ผมมีแพลนว่าจะลงทุนหุ้นในแนวทาง VI เลยปรึกษากับทางครอบครัว
แล้วก็ลองอธิบายแนวทางการลงทุนแบบ VI ให้เค้าฟัง
ก็โอเคครับ ถึงจุดนึงเค้าก็มองว่ามันก็ดูดีกว่าเงินฝากธนาคารแหละเนอะ
แต่ก็มีคำถามคือ การลงทุนแบบนี้มันเหมือนเงินจมเลยเนอะ ระยะเวลามันนานกว่าฝากประจำอีก
คือ ถ้าลงทุนกันแบบระยะยาวอย่างที่ว่าจริงๆ 10-30 ปีมันก็คุ้มกับเงินต้นนะ
ได้ปันผล (ที่มากกว่าดอกเบี้ยธนาคาร) + (ความหวังว่า)ราคาหุ้นมันจะขึ้นไปมากกว่าตอนนี้
แต่มันจะดีกว่ามั้ยที่บ้านเราทำธุรกิจขายส่ง แล้วจะเอาเงินก้อนที่จะลงทุนภายในตั้ง 10-30 ปีเนี่ย
มาซื้อของไว้ขาย ซึ้งแน่นอนว่าถ้าเราซื้อของด้วยปริมาณเงินที่มากขึ้น ราคาต้นทุนมันก็จะถูกลง แล้วกำไรก็จะมากขึ้นด้วย
เค้าถามว่าถ้าลงทุนแล้วผมคาดหวังปันผลต่อปีเท่าไหร่ ผมเองเป็นมือใหม่ 10% ต่อปียังไม่รู้จะถึงรึเปล่าเลย "-_-
ทางบ้านเลยมองว่า งั้นค้าขายก็ดีกว่าสิ ซื้อมาขายไป ขายส่งลูกค้าประจำก็ 15-20% แล้ว ถ้าขาจรก็ 30-50% แถมไม่ต้องรอถึงปีด้วย
กิจการเรามีลูกค้าติดอยู่แล้ว ขายของไม่กี่เดือนก็ได้กำไรมากกว่าเล่นหุ้นทั้งปีอีก แล้วจะเอาเงินก้อนไปจมกับหุ้นตั้งเป็นปีๆทำไม
ถึงตรงนี้ผมก็เงิบเลยครับ ไปต่อไม่ถูกเลย...........
ผมพยายามอธิบายว่ามันเป็นอิสรภาพทางการเงินนะ เราให้เงินทำงานแทน ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการแล้ววันนึงเราทำงานไม่ไหว
กิจการมันก็ยังอยู่แล้วปันผลกับมูลค่ามันก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ต้องมาทำงานงกๆเหนื่อยๆกันอย่างทุกวันนี้
ถึงจุดนี้ทุกคนก็ยังส่ายหัวบอกว่า ก็ถ้ากิจการที่เราทำอยู่ผลตอบแทนมันดีกว่าการลงทุนในหุ้นมากๆๆๆๆๆ ก็อย่าเพิ่งไปลงในหุ้นเลย
1 ปีได้ปันผลแค่ไม่ถึง 10% แต่กิจการในบ้านเราได้เกิน 100% ล่วงหน้าไปหลายเดือนแล้ว แล้วกิจการเราก็โตขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
ไว้ถ้าเราเริ่มรู้สึกเหนื่อย ทำงานไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงค่อยมองทางนี้เป็นทางเลือกต่อไปละกัน
มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเราทำเงินจากกิจการที่เรามีอยู่แล้วให้มากที่สุด (ซึ่งทางบ้านมั่นใจว่าจะได้กำไรมากกว่าการลงทุนในหุ้น)
แล้วพอเราเริ่มจะไม่ไหว อาจจะอายุ 60 ถึงตอนนั้นก็ค่อยลงก้อนใหญ่ครั้งเดียวในชีวิตไปเลย
จัดหนักตอนแก่ ลงไปเลยหุ้นละ 5 ล้าน 10 ล้าน จะกี่ตัวก็ว่ากันไป 10 ตัว 20 ตัว แล้วนอนรอรับปันผล แบบนี้ก็สบายเหมือนกัน
ถึงตรงนี้ผมเลยต้องเอาคำพูดของที่บ้านมาคิดอีกรอบ ว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี จะแอบเล่นหรือตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป
ใจจริงอยากเป็น VI แต่ก็หาอะไรมาโต้แย้งความคิดของทางบ้านไม่ได้ แล้วเพื่อนๆพี่ๆมีความเห็นว่ายังไงกันบ้างครับ
