เคยไหมคะ? เราก็อยู่ของเราดีๆ แต่จู่ๆก็มีผดผื่นคันเล็กๆ แดงๆ ขึ้นมากวนใจบนใบหน้า
แถมจะมาทีนึงยังไม่มาคนเดียว แบกพรรคพวกแห่มากันเป็นปื้น ให้เราเกาเล่นสนุกสนาน
อ่านๆแล้วอาจดูไม่แย่่เท่าไหร่ แต่ความจริงแล้วเป็นปัญหาสลัดไม่หลุดเลยสำหรับบางคน
และพลอยเองก็เป็นหนึ่งในนั้น กลุ่มผดเจ้าปัญหา ทั้งสร้างความรำคาญและก่อความไม่มั่นใจ
ยิ่งทิ้งไว้นานยิ่งคัน ยิ่งอยากเอามือไปถูให้หาย กลายเป็นว่ามีสิวอักเสบพ่วงตามมาอีก เพราะความสกปรก หมักหมม
ต้องยอมรับเลยค่ะ ว่ามีเป็นอีกคนหนี่งท่ีมีช่วง “หน้าพัง”
ยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น ออกไปไหนไม่ได้ รูปห้ามถ่าย แม้กระจกยังไม่อยากจะมอง
และต้นเหตุทั้งหลายทั้งปวงก็เริ่มมาจากผื่นคันพวกนี้ และ ….ครีมเสตียร์รอยด์
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า
ไม่ได้มาโจมตีหรืออะไรทั้งสิ้น
ยาตัวนี้เป็นยาที่ดีและจะมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากหากผู้ใช้ ใช้ในทางที่ถูกต้อง
ซึ่งเป็นสิ่งที่พลอยไม่ได้ทำในตอนนั้น จึงเกิดอาการ “บานปลาย” ไปมาก อย่างที่เห็น
ครีมเสตียร์รอยด์โดยปรกติแล้วแพทย์จะแนะนำให้ใช้ได้ ในระยะเวลา 3-7วัน
ไม่ควรทาเกินกว่านั้น เพราะอาจเกิดอาการติด(หนึบ) และดื้อยาได้ ….
พลอยได้รับยาตัวนี้มารักษาอาการผดผื่นที่ได้อธิบายไว้ตรงข้างต้น
เป็นยาที่ยิ่งกว่ายาวิเศษ แตะนิดเดียวบนแก้ม (แต่คนมือหนักอย่างเรา ละเลงค่ะ) สิวผดหายแว๊บภายในคืนเดียว
ด้วยความที่ยังรู้ไม่เท่าทัน ไอ้เราแทนที่จะเอะใจ ก็กลับนึกว่า นี่แหละ! ยาวิเศษ …..
*ภาพที่โชว์ข้างบน คือภาพที่ผ่านการรักษามาบ้างแล้ว และไม่ใช่ตอนที่เป็นหนักที่สุดจริงๆ
แต่เป็นสิ่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ เพราะขณะที่เป็นงดถ่ายรูป จิตตกรุนแรง เลยเอามาให้ดูกันได้เพียงเท่านี้นะคะ
*กระทู้นี้
รีวิวจากประสบการณ์ส่วนตัว ข้อมูลต่างๆล้วนมาจากการค้นคว้าของจขกท.ทั้งสิ้น
ซึ่งหากมี
ข้อผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
*ขอโทษด้วยนะคะที่
รูปภาพติดเครดิตทั้งหมด เพราะที่ผ่านมามีการนำรูปภาพไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
หากก่อให้เกิดความรำคาญแต่อย่างใด ก็ขอความกรุณาทุกท่านให้เข้าใจ และหยุดอ่านแต่เพียงเท่านี้ค่ะ เพราะภาพต่อๆไปจะมีอีกตลอด
