จากกระทู้ที่ว่า 18+ [ ชักเว่า !!!! (ช่วยตัวเอง) มันทำให้สิวขึ้นจิงหรอ ? ] จนได้ เปอร์เซนต์ คือ สิวขึ้น10% ไม่ขึ้น 90% สรุปคือไม่ขึ้นครับ
แต่ผมได้พบกับความคิดเห็นนึงว่า ชักเว่าทำให้ชีวิตสั้นลง ตอนแรกผไม่เชื่อหรอกครับ พออ่านไปอ่านมา เริ่มจริงและ ตอนนี้ผมเครียดมากเลย ไม่อยากตาย เพื่อนๆช่วยบอกผมหน่อยว่า ชักเว่าทำให้ชีวิตสั้นลงหรือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมื่อตอนเราอายุ 15 ก็มีโหรชื่อดังหลายคนทำนายว่าเราจะตายเมื่ออายุก่อน 30 จากอายุ 15 ไปจนอายุ 28 เรามีชีวิตอยู่แบบสะดุ้งผวาตลอด มองดูเส้นชีวิตบนฝ่ามือเรา ม้นขาดสะบั้นกลางฝ่ามือจริงๆด้วยสิ ตอนอายุ 18 เราซื้อหนังสือภาษาอังกฤษมาเล่มหนึ่งโดยคิดว่าเป็นคัมภีร์ฝึกกำลังภายในเพราะเราบ้านิยายกำลังภายใน เราอ่านดูแล้วเห็นว่ามันเป็นคัมภีร์โบราณของเต๋าที่แปลจากจีนเป็นอังกฤษ เนื้อหามันเหมือนนิยายเหลือเชื่อ คือมันสอนวิธีฝึกสมาธิเดินลมปราณให้กลายเป็นเซียน แต่พลิกๆดูแล้วเจอคำสอนที่ "ห้ามหลั่งน้ำกามอย่างเด็ดขาด โดยสอนวิธีสกัดจุดตายไม่ให้หลั่งน้ำกาม" เราเกือบจะเอาหนังสือเล่มนั้นไปทิ้ง (เพราะคิดว่ามันไร้สาระ) แต่เก็บไว้ด้วยแรงดลใจอะไรบางอย่าง
ตอนเราอายุ 28 (ตอนนั้นเราอยู่ London) เราไปดูหนังกำลังภายในมาดูไปนั่งดื่มสุราจีนไป พอกลับบ้านเราลองรำมวยจีนดู แล้วอยู่ดีๆล้มฟุบไป หายใจระรวย ชีพจรเต้นแผ่วเบามากๆ เรานอนสลบไสลอยู่หลายชั่วโมง พอฟื้นมาเรานึกถึงตำราวิชา acupuncture (แทงเข็ม) เล่มที่เราอ่าน ซึ่งเจอข้อความว่าแพทย์จีนคนหนึ่งเดินทางไปเจอนครแห่งหนึ่ง เจ้าผู้ครองนครมีฮาเร็ม มีหญิงสาวบำเรอความสุขทางเพศตั้งมากมาย ขณะนั้นเจ้าผู้ครองนครป่วยหนักปางตาย มีคนตามแพทย์จีนไปรักษาเขา พอแพทย์จีนคลำชีพจรดูก็รู้ว่าเขาใกล้จะตายเพราะ "หลั่งน้ำกามมากเกินไป" แพทยจีนจึงใช้เข็มแทงจุดสำคัญๆในร่างเขาเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของลมปราณ จากนั้นก็ให้ยาสมุนไพร แล้วสั่งกำชับเจ้าผู้ครองนครว่า "ถ้าไม่อยากตายก็ต้องงด sex อย่างเด็ดขาดเป็นเวลาหลายๆเดือน" เราพอคิดถึงเรื่องนี้ที่เราอ่านเจอมาเราก็เลยรู้ตัวว่า vitality (พลังชีวิต) เราใกล้จะหมดเพราะใช้ชีวิตมั่ว sex กับดื่มสุราหนักมากๆ เราคิดว่าโหรคงทำนายถูก เราต้องตายก่อนอายุ 30 จริงๆ
ช่วงนั้นเราไม่รู้จะทำไง แต่อยู่ดีๆคิดถึงคัมภีร์โบราณของเต๋าเล่มนั้นขึ้นมาได้ เราจึงค่อยๆคลานไปที่ชั้นหนังสือแล้วหยิบคัมภีร์เล่มนั้นมาฝึก แบบไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว อีก 2-3 วันต่อมาเราเดินไปยืนดูคนเล่นกีฬาที่ ymca เจอผู้หญิงอเมริกันคนหนึ่ง เราคุยกับเธอถามว่ามาทำไมที่ London เธอตอบว่ามาเรียน alternative medicine เราถามว่า alternative medicine คืออะไร เธอจึงชวนเราแอบเข้าไปฟัง lecture วิชาเรียนของเธอ จริงแล้วเธอเรียน psychology เพื่อจะเป็น clinical psychologist แต่มหาลัยสหรัฐยอมให้เรียนวิชาพวก alternative medicine (การแพทย์ทางเลือก) หรือการแพทย์แผนตะว้นออก มานับเป็นหน่วยกิตได้ ตอนเราแอบเข้าไปฟัง lecture กับเธอ เราเลยมีโอกาศได้เรียนวิชา zen macrobiotics กับการแพทย์แผนจีน อีกไม่กี่วันต่อมาเราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร โดยเปลี่ยนเป็นกินข้าวกล้องกับผัก organic งดสารพิษพวก refined sugar (น้ำตาลฟอกสี) และงดผงชูรส งดสารเคมีทั้งหลาย งดเนื้อสัตว์ที่มาจากสัตว์เลี้ยงด้วยสารเร่งโตกับสารเคมี แต่กินอยู่แบบธรรมชาติมากๆ (กินเจแบบอาหารญี่ปุ่น)