สอบถาม VI เรื่องเงินจมครับ
แล้วก็ลองอธิบายแนวทางการลงทุนแบบ VI ให้เค้าฟัง
ก็โอเคครับ ถึงจุดนึงเค้าก็มองว่ามันก็ดูดีกว่าเงินฝากธนาคารแหละเนอะ
แต่ก็มีคำถามคือ การลงทุนแบบนี้มันเหมือนเงินจมเลยเนอะ ระยะเวลามันนานกว่าฝากประจำอีก
คือ ถ้าลงทุนกันแบบระยะยาวอย่างที่ว่าจริงๆ 10-30 ปีมันก็คุ้มกับเงินต้นนะ
ได้ปันผล (ที่มากกว่าดอกเบี้ยธนาคาร) + (ความหวังว่า)ราคาหุ้นมันจะขึ้นไปมากกว่าตอนนี้
แต่มันจะดีกว่ามั้ยที่บ้านเราทำธุรกิจขายส่ง แล้วจะเอาเงินก้อนที่จะลงทุนภายในตั้ง 10-30 ปีเนี่ย
มาซื้อของไว้ขาย ซึ้งแน่นอนว่าถ้าเราซื้อของด้วยปริมาณเงินที่มากขึ้น ราคาต้นทุนมันก็จะถูกลง แล้วกำไรก็จะมากขึ้นด้วย
เค้าถามว่าถ้าลงทุนแล้วผมคาดหวังปันผลต่อปีเท่าไหร่ ผมเองเป็นมือใหม่ 10% ต่อปียังไม่รู้จะถึงรึเปล่าเลย "-_-
ทางบ้านเลยมองว่า งั้นค้าขายก็ดีกว่าสิ ซื้อมาขายไป ขายส่งลูกค้าประจำก็ 15-20% แล้ว ถ้าขาจรก็ 30-50% แถมไม่ต้องรอถึงปีด้วย
กิจการเรามีลูกค้าติดอยู่แล้ว ขายของไม่กี่เดือนก็ได้กำไรมากกว่าเล่นหุ้นทั้งปีอีก แล้วจะเอาเงินก้อนไปจมกับหุ้นตั้งเป็นปีๆทำไม
ถึงตรงนี้ผมก็เงิบเลยครับ ไปต่อไม่ถูกเลย...........
ผมพยายามอธิบายว่ามันเป็นอิสรภาพทางการเงินนะ เราให้เงินทำงานแทน ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการแล้ววันนึงเราทำงานไม่ไหว
กิจการมันก็ยังอยู่แล้วปันผลกับมูลค่ามันก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ต้องมาทำงานงกๆเหนื่อยๆกันอย่างทุกวันนี้
ถึงจุดนี้ทุกคนก็ยังส่ายหัวบอกว่า ก็ถ้ากิจการที่เราทำอยู่ผลตอบแทนมันดีกว่าการลงทุนในหุ้นมากๆๆๆๆๆ ก็อย่าเพิ่งไปลงในหุ้นเลย
1 ปีได้ปันผลแค่ไม่ถึง 10% แต่กิจการในบ้านเราได้เกิน 100% ล่วงหน้าไปหลายเดือนแล้ว แล้วกิจการเราก็โตขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
ไว้ถ้าเราเริ่มรู้สึกเหนื่อย ทำงานไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงค่อยมองทางนี้เป็นทางเลือกต่อไปละกัน
มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเราทำเงินจากกิจการที่เรามีอยู่แล้วให้มากที่สุด (ซึ่งทางบ้านมั่นใจว่าจะได้กำไรมากกว่าการลงทุนในหุ้น)
แล้วพอเราเริ่มจะไม่ไหว อาจจะอายุ 60 ถึงตอนนั้นก็ค่อยลงก้อนใหญ่ครั้งเดียวในชีวิตไปเลย
จัดหนักตอนแก่ ลงไปเลยหุ้นละ 5 ล้าน 10 ล้าน จะกี่ตัวก็ว่ากันไป 10 ตัว 20 ตัว แล้วนอนรอรับปันผล แบบนี้ก็สบายเหมือนกัน
ถึงตรงนี้ผมเลยต้องเอาคำพูดของที่บ้านมาคิดอีกรอบ ว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี จะแอบเล่นหรือตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป
ใจจริงอยากเป็น VI แต่ก็หาอะไรมาโต้แย้งความคิดของทางบ้านไม่ได้ แล้วเพื่อนๆพี่ๆมีความเห็นว่ายังไงกันบ้างครับ