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าครีมเสตียร์รอยด์ทำงานอย่างไร
ถ้าจะให้พูดอย่างคร่าวๆ
เสตียร์รอยด์ทาหน้า มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันบนผิวหน้าของเรา
ซึ่งโดยปรกติแล้ว เวลาเราสัมผัสสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคือง
เม็ดเลือดขาวก็จะถูกเรียกมาที่ชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อต่อสู้หรือปล่อยสารต่างๆออกมา
ซึ่งจะนำมาสู่อาการอักเสบ ระคายเคือง ของผิวหนัง : อาการบวม แดง (คัน) เป็นตุ่ม นั่นเอง
โอเคค่ะ พูดแบบนี้น่าเบื่อไปหน่อย
เลยจะขอเปรียบเทียบระบบภูมิคุ้มกันของเรากับกองทัพดาร์ธ เวเดอร์น้อยๆ (เอาก๊ะมันสิ)
ยามปรกติ เหล่าดาร์ธจิ๋วก็ขยันขันแข็ง ออกมาสู้ศัตรู ยิงแก๊สน้ำตา อย่างดุเดือด มีการนองเลือด
ผลที่ตามมาจากแก๊สทำลายล้าง กองเลือด และกองร่างไร้เรี่ยวแรงของดาร์ธที่บาดเจ็บ ก็คือเจ้าตุ่มนูนๆ เจ็บๆคันๆ แดงๆ บนผิวหนังของเรานั่นเอง
การโปะเสตียร์รอยด์เข้าไปบนผิวหน้า ก็เท่ากับการโยนยาสลบเข้าไปในกองทัพที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ทีนี้ กองทัพก็หลับสิคะ ข้าศึกบุกอย่างไร ก็ไร้การตอบโต้
ก็เหมือนกับการกดภูมิคุ้มกันเอาไว้ ความจริงสารระคายเคืิองตัวแสบก็อยู่ตรงนั้นแหละ แต่ผดมันไม่ขึ้น! เพราะระบบมันถูกกดไว้ เลยไม่มีอาการ“แพ้,ระคายเคือง” อย่างที่ควรจะเป็น
ไม่ใช่ว่า เป็นยาวิเศษ ทาปุ๊บหายปั๊บ อย่างที่พลอยเลยคิด มันก็แค่ทำให้เราไม่เห็นอาการเท่านั้นแหละจ้า!
ทีนี้พอเราเลิกยาแล้วเกิดอะไรขึ้น?? ก็นั่นแหละค่า ลองเอาใจเวเดอร์น้อยๆมาใส่ใจเราดูนะคะ
แบบว่า
เขาหลับของเขามานาน อยู่ดีๆจะมาปลุก แล้วดันหลัง(แถมถีบส่ง)ให้เขาไปสู้ศัตรู
มีหรือพวกเขาจะไหว?! ขาดซ้อม ขาดฝึกฝน แถมนอนจนอ้วนพลี ข้าศึกมาก็เป็นต้องล้มพ่าย
และนี่ก็คืออาการ “เซ็นสิทีฟ” แพ้ง๊าย..ยยง่าย ที่ตามมาหลังจากการหย่าเสตียร์รอยด์
ก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ค่ะ หากเราดูแลผิวดีๆ ไม่เอามีสกปรกไปจับหน้า รอเวลาไปสักพัก
ค่อยๆให้ผิวโดนอะไรมากขึ้นทีละนิด ผิวหน้าจะกลับมาแข็งแรงเช่นเดิม
(เหมือนกับการให้เหล่าเวเดอร์ที่อ้วนพลี ขี้เกียจ ได้รับการฝึกฝนใหม่จนชำนาญน่ันแหละจ้า กองทัพใคร กองทัพมันนะ
บางคนเทรนกันนาน บางคนก็ใช้เวลาสั้นๆ อันนี้บอกไม่ได้จริงๆค่ะ)
แล้วทำไม ผิวหน้าของข้าพเจ้าถึงเข้าขั้น “เละ” ??!
