิตส่วนที่กำหนดส่วนของจริยธรรมและความขัดแย้งของทั้งสองส่วนที่มีอยู่ตลอดเวลาก็คือ ego
2. Julian เรียก "ใหม่" โสเภณีประจำของเขามาเพียงเพื่อจะดูเธอสำเร็จความใคร่ในขณะที่ตัวเขาทำได้เพียงแค่ดำดิ่งลงไปในจิตใต้สำนึก เพราะตัวเขาเองมีปัญหาคือ impotency (ขอไม่แปลไทยแล้วกัน) แต่ทันทีที่เขาเริ่มที่จะเกิดอารมณ์ก็ปรากฏภาพของ "ช้าง" ที่ฟันมือของเขาขาดสะบั้น เขาตื่นจากภวังค์พร้อมกับข่าวการเสียชีวิตของ Billy
3. Crystal แม่ของ Julian เดินทางมาประเทศไทยเพื่อรับศพลูกชายคนแรกและคนโปรดของเธอเพราะขนาดขององคชาติที่ใหญ่จนแค่เพียงเธอพูดถึงก็อดเคลิ้มไม่ได้ ในขณะเดียวกันกับ Julian เธอก็แสดงออกจากการสัมผัสและกอดที่เกินความสัมพันธ์แม่-ลูก!!??
- ในทฤษฎีจิตวิเคราะห์ Freud กล่าวว่าในบางกรณี คนไข้ชายในวัยเด็กจะพัฒนาความสนใจทางเพศกับแม่ของตัวเองภายในจิตใต้สำนึก เขาเรียกมันว่าปมออดิปุส (Oedipus complex) เขาชี้ว่า id ของเด็กชายจะรักแม่ในทางเพศแต่จะเกลียดพ่อถึงขั้นอยากฆ่าทิ้งเพราะพ่อเป็นคนที่แย่งแม่ไปครอบครองและร่วมรัก แต่ ego หรือจิตส่วนเหตุผลจะรับรู้ถึงบทบาทและอำนาจของ"พ่อ"ในครอบครัวและท้ายที่สุดก็จะพัฒนาเป็นการกลัวถูกตอน (castration) อย่างไม่มีเหตุผลภายในจิตใต้สำนึก หากเด็กที่มีปมฝังแน่นกับความกลัวนี้โตขึ้นเขาจะมีแนวโน้มเป็นพวก
ชอบร่วมเพศกับเด็ก (paedophilia) และมีปัญหาทางจิตเช่น
การเห็นภาพหลอน (Neurosis) หรือเป็นพวกรักร่วมเพศ (Homosexuality)
- Refn กล่าวในบทบทสัมภาษณ์ว่าเขามองว่า
ภาพของกำปั้นนั้นเป็นสัญญะแทนค่าการแข็งตัวขององคชาติ ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการที่ Julian กลัวการถูกตัดมือก็คือการที่เขากลัวถูกตอนจาก"พ่อ"นั่นเอง
- "ดาบ" ในทางสัญญะหมายถึงอำนาจและหมายถึงองคชาติ การที่ช้างลงโทษด้วยดาบแทนที่จะเป็นปืนอาจมีนัยยะถึงอำนาจของพ่อดังที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าจากข้อคิดเห็นของ Freud เรื่อง พระเจ้ากับตัวแทนของพ่อที่เข้มแข้ง ก็สรุปได้ว่า "ช้าง" ในจิตใต้สำนึกของ Julian คือพระเจ้าผู้ที่จะมาลงทัณฑ์ (จะกล่าวถึงถัดไป) และปลดปล่อยตัวเขาจากความเหลวแหลกอันวิปริตของครอบครัวของเขา
4. Julian ต้องการที่จะสู้กับช้างด้วยมือเปล่า เขาต้องการที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่าง ผลปรากฎว่าเขาไม่สามรถทำอะไรช้างได้แม้แต่นิดเดียว
5. Crystal บอกกับตำรวจว่าสาเหตุที่ Julian ต้องหนีมาอยู่เมืองไทยไม่ใช่เพราะว่าเขาฆ่าตำรวจ แต่เพราะว่าเขาได้ทำการปิตุฆาตด้วยมือของเขาเอง!
