ไร้หัวใจ ตอนที่ 32

กระทู้สนทนา
.........ประพนธ์ขับรถมาเรื่อยๆตามทางด้วยความเงียบงัน ภคพรเองก็เช่นกัน ต่างคนต่างพูดอะไรไม่ออก ทุกลมหายใจเข้าออก
มันมีแต่ความกระอักกระอ่วนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“จะติดอีกนานไหม”
ภคพรบ่นกับตัวเองเบาๆ ขณะมองดูรถที่ติดยาวเหยียดบนท้องถนน ก่อนจะเริ่มสังเกตเห็นความวุ่นวายของผู้คนที่ยืนล้อมรอบ
มุงดูอุบัติเหตุอยู่ด้านหน้า ภคพรยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจ จนซักพักรถก็ค่อยๆเคลื่อนจนเกือบจะผ่านจุดเกิดเหตุตรงนั้นไป
“......”
ภคพรหันขวับไปมองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจคอเริ่มสั่นหวั่นไหวอย่างตื่นตระหนก
“คุณ จอดรถ!!”
ภคพรตะโกนสั่งหน้าตาเหรอหรา รีบร้อนวิ่งลงจากรถไป โดยมีสายตาของประพนธ์หันมองตามไปด้วยความเฉยชา
“ไม่จริง...”
ประพนธ์อุทานเบาๆกับตัวเอง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบเดินลงจากรถเข้าไปในจุดเกิดเหตุอีกคนนึงอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ตื่นขึ้นมาคุยกับผมสิคุณ ตื่นขึ้นมา ๆ”
เสียงของกันย์ร้องขอความช่วยเหลือยังคงดังเพื่อรอการมาของผู้ช่วยเหลือ ภคพรยืนมองร่างไร้สติของน้องสาวตัวเอง
ที่นอนจมกองเลือดอยู่ในอ้อมอกของกันย์ตัวสั่นเทา ไม่อยากจะเชื่อสายตา



“ไม่จริง ไม่จริง”
ภคพรอุทานเสียงแหบแห้ง แทบไม่มีเสียงใดๆหลุดออกมาจากปากของเธอ หญิงสาวยืนน้ำตาไหลอาบเป็นทางยาวทั้งสองแก้ม
รู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดลงบนหัวใจ
“คุณ...คุณ...”
ประพนธ์จับแขนภรรยาเขย่าเพื่อเรียกสติของเธอกลับคืนมา
“.............”
ภคพรยืนตัวสั่น น้ำตาไหลทะลักด้วยหัวใจที่แตกสลายไม่มีชิ้นดี
“ยายเมย์ ยายเมย์ ฮือๆๆๆๆ ยายเมย์”
ภคพรร้องไห้โฮวิ่งเข้าไปหาร่างของน้องสาวเธอ กุมมือเอาไว้แน่นหนา
“ตื่นขึ้นมาคุยกับพี่ก่อนนะ ตื่นขึ้นมาคุยกับพี่ เมย์ เมย์ ฮือๆๆๆ ไม่นะ เมย์จะตายไม่ได้นะ แล้วพี่จะอยู่ยังไง ฮือๆๆๆ
ลืมตาสิ  ลืมตา ลืมตา พี่บอกว่าให้ลืมตา!!”
ภคพรเขย่าแขนน้องสาวอย่างแรง กรีดร้องโวยวายเหมือนคนเสียสติ
“คุณ คุณ...”
ประพนธ์รากภคพรถอยห่างออกมา ก่อนจะกอดรัดร่างของเธอเอาไว้แน่นหนาอย่างทุลักทุเล เพราะเรี่ยวแรงมหาศาล
ของผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างภคพร
“ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ ปล่อย ปล่อย ยายเมย์ ยายเมย์ ฮือๆๆๆๆๆๆ”
ภคพรนอนทิ้งตัวอยู่ในอ้อมอกของประพนธ์ดิ้นพราดๆอยู่ในอ้อมแขนของเขาเหมือนจะขาดใจ ไม่กี่นาทีต่อมารถพยาบาลก็มาถึง
และพาร่างของนวพรรษขึ้นไปบนรถพยาบาล ก่อนจะช่วยปล้ำหัวใจให้เธออย่างเร่งด่วนเพื่อยื้อชีวิตให้กับหญิงสาวที่หัวใจเริ่มเต้นช้าลง
และเหลือลมหายใจอยู่เพียงแค่รวยริน โดยมีทั้งกันย์ ภคพรและประพนธ์ตามไปด้วยความห่วงใย
โดยเฉพาะภคพรที่จับมือน้องสาวเธอไปตลอดทางทั้งน้ำตา