ก็อยากจะโทษดินโทษฟ้าเหมือนกันว่าเป็นชะตาลิขิต บททดสอบ (หรือความซวย) แต่ก็รู้อยู่แก่ใจมันไม่ใช่ !!! เล่น
ใช้ยามาติดต่อกัันนานถึง 5ปี (ความจริงควรใช้5วัน) แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่คิดค้นคว้า หลอกตัวเองเอาว่ามันเป็นยาวิเศษ!
กลับมาย้อนนึกดูก็ดีเหมือนกัน ทำให้เราลืมตาตื่นได้ ไม่งั้นคงใช้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น
ความจริงคือ คนส่วนมากมีสิ่งมีชิวิตที่แสนน่าเอ็นดู(?!)ที่เรียกว่า
ไรขน ตั้งรกรากอาศัยอยู่บนผิวหน้ากันอยู่แล้ว โดยเฉพาะท่านที่มีสัตว์เลี้ยง
และคนส่วนมากอีกนั่นแหละ ไม่โชว์อาการแพ้เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้เลย ดูภายนอกปรกติทั้งหมด
เอาแล้วไหมละ? คนอื่นเขาธรรมดา แต่ไอ้คนบ้า(เสตียร์รอยด์)อย่างเรา มีหรือจะรอด ????
เหตุเกิดเมื่อน้องไรขน กับน้องเสตียร์รอยด์ เขามาเจ๊อะกันบนผิวหน้า
โดยปรกติแล้ว คนที่โปะยาเสตียร์รอยด์ทุกวันอย่างพลอย ไม่ควรมีอาการแพ้ ระคาย คัน ใดๆทั้งสิ้น (หรือมีน้อยมาก) หากว่ามีมาก ชนิดว่าคันยิกๆ แสดงว่าคุณกำลังแย่! และใช่ค่ะ ..
ดิฉันตอนนั้น กำลังแย่จริงๆ โดยที่ไม่รู้ตัว !
จะขอเล่าถึงวงจรอุบาทส่วนตัวให้ฟังค่ะ
พลอยใช้เสตียร์รอยด์ แต่
มาเจอไรขนแล้วแพ้รุนแรง เลยเกิดผดผื่นปื้นใหญ่บนใบหน้า
เอาไงล่ะ ตอนนั้นไม่เข้าใจกลไกและฤิทธ์ของมัน เลยตามประสาเด็กว่า
เฮ้ย!เม็ดขึ้นหน้า แบบนี้ต้องโปะยาวิเศษ!
จริงตามทำนาย ผดปื้นน่ากลัวหายในคืนเดียว
โดยที่ไม่รู้เลยว่าภูมิต้านทานที่พยายามสู้ไรขน มันถูกเหยียบ ถูกกดไว้หนักกว่าเดิม !
ผลเป็นอย่างไร ??
ไรขนมันสู้ชนะ แพร่พันธุ์กันสนุก ทีนี้เห่อกว่าเดิมสิคะ หน้างี้คัน เม็ดขึ้นเต็ม
แล้วเด็กหญิงพลอยคิดได้ไหม ??? คำตอบคงไม่ต้องเดา ก็โปะต่อสิคะ
ดิฉันทำแบบนี้เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนผลสุดท้าย โปะเท่าไหร่ สิวผดไม่มีวันยุบ แถมยังเห่อกว่าเดิม
เรียกได้ว่า กู่ไม่กลับแล้วจริงๆ …..
