เคยเห็นคำถาม และการบ่นเรื่อง การถ่ายรูปในพาสปอร์ต .. แต่งไปก็ไม่เห็น แต่งไปก็เท่านั้น ฯลฯ อ่ะๆ เดี๋ยวก่อน การถ่ายภาพขาว-ดำ การแต่งหน้านั้นก็สำคัญ และสามารถมองเห็นได้ค่ะ ยังไงน่ะเหรอ มาดูๆๆ
จากเรื่องที่แล้วเราได้พูดถึงการเฉดดิ้งไป โมได้อ้างถึงเทคนิคการเฉดดิ้งในการถ่ายรูปภาพขาวดำ ซึ่งใช้กันมากในสมัยก่อนที่ทั้งการถ่ายภาพ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ ยังเป็นภาพขาวดำอยู่ แต่เราจะสังเกตุเห็นได้ว่านักแสดงนั้นแต่งหน้า เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะเทคนิคเฉดดิ้งและการเล่นกับโทนสีนั่นเอง
จากรูปวงล้อสี (มาอีกแล้ว)
จากภาพแรกที่เป็นสี เมื่อเปลี่ยนเป็นขาวดำในภาพที่สองด้านล่าง เฉดของสีก็จะเปลี่ยนไป เราใช้หลักการนี้ในการแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปขาวดำค่ะ สีที่ใกล้กับสีขาวมากเท่าไหร่ เมื่อเปลี่ยนเป็นภาพขาวดำแล้ว ก็จะเห็นสีอ่อนลงเท่านั้น
ปัจจุบัน การถ่ายภาพสีขาวดำก็ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้เทคนิคในลักษณะนี้ในการถ่ายภาพ ซึ่งเราสามารถประยุกต์ใช้ในการแต่งหน้าเพื่อไปถ่ายรูปในพาสปอร์ตได้นั่นเอง เฮ่!
ตัวอย่างสีลิปสติก
จะเห็นว่า สียิ่งเฉดเข้มมากเท่าไหร่ ความเข้มดำของสีในภาพขาวดำก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ก่อนจะเดินทางกันต่อ โมขอแทรกเกี่ยวกับ Corrector ที่โมลืมพูดถึงตั้งแต่กระทู้ Corrector กันนิดนึง เราจะทราบหรือดูออกได้อย่างไรว่า Concealer หรือ Corrector ตัวไหนโทนสีส้มเหมาะสำหรับใช้ในการการปกปิดรอยคล้ำใต้ตา วิธีคือ เอา Concealer ที่ปกติเราใช้ปิดรอยแดงรอยสิวไปเทียบได้ค่ะ เพราะเราจะเห็นความแตกต่างชัดของสีได้มากขึ้นนั่นเอง
เปรียบเทียบสีให้เห็นชัดๆ อีกทีนึง โทนจะไม่เหมือนกันถ้าสังเกตุดีๆ นะคะ
มาเข้าเรื่องกันต่อ ต่อไปนี้เป็นรูปที่ค่อยๆ เติมแต่งหน้าทางด้านขวาของหน้าโมในแต่ละรูป ตั้งแต่รองพื้น, corrector, highlight, shading, แล้วก็ make-up ค่ะ วันนี้ติดขนตาปลอมด้วย มาดูความแตกต่างเป็นลำดับๆ ละกันเน้าะ
จากซ้ายไปขวา หน้าโล้นๆ ต่อมาลงรองพื้น และ สุดท้ายเก็บรายละเอียดด้วย corrector ค่ะ
ลง highlight, shading แล้วก็เขียนคิ้ว ปัดแก้ม แต่งตา
ดัดและปัดขนตา ติดขนตาปลอมแล้วก็ทาปากค่ะ
ลง highlight แนวขอบปากด้านบน จากนั้นปัดแป้ง เก็บรายละเอียดที่เหลือค่ะ
สำเร็จ พอจะเห็นความแตกต่างบ้างมั้ยเอ่ย
มาดูรูปสรุปในรูปสีกันว่าโมใช้สีอะไรแบบไหนกันบ้างนะคะ
