เมื่อเดือนเมษา 56 ที่ผ่านมาเคยตั้งกระทู้ปรึกษาที่อบรมการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติไว้
ตอนนี้มีเรื่องเล่าให้ฟัง และที่สำคัญบอกแต่ต้นเลยว่าไม่ได้โน้มน้าวโฆษณาแต่อย่างใดนะคะ
อย่างที่บอก เราเองก่อนหน้านี้ก็เคยมาตั้งกระทู้ถามค่ะว่าตามรายชื่อที่หามาอบรมที่ไหนดี
ตอนนี้เลยขอมาแบ่งปัน และเผื่อมีคนสนใจเหมือนกันค่ะ
ขอแบ่งก่อนเรียนกับระหว่างเรียนนะคะ
ก่อนเรียนค่ะ
เราหาที่เรียนวิชาการสอนไทยชาวต่างชาติอยู่ เราพบ 3 ที่ แน่นอนเสิร์ชจากอากู๋ค่ะ(google) ใส่คำลงไป ก็จะมีคำเหล่านี้ล่ะค่ะ >> สอนไทย, ชาวต่างชาติ, ชาวต่างประเทศ (กลุ่มคำพวกนี้ละค่ะ)
3 ที่ที่ว่า มี
1.ศุมา สถาบันภาษาและวัฒนธรรม
http://www.sumaa.net/about-us
2.อบรมวิธีสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติกับอ.รัตน์เร ที่เชียงใหม่
https://www.facebook.com/teachthai?fref=ts
3.อบรมสอนวิธีสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ซึ่งขณะนั้นมีคอร์ส 3 วันเปิดให้สมัครค่ะ
เราเองเรียนป.ตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาไทย มา และเคยเรียนวิชาการสอนภาษาไทยแต่ชาวต่างประเทศเป็นวิชาบังคับเลือกมาก่อน ดังนั้นเราเห็นว่าอบรม 3 วันนั้นก็คงไม่ได้อะไรเพิ่มมากจากที่เคยเรียนเป็นวิชาหนึ่งตอนป.ตรี
ว่าไปเราเองก็จบมาหลายปีแล้วค่ะ หลงลืมวิชาความรู้ไปบ้าง แต่ก็ยังไม่อยากเลือกที่อบรม 3 วันอยู่ดีค่ะ อยากได้อบรมจริงจังหลายชั่วโมงติดต่อกัน
ดังนั้นที่อยู่ในใจมาwinเลยคือที่ศุมา แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า เอ...จะดีไหมนะ หรือลองไปอบรมที่เชียงใหม่เลย กะถือโอกาสเที่ยวด้วยเลย 55 แต่ที่เชียงใหม่นี่ก็ไกลนะคะ และอ่านเจอรายละเอียดว่า เขาสอนโดยไม่ใช้โฟเนติก ก็อยากรู้เหมือนกันค่ะว่าเป็นอย่างไร แต่ติดที่ว่าไกลค่ะ และก็อบรม 3 วัน เมื่อยังไม่แน่ใจ จึงไปโพสต์ในพันทิปเผื่อมีใครสนใจหรือมีข้อมุลมาแนะนำกัน สุดท้ายได้คนแนะนำดีค่ะ และตั้งใจจะเรียนอยู่แล้ว จึงมาเรียนที่ศุมาฯนั่นเอง
ระหว่างเรียนค่ะ
เปิดคอร์สวันแรกเจอเพื่อนร่วมคลาสค่ะ ก็แอบหวั่นใจเพราะกริ่งเกรงในความสามารถของทุกคนค่ะ
(แต่ทุกคนดีมากจริงๆค่ะ กันเอง แชร์กัน ให้กำลังใจกัน)
กลัวว่าจะเป็นที่อับอายว่าทำไม่ได้ แต่อย่างไรด้วยความตั้งใจ และอยากเรียนรู้เป็นทุนเดิม ก็ทำให้เราไม่มัวมานั่งกลัว
และอยากรู้ว่าสิ่งที่จะได้เรียนนั้นจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่ได้เรียน (เราเองคงเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนทั้งหมดไม่ได้ ไม่ช่ว่าใครห้ามนะคะ แต่มันเยอะะะ ฮ่าๆ
เราเองก็เสียเงินไปเรียนเหมือนกัน ดังนั้นเราคงไม่โฆษณามั่วซั่ว เราประทับใจ เราก็บอกประทับใจ ถ้าไม่ก็บอกไม่