---------------------------
พล่ามมาถึงตอนนี้ ต้องขอเบรคท่านผู้อ่านทุกท่านก่อนนะคะ ว่า
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นเพราะความประมาทของ จขกท. เอง
แรกเริ่มที่ไปหาคุณหมอและได้รับยาเสตียร์รอยด์มาให้ทา คุณหมอใส่ยาไว้ในกระปุก (ซึ่งเป็นปรกติที่ รพ. เขาทำกัน)
และบอกว่า “ทาบริเวณที่เป็น อีก1-2อาทิตย์ดูอาการ”
แต่ด้วยความที่เรายังเด็ก ไม่รู้เท่าทัน ไม่ได้สอบถามว่า
" ยานี้มีสารอะไรบ้างที่หนูควรรู้ไว้คะ ใช้แล้วมีโอกาสดื้อยา หรือติดหรือเปล่า หนูสามารถใช้ต่อเนื่องได้หรือไม่ นานขนาดไหน "
ซึ่งเป็นคำถามที่สำคัญมากๆจริงๆที่ควรถาม เวลาไปหาแพทย์
ผิวเรา หน้าเรา เราต้องสงสัยอยากรู้เข้าไว้ค่ะ พลอยเข้าใจว่าเชื่อใจอาจารย์หมอ
แต่อย่างไรก็ตาม
การสอบถามให้กระจ่างชัดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถึงยาที่เราได้รับมาจะดูไม่น่ามีอะไรก็เถอะ
ถือเสียว่าเป็นการหาความรู้เล็กๆน้อยๆก็ได้ค่ะ
พลอยขอฝากทุกท่านไว้เลยนะคะ สอบถามดีๆ ให้เราเข้าใจหลักการณ์คร่าวๆ และโปรแกรมการรักษาของเราก่อน แล้วค่อยตอบโอเคค่ะ
ตัวพลอยเอง หย่าขาดจากเสตียร์รอยด์มาได้2-3ปีแล้ว แต่ยังมีอาการคั่งค้าง
หน้าแดงง่าย (มาก) มีผื่นคันเม็ดเล็กๆขึ้นมาเป็นปื้น และยังคงมีอาการระคายเคืองง่ายผิดปรกติบ้าง
รูปข้างต้นเป็นรูปจากปัจจุบัน เวลามีอาการเห่อเล็กน้อยค่ะ
---------------------------
พอมาถึงตอนนี้ หน้าเละแล้ว ทำอย่างไร ???? แนวทางการแก้ไข ??
ก็เฉกเช่นทุกปัญหาของชีวิตค่ะ ก่อนที่เราจะมานั่งปวดหัว ความเครียดรุมเร้า
เราก็ต้องวางแผน นั่งไล่ออกมาเป็นข้อๆก่อนว่าฉันเป็นอะไร ยังไง แก้ไขอย่างไรได้บ้าง
ซึ่งผลก็ออกมาดังนี้ค่ะ (ปัญหาผิวของพลอย ณ ตอนนั้น) :
1.ผิวหน้าอ่อนแอติดเสตียร์รอยด์
2. ปัญหาแพ้ไรขน
3. สิวอุดตัน (ที่มาเมื่อไหร่ไม่รู้ จากความสกปรกและไขมันที่ก่อตัว)
4. สิวอักเสบ
(5. สิวเสี้ยน)
หลังจากที่เขียนปัญหาของเราออกมาทั้งหมดแล้ว ก็มาดูหนทางรักษา ประคับประคองกันเถอะค่ะ:
(วิธีรักษาขออนุญาตต่อด้านล่างค่ะ กระทู้ยาวมาก ใส่ในนี้ได้ไม่หมด)
กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้ที่ยาวยืดอีกเช่นเคย
พลอยต้องขอขอบคุณทุกท่านมากๆค่ะ ที่อ่านมาจนถึงตรงนี้
ขอบคุณกำลังใจดีๆ ที่เป็นแรงผลักดันให้พลอยนำเรื่องราวต่างๆมาแชร์กันต่อไป
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านไม่มากก็น้อยค่ะ
หากผิดพลาดประการใดก็บอกได้ค่ะ พลอยยินดีที่จะแก้ไขเสมอ
พลอยขอรบกวนฝาก
