[US Box Office] The Conjuring หลอนแรงแซงทุกเรื่อง เข้าป้ายที่ 1 ในสุดสัปดาห์ล่าสุด !!!

กระทู้สนทนา
ฮิตระเบิดระเบ้อไปแล้ว กับหนังสยองเหนือธรรมชาติ The Conjuring ที่ใช้เม็ดเงินลงทุน $20 ล้าน เพียง 1 ใน 4 ส่วนของทุนสร้างของหนังอีก 3 เรื่องที่เหลือ แต่สามารถเปิดตัวครองแชมป์ในสุดสัปดาห์ล่าสุดแบบเซอร์ไพรซ์ และเป็นเพียงเรื่องเดียวใน 10 อันดับแรก ที่ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงเกินหมื่น!

หนังใหม่อีก 3 เรื่อง ได้แก่ Turbo, Red 2 และ R.I.P.D. เปิดตัวในอันดับเลขคี่ทั้งหมด คือ อันดับ 3, 5 และ 7 เรื่องหลังสุดถือว่ากระอักเลือกมากสุด เนื่องจากลงทุนเกิน $100 ล้าน!

รายได้ 12 อันดับแรกทั้งหมดทำไป $181.5 ล้าน เป็นตัวเลขที่ลดลงจากปีก่อนประมาณ 19% เนื่องจากปีที่แล้วมีหนัง The Dark Knight Rises เปิดตัวสูงถึง $160.9 ล้าน เรื่องเดียวก็คิดเป็น 89% จากรายได้รวมท็อป 12 สุดสัปดาห์ล่าสุดของปีนี้แล้ว!

ว่าแล้วก็มาดูรายได้ 7 อันดับแรก และอันดับที่น่าสนใจในสุดสัปดาห์ 19-21 กรกฎาคม 2013 กันดีกว่า
--------------------------------------------------------------------

อันดับ 1 The Conjuring





หนังสยองเหนือธรรมชาติ ที่ได้นักแสดงนำเป็นแพทริค วิลสัน และเวรา ฟาร์มิกา และได้ผู้กำกับเจมส์ วาน จากหนังสยอง Saw และ Insidious เปิดตัวครองแชมป์ด้วยรายได้กว่า $41.5 ล้าน จากทุนสร้างเพียง $20 ล้าน โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ตัวเลข $14,306 ถือว่าเป็นผลงานที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลของผู้กำกับเจมส์ วานเลยทีเดียว!

รายได้เปิดตัวของ The Conjuring $41.5 ล้าน ครองสถิติหนังสยองที่เปิดตัวในปี 2013 สูงสุด และครองสถิติสูงสุดตลอดกาลในอันดับ 2 สำหรับหนังสยองเหนือธรรมชาติ เป็นรองเพียง Paranormal Activity 3 ($52.6 ล้าน)

นอกจากนี้ The Conjuring ซึ่งเป็นผลงานจากสตูดิโอวอร์เนอร์ ยังทำรายได้เปิดตัวมากกว่าหนังทุนเบิ้ม Pacific Rim ที่เปิดตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วซะอีก ทำให้วอร์เนอร์มีรายได้ไม่ขาดมือ เพราะเมื่อ Pacific Rim หลุดโผรายได้ตกไปอยู่ที่ 6 ในสุดสัปดาห์นี้ The Conjuring ก็เข้าป้ายมาโกยรายได้แทนได้ทันท่วงที

การที่ The Conjuring ฮิตแบบเซอร์ไพรซ์แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เนื่องจากคำว่า 'อ้างอิงจากเรื่องจริง' เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมอยากดู และอีกอย่างก็คือ หนังสยองทริลเลอร์ The Purge ก็เริ่มที่จะแผ่วปลาย หล่นไปอยู่อันดับ 30 กับรายได้เฉลี่ยต่อโรงต่ำกว่าพัน ทำให้คู่แข่งแนวเดียวกันที่สมน้ำสมเนื้อหายหน้าไปหมดแล้ว อย่างสุดท้ายคือการโปรโมทอย่างเหมาะเหม็งของวอร์เนอร์ ที่ทำให้คนดูตื่นเต้นว่าโปรเจคนี้จะสร้างความสยองได้อย่างถึงกึ๋น

วิเคราะห์กลุ่มคนดูของ The Conjuring กลุ่มคนดูส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงถึง 53% และมีอายุเกิน 25 ปีถึงกว่า 59%

คะแนนในเว็บนักวิจารณ์ก็เป็นไปได้สวยทีเดียวสำหรับ The Conjuring ในเว็บมะเขือเน่ายังสูงเกิน 80% ส่วนผลคะแนนจากกลุ่มคนดูรอบแรกให้สูงถึง A- ประมาณได้ว่าหนังมีโอกาสสูงมากที่จะทำรายได้เกิน $100 ล้านตลอดโปรแกรมฉาย จากการที่ไม่มีคู่แข่งแนวเดียวกันหน้าไหนตามมาต่อจากนี้
--------------------------------------------------------------------

อันดับ 2 Despicable Me 2





หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 2 ซะทีสำหรับอนิเมชั่นตัวเหลือง ที่ครองแชมป์ต่อเนื่องถึง 2 สัปดาห์ซ้อน การทำรายได้ตกลงเพียง 43% ก็เพียงพอแล้วที่จะซัด Turbo อนิเมชั่นคู่แข่งให้เปิดตัวเพียงอันดับ 3 โดยสุดสัปดาห์นี้ ตัวเหลือยังเก็บรายได้ไปอีก $25.1 ล้าน รวมรายได้ล่าสุดเก็บไปแล้วสูงถึง $276.2 ล้าน!