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอก็พาร่างของนวพรรษเข้าห้องผ่าตัดด่วนทันทีเพื่อยื้อชีวิตของทั้งแม่และลูกให้ปลอดภัย ภคพร
ประพนธ์และกันย์ นั่งรออยู่หน้าห้องพยาบาลอย่างใจจดใจจ่อด้วยอาการเศร้าซึม ไม่มีใครพูดอะไรออกเลยเลย
ทุกคนต่างนั่งกันนิ่งไม่ขยับเขยื้อน
“ฮือๆๆๆๆ ฮือๆๆๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ข้างๆประพนธ์เหมือนจะขาดใจ หัวใจเธอตอนนี้มีแต่ความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน
“ญาติคนไข้ใช่มั้ยคะ”
นางพยาบาลเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางสุภาพ
“น้องสาวฉันเป็นยังไงบ้างคะ”
ภคพรคว้าแขนคุณพยาบาลไว้อย่างลืมตัว
“น้องสาวคุณยังอยู่ในอาการโคม่าค่ะ ไม่ทราบว่าพวกคุณใครมีเลือดกรุ๊ปเอบีเนกาทีฟบ้างคะ ทางโรงพยาบาลของเรา
ไม่มีเลือดกรุ๊ปนี้สำรองอยู่เลยค่ะ ถ้าเราไม่รีบผ่าตัดเอาเด็กออก ดิฉันเกรงว่าเด็กอาจจะไม่ปลอดภัยนะคะ”
นางพยาบาลรีบร้อนถาม
“ฉันกรุ๊ปเอ ได้มั้ยคะคุณพยาบาล ฉัน...ฉัน...”
ภคพรยืนหน้าซีดเผือดหวาดกลัวในความสูญเสียที่ดูเหมือนว่าใกล้นวพรรษเข้ามาทุกที
“ผมบี แล้วพี่กันย์ล่ะ”
ประพนธ์หันไปหากันย์อย่างไม่มีทางเลือก
“เอาเลือดผมไปได้เลยครับ”
กันย์พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ที่นวพรรษต้องมาเผชิญชะตากรรมแบบนี้เขาเองก็เสียใจ




“อย่ามายุ่ง ออกไปให้พ้นเลย ออกไป ไป ออกไป!!”
ภคพรกระโจนเข้าใส่กันย์ ผลักอกเขาเต็มแรงจนร่างของชายหนุ่มเซถลาออกไป
“........”
กันย์ยืนนิ่ง ไม่ตอบโต้ ไม่แม้แต่จะสบตาภคพรด้วยซ้ำ
“ฉันเกลียดคุณ ฉันไม่มีวันยอมให้เลือดชั่วๆของไอ้ฆาตกรที่มันคิดจะฆ่าลูกฆ่าเมียตัวเองเข้าไปไหลเวียนอยู่ในตัวน้องสาวของฉันแน่นอน
ถ้าน้องสาวฉันเป็นอะไรไปนะ ฉันจะจองล้างจองผลาญพวกคุณไปจนวันตายเลยคอยดู ไอ้ชาติชั่...... ไอ้สารเลว เลว เลว เลว!!”
ภคพรยังคงอาละวาดใส่กันย์และตบตีเขาเพื่อระบายความโกรธ ประพนธ์กระชากร่างของภคพรมาอีกทาง
และใช้มือกอดเอวเธอเอาไว้แน่นหนา
“ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือชีวิตของน้องสาวกับหลานของคุณ ไม่มีเวลามาอาฆาตแค้นใครแล้วคุณ
คุณพยาบาลพาตัวผู้ชายคนนี้ไปให้เลือดเลยครับ เขาเป็นพ่อของเด็ก ส่วนผู้หญิงคนนี้ผมจัดการเอง”
ประพนธ์เสียงดัง
“ไม่นะคุณ ไม่นะ ไม่ ไม่ ปล่อยฉัน ปล่อยสิ ปล่อย ปล่อยสิ”
ภคพรดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ไม่อาจสู้แรงของประพนธ์ ก่อนจะถูกเขารากออกจากหน้าห้องผ่าตัดไปเพื่อยุติเหตุการณ์วุ่นวายที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป

    กันย์นอนนิ่งอยู่บนเตียงนอนข้างๆเตียงผ่าตัดเพื่อให้เลือดกับนวพรรษ หมอและพยาบาลหลายสิบชีวิตเดินไปเดินมาอยู่รอบๆร่าง
ของนวพรรษด้วยความเคร่งเครียด กันย์หันหน้าไปมองใบหน้าขาวซีดจนหน้าใจหายของนวพรรษด้วยความทุกข์ทรมานอย่างสุดหัวใจ
เขารู้สึกเหมือนกำลังมีใครเอาเข็มเป็นร้อยๆเล่มปักลงไปกลางหัวใจของเขาอย่างเลือดเย็น



“ผมขอโทษ”
กันย์น้ำตาเอ่อไหล่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาจะขอเลือกที่จะไม่รู้จักกับผู้หญิงแสนดีตรงหน้าคนนี้เลย
“คุณหมอแย่แล้วค่ะ...”
เสียงนางพยาบาลดังขึ้นด้วยความกังวล กันย์ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่และปล่อยให้มันเอ่อทะลักออกมา ขอแค่นวพรรษ
และลูกของเธอปลอดภัยไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรเขาก็ยอม

    ประพนธ์รากภคพรออกมาจากหน้าห้องผ่าตัด ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูหน้าบันไดหนีไฟ ชายหนุ่มตัดสินใจดันร่าง
ของภคพรออกไปที่บันไดหนีไฟอย่างไม่มีลังเล




“ฉันไม่ยอม ฉันจะไปพูดกับไอ้ชาติชั่.......คนนั้นให้รู้เรื่อง ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอม”
ภคพรโวยวาย ตรงดิ่งไปที่ประตูอีกครั้ง แต่ถูกประพนธ์ขวางทางเอาไว้และผลักร่างของเธอกลับมาที่เดิม
“ที่นี่เขาห้ามใช้เสียง อย่าเสียงดังคุณ”
ประพนธ์พยายามขอร้อง
“คุณมันข้างเดียวกัน อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ยอมให้เลือดชั่วๆของคนชั่วๆเข้าไปอยู่ในตัวยายเมย์แน่”
ภคพรยังคงขัดขืน มองจ้องประพนธ์อย่างแสนขัดใจ แต่ประพนธ์ก็ยืนขวางประตูเอาไว้ไม่หนีไปไหน
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ๆๆๆ”
ภคพรโวยวายสุดเสียง ประพนธ์เห็นท่าไม่ดีแน่ จึงเดินเข้าใส่ร่างบางของหญิงสาวและจู่โจมริมฝีปากบางชมพูระเรื่อของเธอทันที
เพื่อต้องการหยุดทุกความวุ่นวายของเธอ ไม่นานร่างกายของหญิงสาวก็ตอบสนองและเปลี่ยนเป็นแน่นิ่งไปแทน
“.....”
ประพนธ์ถอยห่างออกมา ภคพรยืนมองจ้องหน้าเขาทั้งน้ำตา ก่อนจะยกฟ่ามือฟาดลงไปเต็มแรงบนใบหน้าของเขา
“ผมไม่ได้เข้าข้างพี่กันย์ ผมแค่เป็นห่วงชีวิตของน้องสาวคุณ”
ประพนธ์พูดเสียงแผ่วเบา เข้าใจดีทุกอย่างว่าตอนนี้ภคพรรู้สึกยังไง
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ฮือๆๆๆ ฉันผิดเอง ฉันเป็นคนทำให้เรื่องทุกอย่างมันลงเอยแบบนี้เอง ฮือๆๆๆๆๆ”
ภพครนั่งลงร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาด จิตใต้สำนึกมันสั่งให้เธอโทษตัวเองในทุกๆเรื่องที่มันเกิดขึ้น
“คนเรามักอ่อนแอและทำอะไรด้วยอารมณ์เสมอเวลาที่คนที่เรารักเสียใจ”
ประพนธ์เดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆภคพร หญิงสาวเงยหน้ามองเขาทั้งน้ำตา
“ฉันผิดเอง ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ”
ภคพรร้องไห้โฮต่อหน้าประพนธ์และกล่าวขอโทษเขาสำหรับทุกๆเรื่องที่ผ่านมา
“......”
ประพนธ์มองจ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสงสารจนสุดหัวใจ ความอ่อนแอความเสียใจเหมือนโลกถล่มแผ่นดินทะลายของเธอ
ในตอนนี้ มันทำให้เขาไม่อยากจะห่างเธอไปไหนเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“ผม...ผม...”
ประพนธ์พูดอะไรไม่ออก เขาทำได้แค่ฉุดร่างบางของหญิงสาวที่ร้องไห้ตัวสั่นสะท้านอยู่ตรงหน้าเข้ามากอดไว้แนบแน่นในอ้อมแขน
ยิ่งเขากอดเธอแน่นเท่าไหร่เขายิ่งรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานใจของเธอมากขึ้นเท่านั้น