FB PAGE และ
INSTAGRAM เอาไว้นะคะ หากท่านใดสนใจ ให้ไลค์ตามความศรัทธาค่ะ (แฮ่ ^^)
---> www.facebook.com/PloyrarinBlog
---> instagram @ploys_r
ต้องขอขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับน้ำใจที่งดงามจากทุกท่าน
แล้วเจอกันค่ะ
ช่วยด้วย! หนูติดยา : เมื่อใบหน้า’ติด’สารเสตียร์รอยด์
แถมจะมาทีนึงยังไม่มาคนเดียว แบกพรรคพวกแห่มากันเป็นปื้น ให้เราเกาเล่นสนุกสนาน
อ่านๆแล้วอาจดูไม่แย่่เท่าไหร่ แต่ความจริงแล้วเป็นปัญหาสลัดไม่หลุดเลยสำหรับบางคน
และพลอยเองก็เป็นหนึ่งในนั้น กลุ่มผดเจ้าปัญหา ทั้งสร้างความรำคาญและก่อความไม่มั่นใจ
ยิ่งทิ้งไว้นานยิ่งคัน ยิ่งอยากเอามือไปถูให้หาย กลายเป็นว่ามีสิวอักเสบพ่วงตามมาอีก เพราะความสกปรก หมักหมม
ต้องยอมรับเลยค่ะ ว่ามีเป็นอีกคนหนี่งท่ีมีช่วง “หน้าพัง”
ยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น ออกไปไหนไม่ได้ รูปห้ามถ่าย แม้กระจกยังไม่อยากจะมอง
และต้นเหตุทั้งหลายทั้งปวงก็เริ่มมาจากผื่นคันพวกนี้ และ ….ครีมเสตียร์รอยด์
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ไม่ได้มาโจมตีหรืออะไรทั้งสิ้น
ยาตัวนี้เป็นยาที่ดีและจะมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากหากผู้ใช้ ใช้ในทางที่ถูกต้อง
ซึ่งเป็นสิ่งที่พลอยไม่ได้ทำในตอนนั้น จึงเกิดอาการ “บานปลาย” ไปมาก อย่างที่เห็น
ครีมเสตียร์รอยด์โดยปรกติแล้วแพทย์จะแนะนำให้ใช้ได้ ในระยะเวลา 3-7วัน
ไม่ควรทาเกินกว่านั้น เพราะอาจเกิดอาการติด(หนึบ) และดื้อยาได้ ….
พลอยได้รับยาตัวนี้มารักษาอาการผดผื่นที่ได้อธิบายไว้ตรงข้างต้น
เป็นยาที่ยิ่งกว่ายาวิเศษ แตะนิดเดียวบนแก้ม (แต่คนมือหนักอย่างเรา ละเลงค่ะ) สิวผดหายแว๊บภายในคืนเดียว
ด้วยความที่ยังรู้ไม่เท่าทัน ไอ้เราแทนที่จะเอะใจ ก็กลับนึกว่า นี่แหละ! ยาวิเศษ …..
*ภาพที่โชว์ข้างบน คือภาพที่ผ่านการรักษามาบ้างแล้ว และไม่ใช่ตอนที่เป็นหนักที่สุดจริงๆ
แต่เป็นสิ่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ เพราะขณะที่เป็นงดถ่ายรูป จิตตกรุนแรง เลยเอามาให้ดูกันได้เพียงเท่านี้นะคะ
*กระทู้นี้รีวิวจากประสบการณ์ส่วนตัว ข้อมูลต่างๆล้วนมาจากการค้นคว้าของจขกท.ทั้งสิ้น
ซึ่งหากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
*ขอโทษด้วยนะคะที่รูปภาพติดเครดิตทั้งหมด เพราะที่ผ่านมามีการนำรูปภาพไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
