สอบถามชีวิตทำงานกลางคืน และผู้ที่เที่ยวสถานบันเทิงคะ

ต้องขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าเราเคยแต่ไปเที่ยวแค่ผับ แด๊น ๆ นู้นนี่นั่งตามประสา ตอนนี้ จขกท อายุ 25 คะ ซึ่งตอนนี้กะลังหาข้อมูลเกี่ยวกับงานกลางคืนอยู่อะคะ แล้วก็ไปเจอ งานแบบที่เค้าเรียกกันว่า PR นี่แหละคะ แต่เรื่องดีเทลงาน และ สโคปงานนั้นเราไม่รู้เรื่องเลยคะ ตอนนี้อยู่ในช่วงลังเลคะ ถ้าถามว่ามีปัญหาเรื่องการเงินไม๊ ไม่มีคะ ที่บ้านไม่มีปัญหาเรื่องการเงินคะ แต่มีปัญหาเรื่องการเงินส่วนตัวมากกว่า ไม่พอใช้อะ แล้วไม่อยากขอที่บ้าน เราเลยอยากรู้ว่า เวลาไปเที่ยวที่แบบนี้ ถ้าในมุมของนักเที่ยวแล้ว เป็นยังไงบ้างทำอะไรบ้าง แล้วในมุมของ พนักงาน PR แล้วต้องทำอะไรบ้างคะ การรันดื่มคืออะไร มันมีศัพท์เยอะอะ เราหาข้อมูลมาบ้างแต่ยัง งงๆ อยู่คะ ตอนนี้อยู่ในช่วงตัดสินใจอ่ะ เราเพิ่งไปแคสมา แล้วพี่เค้าถามเราเรื่องวันที่สามารถเริ่มงานได้ คือเค้าก็ไม่ได้บังคับหรอกคะว่าจะมาวันไหน แต่เค้าถามว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่ยังไง เราก็ยังไมได้บอกเค้าไปคะ อยากรู้จากประสบการณ์ของพี่ ๆ และเพื่อนๆหน่อยคะ ช่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยนะคะ PM มาก็ได้คะ จริงๆเรามีข้อสงสัยเยอะเลยอะ แต่เราก็ไม่รู้จะไปถามกะใครอ่ะ

ไม่รู้ว่า Tag ถูกห้องรึป่าวนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
เราเป็นคนนึงที่เคยทำงานแบบนี้ แต่ถ้าให้เราแนะนำ ถ้าคุณไม่ได้เดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายจริงๆ เราแนะนำว่าอย่าทำเลยค่ะ เราเคยทำทั้งๆที่เข้าไปตอนแรกก้ไม่รุ้เรื่องอะไรเลยแบบคุณ ตอนที่คุณทำแรกๆอาจจะสนุกเพราะเงินได้มาง่าย เราก้เป็นคนสนุกๆ เหมือนได้ไปเที่ยว ไปกินฟรี เราก้ทำงานเฉพาะอยุ่ในร้านไม่เคยออกไปกับแขก หวังแต่ไปทำงานอย่างเดียว เลิกงานก้กลับบ้าน จนได้เจอแฟนคนปัจจุบัน ก้เจอกันที่ร้านนั่นแหละ คบกันได้พักใหญ่ก้เลิกทำ เพราะรักเค้าจริงๆ ไม่อยากให้เค้าเห็นว่าเราไปนั่งกับผชคนอื่น ประกอบกับเรียนจบเลยออกมาหางานกลางวันทำ (ตอนทำงานพึ่งเริ่มเรียนมหาลัย) สิ่งที่เราได้หลังจากนั้นคือ ความทรงจำที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต ว่าเคยเป็นผญทำงานกลางคืน เป็นผญนั่งดริ้งค์ เชื่อเถอะค่ะ ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครเชื่อว่าเราจะเป็นคนดี ถึงแม้ว่าเราจะแค่นั่งดริ้งทำงานในร้านก้เถอะ จนตอนนี้บางทีเรายังแอบคิดเลยว่าแฟนเราเค้ารับได้จริงๆรึเปล่า เพราะตอนที่เจอกัน ก้มีเพื่อนสนิทเค้าไปด้วย เราก้ระแวงไปหมด ว่าเค้าจะคิดยังไง จริงจังหรือไม่ ถ้าคุณพอจะมีทางเลือกก้อย่าทำเลย เราเคยเจอเพื่อนพ่อมาเที่ยวที่ร้าน แล้วเค้าก้เจอเรา แต่เราบอกว่ามาเที่ยวกับแฟน เค้าเคยเลี้ยงเราตอนเด็กๆด้วย เรารู้ว่าเค้าคงไม่เชื่อ เพราะดูจากสายตา เค้าคงไม่เชื่อเราหรอก แต่เค้าก้ไม่บอกพ่อ แต่หลังจากนั้นเราก้ไม่กล้ามองและคุยกับเค้าอีก ไหนจะเสี่ยงเจอเพื่อนอีก โลกนี้มันกลมมาก คุณต้องเจออะไรอีกหลายอย่างที่ไม่คิด อย่าคิดว่าเงินมันได้มาง่านเหลือเกิน เพราะค่าใช้จ่ายก้เยอะเช่นเดียวกัน เราอยากจะบอกในฐานะที่เคยผ่านมาก่อน อยากให้คิดดูให้ดีๆ อย่าคิดง่ายๆเหมือนกับเรา เผลอการตัดสินใจครั้งนี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณเลยก้ได้
ความคิดเห็นที่ 9
อย่าหาว่า..มายุ่งเรื่องส่วนตัวของน้อง นะครับ