เราตัดสินใจยอมหยุดมั่ว sex เลิกสำเร็จความใคร่ด้วย แล้วเรียนวิธีสกัดจุดตายไม่ให้หลั่งน้ำกาม เพื่อฝึกโคจรลมปราณ ฝึกๆไปมันสุดแสนทรมาณมากๆ เพราะเรามีความต้องการทางเพศมากๆ แต่ระบายไม่ได้ แต่เราฝึกคัมภีร์เล่มนั้นรุดหน้าไปได้รวดเร็วมากๆ (คงเป็นเพราะกินอาหารเจแบบ macrobiotic) อีก 2 ปีต่อมาของการกินเจและไม่ยอมหลั่งน้ำกามเลย เราอายุครบ 30 เราไม่ตาย แถมยังแข็งแรงมากกว่าเดิมอีกตั้งหลายเท่าแน่ะ และที่ประหลาดมากๆ นั่นก็คือ อยู่ดีๆพอถึงวันคริสต์มาส เราทนความต้องการทางเพศเผาพลาญตัวเองไม่ไหวเราก็เลยช่วยตัวเอง แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น นั่นก็คือเราถึงจุดสุดยอดได้โดยไม่ต้องหลั่งน้ำกาม (เราขมิบจุด hui yin (perineum (ภาษาไทยเรียกฝีเย็บ)) สกัดจุดตายกลั้นน้ำกามไว้ได้เหมือนกลั้นฉี่) ไม่ต้องหมดแรง เราทำได้โดยเหมือนอยู่ดีๆกลายเป็นสัมผัสพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาจากการฝึกคัมภีร์โบราณของเต๋าเล่มนั้น
^
เราดีใจมากๆที่ฝึกคัมภีร์โบราณถึงขั้นนี้สำเร็จเพราะนั่นก็หมายความว่าถ้าเราออกเจแล้วมี sex ใหม่ให้มีความสุขคราวนี้เราก็จะไม่ต้องสูญเสีย vitality (พลังชีวิต) ไม่ทำให้ตัวเองต้องป่วยหนักอีกต่อไป เราค้นพบความจริงว่าผู้ชายสามารถมี orgasm (การถึงจุดสุดยอด) ได้ โดยไม่ต้องมี ejaculation (การหลั่งน้ำกาม) มันเป็นปรากฎการณ์ที่แยกกันได้ ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นด้วยกัน! และที่ประหลาดมากๆ นั่นก็คือ
ไปอ่านเรื่องราวที่เราเล่าประวัติชีวิตเราว่าเราหยุดหลั่งน้ำกามนานมากๆ (แต่เราช่วยตัวเองแล้วไม่ป่วยอีก เพราะพอ orgasm เราสกัดจุดตายไม่ให้น้ำกามไหลออกมา เราจึงไม่สูญเสียพลังชีวิต) กว่าจะรักษา ocd ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ใช้ยาเลยสิ่งแรก (ที่สำคัญที่สุด) ซึ่งพ่อแม่ควรสอนลูกผู้ชายก็คือ เคล็ดลับในการ orgasm ได้โดยไม่หลั่งน้ำกาม (หากไม่ต้องการผลิตลูก)
เราฝึกแบบนี้แล้วอีกหลายปีต่อมา เราเพิ่ม iq ตัวเองได้ แล้วมีสุขภาพที่ดีเยี่ยมมาโดยตลอดสาเหตุที่ปริมาณของสิวกับการสำเร็จความใคร่มีความเกี่ยวข้องกัน นั่นก็เพราะมันเป็นสิวฮอร์โมน และการสำเร็จความใคร่สามารถกระตุ้นระบบฮอร์โมนในร่างได้
ยกตัวอย่างเช่นผู้หญิงที่รู้ตัวว่าอีก 3-4 วันก็จะมีประจำเดือน แต่ถ้าเธอไปมี sex หรือสำเร็จความใคร่แล้ว orgasm รุนแรงมีความสุขมากๆ เลือดประจำเดือนจะไหลออกมาทันที เพราะอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรงสามารถกระตุ้นระบบ sex hormones ได้ จนเร่งให้มีประจำเดือนเร็วกว่ากำหนดก็ยังได้