หากก่อให้เกิดความรำคาญแต่อย่างใด ก็ขอความกรุณาทุกท่านให้เข้าใจ และหยุดอ่านแต่เพียงเท่านี้ค่ะ เพราะภาพต่อๆไปจะมีอีกตลอด
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าครีมเสตียร์รอยด์ทำงานอย่างไร
ถ้าจะให้พูดอย่างคร่าวๆ เสตียร์รอยด์ทาหน้า มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันบนผิวหน้าของเรา
ซึ่งโดยปรกติแล้ว เวลาเราสัมผัสสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคือง
เม็ดเลือดขาวก็จะถูกเรียกมาที่ชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อต่อสู้หรือปล่อยสารต่างๆออกมา
ซึ่งจะนำมาสู่อาการอักเสบ ระคายเคือง ของผิวหนัง : อาการบวม แดง (คัน) เป็นตุ่ม นั่นเอง
โอเคค่ะ พูดแบบนี้น่าเบื่อไปหน่อย
เลยจะขอเปรียบเทียบระบบภูมิคุ้มกันของเรากับกองทัพดาร์ธ เวเดอร์น้อยๆ (เอาก๊ะมันสิ)
ยามปรกติ เหล่าดาร์ธจิ๋วก็ขยันขันแข็ง ออกมาสู้ศัตรู ยิงแก๊สน้ำตา อย่างดุเดือด มีการนองเลือด
ผลที่ตามมาจากแก๊สทำลายล้าง กองเลือด และกองร่างไร้เรี่ยวแรงของดาร์ธที่บาดเจ็บ ก็คือเจ้าตุ่มนูนๆ เจ็บๆคันๆ แดงๆ บนผิวหนังของเรานั่นเอง
การโปะเสตียร์รอยด์เข้าไปบนผิวหน้า ก็เท่ากับการโยนยาสลบเข้าไปในกองทัพที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ทีนี้ กองทัพก็หลับสิคะ ข้าศึกบุกอย่างไร ก็ไร้การตอบโต้
ก็เหมือนกับการกดภูมิคุ้มกันเอาไว้ ความจริงสารระคายเคืิองตัวแสบก็อยู่ตรงนั้นแหละ แต่ผดมันไม่ขึ้น! เพราะระบบมันถูกกดไว้ เลยไม่มีอาการ“แพ้,ระคายเคือง” อย่างที่ควรจะเป็น
ไม่ใช่ว่า เป็นยาวิเศษ ทาปุ๊บหายปั๊บ อย่างที่พลอยเลยคิด มันก็แค่ทำให้เราไม่เห็นอาการเท่านั้นแหละจ้า!
ทีนี้พอเราเลิกยาแล้วเกิดอะไรขึ้น?? ก็นั่นแหละค่า ลองเอาใจเวเดอร์น้อยๆมาใส่ใจเราดูนะคะ
แบบว่าเขาหลับของเขามานาน อยู่ดีๆจะมาปลุก แล้วดันหลัง(แถมถีบส่ง)ให้เขาไปสู้ศัตรู
มีหรือพวกเขาจะไหว?! ขาดซ้อม ขาดฝึกฝน แถมนอนจนอ้วนพลี ข้าศึกมาก็เป็นต้องล้มพ่าย
และนี่ก็คืออาการ “เซ็นสิทีฟ” แพ้ง๊าย..ยยง่าย ที่ตามมาหลังจากการหย่าเสตียร์รอยด์
ก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ค่ะ หากเราดูแลผิวดีๆ ไม่เอามีสกปรกไปจับหน้า รอเวลาไปสักพัก
ค่อยๆให้ผิวโดนอะไรมากขึ้นทีละนิด ผิวหน้าจะกลับมาแข็งแรงเช่นเดิม
(เหมือนกับการให้เหล่าเวเดอร์ที่อ้วนพลี ขี้เกียจ ได้รับการฝึกฝนใหม่จนชำนาญน่ันแหละจ้า กองทัพใคร กองทัพมันนะ
บางคนเทรนกันนาน บางคนก็ใช้เวลาสั้นๆ อันนี้บอกไม่ได้จริงๆค่ะ)
แล้วทำไม ผิวหน้าของข้าพเจ้าถึงเข้าขั้น “เละ” ??!
