คำสอนจากหลวงปู่บุดดา

กระทู้สนทนา

หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญ จ.สิงห์บุรี
อุปสมบทเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2465 ณ วัดเนินยาว จ.ลพบุรี มรณภาพเมื่อวันที่12 ม.ค. 2537 สิริรวมอายุ 101ปี7วัน 73พรรษา

หลวงปู่เป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านเคยพบปะสนทนากับครูบาอาจารย์ที่เป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่นอยู่เสมอ อย่างเช่น หลวงปู่สิม
ซึ่งหลวงปู่บุดดาออกปากชมต่อคณะศิษยานุศิษย์ว่า "เรื่องธุดงค์เข้าป่าลึกและนานกันแล้ว ท่านสู้อาจาย์สิมองค์นี้ไม่ได้"
ด้วยภูมิธรรมปัญญาของท่าน เมื่อผู้ใดสอบถามปัญหาเกี่ยวกับธรรมะหลวงปู่ท่านก็จะตอบอย่างจะแจ้ง ดังที่จะยกมาบางส่วน

เกาะชายจีวร
ในวันหนึ่งมีผู้ศรัทธาหลายท่านได้มากราบหลวงปู่ มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 40ปีกว่าเข้ามากราบหลวงปู่ด้วยความศรัทธา แล้วถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่เจ้าึคะ ลูกจะขอเกาะชายจีวรหลวงปู่ไปนิพพานด้วยคน นะเจ้าคะ"  หลวงปู่หันมาพูดตอบว่า "ขี้แทนกันได้หรือเปล่าล่ะ"

สึกทำไม
พระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง บวชธุดงค์กรรมฐานได้หลายพรรษาแล้ว เกิดร้อนผ้าเหลืองมีความปราถนาอยากจะสึกมาก เพื่อไปแต่งงาน บอกหลวงปุ่ครับผมจะสึก หลวงปู่ก็ถามเหตุผล ภิกษุหนุ่มก็อ้างเหตุผลต่างๆนานา ตอนหนึ่งหลวงปู่ให้โอวาทว่า
"สึกทำไม พระ เณรสึกทำไม เปลืองข้าววัดไม่แล้ว ยังจะเปลืองข้าวพ่อแม่อีก ยังจะให้พ่อแม่หาเมียให้ด้วย โอ่โธ่ นึกว่าจะไปช่วยทำงาน กลับไปช่วยเสียเงินเสียทองอีก พวกโกหกตัวเองนิ โกหกพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ด้วย เพราะฉะนั้นอย่าหัดโกหกเลย ถ้าไม่รู้บวชเพื่ออะไรแล้วจะบวชทำไม บวชโง่ๆงั่งๆบวชทำไมล่ะ เกะกะบ้านเมืองเขา บวชแล้วต้องฉลาดสิ"

พระธุดงค์
มีพระกลุ่มหนึ่งจะออกธุดงค์ก็ได้มากราบขอพรหลวงปู่และขอคำแนะนำก่อนที่จะไปธุดงค์ หลวงปู่ก็ให้โอวาทว่า "เข้าป่าก็ให้เข้าป่าเป็นปัญญา เข้าป่าโง่ๆก็เป็นถูดงค์ ไม่ใช่ธุดงค์นะ"

เกิดมาเพื่อดับกิเลสตนเอง
นักศึกษาคนหนึ่งได้เรียนถามหลวงปู่ว่า "คนเราเกิดมาเพื่ออะไรคะ"
หลวงปู่ตอบว่า "เกิดมาเพื่อดับกิเลสตนเองซิ ให้ละกามเด็ดขาดในภพนี้ตัดให้ขาดจากการเป็นของคู่ ปุถุชนเต็มชั้นหนาด้วยกิเลส ได้แต่ศึกษาไม่นำมาปฏิบัติแล้วจะรู้แจ้งอย่างไรเล่า  เกิดมาทำไมให้ต้องวนเวียน เกิดแล้วตายไม่สิ้นสุดจะเอาอีกหรือ เราชาวพุทธให้เร่งเจริญอริยมรรค4 อริยผล4 ศาสนาอยู่ที่ขันธ์5ไม่ได้อยู่ที่อื่นเลย  คนอื่นทุกคนล้วนเป็นอาจารย์ของเรา ทดสอบเราทั้งดีทั้งชั่ว  เมื่อเรามีสังขารครบบริบูรณ์แล้ว อย่าได้ทับโลกุตรธรรมเลย อย่ามัวแบกทุกข์อวิชชาอยู่เลย  อย่าได้ประมาทนิ่งนอนใจนะ ขอให้สำรวมกาย วาจา ใจให้เต็มตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ  ให้ศรัทธามั่นในโลกุตตรธรรม จะได้รู้แจ้งธรรมพ้นเกิด แก่ เจ็บ ตาย"

