สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
มีจริงครับ
นักประวัติศาสตร์เคยเชื่อว่ามหาสงครามกรุงทรอยนั้นเปนเพียงตำนานหรือนิทานของพวกกรีกเท่านั้น แต่จากการค้นพบของนักโบราณคดีชื่อก้องนามว่า "เฮนริค ชไลแมนน์" ในประเทศตุรกีเมื่อปี ค.ศ.๑๘๗๐ นั้นได้เปนการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการและโบราณคดีประวัติศาสตร์ยุโรปโบราณ เมื่อเขาได้พบกรุงทรอยเข้าจริงตามที่บันทึกไว้ในมหากาพย์ของอีเลียตจริงๆ
เฮนริค ชไลแมนน์
สำหรับรายละเอียดของสงครามกรุงทรอยนั้น ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงจะทราบดีแล้ว
ถ้าจะกล่าวในแง่ประวัติศาสตร์แล้ว สงครามกรุงทรอยนั้นเปนสงครามระหว่างเผ่าเอเคียน (พวกไมซีเน่) กับชาวโทรจัน (กรุงทรอย) ที่ต่างแย่งชิงความเปนใหญ่ในคาบสมุทรอีเจียนและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกนั่นเอง เพราะจากการขุดค้นนั้น เราพบว่ากรุงทรอยนั้นเปนนครที่ยิ่งใหญ่อย่างที่มีบรรยายไว้ในวรรณคดีของอีเลียตจริงๆครับ โดยเฉพาะบรรดาเครื่องทองอันตระการตาหลายๆชิ้น โดยเฉพาะ "หน้ากากอะกาเมมนอน" ซึ่งเปนหน้ากากทองคำสำหรับสวมพักตร์กษัตริย์ยามสิ้นพระชนม์ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า ชาวไมซีเน่และโทรจันน่าจะทำศึกเปนสงครามยืดเยื้อติดพันกันอย่างยาวนานหลายสิบปีเลยทีเดียว - คือตีกันเปนพักๆ แบบไทยรบพม่านั่นล่ะครับ - ไม่ได้ยกทัพมาล้อมเสียทีเดียวเปนสิบปีอย่างที่บอกไว้ในมหากาพย์ และที่แน่ๆ ไม่ใช่สงครามชิงนางครับ
"หน้ากากอะกาเมมนอน"
แผนผังกรุงทรอย
ซากเมืองที่เหลืออยู่
โรงละครกลางแจ้ง
แต่การทำศึกสงครามกับพวกโทรจันที่กินเวลาเปนสิบๆปีนี่ล่ะครับ ได้กลายเปนเหตุหนึ่งที่ทำให้อารยธรรมไมซีเนียนเสื่อมลงอย่างรวดเร็วในช่วงปลายยุคสมัย เพราะความที่พวกไมซีเน่คิดจะพิชิตกรุงทรอยเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ทรัพยากรแผ่นดินถูกใช้ในการทำศึกไปมาก และกองทัพก็อ่อนล้าลงเรื่อยๆ ซึ่งแม้นว่าไมซีเน่จะพิชิตกรุงทรอยได้ แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะต้านทานศัตรูหน้าใหม่ที่กำลังจะมาเยือนได้อีกแล้ว...
ชนเผ่าดอเรียนจากทางเหนือ ได้ยกทัพเข้ามาโจมตีนครไมซีเน่และเผาเมืองแห่งนี้จนราบคาบ อันเปนจุดสิ้นสุดของอารยธรรมไมซีเน่ในที่สุด และทำให้คาบสมุทรกรีกเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้งไปอีกหลายศตวรรษ ซึ่งในที่สุดแล้ว เมื่อพวกไอโอเนียนอพยพลงมาจากยุโรปตอนในเข้าสู่คาบสมุทรกรีก พวกเขาได้ดองญาติกับพวกดอเรียนและร่วมกันสรรสร้างยุคใหม่ของพวกเขาขึ้นมา
อารยธรรม ของพวก เฮเลนิคหรือชื่อที่เรารู้จักกันดี "กรีก "นั่นเองครับ
ปัจจุบันกรุงทรอยอยู่ในเมืองชานักคาเล (Canakale) ประเทศสาธารณรัฐตุรกี ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง บริเวณกรุงทรอย มีการจัดแสดงแบบจำลองกรุงทรอย และเรื่องราวการค้นพบโดยนักโบราณคดี พร้อมทั้งภาพแผนผังเมืองทรอยที่ถูกสร้างซ้อนทับกันถึง 9 ชั้น มีซากเมืองเก่า กำแพง ประตู และม้าไม้จำลองแห่งทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ
เกือบลืม
เครดิตข้อมูลและรูปภาพครับ
http://www.theepochtimes.com/n2/arts-entertainment/famous-reproductions-give-a-taste-of-prehistoric-greece-135306.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Heinrich_Schliemann
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=475359809207530&set=a.474923049251206.1073741921.365098623566983&type=1&theater