แต่ที่ศุมาฯเราประทับใจมากค่ะ และเราก็อยากให้ทุกคนที่สนใจการสอนภาษาไทยชาวต่างชาติได้รู้จักที่นี่อีกที่หนึ่งว่า เออ มีโรงเรียนที่เชื่อถือได้อยู่นะ ลองดูๆ)
ข้อดี
1. สถาบันศุมาเอง สถาบันเป็นที่เชื่อถือและยอมรับจากชาวต่างชาติที่เข้ามาเรียน
เราเองเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่สอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติโดยตรง แน่นอนว่าเราเลยต้องเก็บไว้เป็นตัวเลือกที่มาwin
และพอเข้ามาอบรมก็เลยได้รู้ว่าชาวต่างชาติที่มาเรียนที่นี่ เขาสนใจภาษาและวัฒนธรรมไทยจริงๆ ไม่ก็เป็นคนที่มาทำงานซึ่งบริษัทเขาส่งมาเรียน คนที่มาเรียนมีคนที่ทำงานในสถาทูตด้วยนะคะ และมีผู้มาสังเกตการสอนด้วย แน่นอนแสดงให้เห็นว่าทางสถาบันก็ต้องรักษามาตรฐาน และแสดงว่าหลักสูตรและเนื้อหาที่สอนชาวต่างชาตินั้นอยู่ในระดับก่อให้เกิดประสิทธิผลค่ะ
2.อาจารย์ผู้อบรม อาจารย์ผู้อบรมนั้นเชื่อถือได้ทั้งความรู้ แน่นอนว่าถ้าคุณให้ความสำคัญกับคุณวุฒิทางการศึกษา อาจารย์ก็เชื่อถือได้มากๆค่ะ ที่สำคัญคือมีประสบการณ์ในการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติมาเป็นเวลานาน อาจารย์ให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์กันแบบไม่กั๊กเลยค่ะ นอกจากนี้อาจารย์ที่อบรม ทั้งอ.ศศิธร อ.มธุรส อ.ฑีฆายุ มีวิสัยทัศน์ที่ดีและกว้างไกลในเรื่องการเรียนการสอนทีเดียวค่ะ เราเคยเปิดเจอในเว็บสกุลไทยเกี่ยวกับที่มาที่ไปของโรงเรียนนี้ ลองอ่านดูก่อนก็ได้ค่ะ
http://www.scribd.com/doc/49943945/sakulthai-magazine-for-sumaa-language-and-culture-center
3.เนื้อหาที่อบรม เนื้อหาที่อบรมนั้นมีทั้งหลักภาษา วัฒนธรรม กลวิธีการสอน รวมถึงแนะนำสื่อการสอนด้วย
การอบรมเป็นลำดับขั้นดีค่ะ และแน่นอนว่าซักถามพูดคุยกันได้ ตอนท้ายมีให้ทดสอบสอนด้วย
ที่เราชอบมากคือมีการคอมเม้นต์การสอนเรา คอมเม้นต์การพูดของเรา
คอมเม้นต์นี่ไม่ใช่จะว่ากล่าวกันให้เจ็บช้ำอับอายนะคะ แต่ทำให้เรารู้ว่าเราเป็นอย่างไร เพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงตัวเราต่อไปได้
ทีนี้ถามว่าแล้วการสอนไทยให้ชาวต่างชาติ ทำไมต้องเรียน แค่บอกว่าเราพูดอะไร เขาก็พูดตามได้แล้ว ... ก็จะบอกว่า ไม่ใช่ค่ะ... ลองนึกถึงเราเรียนภาษาต่างประเทศอื่นๆ เช่น ภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ ชาวต่างชาติที่เขามาเรียนภาษาไทยก็ต้องเรียนเนื้อหาคล้ายกับที่เราเรียนภาษาอื่นนั่นละค่ะ
แต่การสอนไทยให้ชาวต่างชาติต้องมีการคัดเลือก สร้างสรรค์ หลักสูตรและเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้เรียน
เพราะชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เรียนนั้นคือผู้ใหญ่(ต่างกับเราที่เรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษแต่เด็ก) และเขาเองก็ต้องเรียนเพื่อนำไปใช้ได้สื่อสารได้จริง รวมถึงเขาต้องรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรมของไทยเราด้วยเพื่อจะได้ดำเนินชีวิตในสังคมไทยได้อย่างราบรื่นค่ะ
ดังนั้นการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติจึงเป็นทักษะอาชีพที่ต้องเรียนรู้ค่ะ
ยกตัวอย่างเรื่องที่เราทดสอบสอน คือ เรื่องลักษณนาม ค่ะ
ตอนเราเป็นเด็กนักเรียน ก็จะเรียนกันมาว่าลักษณนามมีกี่ชนิดอะไรบ้าง และเวลาทำข้อสอบก็จะมีให้เติมคำลักษณนามท้ายคำนามเยอะมาก ตอนเราได้มาเป็นติวเตอร์วิชาภาษาไทย ก็สอนแบบนั้นเช่นเดียวกัน แต่ก็จะคัดแต่ที่สำคัญและเทคนิกการจำเพื่อให้เด็กๆทำข้อสอบได้ด้วย แต่หากจะสอนคำลักษณนามให้ชาวต่างชาติ จะสอนแบบนั้นไม่ได้ค่ะ เพราะด้วยเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว และเขาเองเรียนภาษาไทยเพื่อไปใช้จริง เราคนไทยเรียนรู้คำลักษณนามกันตั้งแต่เด็ก เรารู้ว่าคำไหนใช้อะไรก็ด้วยประสบการณ์ทางภาษาที่เพิ่มพูนมาเรื่อยๆในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่คนต่างชาติ เขาเพิ่งมาอยู่ไทย เพิ่งรู้จักสังคมไทย และคนบางชาติ เขาก็ไม่มีคำลักษณนาม ดังนั้นเขาจึงต้องเรียนรู้ค่ะ ถามว่าไม่รู้ได้ไหม ลักษณนามเป็นเรื่องเล็กมากเลยนะ แต่หากสังเกตดีๆ จะพบว่าเป็นเรื่องเล็กที่สำคัญค่ะ เดี๋ยวไปพูดกับคนไทยไม่รู้เรื่อง อย่างจะไปซื้อของก็บอกไม่ถูกฟังไม่เข้าใจ แต่ชาวต่างชาติต่างจากสอนนักเรียนไทยค่ะ คือต้องมีวิธีเพื่อทำให้เขาสังเกตจดจำนำไปใช้ได้จริง และต้องอธิบายอย่างมีเหตุผลด้วย
เรื่องของเหตุผลสำคัญมากค่ะ ที่ศุมาได้เน้นย้ำและแสดงให้เห็นว่าการมีการสอนเรื่องใดๆก็ตามจำเป็นต้องอธิบายอย่างมีเหตุผล
ชาวต่างชาติเองเขาย่อมสงสัยทุกสิ่งที่เป็นสิ่งใหม่ที่เขาได้เรียนรู้ ก็เหมือนกันกับเราที่เรียนภาษาอื่น เราก็ย่อมข้องใจว่าทำไมใช้อย่างนั้นอย่างนี้ หรือถ้าไปอยู่ในประเทศอื่นก็ต้องสงสัยว่าทำไมเขาทำกันอย่างนั้นอย่างนี้ ชาวต่างชาติเองเขามาเรียนภาษาและวัฒนธรรมเราเขาก็ย่อมสงสัยเช่นกันค่ะ และการที่เราบอกกล่าวอธิบายอย่างมีเหตุผล จะทำให้เราเป็นผู้สอนที่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญเราว่าเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศได้นะคะ การที่เขาเจอคนดีๆเจอคนที่ตอบเขาได้แบบไม่กำปั้นทุบดินหรืองูๆปลาๆเขาคงดีใจและมีทัศนคติที่ดีต่อคนไทยแประเทศไทยค่ะ
4. กิจกรรมการเรียนการสอน เราขอพูดถึงการที่สถาบันให้ผู้อบรมเข้าไปดูการสอนของทางสถาบันได้ค่ะ (เห็นไหมคะว่าที่นี่ไม่กั๊ก)
คนที่ไม่เคยสอนชาวต่างชาติจริงๆ อย่างเราเอง ก็จะได้เห็นและได้เรียนรู้ว่าเขาพูดกันยังไง สอนอะไรบ้าง อธิบายยังไง ต้องระวังอะไร