ก็อยากจะโทษดินโทษฟ้าเหมือนกันว่าเป็นชะตาลิขิต บททดสอบ (หรือความซวย) แต่ก็รู้อยู่แก่ใจมันไม่ใช่ !!! เล่นใช้ยามาติดต่อกัันนานถึง 5ปี (ความจริงควรใช้5วัน) แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่คิดค้นคว้า หลอกตัวเองเอาว่ามันเป็นยาวิเศษ!
กลับมาย้อนนึกดูก็ดีเหมือนกัน ทำให้เราลืมตาตื่นได้ ไม่งั้นคงใช้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น
ความจริงคือ คนส่วนมากมีสิ่งมีชิวิตที่แสนน่าเอ็นดู(?!)ที่เรียกว่า ไรขน ตั้งรกรากอาศัยอยู่บนผิวหน้ากันอยู่แล้ว โดยเฉพาะท่านที่มีสัตว์เลี้ยง
และคนส่วนมากอีกนั่นแหละ ไม่โชว์อาการแพ้เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้เลย ดูภายนอกปรกติทั้งหมด
เอาแล้วไหมละ? คนอื่นเขาธรรมดา แต่ไอ้คนบ้า(เสตียร์รอยด์)อย่างเรา มีหรือจะรอด ????
เหตุเกิดเมื่อน้องไรขน กับน้องเสตียร์รอยด์ เขามาเจ๊อะกันบนผิวหน้า
โดยปรกติแล้ว คนที่โปะยาเสตียร์รอยด์ทุกวันอย่างพลอย ไม่ควรมีอาการแพ้ ระคาย คัน ใดๆทั้งสิ้น (หรือมีน้อยมาก) หากว่ามีมาก ชนิดว่าคันยิกๆ แสดงว่าคุณกำลังแย่! และใช่ค่ะ .. ดิฉันตอนนั้น กำลังแย่จริงๆ โดยที่ไม่รู้ตัว !
จะขอเล่าถึงวงจรอุบาทส่วนตัวให้ฟังค่ะ
พลอยใช้เสตียร์รอยด์ แต่มาเจอไรขนแล้วแพ้รุนแรง เลยเกิดผดผื่นปื้นใหญ่บนใบหน้า
เอาไงล่ะ ตอนนั้นไม่เข้าใจกลไกและฤิทธ์ของมัน เลยตามประสาเด็กว่า
เฮ้ย!เม็ดขึ้นหน้า แบบนี้ต้องโปะยาวิเศษ!
จริงตามทำนาย ผดปื้นน่ากลัวหายในคืนเดียว โดยที่ไม่รู้เลยว่าภูมิต้านทานที่พยายามสู้ไรขน มันถูกเหยียบ ถูกกดไว้หนักกว่าเดิม !
ผลเป็นอย่างไร ?? ไรขนมันสู้ชนะ แพร่พันธุ์กันสนุก ทีนี้เห่อกว่าเดิมสิคะ หน้างี้คัน เม็ดขึ้นเต็ม
แล้วเด็กหญิงพลอยคิดได้ไหม ??? คำตอบคงไม่ต้องเดา ก็โปะต่อสิคะ
ดิฉันทำแบบนี้เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนผลสุดท้าย โปะเท่าไหร่ สิวผดไม่มีวันยุบ แถมยังเห่อกว่าเดิม
เรียกได้ว่า กู่ไม่กลับแล้วจริงๆ …..