- ในหนังสือ Totem and Taboo (1913) Freud เสนอแนวคิดว่าว่าศาสนาที่มีพระเจ้านั้นอาจมีที่มาจากการที่คนในตระกูลได้กระทำการปิตุฆาต ซึ่งในที่สุดทำให้ต้องสร้างตัวแทนของพระเจ้ามาทดแทนพ่อที่ตายไปและจากความรู้สึกผิดที่ได้ฆ่าพ่อลงไป ในหนังสือ Moses and Monotheism (1937) เขาอ้างถึงการสังหาร Moses ของคนกลุ่มหนึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกผิดขั้นรุนแรงจนในที่สุดกลุ่มกบฎเหล่านั้นได้ยกให้ Moses เป็น Messiah เพื่อชดเชยความรู้สึกผิด
- เราได้รู้ว่าสาเหตุที่ Julian หมกมุ่นกับช้างถึงขั้นเห็นภาพหลอนเพราะในจิตใต้สำนึกของเขารู้สึกผิดที่ได้ฆ่าพ่อของตัวเองลงไป จนเขาต้องการ "พ่อ"ที่เข้มแข็ง/พระเจ้า คนใหม่ที่จะให้อภัยกับความผิดที่เขาได้ทำลงไป การที่ช้างเอาชนะ Julian ได้อย่างง่ายดายยิ่งตอกย้ำความต้องการพระเจ้าของเขา ในตอนจบการที่เขายอมให้ช้างตัดมือ/ตอน เพราะว่าเขาพร้อมแล้วที่จะถวายตัวตนของเขาให้กับพระเจ้าองค์ใหม่ที่เขาศรัทธา
- หากมองจากมุมนี้จะเห็นได้ว่าเรื่องราวของหนังคืออุปมาและเหตุผลของการก่อกำเนิดและศรัทธาต่อศาสนา/พระเจ้า นั่นเอง เพราะว่ามีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะให้อภัย!
Only God Forgives: มุมทฤษฎีจิตวิเคราะห์
- ศาสนาในที่นี้หมายถึง monotheistic religion (ศาสนาที่มีพราะเจ้าเพียงองค์เดียว) เท่านั้น
1. หลังจากการชกในฉากเปิดเรื่องสิ้นสุดลง Billy ที่ได้รับยาเสพติดมาแล้วบอกกับ Julian ว่า "Time to meet the devil" ซึ่งปีศาจในที่นี้ก็คือตัวเขาที่เมายาเต็มที่และเข้าสู่ความดิบเถื่อนอย่างที่สุด เขาบอกคนเชียร์แขกว่าต้องการมีsexกับเด็ก14 เมื่อไม่ได้ดังใจก็อาละวาดทำร้ายผู้คนไม่เลือกหน้าอย่างป่าเถื่อน ท้ายที่สุดเขาก็ลงเอยด้วยการข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงคนหนึ่ง
- Sigmund Freud (1856 - 1939) บิดาของทฤษฎีจิตวิเคราะห์ได้สรุปว่า พระเจ้านั้นคือสิ่งสมมุติที่มนุษย์สร้างขึ้นมาจากความต้องการทางอารมณ์แบบเด็กที่ต้องการ"พ่อ"ที่เข้มแข็งและมีอำนาจ กล่าวคือธรรมชาติของมนุษย์แต่ดั้งเดิมนั้นอยู่คู่กับความรุนแรงและพร้อมที่จะฆ่า/ข่มขืนเมื่อสัญชาตญาณดิบ (libido or Eros) เข้าครอบงำ ศาสนาจึงมีบทบาทสำคัญต่อการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมในการก่อสร้างอารยธรรมสำหรับมนุษย์ที่ในยุคแรกเริ่ม
- ในทางทฤษฏี Freud ได้จำแนกจิตออกเป็นสามส่วนได้แก่ id, ego, super-ego เขาสรุปว่า id นั้นคือจิตส่วนที่ไร้สามัญสำนึกเหมือนเด็กและต้องการแต่ความสุข ความเพลิดเพลิน (pleasure principle) และความต้องการพื้นฐานเช่นความหิวและความต้องการทางเพศ โดยขาดความยับยั้งชั่งใจโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ super-ego คือจิตส่วนที่กำหนดส่วนของจริยธรรมและความขัดแย้งของทั้งสองส่วนที่มีอยู่ตลอดเวลาก็คือ ego
2. Julian เรียก "ใหม่" โสเภณีประจำของเขามาเพียงเพื่อจะดูเธอสำเร็จความใคร่ในขณะที่ตัวเขาทำได้เพียงแค่ดำดิ่งลงไปในจิตใต้สำนึก เพราะตัวเขาเองมีปัญหาคือ impotency (ขอไม่แปลไทยแล้วกัน) แต่ทันทีที่เขาเริ่มที่จะเกิดอารมณ์ก็ปรากฏภาพของ "ช้าง" ที่ฟันมือของเขาขาดสะบั้น เขาตื่นจากภวังค์พร้อมกับข่าวการเสียชีวิตของ Billy
3. Crystal แม่ของ Julian เดินทางมาประเทศไทยเพื่อรับศพลูกชายคนแรกและคนโปรดของเธอเพราะขนาดขององคชาติที่ใหญ่จนแค่เพียงเธอพูดถึงก็อดเคลิ้มไม่ได้ ในขณะเดียวกันกับ Julian เธอก็แสดงออกจากการสัมผัสและกอดที่เกินความสัมพันธ์แม่-ลูก!!??
