วันนี้ถ้าใครไม่ได้ดูก็นอกจากไม่ได้ดูการขึ้นโพเดียม, อากอส-ชิมาโน่ หักเหลี่ยม โอเมก้า-ฟามาร์ ได้อีกแล้ว, และฟรูมขี่ไปกระดกแชมเปญไป(แบบดูแล้วคงไม่ค่อยอยากเท่าไร) แล้วก็คงไม่ได้พลาดอะไรไปอีกแล้ว
เพราะวันนี้ออกสตาร์ทอย่างไร้บรรยากาศของการแข่งขันอย่างสิ้นเชิงเลยครับ เป็นวันที่ได้บรรยากาศการ "ทัวร์" เป็นอย่างยิ่ง ไม่ก้มหน้าก้มตาขี่แบบวันอื่น ชมทางเข้าปารีสไปเรื่อยๆ ไม่มีตัวหนี ไม่ต้องไล่ใคร ระหว่างทางมีให้ 2 คะแนนที่ไม่มีใครเอา
มีทั้งเล่นกับกล้อง เล่นกับคนดูข้างทาง หาที่ตรงถนนว่างๆหน่อยจัดท่าทีมถ่ายรูปเล่นกันก็มี (อันนี้สกายเองก็ทำ ตอนเข้าเส้นชัย ส่วนทีมอื่นก็รู้งานพยายามไม่เข้ากล้องกัน รูปทีมจะได้หล่อๆ)
ส่วนฟรูมนั้นอยู่ไปทั่วในเปโลตอง เพราะต้องรับการแสดงความยินดีจากเพื่อนๆครับ ถ้าพลาดไม่ได้ดูแล้วคิดไม่ออก ลองนึกภาพ ส.ส.เดินสายหลังสอบได้หรือ นางงามตระเวนขอบคุณสปอนเซอร์ดูครับ อารมณ์ประมาณนั้น จริงๆแล้วถ้ามีใครอ่านปากฟรูมได้ แล้วได้ความแบบพวก "หนูรักเด็ก" หรือ "ฝันอยากให้โลกสงบสุขค่ะ" หรืออะไรประมาณนี้ผมคงไม่แปลกใจนัก แต่ที่ผมฮาคือมีใครไม่รู้เอาแชมเปญไปให้พี่แกแก้วนึง ภาระเลยทีนี้ ต้องขี่ไปประคองแก้วไปจิบไป หน้าตาแบบว่าขัดไม่ได้ กว่าจะกระดกหมดก็พักนึงเลย
กว่าจะมาแข่งกันจริงๆก็อีกไม่กี่โลจะเข้าเส้นชัยครับ วันนี้ส่วนมากไม่เอาแล้ว เหลือแต่ทีมสปริ๊นท์ ที่เงียบดูทีมลุ้นเวลารวมโชว์มาหลายวันที่ยังต้องทำงานอยู่
เต็งจ๋าคือ มาร์ค คาเวนดิช ส่วน ซากัน ที่ความเร็วระยะสั้นเป็นรอง (แต่คว้าเสื้อเขียวไปแล้ว แบบแต้มขาดกระจุย) ก็ดูจะรู้ตัว ไม่ค่อยเน้น ไปเน้นทำหนวดเขียวเล่นมากกว่า แข่งสปริ๊นท์สเตจนี้แกเอาด้วยแบบ อะ .. ก็ได้ เอาสักหน่อย แล้วแคนนอนเดลก็ส่งแกไม่ค่อยดีด้วย แย่งที่วิ่งกับทีมที่จัดขบวนเทพๆไม่ค่อยได้
เอาเข้าจริงก็ตามนั้นครับ ตัวอื่นไม่สู้ มียิงกันจริงๆคือตัวท็อปสปริ๊นเตอร์ 3 ตัว
ผู้ชนะในการยิงหน้าเส้นอย่างแท้จริงในวันนี้ และในรายการนี้ด้วย เพราะกินไปคนเดียวในสเตจของสปริ๊นเตอร์ถึง 4 สเตจคือ มาร์เซลล์ คิทเทล หนุ่มเยอรมันของอากอส-ชิมาโน่ ผู้นี้นี่เอง วันนี้อันดับ 2 คือ อังเดร ไกรเปล เยอรมันเช่นกัน ส่วน คาร์เวนดิช เข้าที่ 3 เลย