แต่ธรรมชาติสร้างให้ผู้หญิงโชคดีกว่าผู้ชาย นั่นก็คือผู้หญิงวันๆมีความสุขทางเพศได้มากหลายๆครั้ง orgasm ได้หลายๆครั้งโดยไม่สูญเสียพลังชีวิต ในขณะที่ทุกครั้งที่ผู้ชาย orgasm ถ้าเขาไม่ฝึกขมิบน้ำกามให้ดีๆ เขาก็จะต้องหลั่งน้ำกามออกมาแล้วก็จะสูญเสีย vitality (พลังชีวิต) แล้วก็จะค่อยๆอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ จนตายไปในที่สุด นักพรตเต๋ามีแนวคิดเช่นนี้ก็เพราะเห็นสัตว์ตัวผู้หลายชนิดเมื่อสืบพันธ์แล้วก็ตายไป ปล่อยให้ตัวเมียเลี้ยงลูกต่อไป ดังนั้นนักพรตเต๋าจึงคิดคัมภีร์ alchemy (การเล่นแร่แปรธาตุ) ขึ้นมา ซึ่งสอนกระบวนการที่เรียกว่า sublimation (การเปลี่ยนพลังที่ใช้สืบพันธ์ให้กลายเป็นพลังที่ทำให้คงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล และเป็นพลังแห่งการเรียนรู้ในระดับสูงๆถึงขั้นเป็นเซียนได้ (เซียนของเต๋าเทียบเท่าพระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธ) ซึ่งคัมภีร์ที่ว่านี้มีคำสอนวิธีแก้ไขจุดอ่อนของผู้ชาย ซึ่งมันเป็นคัมภีร์ที่เราได้มาโดยบังเอิญแล้วเราเอามาฝึกเพื่อรักษาชีวิตเราไว้ ตามที่เราเล่าให้ฟังใน คคห 21 นั่นเองเพราะธรรมชาติสร้างให้ผู้หญิงมีความได้เปรียบผู้ชาย คือผู้หญิงสามารถมีความสุขทางเพศได้วันหละหลายๆรอบ สามารถ orgasm ได้วันละหลายๆสิบรอบ แต่ผู้ชายทำแบบนั้นไม่ได้ (เว้นเสียแต่ว่าผู้ชายจะฝึกคัมภีร์เต๋าสำเร็จ) ผู้ชายจึงมีปมด้อย และกลัวว่าผู้หญิงจะสนุกเรื่อง sex มากเกินไป จนผู้ชายต้องหวาดผวากลัวว่าจะสนองความต้องการผู้หญิงไม่ได้ ผู้ชายจึงหลอกให้ผู้หญิง "รักนวลสงวนตัว" โดยการสร้างภาพลวงต่างๆมาให้ผู้หญิงเข้าใจไปว่าการสนุกกับเรื่อง sex เป็นเรื่องที่น่าอับอาย ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะว่าผู้ชายกลัวเสียหน้านั่นเอง
สิ่งที่ผู้ชายกลัวมากๆนั่นก็คือ "กลัวการเปรียบเทียบ" ผู้ชายกลัวผู้หญิงจะเปรียบเทียบลีลาเรื่อง sex ของตนเองกับชายอื่น ดังนั้นผู้ชายจึงตั้งกฎกติกาขึ้นมาว่า "ผู้หญิงซิงๆเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด" แล้วตั้งกฎกติกาขึ้นมาว่า "ตัวผู้ชายเองยิ่งมีประสบการณ์กับผู้หญิงมากๆก็จะยิ่งดี"
แนวคิดเช่นนี้ของผู้ชายเกิดจากการที่ผู้ชายถูกธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้ด้อยกว่าผู้หญิงในเรื่องการมีความสุขทางเพศวันหละหลายๆรอบนั่นเอง!
โดยเราจะสังเกตเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ผู้ชายที่ไม่ค่อยมีความรู้และประสบการณ์เรื่อง sex จะต้องการได้แฟนเป็นผู้หญิงซิงๆ บ่อยครั้งที่เราเคยเจอกระทู้ที่ผู้ชายบ่นอยากตายเพราะไปรู้ว่าความจริงว่าแฟนตัวเองไม่ซิง โอ้อะไรกันหนอน่าเวทนาเสียจริงๆ...!!??? แต่ในทางกลับกันผู้ชายที่เก่งเรื่อง sex ระดับ sex guru จะอยากได้แฟนที่ไม่ซิงด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ชายจะได้สนุกกับความรอบจัดของผู้หญิงได้ยังไงล่ะ แล้วผู้ชายก็ไม่ต้องเสียเวลาสอนผู้หญิงเรื่อง sex อีกด้วย นั่นเอง
ภาค2 " 18+ [ ช่วยตัวเองทำให้ชีวิตสั้นลงจริงหรือ ? ]
แต่ผมได้พบกับความคิดเห็นนึงว่า ชักเว่าทำให้ชีวิตสั้นลง ตอนแรกผไม่เชื่อหรอกครับ พออ่านไปอ่านมา เริ่มจริงและ ตอนนี้ผมเครียดมากเลย ไม่อยากตาย เพื่อนๆช่วยบอกผมหน่อยว่า ชักเว่าทำให้ชีวิตสั้นลงหรือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้