---------------------------
พล่ามมาถึงตอนนี้ ต้องขอเบรคท่านผู้อ่านทุกท่านก่อนนะคะ ว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นเพราะความประมาทของ จขกท. เอง
แรกเริ่มที่ไปหาคุณหมอและได้รับยาเสตียร์รอยด์มาให้ทา คุณหมอใส่ยาไว้ในกระปุก (ซึ่งเป็นปรกติที่ รพ. เขาทำกัน)
และบอกว่า “ทาบริเวณที่เป็น อีก1-2อาทิตย์ดูอาการ”
แต่ด้วยความที่เรายังเด็ก ไม่รู้เท่าทัน ไม่ได้สอบถามว่า
" ยานี้มีสารอะไรบ้างที่หนูควรรู้ไว้คะ ใช้แล้วมีโอกาสดื้อยา หรือติดหรือเปล่า หนูสามารถใช้ต่อเนื่องได้หรือไม่ นานขนาดไหน "
ซึ่งเป็นคำถามที่สำคัญมากๆจริงๆที่ควรถาม เวลาไปหาแพทย์
ผิวเรา หน้าเรา เราต้องสงสัยอยากรู้เข้าไว้ค่ะ พลอยเข้าใจว่าเชื่อใจอาจารย์หมอ
แต่อย่างไรก็ตาม การสอบถามให้กระจ่างชัดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถึงยาที่เราได้รับมาจะดูไม่น่ามีอะไรก็เถอะ
ถือเสียว่าเป็นการหาความรู้เล็กๆน้อยๆก็ได้ค่ะ
พลอยขอฝากทุกท่านไว้เลยนะคะ สอบถามดีๆ ให้เราเข้าใจหลักการณ์คร่าวๆ และโปรแกรมการรักษาของเราก่อน แล้วค่อยตอบโอเคค่ะ
ตัวพลอยเอง หย่าขาดจากเสตียร์รอยด์มาได้2-3ปีแล้ว แต่ยังมีอาการคั่งค้าง
หน้าแดงง่าย (มาก) มีผื่นคันเม็ดเล็กๆขึ้นมาเป็นปื้น และยังคงมีอาการระคายเคืองง่ายผิดปรกติบ้าง
รูปข้างต้นเป็นรูปจากปัจจุบัน เวลามีอาการเห่อเล็กน้อยค่ะ
---------------------------
พอมาถึงตอนนี้ หน้าเละแล้ว ทำอย่างไร ???? แนวทางการแก้ไข ??
ก็เฉกเช่นทุกปัญหาของชีวิตค่ะ ก่อนที่เราจะมานั่งปวดหัว ความเครียดรุมเร้า
เราก็ต้องวางแผน นั่งไล่ออกมาเป็นข้อๆก่อนว่าฉันเป็นอะไร ยังไง แก้ไขอย่างไรได้บ้าง
ซึ่งผลก็ออกมาดังนี้ค่ะ (ปัญหาผิวของพลอย ณ ตอนนั้น) :
1.ผิวหน้าอ่อนแอติดเสตียร์รอยด์
2. ปัญหาแพ้ไรขน
3. สิวอุดตัน (ที่มาเมื่อไหร่ไม่รู้ จากความสกปรกและไขมันที่ก่อตัว)
4. สิวอักเสบ
(5. สิวเสี้ยน)
หลังจากที่เขียนปัญหาของเราออกมาทั้งหมดแล้ว ก็มาดูหนทางรักษา ประคับประคองกันเถอะค่ะ:
(วิธีรักษาขออนุญาตต่อด้านล่างค่ะ กระทู้ยาวมาก ใส่ในนี้ได้ไม่หมด)
กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้ที่ยาวยืดอีกเช่นเคย
พลอยต้องขอขอบคุณทุกท่านมากๆค่ะ ที่อ่านมาจนถึงตรงนี้
ขอบคุณกำลังใจดีๆ ที่เป็นแรงผลักดันให้พลอยนำเรื่องราวต่างๆมาแชร์กันต่อไป
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านไม่มากก็น้อยค่ะ
หากผิดพลาดประการใดก็บอกได้ค่ะ พลอยยินดีที่จะแก้ไขเสมอ
พลอยขอรบกวนฝาก FB PAGE และ INSTAGRAM เอาไว้นะคะ หากท่านใดสนใจ ให้ไลค์ตามความศรัทธาค่ะ (แฮ่ ^^)
---> www.facebook.com/PloyrarinBlog
---> instagram @ploys_r
ต้องขอขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับน้ำใจที่งดงามจากทุกท่าน
แล้วเจอกันค่ะ