รายการนี้ต้องยอมรับนะครับ ว่าคิทเทลกดคาร์เวนดิชอยู่ ฟอร์มข่มอยู่เล็กน้อย การไปซุ่มซ้อมบนที่สูงส่งผลจริงๆ (ไม่รู้ซ้อมอะไรมั่ง มีต่อยน้ำตกให้ไหลสวนทางกลับแบบชิริวซุ่มฝึกท่ามังกรผงาดโรซันกับผู้เฒ่าไลบร้ามั่งมั้ยก็ไม่ทราบ)
วันนี้ผมหวังให้ตอนท้ายฟรูมออกมาอาละวาดให้ขบวนป่วนเล่นๆแบบสเตจก่อนอยู่เหมือนกัน
แบบว่าใหนๆก็ห้าวเป้งมาขนาดนี้แล้ว สปริ๊นท์แข่งกับสปริ๊นเตอร์แม่มเลย แต่ก็ไม่มี วันนี้ไม่ทำตัวมีปัญหา เรื่อยเปื่อยยันเข้าเส้น
ตานี่ก็แปลกนะครับ คำพูดดูเป็นคนเรียบร้อย ท่าทางขี้อาย ดูไม่ดุดัน แต่อย่าให้ขึ้นเจ้า Dogma คู่ขาเชียว ประมาณทหารมองโกลได้ขึ้นม้าเลย พ่อโชว์โหดบู๊กระจายทันที
แต่นักแข่งแบบนี้ก็ดูสนุกดีนะ ไม่มีบังทรง ไม่ค่อยหลบ ฟรูมออกจากแถวมาวัดพลังด้วยอยู่เสมอ ขึ้นเขานี่เขายากที่ไรแกออกมายิงแทบตลอดเลย (สเตจแรกๆก็เคยทำนะครับ แต่เหมือนโดนเรียกกลับหรือ ออกมาโชว์เล่นๆ) แม้จะไม่ต้องทำอะไรก็ได้ก็ยังออกมาลุยกับชาวบ้านแบบมันหยดให้ดู ทัวร์เลยมีสีสันอยู่ตลอด
ผมคิดว่า คริสโตเฟอร์ ฟรูมคว้าเสื้อเหลืองครั้งที่ 100 ไปอย่างสมศักดิ์ศรีเป็นอย่างยิ่ง
TDF ครั้งนี้ในความเห็นผม สิงโตขาวแห่งเคนย่าคนนี้ก็เหมาะสมที่สุดแล้วครับ
TDF วันสุดท้าย ขบวนหวานเย็น, ความสำเร็จของแม่ทัพสไตล์ห้าวหาญ และ Made in Germany การันตีคุณภาพเสมอครับ
เพราะวันนี้ออกสตาร์ทอย่างไร้บรรยากาศของการแข่งขันอย่างสิ้นเชิงเลยครับ เป็นวันที่ได้บรรยากาศการ "ทัวร์" เป็นอย่างยิ่ง ไม่ก้มหน้าก้มตาขี่แบบวันอื่น ชมทางเข้าปารีสไปเรื่อยๆ ไม่มีตัวหนี ไม่ต้องไล่ใคร ระหว่างทางมีให้ 2 คะแนนที่ไม่มีใครเอา
มีทั้งเล่นกับกล้อง เล่นกับคนดูข้างทาง หาที่ตรงถนนว่างๆหน่อยจัดท่าทีมถ่ายรูปเล่นกันก็มี (อันนี้สกายเองก็ทำ ตอนเข้าเส้นชัย ส่วนทีมอื่นก็รู้งานพยายามไม่เข้ากล้องกัน รูปทีมจะได้หล่อๆ)
ส่วนฟรูมนั้นอยู่ไปทั่วในเปโลตอง เพราะต้องรับการแสดงความยินดีจากเพื่อนๆครับ ถ้าพลาดไม่ได้ดูแล้วคิดไม่ออก ลองนึกภาพ ส.ส.เดินสายหลังสอบได้หรือ นางงามตระเวนขอบคุณสปอนเซอร์ดูครับ อารมณ์ประมาณนั้น จริงๆแล้วถ้ามีใครอ่านปากฟรูมได้ แล้วได้ความแบบพวก "หนูรักเด็ก" หรือ "ฝันอยากให้โลกสงบสุขค่ะ" หรืออะไรประมาณนี้ผมคงไม่แปลกใจนัก แต่ที่ผมฮาคือมีใครไม่รู้เอาแชมเปญไปให้พี่แกแก้วนึง ภาระเลยทีนี้ ต้องขี่ไปประคองแก้วไปจิบไป หน้าตาแบบว่าขัดไม่ได้ กว่าจะกระดกหมดก็พักนึงเลย