เราว่าเป็นโอกาสดีมากค่ะที่ได้เข้าไป เพราะคงไม่มีอาจารย์กับนักเรียนต่างชาติที่ไหน ที่จู่ๆเราจะเดินเข้าไปขอดูการเรียนการสอนเขาได้ง่ายๆ หลังจบคอร์สแล้วทางสถาบันก็ให้เข้าไปดูการสอนหรือปรึกษาเกี่ยวกับการสอนได้นะคะ
ส่วนเราเองหลังจบคอร์สไปก็ยังไม่ได้มีโอกาสเข้าไปเลย แต่คิดว่าต้องได้เข้าไปปรึกษาเยี่ยมเยียนแน่นอนค่ะ เพราะเราเองก็ต้องเทรนตัวเองอีกเยอะ นี่ต้องฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอีกมากค่ะ อยากสอนระดับเบสิกได้คล่อง อยากอธิบายอยากบอกกล่าวเขาเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมในสังคมไทยเราได้คล่องๆค่ะ
สุดท้าย เรื่องของว่าง ไม่ต้องห่วงค่ะ ดีมากค่ะ 55
ส่วนการเดินทางนั้นเราว่าสะดวกเพราะมีรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ MRT นี่ล่ะค่ะ ลงสถานีลุมพีนี ออกทางออก 2 เดินขึ้นไปเจอตึกคิวเฮาส์ เดินเข้าไปสาทร ซ. 1 ค่ะ ถ้าไม่รีบก็เดินเข้าไปได้ค่ะ อยู่ใกล้กับสถาบันเกอเธ่เลย มื้อกลางวันก็ทานที่เกอเธ่นี่ล่ะค่ะ หรือจะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างก่อนก็ได้ 15 บาท หรือหากขับรถไปก็ซื้อของและจอดในคิวเฮาส์ได้ค่ะ
ก็หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจนะคะ
ส่วนใครอยากแชร์ อยากถามอะไรกันเชิญเลยค่ะ เราเองก็สนใจเรื่องการสอนไทยชาวต่างชาติอยู่แล้ว
หากเพื่อนๆคนไหนมีข่าวคราวอะไรน่าสนใจบอกกล่าวกันไว้ได้เลยค่ะ
[CR] สำหรับคนที่สนใจเรียนการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติค่ะ เคยต้ั้งกระทู้ถามไว้ ตอนนี้ได้เรื่องมาละค่ะ :)
ตอนนี้มีเรื่องเล่าให้ฟัง และที่สำคัญบอกแต่ต้นเลยว่าไม่ได้โน้มน้าวโฆษณาแต่อย่างใดนะคะ
อย่างที่บอก เราเองก่อนหน้านี้ก็เคยมาตั้งกระทู้ถามค่ะว่าตามรายชื่อที่หามาอบรมที่ไหนดี
ตอนนี้เลยขอมาแบ่งปัน และเผื่อมีคนสนใจเหมือนกันค่ะ
ขอแบ่งก่อนเรียนกับระหว่างเรียนนะคะ
ก่อนเรียนค่ะ
เราหาที่เรียนวิชาการสอนไทยชาวต่างชาติอยู่ เราพบ 3 ที่ แน่นอนเสิร์ชจากอากู๋ค่ะ(google) ใส่คำลงไป ก็จะมีคำเหล่านี้ล่ะค่ะ >> สอนไทย, ชาวต่างชาติ, ชาวต่างประเทศ (กลุ่มคำพวกนี้ละค่ะ)
3 ที่ที่ว่า มี
1.ศุมา สถาบันภาษาและวัฒนธรรม http://www.sumaa.net/about-us
2.อบรมวิธีสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติกับอ.รัตน์เร ที่เชียงใหม่ https://www.facebook.com/teachthai?fref=ts
3.อบรมสอนวิธีสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ซึ่งขณะนั้นมีคอร์ส 3 วันเปิดให้สมัครค่ะ
เราเองเรียนป.ตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาไทย มา และเคยเรียนวิชาการสอนภาษาไทยแต่ชาวต่างประเทศเป็นวิชาบังคับเลือกมาก่อน ดังนั้นเราเห็นว่าอบรม 3 วันนั้นก็คงไม่ได้อะไรเพิ่มมากจากที่เคยเรียนเป็นวิชาหนึ่งตอนป.ตรี