    ภคพรนั่งหมดสภาพอยู่บนเก้าอี้นั่งรอคนไข้ที่หน้าห้องผ่าตัด โดยมีประพนธ์ยืนอยู่ข้างๆเธอไม่ยอมห่างไปไหน ในสถานการณ์แบบนี้ประพนธ์รู้ดีว่าสิ่งที่ภคพรต้องการมากที่สุดก็คือกำลังใจ
“หิวมั้ยคุณ”
ประพนธ์เริ่มบทสนทนาหลังจากที่ภคพรนั่งนิ่งมาเกือบสองชั่วโมง
“กลับบ้านไปอาบน้ำ กินข้าว แล้วก็นอนพักก่อนมั้ยคุณ”
ประพนธ์ยังคงพยายาม
“คุณแม่ ฮือๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้โฮเป็นเด็กๆ เมื่อได้เห็นหน้าแม่ของเธอเดินเข้ามาพร้อมกับธาวิน เพียงพรเดินเข้ามาสวมกอดลูกสาวทั้งน้ำตาอย่างรู้ใจ
“หนูเสียใจค่ะแม่ หนูเสียใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องยุ่งๆทั้งหมดนี้ ลุงชนินทร์ตายแล้วค่ะแม่ ลุงชนินทร์เค้าตายแล้ว....”
ภคพรยืนแน่นิ่งไม่กล้าสบตา เพียงพรยืนแน่นิ่งไป เสียวแปลบขึ้นมาในหัวใจ ก่อนจะเซถลาจะล้มลงเสียใจกับการจากไป
อย่างไม่มีวันกลับของชนินทร์พี่ชายแท้ๆของเธอ
“นั่งก่อนครับ”
ประพนธ์เข้าไปช่วยประคองอย่างเป็นธุระให้ ภคพรถึงกลับปล่อยโฮออกมาอีกรอบเมื่อได้เห็นท่าทีของแม่เธอ
“หนูผิดไปแล้วค่ะแม่ หนูผิดเองที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมดแบบนี้ หนูผิดเอง ฮือๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้ปานใจจะขาด ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้แม่ของตัวเอง
“ยายเด็กโง่ แม่จะโทษว่าเป็นความผิดของลูกได้ยังไง”
เพียงพรเอื้อมมือมาจับมือลูกสาวและบีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ ภคพรเองก็เอาแต่ร้องไห้ออกมาไม่ยอมหยุด เธอได้แต่เฝ้าโทษตัวเอง
ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้นวพรรษต้องเผชิญกับชะตากรรมที่แสนเลวร้ายแบบนี้
“คุณหมอ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ”
ธาวินรีบร้อนเดินเข้าไปหาคุณหมอและพยาบาลพร้อมๆกับทุกคน
“ตอนนี้หมอนำเด็กเข้าตู้อบแล้วนะคะ เพราะว่าแกคลอดก่อนกำหนด แต่เด็กก็ปลอดภัยและแข็งแรงดีไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”
คุณหมอตอบคำถามสุภาพ
“แล้วลูกสาวของดิฉันล่ะค่ะ”
เพียงพรถามเสียงเข้ม
“แม่ของเด็กตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วค่ะ แต่ว่าเพราะเธอเสียเลือดไปเยอะมากจากการผ่าตัดทำคลอดและจากบาดแผลที่บริเวณศีรษะ