- ในทฤษฎีจิตวิเคราะห์ Freud กล่าวว่าในบางกรณี คนไข้ชายในวัยเด็กจะพัฒนาความสนใจทางเพศกับแม่ของตัวเองภายในจิตใต้สำนึก เขาเรียกมันว่าปมออดิปุส (Oedipus complex) เขาชี้ว่า id ของเด็กชายจะรักแม่ในทางเพศแต่จะเกลียดพ่อถึงขั้นอยากฆ่าทิ้งเพราะพ่อเป็นคนที่แย่งแม่ไปครอบครองและร่วมรัก แต่ ego หรือจิตส่วนเหตุผลจะรับรู้ถึงบทบาทและอำนาจของ"พ่อ"ในครอบครัวและท้ายที่สุดก็จะพัฒนาเป็นการกลัวถูกตอน (castration) อย่างไม่มีเหตุผลภายในจิตใต้สำนึก หากเด็กที่มีปมฝังแน่นกับความกลัวนี้โตขึ้นเขาจะมีแนวโน้มเป็นพวกชอบร่วมเพศกับเด็ก (paedophilia) และมีปัญหาทางจิตเช่นการเห็นภาพหลอน (Neurosis) หรือเป็นพวกรักร่วมเพศ (Homosexuality)
- Refn กล่าวในบทบทสัมภาษณ์ว่าเขามองว่าภาพของกำปั้นนั้นเป็นสัญญะแทนค่าการแข็งตัวขององคชาติ ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการที่ Julian กลัวการถูกตัดมือก็คือการที่เขากลัวถูกตอนจาก"พ่อ"นั่นเอง
- "ดาบ" ในทางสัญญะหมายถึงอำนาจและหมายถึงองคชาติ การที่ช้างลงโทษด้วยดาบแทนที่จะเป็นปืนอาจมีนัยยะถึงอำนาจของพ่อดังที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าจากข้อคิดเห็นของ Freud เรื่อง พระเจ้ากับตัวแทนของพ่อที่เข้มแข้ง ก็สรุปได้ว่า "ช้าง" ในจิตใต้สำนึกของ Julian คือพระเจ้าผู้ที่จะมาลงทัณฑ์ (จะกล่าวถึงถัดไป) และปลดปล่อยตัวเขาจากความเหลวแหลกอันวิปริตของครอบครัวของเขา
4. Julian ต้องการที่จะสู้กับช้างด้วยมือเปล่า เขาต้องการที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่าง ผลปรากฎว่าเขาไม่สามรถทำอะไรช้างได้แม้แต่นิดเดียว
5. Crystal บอกกับตำรวจว่าสาเหตุที่ Julian ต้องหนีมาอยู่เมืองไทยไม่ใช่เพราะว่าเขาฆ่าตำรวจ แต่เพราะว่าเขาได้ทำการปิตุฆาตด้วยมือของเขาเอง!
- ในหนังสือ Totem and Taboo (1913) Freud เสนอแนวคิดว่าว่าศาสนาที่มีพระเจ้านั้นอาจมีที่มาจากการที่คนในตระกูลได้กระทำการปิตุฆาต ซึ่งในที่สุดทำให้ต้องสร้างตัวแทนของพระเจ้ามาทดแทนพ่อที่ตายไปและจากความรู้สึกผิดที่ได้ฆ่าพ่อลงไป ในหนังสือ Moses and Monotheism (1937) เขาอ้างถึงการสังหาร Moses ของคนกลุ่มหนึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกผิดขั้นรุนแรงจนในที่สุดกลุ่มกบฎเหล่านั้นได้ยกให้ Moses เป็น Messiah เพื่อชดเชยความรู้สึกผิด
- เราได้รู้ว่าสาเหตุที่ Julian หมกมุ่นกับช้างถึงขั้นเห็นภาพหลอนเพราะในจิตใต้สำนึกของเขารู้สึกผิดที่ได้ฆ่าพ่อของตัวเองลงไป จนเขาต้องการ "พ่อ"ที่เข้มแข็ง/พระเจ้า คนใหม่ที่จะให้อภัยกับความผิดที่เขาได้ทำลงไป การที่ช้างเอาชนะ Julian ได้อย่างง่ายดายยิ่งตอกย้ำความต้องการพระเจ้าของเขา ในตอนจบการที่เขายอมให้ช้างตัดมือ/ตอน เพราะว่าเขาพร้อมแล้วที่จะถวายตัวตนของเขาให้กับพระเจ้าองค์ใหม่ที่เขาศรัทธา
- หากมองจากมุมนี้จะเห็นได้ว่าเรื่องราวของหนังคืออุปมาและเหตุผลของการก่อกำเนิดและศรัทธาต่อศาสนา/พระเจ้า นั่นเอง เพราะว่ามีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะให้อภัย!