รายได้รวมล่าสุดของ Despicable Me 2 เป็นรายได้ที่แซงหน้าหนังภาคแรก ($251.5 ล้าน) ไปแล้วเรียบร้อย ขึ้นแท่นหนังอนิเมชั่นทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในอันดับ 8 และตั้งแต่ Toy Story 3 ในปี 2010 เป็นต้นมา ก็ไม่มีอนิเมชั่นเรื่องไหนทำรายได้เกินหน้า Despicable Me 2 ได้เลยซักเรื่อง!
--------------------------------------------------------------------

อันดับ 3 Turbo





ถึงแม้เรื่องราวจะรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ แต่ความแรงระดับเทอร์โบของหอยทากนักซิ่ง ก็ยังไม่เพียงพอกับการเปิดตัวครองแชมป์ หรือแซงหน้าอนิเมชั่นตัวเหลืองได้ ทำได้ดีที่สุดเพียง $21.5 ล้านในอันดับ 3 ของสุดสัปดาห์นี้เท่านั้น!

การเปิดตัว $21.5 ล้านของ Turbo ถือเป็นความล้มเหลวของดรีมเวิร์คส์อนิเมชั่น เพราะถือเป็นรายได้เปิดตัวที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ $18.8 ของ Flushed Away ในปี 2006 เป็นต้นมาเลยทีเดียว!

แต่เมื่อหนังเปิดตัวก่อนใครในวันพุธ ทำให้รายได้เริ่มต้นเขยิบขึ้นไปอยู่ที่ $31.2 ล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าอนิเมชั่นจากดรีมเวิร์คส์ในปีที่แล้วอย่าง Rise of the Guardians ($32.3 ล้านจากรายได้ 5 วัน) อยู่เล็กน้อย

ความล้มเหลวในการเปิดตัวของ Turbo วิเคราะห์ได้ว่า หนังได้วันเปิดตัวที่ไม่เหมาะสม เพราะเปิดตัวท่ามกลางความแรงของ 2 อนิเมชั่นคู่แข่ง ซึ่งได้แก่ Monsters University ของดิสนีย์-พิกซาร์ และ Despicable Me 2 ของยูนิเวอร์แซล ซึ่งสองเรื่องคู่แข่งนี้ ดึงกลุ่มคนดูครอบครัวไปเกือบหมดแล้ว

นอกจากนี้การโปรโมทของ Turbo ก็ไม่ได้ช่วยให้กลุ่มคนดูครอบครัว หันมาต้อนรับหอยทากนักซิ่งตัวนี้เท่าไร นั่นจึงเป็นความพ่ายแพ้ที่หนังภาคต่อจะต้องกลับไปคิดมาใหม่ให้รอบคอบ

วิเคราะห์กลุ่มคนดู กลุ่มคนดูผู้หญิงและผู้ชายอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันครึ่งต่อครึ่ง กลุ่มคนดูทั้งหมดมีอายุต่ำกว่า 25 ปีประมาณ 55%

ความน่าจะเป็นของรายได้คือ Turbo น่าจะทำรายได้ไปจบที่ราวๆ $100 ล้าน ก่อนที่จะมีอนิเมชั่นคู่แข่ง The Smurfs 2 จากโซนี่ เข้ามาแย่งตลาดไปอีกเรื่อง
--------------------------------------------------------------------

อันดับ 4 Grown Ups 2





สุดสัปดาห์ที่ 2 ของการฉาย Grown Ups 2 ร่วงลงมาอยู่อันดับ 4 ทำรายได้เพิ่มไปที่ $20 ล้าน รวมรายได้ตอนนี้อยู่ที่ $79.5 ล้าน

รายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ของ Grown Ups 2 ถือว่าเป็นรายได้ที่ตกลงน้อยกว่าภาคแรก ซึ่งความน่าจะเป็นต่อจากนี้คือ หนังจะทำรายได้ข้ามหลัก $100 ล้านในอีกไม่นาน และน่าจะจบด้วยตัวเลขที่สูงกว่าภาคแรกในท้ายที่สุด
--------------------------------------------------------------------

อันดับ 5 Red 2





ผลงานแอ๊กชั่นวัยดึกภาคต่อของไลออนเกตส์ เปิดตัว $18.5 ล้าน เป็นตัวเลขที่ทำได้น้อยกว่าภาคแรกที่เคยทำไว้ $21.8 ล้านในเดือนตุลาคมปี 2010