ทำให้ตอนนี้ทางโรงพยาบาลสั่งงดการเยี่ยมนะคะ คนไข้จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่”
“ขอบคุณพระเจ้า”
ภคพรพูดกับตัวเองเบาๆด้วยน้ำตานองหน้า ประพนธ์เหลือบมองใบหน้าของเธอด้วยความโล่งใจไม่แพ้กัน
“พ่อของเด็กอยู่ไหนคะ”
คุณหมอถามด้วยท่าทางเคร่งเครียด ธาวินรีบร้อนยกมืออย่างไม่อิดออด
“ผมเอง มีอะไรหรอครับ”
“เพราะแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ หมอคิดว่าภรรยาของคุณอาจจะต้องตัดมดลูกทิ้งข้างนึง เธออาจจะมีลูกยากขึ้นหรือ
อาจจะมีลูกไม่ได้อีกเลยนะคะ”
คุณหมอชี้แจง ธาวินยืนนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก
“ลูกแม่”
เพียงพรน้ำตาเอ่อไหล สงสารลูกสาวคนเล็กของเธอ
“พี่ทำร้ายเธอ พี่ทำร้ายเธอ ฮือๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้ออกมาเสียงดังอีกครั้งอย่างไม่อาจควบคุมสติของตัวเองให้อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่เป็นปกติได้เลย
“พี่ผิด...”
ร่างบางของภคพรล้มลงกับพื้นทั้งยืน ประพนธ์ตรงปี่เข้าไปอุ้มร่างบางของเธอเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“คุณพยาบาลครับ ช่วยที”
ธาวินร้องบอกนางพยาบาล มือก็ประคองร่างของเพียงพรเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอล้มลงไปอีกคน
“เชิญทางนี้เลยค่ะ”
นางพยาบาลรีบร้อนบอก ประพนธ์เดินแกมวิ่งตามนางพยาบาลไปหน้าตาเลิ่กลั่กด้วยความร้อนใจ สำหรับเขาแล้วการดูแลจิตใจ
ของภคพรเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนมากที่สุดในตอนนี้
“คุณพ่อหายไปไหนครับ”
ธาวินถามเพียงพรที่นั่งนิ่งเงียบงันอยู่หน้าห้องผ่าตัด ด้วยหน้าตาเป็นกังวล
“ที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อย คุณพ่อเขาบอกว่ามันสำคัญมากอาจจะมาเยี่ยมยายเมย์ตอนนี้ไม่ได้”
เพียงพรพูดขึ้นด้วยวามทุกข์ใจ ธาวินจับมือแม่ภรรยาและบีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
“ถ้าไม่ติดว่าเรามีลูกและภรรยาอยู่แล้ว แม่คงจะดีใจมากที่ได้เราเป็นลูกเขย”
เพียงพรยิ้มทั้งน้ำตาให้กับธาวินที่ได้แต่มอบรอยยิ้มบางๆให้เธอ เป็นห่วงเป็นใย


ต่อด้านล่างค่ะ สาวแว่น

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่