หมายเหตุ : รูปสุดท้ายคนละภาพกัน เพราะโมเบลอๆ ลืมๆ ว่าภาพไหนเป็นภาพไหน แต่ทั้งหมดถ่ายในเซตเดียวกัน ต้องขออภัยด้วยนะคะ
ถามว่าแต่งหนามั้ย ปานกลางค่อนข้างหนาค่ะ เพราะแต่งหน้าถ่ายรูปประมาณนี้ หน้าต้องแน่น ยิ่งถ้าเป็นการถ่ายรูปในสตูดิโอที่ใช้แสงจากดวงไฟแล้ว ยิ่งต้องแน่น ปิดให้หมด ไม่ควรจะให้มีความมันบนใบหน้าเลยโดยเฉพาะหน้าผาก เพราะจะสะท้อนแสงแฟลชอย่างแรง ช่างภาพไม่โอเค ณ จุดๆ นี้ (จากประสบการณ์ที่ได้ไปทำงานในสตูฯ กับช่างภาพนะคะ)
ในการแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปขาว-ดำ จริงๆ แล้วที่โมเรียน จะลงเฉดดิ้งหนักกว่านี้มากค่ะ ขนตาปลอมแน่นกว่านี้ เพื่อให้เห็นมิติของใบหน้าชัดเจนจริงๆ แต่กรณีด้านบน เราแต่งไปแค่ถ่ายรูปขาว-ดำ ในพาสปอร์ตเฉยๆ ไม่ต้องมากขนาดนั้นก็ได้เน้าะ เดี๋ยวผู้คนจะแตกตื่น ^ ^* เอาแค่เฉดพอเห็นเป็นเงาๆ ระเรื่อลางๆ ก็พอแล้ว ที่โมให้ความสำคัญมากที่สุดคงจะเป็นปาก รูปปากชัด ถ่ายรูปขาว-ดำ ออกมาแล้วจะสวยมากค่ะ
ทั้งนี้และทั้งนั้น หากใครต้องการจะจัดแน่นจัดเต็มเพื่อเวลาถ่ายภาพออกมาแล้วเห็นชัดกว่านี้ อันนี้ก็แล้วแต่สะดวกค่ะ ลองแต่งที่บ้านเล่นๆ แล้วถ่ายเป็นรูปขาวดำออกมาดูก่อนก็ได้ว่าจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ^ ^
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เช่นเคย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ และหากมีข้อแนะนำติชมก็พร้อมรับฟังและแก้ไข้ค่ะ ^ ^
"ถ่ายรูปขาวดำ แต่งไปก็ไม่เห็นอะไร" ... จริงหรือ? มาพิสูจน์กัน !!
จากเรื่องที่แล้วเราได้พูดถึงการเฉดดิ้งไป โมได้อ้างถึงเทคนิคการเฉดดิ้งในการถ่ายรูปภาพขาวดำ ซึ่งใช้กันมากในสมัยก่อนที่ทั้งการถ่ายภาพ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ ยังเป็นภาพขาวดำอยู่ แต่เราจะสังเกตุเห็นได้ว่านักแสดงนั้นแต่งหน้า เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะเทคนิคเฉดดิ้งและการเล่นกับโทนสีนั่นเอง
จากรูปวงล้อสี (มาอีกแล้ว)
จากภาพแรกที่เป็นสี เมื่อเปลี่ยนเป็นขาวดำในภาพที่สองด้านล่าง เฉดของสีก็จะเปลี่ยนไป เราใช้หลักการนี้ในการแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปขาวดำค่ะ สีที่ใกล้กับสีขาวมากเท่าไหร่ เมื่อเปลี่ยนเป็นภาพขาวดำแล้ว ก็จะเห็นสีอ่อนลงเท่านั้น
ปัจจุบัน การถ่ายภาพสีขาวดำก็ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้เทคนิคในลักษณะนี้ในการถ่ายภาพ ซึ่งเราสามารถประยุกต์ใช้ในการแต่งหน้าเพื่อไปถ่ายรูปในพาสปอร์ตได้นั่นเอง เฮ่!