กว่าจะมาแข่งกันจริงๆก็อีกไม่กี่โลจะเข้าเส้นชัยครับ วันนี้ส่วนมากไม่เอาแล้ว เหลือแต่ทีมสปริ๊นท์ ที่เงียบดูทีมลุ้นเวลารวมโชว์มาหลายวันที่ยังต้องทำงานอยู่
เต็งจ๋าคือ มาร์ค คาเวนดิช ส่วน ซากัน ที่ความเร็วระยะสั้นเป็นรอง (แต่คว้าเสื้อเขียวไปแล้ว แบบแต้มขาดกระจุย) ก็ดูจะรู้ตัว ไม่ค่อยเน้น ไปเน้นทำหนวดเขียวเล่นมากกว่า แข่งสปริ๊นท์สเตจนี้แกเอาด้วยแบบ อะ .. ก็ได้ เอาสักหน่อย แล้วแคนนอนเดลก็ส่งแกไม่ค่อยดีด้วย แย่งที่วิ่งกับทีมที่จัดขบวนเทพๆไม่ค่อยได้
เอาเข้าจริงก็ตามนั้นครับ ตัวอื่นไม่สู้ มียิงกันจริงๆคือตัวท็อปสปริ๊นเตอร์ 3 ตัว
ผู้ชนะในการยิงหน้าเส้นอย่างแท้จริงในวันนี้ และในรายการนี้ด้วย เพราะกินไปคนเดียวในสเตจของสปริ๊นเตอร์ถึง 4 สเตจคือ มาร์เซลล์ คิทเทล หนุ่มเยอรมันของอากอส-ชิมาโน่ ผู้นี้นี่เอง วันนี้อันดับ 2 คือ อังเดร ไกรเปล เยอรมันเช่นกัน ส่วน คาร์เวนดิช เข้าที่ 3 เลย
รายการนี้ต้องยอมรับนะครับ ว่าคิทเทลกดคาร์เวนดิชอยู่ ฟอร์มข่มอยู่เล็กน้อย การไปซุ่มซ้อมบนที่สูงส่งผลจริงๆ (ไม่รู้ซ้อมอะไรมั่ง มีต่อยน้ำตกให้ไหลสวนทางกลับแบบชิริวซุ่มฝึกท่ามังกรผงาดโรซันกับผู้เฒ่าไลบร้ามั่งมั้ยก็ไม่ทราบ)
วันนี้ผมหวังให้ตอนท้ายฟรูมออกมาอาละวาดให้ขบวนป่วนเล่นๆแบบสเตจก่อนอยู่เหมือนกัน
แบบว่าใหนๆก็ห้าวเป้งมาขนาดนี้แล้ว สปริ๊นท์แข่งกับสปริ๊นเตอร์แม่มเลย แต่ก็ไม่มี วันนี้ไม่ทำตัวมีปัญหา เรื่อยเปื่อยยันเข้าเส้น
ตานี่ก็แปลกนะครับ คำพูดดูเป็นคนเรียบร้อย ท่าทางขี้อาย ดูไม่ดุดัน แต่อย่าให้ขึ้นเจ้า Dogma คู่ขาเชียว ประมาณทหารมองโกลได้ขึ้นม้าเลย พ่อโชว์โหดบู๊กระจายทันที
แต่นักแข่งแบบนี้ก็ดูสนุกดีนะ ไม่มีบังทรง ไม่ค่อยหลบ ฟรูมออกจากแถวมาวัดพลังด้วยอยู่เสมอ ขึ้นเขานี่เขายากที่ไรแกออกมายิงแทบตลอดเลย (สเตจแรกๆก็เคยทำนะครับ แต่เหมือนโดนเรียกกลับหรือ ออกมาโชว์เล่นๆ) แม้จะไม่ต้องทำอะไรก็ได้ก็ยังออกมาลุยกับชาวบ้านแบบมันหยดให้ดู ทัวร์เลยมีสีสันอยู่ตลอด
ผมคิดว่า คริสโตเฟอร์ ฟรูมคว้าเสื้อเหลืองครั้งที่ 100 ไปอย่างสมศักดิ์ศรีเป็นอย่างยิ่ง
TDF ครั้งนี้ในความเห็นผม สิงโตขาวแห่งเคนย่าคนนี้ก็เหมาะสมที่สุดแล้วครับ