ว่าไปเราเองก็จบมาหลายปีแล้วค่ะ หลงลืมวิชาความรู้ไปบ้าง แต่ก็ยังไม่อยากเลือกที่อบรม 3 วันอยู่ดีค่ะ อยากได้อบรมจริงจังหลายชั่วโมงติดต่อกัน
ดังนั้นที่อยู่ในใจมาwinเลยคือที่ศุมา แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า เอ...จะดีไหมนะ หรือลองไปอบรมที่เชียงใหม่เลย กะถือโอกาสเที่ยวด้วยเลย 55 แต่ที่เชียงใหม่นี่ก็ไกลนะคะ และอ่านเจอรายละเอียดว่า เขาสอนโดยไม่ใช้โฟเนติก ก็อยากรู้เหมือนกันค่ะว่าเป็นอย่างไร แต่ติดที่ว่าไกลค่ะ และก็อบรม 3 วัน เมื่อยังไม่แน่ใจ จึงไปโพสต์ในพันทิปเผื่อมีใครสนใจหรือมีข้อมุลมาแนะนำกัน สุดท้ายได้คนแนะนำดีค่ะ และตั้งใจจะเรียนอยู่แล้ว จึงมาเรียนที่ศุมาฯนั่นเอง
ระหว่างเรียนค่ะ
เปิดคอร์สวันแรกเจอเพื่อนร่วมคลาสค่ะ ก็แอบหวั่นใจเพราะกริ่งเกรงในความสามารถของทุกคนค่ะ
(แต่ทุกคนดีมากจริงๆค่ะ กันเอง แชร์กัน ให้กำลังใจกัน)
กลัวว่าจะเป็นที่อับอายว่าทำไม่ได้ แต่อย่างไรด้วยความตั้งใจ และอยากเรียนรู้เป็นทุนเดิม ก็ทำให้เราไม่มัวมานั่งกลัว
และอยากรู้ว่าสิ่งที่จะได้เรียนนั้นจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่ได้เรียน (เราเองคงเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนทั้งหมดไม่ได้ ไม่ช่ว่าใครห้ามนะคะ แต่มันเยอะะะ ฮ่าๆ
เราเองก็เสียเงินไปเรียนเหมือนกัน ดังนั้นเราคงไม่โฆษณามั่วซั่ว เราประทับใจ เราก็บอกประทับใจ ถ้าไม่ก็บอกไม่
แต่ที่ศุมาฯเราประทับใจมากค่ะ และเราก็อยากให้ทุกคนที่สนใจการสอนภาษาไทยชาวต่างชาติได้รู้จักที่นี่อีกที่หนึ่งว่า เออ มีโรงเรียนที่เชื่อถือได้อยู่นะ ลองดูๆ)
ข้อดี
1. สถาบันศุมาเอง สถาบันเป็นที่เชื่อถือและยอมรับจากชาวต่างชาติที่เข้ามาเรียน
เราเองเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่สอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติโดยตรง แน่นอนว่าเราเลยต้องเก็บไว้เป็นตัวเลือกที่มาwin
และพอเข้ามาอบรมก็เลยได้รู้ว่าชาวต่างชาติที่มาเรียนที่นี่ เขาสนใจภาษาและวัฒนธรรมไทยจริงๆ ไม่ก็เป็นคนที่มาทำงานซึ่งบริษัทเขาส่งมาเรียน คนที่มาเรียนมีคนที่ทำงานในสถาทูตด้วยนะคะ และมีผู้มาสังเกตการสอนด้วย แน่นอนแสดงให้เห็นว่าทางสถาบันก็ต้องรักษามาตรฐาน และแสดงว่าหลักสูตรและเนื้อหาที่สอนชาวต่างชาตินั้นอยู่ในระดับก่อให้เกิดประสิทธิผลค่ะ
2.อาจารย์ผู้อบรม อาจารย์ผู้อบรมนั้นเชื่อถือได้ทั้งความรู้ แน่นอนว่าถ้าคุณให้ความสำคัญกับคุณวุฒิทางการศึกษา อาจารย์ก็เชื่อถือได้มากๆค่ะ ที่สำคัญคือมีประสบการณ์ในการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติมาเป็นเวลานาน อาจารย์ให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์กันแบบไม่กั๊กเลยค่ะ นอกจากนี้อาจารย์ที่อบรม ทั้งอ.ศศิธร อ.มธุรส อ.ฑีฆายุ มีวิสัยทัศน์ที่ดีและกว้างไกลในเรื่องการเรียนการสอนทีเดียวค่ะ เราเคยเปิดเจอในเว็บสกุลไทยเกี่ยวกับที่มาที่ไปของโรงเรียนนี้ ลองอ่านดูก่อนก็ได้ค่ะ http://www.scribd.com/doc/49943945/sakulthai-magazine-for-sumaa-language-and-culture-center