ตัวอย่างสีลิปสติก
จะเห็นว่า สียิ่งเฉดเข้มมากเท่าไหร่ ความเข้มดำของสีในภาพขาวดำก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ก่อนจะเดินทางกันต่อ โมขอแทรกเกี่ยวกับ Corrector ที่โมลืมพูดถึงตั้งแต่กระทู้ Corrector กันนิดนึง เราจะทราบหรือดูออกได้อย่างไรว่า Concealer หรือ Corrector ตัวไหนโทนสีส้มเหมาะสำหรับใช้ในการการปกปิดรอยคล้ำใต้ตา วิธีคือ เอา Concealer ที่ปกติเราใช้ปิดรอยแดงรอยสิวไปเทียบได้ค่ะ เพราะเราจะเห็นความแตกต่างชัดของสีได้มากขึ้นนั่นเอง
เปรียบเทียบสีให้เห็นชัดๆ อีกทีนึง โทนจะไม่เหมือนกันถ้าสังเกตุดีๆ นะคะ
มาเข้าเรื่องกันต่อ ต่อไปนี้เป็นรูปที่ค่อยๆ เติมแต่งหน้าทางด้านขวาของหน้าโมในแต่ละรูป ตั้งแต่รองพื้น, corrector, highlight, shading, แล้วก็ make-up ค่ะ วันนี้ติดขนตาปลอมด้วย มาดูความแตกต่างเป็นลำดับๆ ละกันเน้าะ
จากซ้ายไปขวา หน้าโล้นๆ ต่อมาลงรองพื้น และ สุดท้ายเก็บรายละเอียดด้วย corrector ค่ะ
ลง highlight, shading แล้วก็เขียนคิ้ว ปัดแก้ม แต่งตา
ดัดและปัดขนตา ติดขนตาปลอมแล้วก็ทาปากค่ะ
ลง highlight แนวขอบปากด้านบน จากนั้นปัดแป้ง เก็บรายละเอียดที่เหลือค่ะ
สำเร็จ พอจะเห็นความแตกต่างบ้างมั้ยเอ่ย
มาดูรูปสรุปในรูปสีกันว่าโมใช้สีอะไรแบบไหนกันบ้างนะคะ
หมายเหตุ : รูปสุดท้ายคนละภาพกัน เพราะโมเบลอๆ ลืมๆ ว่าภาพไหนเป็นภาพไหน แต่ทั้งหมดถ่ายในเซตเดียวกัน ต้องขออภัยด้วยนะคะ
ถามว่าแต่งหนามั้ย ปานกลางค่อนข้างหนาค่ะ เพราะแต่งหน้าถ่ายรูปประมาณนี้ หน้าต้องแน่น ยิ่งถ้าเป็นการถ่ายรูปในสตูดิโอที่ใช้แสงจากดวงไฟแล้ว ยิ่งต้องแน่น ปิดให้หมด ไม่ควรจะให้มีความมันบนใบหน้าเลยโดยเฉพาะหน้าผาก เพราะจะสะท้อนแสงแฟลชอย่างแรง ช่างภาพไม่โอเค ณ จุดๆ นี้ (จากประสบการณ์ที่ได้ไปทำงานในสตูฯ กับช่างภาพนะคะ)
ในการแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปขาว-ดำ จริงๆ แล้วที่โมเรียน จะลงเฉดดิ้งหนักกว่านี้มากค่ะ ขนตาปลอมแน่นกว่านี้ เพื่อให้เห็นมิติของใบหน้าชัดเจนจริงๆ แต่กรณีด้านบน เราแต่งไปแค่ถ่ายรูปขาว-ดำ ในพาสปอร์ตเฉยๆ ไม่ต้องมากขนาดนั้นก็ได้เน้าะ เดี๋ยวผู้คนจะแตกตื่น ^ ^* เอาแค่เฉดพอเห็นเป็นเงาๆ ระเรื่อลางๆ ก็พอแล้ว ที่โมให้ความสำคัญมากที่สุดคงจะเป็นปาก รูปปากชัด ถ่ายรูปขาว-ดำ ออกมาแล้วจะสวยมากค่ะ
ทั้งนี้และทั้งนั้น หากใครต้องการจะจัดแน่นจัดเต็มเพื่อเวลาถ่ายภาพออกมาแล้วเห็นชัดกว่านี้ อันนี้ก็แล้วแต่สะดวกค่ะ ลองแต่งที่บ้านเล่นๆ แล้วถ่ายเป็นรูปขาวดำออกมาดูก่อนก็ได้ว่าจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ^ ^
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เช่นเคย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ และหากมีข้อแนะนำติชมก็พร้อมรับฟังและแก้ไข้ค่ะ ^ ^