ถ้าน้องย่างกายเข้าไปทำงานแบบนั้น..ขึ้นมา
น้องก็ต้องเตรียมเผื่อใจ เผื่อกาย ไว้ไห้มากๆ
แขกเกื่อ..ทั้งหลายแหล่...มันก็ร้อยพ่อ-พันแม่

เจอะคนดีๆ คุยรู้เรื่อง มันก็ดีไป
แต่น้องก็อาจจะไม่คิดไม่ถึงอย่างหนึ่ง คือ...
เวลาที่เราไปนั่งคุยกับแขก แขก็๖องชวนคุยนั่น คุยนี่ สารพัดคำถาม
แต่ที่แน่ๆ....ส่วนใหญ่ก็อยากจะจีบเป็นแฟน เป็นกิ๊ก หรือเมียน้อย

ทีนี้..พอน้องเห็นคำถามต่างๆ หรือการชวนต่างๆ
น้องก็จะพูดในลักษณะ..ดูดีหน่อย ,เรียกความสนใจ เพื่อที่จะให้ลูกค้ารายนั้นๆ พึงพอใจเรา
ลูกค้าบางคน ก็อาจจะคิดว่า "เฮ้ยยย..คงชอบตรูแน่ๆ" (คือ..เค้าคิดของเค้าไปเอง)
บางราย...รู้สึกว่า "ข้ามีความหวัง..ชัวร์"
รุ่งขึ้น..ก็มาอีก ,มะรืนก็โผล่หัวมาอีก ,สิ้นเดือนมาชัวร์

หากไปเจอคนงี้เง้า พลานอารมณ์เสีย เพราะตั้งความหวังไว้สูง
อาจจะถึงขั้นดักรอตอนเลิกงาน แล้วอยากจะชวนไปกินต่อ
จังหวะแบบเนี่ย..น้องก็จะต้องแก้ตัวกันแบบพัลวัน กันอีก

งานกลางคืน..มันจะไม่มีอะไรแน่นอน ตายตัวนักหรอก
ไม่อยากให้คิดด้านเดียวว่า...มันจะปลอดภัยไปซะหมด

ญ บางคน...ไม่แคร์เรื่องเสียตัว ก็มี
ยิ่งช๊อตเงินด้วยละก็....แล้วดันเห็นลูกค้าหล่อ สเปคของชั้น....เผลอๆ กลับบ้านรุ่งเช้า...ละครับ
เพราะอะไร ? ก็เพราะอยากมีเงิน..ไงครับ

มีเงิน..แล้วจะยังไงต่ออีก !
มันก็คงไม่พ้นสิ่งของนอกกาย..ไงครับ เช่น I-pad ,I-phone หรือ..กระเป๋าหิ้วดังๆ ,เสื้อผ้ายี่ห้อเด่นๆ ,ทำผม-ดัดผมเป็นว่าเล่น
คนลักษณะแบบนี้ ก็จะเป็นคนเก็บกด ,ไม่อยากอายใครๆ ,กลัวจะเสียฟอร์ม กับเรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่อง !
(ตรงนี้ พูดแบบโดยรวมๆ กับสังคมของคนที่ทำงานกลางคืนนะ)

และ...
" ปัญหาเรื่องการเงินไม๊ ไม่มีคะ ที่บ้านไม่มีปัญหาเรื่องการเงินคะ แต่มีปัญหาเรื่องการเงินส่วนตัวมากกว่า ไม่พอใช้อะ "


คำถามของผมแบบง่ายๆ คือ......
สิ่งที่บอกมาว่า "ไม่พอใช้"
คิดว่า...จุดประสงค์ตรงนั้น (ที่ไม่พอใช้) มันจะสำคัญ ใหญ่โต จนถึงขั้นอยู่ไม่ได้..มั้ยครับ

จากเท่าที่ผมรู้สึก ถึงความนึกคิดของ ผญ. นะ (บางคน และส่วนใหญ่) คือ...
พอเราเห็นเพื่อนฝูง มีสิ่งของใหม่เข้ามา หรือมันกำลังเป็นที่ยอดฮิต
เรา..ก็อยากจะได้มันอีกนั่นแหระ
" ไม่รู้อ่ะ..ชั้นต้องหามันให้ได้ " นี่คือความนึกคิดของคนๆ นั้น
ถ้าเราไม่มีมัน เราก็จะรู้สึกว่า..เราเข้าสังคมกับคนอื่นๆ ไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 13
น้องคับ เขาบอกกันขนาดนี้แล้วยังจะใส ไม่รู้เรื่อง ประติดประต่อเรื่องราวไม่ได้อีก แบบนี้ เบอร์ร้านมาดีกว่าครับ เดี๋ยวพี่จะไปแนะนำให้
ความคิดเห็นที่ 26
เราคงไม่ไปทำละคะ ก็อย่างที่บอกว่าเราเข้ามาศึกษาหาข้อมูลแล้วก้อ เก็บความเห็นของเพื่อนๆในนี้แหละคะ ไม่ใช่ว่าเราไม่ฟังนะ เราก้ออ่านทุกอันแหละคะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ มันเป็นประโยชน์กับเรามากๆ เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่