3.เนื้อหาที่อบรม เนื้อหาที่อบรมนั้นมีทั้งหลักภาษา วัฒนธรรม กลวิธีการสอน รวมถึงแนะนำสื่อการสอนด้วย
การอบรมเป็นลำดับขั้นดีค่ะ และแน่นอนว่าซักถามพูดคุยกันได้ ตอนท้ายมีให้ทดสอบสอนด้วย
ที่เราชอบมากคือมีการคอมเม้นต์การสอนเรา คอมเม้นต์การพูดของเรา
คอมเม้นต์นี่ไม่ใช่จะว่ากล่าวกันให้เจ็บช้ำอับอายนะคะ แต่ทำให้เรารู้ว่าเราเป็นอย่างไร เพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงตัวเราต่อไปได้
ทีนี้ถามว่าแล้วการสอนไทยให้ชาวต่างชาติ ทำไมต้องเรียน แค่บอกว่าเราพูดอะไร เขาก็พูดตามได้แล้ว ... ก็จะบอกว่า ไม่ใช่ค่ะ... ลองนึกถึงเราเรียนภาษาต่างประเทศอื่นๆ เช่น ภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ ชาวต่างชาติที่เขามาเรียนภาษาไทยก็ต้องเรียนเนื้อหาคล้ายกับที่เราเรียนภาษาอื่นนั่นละค่ะ
แต่การสอนไทยให้ชาวต่างชาติต้องมีการคัดเลือก สร้างสรรค์ หลักสูตรและเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้เรียน
เพราะชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เรียนนั้นคือผู้ใหญ่(ต่างกับเราที่เรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษแต่เด็ก) และเขาเองก็ต้องเรียนเพื่อนำไปใช้ได้สื่อสารได้จริง รวมถึงเขาต้องรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรมของไทยเราด้วยเพื่อจะได้ดำเนินชีวิตในสังคมไทยได้อย่างราบรื่นค่ะ
ดังนั้นการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติจึงเป็นทักษะอาชีพที่ต้องเรียนรู้ค่ะ
ยกตัวอย่างเรื่องที่เราทดสอบสอน คือ เรื่องลักษณนาม ค่ะ
ตอนเราเป็นเด็กนักเรียน ก็จะเรียนกันมาว่าลักษณนามมีกี่ชนิดอะไรบ้าง และเวลาทำข้อสอบก็จะมีให้เติมคำลักษณนามท้ายคำนามเยอะมาก ตอนเราได้มาเป็นติวเตอร์วิชาภาษาไทย ก็สอนแบบนั้นเช่นเดียวกัน แต่ก็จะคัดแต่ที่สำคัญและเทคนิกการจำเพื่อให้เด็กๆทำข้อสอบได้ด้วย แต่หากจะสอนคำลักษณนามให้ชาวต่างชาติ จะสอนแบบนั้นไม่ได้ค่ะ เพราะด้วยเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว และเขาเองเรียนภาษาไทยเพื่อไปใช้จริง เราคนไทยเรียนรู้คำลักษณนามกันตั้งแต่เด็ก เรารู้ว่าคำไหนใช้อะไรก็ด้วยประสบการณ์ทางภาษาที่เพิ่มพูนมาเรื่อยๆในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่คนต่างชาติ เขาเพิ่งมาอยู่ไทย เพิ่งรู้จักสังคมไทย และคนบางชาติ เขาก็ไม่มีคำลักษณนาม ดังนั้นเขาจึงต้องเรียนรู้ค่ะ ถามว่าไม่รู้ได้ไหม ลักษณนามเป็นเรื่องเล็กมากเลยนะ แต่หากสังเกตดีๆ จะพบว่าเป็นเรื่องเล็กที่สำคัญค่ะ เดี๋ยวไปพูดกับคนไทยไม่รู้เรื่อง อย่างจะไปซื้อของก็บอกไม่ถูกฟังไม่เข้าใจ แต่ชาวต่างชาติต่างจากสอนนักเรียนไทยค่ะ คือต้องมีวิธีเพื่อทำให้เขาสังเกตจดจำนำไปใช้ได้จริง และต้องอธิบายอย่างมีเหตุผลด้วย