ธรรมะของใคร
ญาติโยมคณะหนึ่ง เป็นกลุ่มที่ชอบแสวงหาหลวงปู่หลวงพ่อ ที่ว่าดัง เทศน์ดี ปฏิบัติดี ธรรมะดี โยมคณะนี้ก็จะพากันไปกราบไหว้ทำบุญ ไปฟังเทศน์และปฎิบัติ ระหว่างทางก็พูดคุยวิจารณ์เรื่องธรรมะของอาจารย์องค์นั้นองค์นี้ เมื่อมาถึงวัดหลวงปู่ ทุกคนก็เข้าไปกราบหลวงปู่ หลวงปู่ก็พูดว่า "ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ธรรมะของเรานะ ธรรมะของเราจะมีอะไร"

แย่งกระดูกกัน
หลวงปู่ท่านเปรยๆขึ้นในวันหนึ่งถึงพวกญาติโยมที่ไปเผาศพพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ก็ชอบที่จะขอพระธาตุกันมาเก็บเอาไว้ หลวงปู่ท่านพูดว่า
"ธรรมะมันไม่เอา มันจะเอาแต่กระดูก จะรบราฆ่าฟันกันก็เพราะกระดูก น่าสังเวช"

นางงาม
วันหนึ่งหลังจากว่างจากรับญาติโยมแล้ว อุบาสกคนหนึ่งก็คุยให้หลวงปู่ฟังเรื่องนางงาม หลวงปู่ก็เปรยๆขึ้นมาว่า
"เกิดมา90ปี แล้วไม่เห็นมีนางงาม รูปเหม็นๆเน่าๆมีแต่ขี้ พระเอกนางเอกไม่มีหรอก มีแต่พระเอกขี้ นางเอกขี้ ขี้เต็มตัว เต็มหู เต็มตา จะไปเอานางเอกที่ไหน เลือกเอาแต่ธรรมะสิ"

กรรมฐานอย่าเลือกกิน
มีพระธุดงค์กรรมฐานกลุ่มหนึ่ง มากราบหลวงปู่เพื่อขอโอวาท หลวงปู่ก็ได้ให้โอวาทในตอนหนึ่งว่า
"พระกรรมฐานอย่าเลือกกิน จะกินแล้ง กินแห้ง กินหวาน กินคาว มันเป็นอาหารทั้งนั้น ข้าวเจ้าจะไปเลือกทำไมข้าวเหนียวจะไปเลือกทำไม กินข้าวสุกต่างหาก อย่ากินข้าวดิบ เดี๋ยวกินเจเดี๋ยวกินเนื้ิอเดี๋ยวกินอย่างโน้น กินอย่างนี้นั่นกินตามสมมติ กินอาหารตามมีตามได้ ไม่ใข่กินผักกินเนื้อ"



"อดีตจะรู้ไปทำไม อนาคตจะรู้ไปทำไม รู้ปัจจุบันสิ จึงจัฃะตัดกิเลสและหมดทุกข์ได้"

"ไม่ว่าบรรพชิตคฤหัสถ์ก็ตามอาจพ้นทุกข์ด้วยกัน ต่างกันก็แต่จะช้าหรือเร็ว"

"ต้องรู้ว่าทุกข์แต่ไม่ยึดถือ รู้ว่าสุขแต่ไม่ยึดถือ"

"รู้จักทุกข์แล้วปล่อยทุกข์ซะ"

"คนนอนหลับไม่ยึดถือ พอตื่นขึ้นเท่านั้นแหละ นั่นก็ของเรานี่ก็ของเรา"

"กายสงบ จิตก็สงบ มันต้องอยู่ด้วยกัน"

"ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ทำบาปก็เป็นบุญอยู่แล้ว"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่