รายได้เปิดตัวที่น้อยลง เป็นในรูปแบบเดียวกับ The Expendables 2 ที่ทำได้น้อยกว่าภาคแรกเช่นเดียวกัน นั่นอาจจะเป็นเพราะหนังมีความคล้ายคลึงกัน คนดูเลยเริ่มจะอิ่มตัวในการดูคนวัยดึกมาแอ๊กชั่นให้ดู

วิเคราะห์กลุ่มคนดู เป็นอย่างที่ชื่อหนังว่าไว้ เพราะกลุ่มคนดู Red 2 มีอายุมากกว่า 35 ปีสูงถึง 67% โดยกลุ่มผู้ชมผู้ชายให้การต้อนรับมากกว่าผู้หญิง คิดเป็น 52% ต่อ 48% ตามลำดับ

ความน่าจะเป็นสำหรับรายได้รวมของ Red 2 คือ หนังจะทำรายได้รวมน้อยกว่าภาคแรก เพราะกระแสปากต่อปากที่เคยใช้ได้ในภาคแรก คงจะใช้ไม่ได้สำหรับหนังภาคนี้
--------------------------------------------------------------------

อันดับ 6 Pacific Rim





หลังจากที่เปิดตัวน่าผิดหวังในสุดสัปดาห์ที่แล้ว Pacific Rim ก็ได้รับการคาดหมายว่า อาจจะกระเตื้องรายได้ในสุดสัปดาห์ต่อมา แต่ท้ายที่สุด ผลลัพธ์ก็ออกมาว่าหนังทำรายได้ตกลงสูงถึง 57% และร่วงลงมาอยู่ในอันดับ 6 ทันที ทำรายได้เพิ่มไปเพียง $16 ล้าน!

รายได้รวมล่าสุดอยู่ที่ $68.2 ล้าน ซึ่งถือว่าน้อยมาก แต่รายได้นอกอเมริกากลับสวนทาง เพราะล่าสุดกวาดไปแล้วกว่า $110 ล้าน และกำลังจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากตลาดใหญ่ๆนอกอเมริกาอย่าง ญี่ปุ่น, จีน และสเปน ยังไม่เปิดตัว

ถึงรายได้ในอเมริกาจะน้อยจนน่าใจหาย แต่เมื่อรายได้นอกอเมริกามาช่วยกระเตื้องได้อย่างดี Pacific Rim 2 ก็เริ่มมีการวางแผนการสร้างแล้ว
--------------------------------------------------------------------

อันดับ 7 R.I.P.D.





เป็นผลงานใหม่ที่เปิดตัวได้น่าสงสารที่สุด สำหรับ R.I.P.D. ที่เปิดตัวด้วยตัวเลขเพียง $12.8 ล้าน จากทุนสร้างที่สูงถึง $130 ล้าน!

การเปิดตัวของ R.I.P.D. อยู่ในระดับเดียวกับ The Watch เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา (ซึ่งรายได้เปิดตัวของ The Watch ที่ตัวเลข $12.8 ล้าน เป็นหนึ่งในรายได้เปิดตัวที่น่าผิดหวังที่สุดประจำซัมเมอร์ 2012) นอกจากนี้การเปิดตัว $12.8 ล้านของ R.I.P.D. เป็นรายได้เปิดตัวที่แย่ที่สุดสำหรับที่มีทุนสร้างเกิน $100 ล้านประจำปีนี้!

วิเคราะห์กลุ่มผู้ชม เป็นกลุ่มผู้ชมผู้ชายกว่า 53% และจากกลุ่มผู้ชมทั้งหมด มีอายุมากกว่า 25 ปีอยู่ประมาณ 57%

คะแนนเปิดตัวสำหรับหนังเรื่องนี้ถือว่าแย่ยิ่งกว่ารายได้เปิดตัวซะอีก เพราะในเว็บมะเขือเน่าก็ได้คะแนนต่ำกว่า 20% ซึ่งกระแสปากต่อปากก็คงจะฉุดรายได้ของหนังในสุดสัปดาห์ต่อจากนี้แน่ๆ และทำให้หนังหลุดจากโรงไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว

เป็นความผิดหวังของสตูดิโอยูนิเวอร์แซล ที่มี Fast & Furious 6 และ Despicable Me 2 โกยรายได้รวมกันเกิน $1.5 พันล้าน แต่กลับได้ R.I.P.D. มาเป็นความล้มเหลวในมือ

สตูดิโอยูนิเวอร์แซลสร้างสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในการทำรายได้รวมเกิน $1 พันล้าน ในเวลาที่เร็วกว่าปีที่แล้ว โดยปีที่แล้วทำได้ในเดือนสิงหาคม
--------------------------------------------------------------------

... อันดับ 23 Only God Forgives





ผลงานที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราสุดสัปดาห์นี้ ก็เปิดตัวในอเมริกาเช่นกัน โดยได้โรงฉายเปิดตัว 78 โรงฉาย ทำรายได้ไปที่ตัวเลข $3.2 แสน ซึ่งถือว่าไม่ใช่การเปิดตัวที่ดีเท่าไร เพราะมีรายได้เฉลี่ยต่อโรงเพียง $4,038 เท่านั้น!
--------------------------------------------------------------------

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่