เรื่องของเหตุผลสำคัญมากค่ะ ที่ศุมาได้เน้นย้ำและแสดงให้เห็นว่าการมีการสอนเรื่องใดๆก็ตามจำเป็นต้องอธิบายอย่างมีเหตุผล
ชาวต่างชาติเองเขาย่อมสงสัยทุกสิ่งที่เป็นสิ่งใหม่ที่เขาได้เรียนรู้ ก็เหมือนกันกับเราที่เรียนภาษาอื่น เราก็ย่อมข้องใจว่าทำไมใช้อย่างนั้นอย่างนี้ หรือถ้าไปอยู่ในประเทศอื่นก็ต้องสงสัยว่าทำไมเขาทำกันอย่างนั้นอย่างนี้ ชาวต่างชาติเองเขามาเรียนภาษาและวัฒนธรรมเราเขาก็ย่อมสงสัยเช่นกันค่ะ และการที่เราบอกกล่าวอธิบายอย่างมีเหตุผล จะทำให้เราเป็นผู้สอนที่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญเราว่าเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศได้นะคะ การที่เขาเจอคนดีๆเจอคนที่ตอบเขาได้แบบไม่กำปั้นทุบดินหรืองูๆปลาๆเขาคงดีใจและมีทัศนคติที่ดีต่อคนไทยแประเทศไทยค่ะ
4. กิจกรรมการเรียนการสอน เราขอพูดถึงการที่สถาบันให้ผู้อบรมเข้าไปดูการสอนของทางสถาบันได้ค่ะ (เห็นไหมคะว่าที่นี่ไม่กั๊ก)
คนที่ไม่เคยสอนชาวต่างชาติจริงๆ อย่างเราเอง ก็จะได้เห็นและได้เรียนรู้ว่าเขาพูดกันยังไง สอนอะไรบ้าง อธิบายยังไง ต้องระวังอะไร
เราว่าเป็นโอกาสดีมากค่ะที่ได้เข้าไป เพราะคงไม่มีอาจารย์กับนักเรียนต่างชาติที่ไหน ที่จู่ๆเราจะเดินเข้าไปขอดูการเรียนการสอนเขาได้ง่ายๆ หลังจบคอร์สแล้วทางสถาบันก็ให้เข้าไปดูการสอนหรือปรึกษาเกี่ยวกับการสอนได้นะคะ
ส่วนเราเองหลังจบคอร์สไปก็ยังไม่ได้มีโอกาสเข้าไปเลย แต่คิดว่าต้องได้เข้าไปปรึกษาเยี่ยมเยียนแน่นอนค่ะ เพราะเราเองก็ต้องเทรนตัวเองอีกเยอะ นี่ต้องฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอีกมากค่ะ อยากสอนระดับเบสิกได้คล่อง อยากอธิบายอยากบอกกล่าวเขาเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมในสังคมไทยเราได้คล่องๆค่ะ
สุดท้าย เรื่องของว่าง ไม่ต้องห่วงค่ะ ดีมากค่ะ 55 ส่วนการเดินทางนั้นเราว่าสะดวกเพราะมีรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ MRT นี่ล่ะค่ะ ลงสถานีลุมพีนี ออกทางออก 2 เดินขึ้นไปเจอตึกคิวเฮาส์ เดินเข้าไปสาทร ซ. 1 ค่ะ ถ้าไม่รีบก็เดินเข้าไปได้ค่ะ อยู่ใกล้กับสถาบันเกอเธ่เลย มื้อกลางวันก็ทานที่เกอเธ่นี่ล่ะค่ะ หรือจะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างก่อนก็ได้ 15 บาท หรือหากขับรถไปก็ซื้อของและจอดในคิวเฮาส์ได้ค่ะ
ก็หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจนะคะ
ส่วนใครอยากแชร์ อยากถามอะไรกันเชิญเลยค่ะ เราเองก็สนใจเรื่องการสอนไทยชาวต่างชาติอยู่แล้ว
หากเพื่อนๆคนไหนมีข่าวคราวอะไรน่าสนใจบอกกล่าวกันไว้ได้เลยค่ะ