นักประวัติศาสตร์เคยเชื่อว่ามหาสงครามกรุงทรอยนั้นเปนเพียงตำนานหรือนิทานของพวกกรีกเท่านั้น แต่จากการค้นพบของนักโบราณคดีชื่อก้องนามว่า "เฮนริค ชไลแมนน์" ในประเทศตุรกีเมื่อปี ค.ศ.๑๘๗๐ นั้นได้เปนการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการและโบราณคดีประวัติศาสตร์ยุโรปโบราณ เมื่อเขาได้พบกรุงทรอยเข้าจริงตามที่บันทึกไว้ในมหากาพย์ของอีเลียตจริงๆ
เฮนริค ชไลแมนน์
สำหรับรายละเอียดของสงครามกรุงทรอยนั้น ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงจะทราบดีแล้ว
ถ้าจะกล่าวในแง่ประวัติศาสตร์แล้ว สงครามกรุงทรอยนั้นเปนสงครามระหว่างเผ่าเอเคียน (พวกไมซีเน่) กับชาวโทรจัน (กรุงทรอย) ที่ต่างแย่งชิงความเปนใหญ่ในคาบสมุทรอีเจียนและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกนั่นเอง เพราะจากการขุดค้นนั้น เราพบว่ากรุงทรอยนั้นเปนนครที่ยิ่งใหญ่อย่างที่มีบรรยายไว้ในวรรณคดีของอีเลียตจริงๆครับ โดยเฉพาะบรรดาเครื่องทองอันตระการตาหลายๆชิ้น โดยเฉพาะ "หน้ากากอะกาเมมนอน" ซึ่งเปนหน้ากากทองคำสำหรับสวมพักตร์กษัตริย์ยามสิ้นพระชนม์ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า ชาวไมซีเน่และโทรจันน่าจะทำศึกเปนสงครามยืดเยื้อติดพันกันอย่างยาวนานหลายสิบปีเลยทีเดียว - คือตีกันเปนพักๆ แบบไทยรบพม่านั่นล่ะครับ - ไม่ได้ยกทัพมาล้อมเสียทีเดียวเปนสิบปีอย่างที่บอกไว้ในมหากาพย์ และที่แน่ๆ ไม่ใช่สงครามชิงนางครับ
"หน้ากากอะกาเมมนอน"
แผนผังกรุงทรอย
ซากเมืองที่เหลืออยู่
โรงละครกลางแจ้ง
แต่การทำศึกสงครามกับพวกโทรจันที่กินเวลาเปนสิบๆปีนี่ล่ะครับ ได้กลายเปนเหตุหนึ่งที่ทำให้อารยธรรมไมซีเนียนเสื่อมลงอย่างรวดเร็วในช่วงปลายยุคสมัย เพราะความที่พวกไมซีเน่คิดจะพิชิตกรุงทรอยเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ทรัพยากรแผ่นดินถูกใช้ในการทำศึกไปมาก และกองทัพก็อ่อนล้าลงเรื่อยๆ ซึ่งแม้นว่าไมซีเน่จะพิชิตกรุงทรอยได้ แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะต้านทานศัตรูหน้าใหม่ที่กำลังจะมาเยือนได้อีกแล้ว...
ชนเผ่าดอเรียนจากทางเหนือ ได้ยกทัพเข้ามาโจมตีนครไมซีเน่และเผาเมืองแห่งนี้จนราบคาบ อันเปนจุดสิ้นสุดของอารยธรรมไมซีเน่ในที่สุด และทำให้คาบสมุทรกรีกเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้งไปอีกหลายศตวรรษ ซึ่งในที่สุดแล้ว เมื่อพวกไอโอเนียนอพยพลงมาจากยุโรปตอนในเข้าสู่คาบสมุทรกรีก พวกเขาได้ดองญาติกับพวกดอเรียนและร่วมกันสรรสร้างยุคใหม่ของพวกเขาขึ้นมา
อารยธรรม ของพวก เฮเลนิคหรือชื่อที่เรารู้จักกันดี "กรีก "นั่นเองครับ
ปัจจุบันกรุงทรอยอยู่ในเมืองชานักคาเล (Canakale) ประเทศสาธารณรัฐตุรกี ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง บริเวณกรุงทรอย มีการจัดแสดงแบบจำลองกรุงทรอย และเรื่องราวการค้นพบโดยนักโบราณคดี พร้อมทั้งภาพแผนผังเมืองทรอยที่ถูกสร้างซ้อนทับกันถึง 9 ชั้น มีซากเมืองเก่า กำแพง ประตู และม้าไม้จำลองแห่งทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ
เกือบลืม
เครดิตข้อมูลและรูปภาพครับ
http://www.theepochtimes.com/n2/arts-entertainment/famous-reproductions-give-a-taste-of-prehistoric-greece-135306.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Heinrich_Schliemann
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=475359809207530&set=a.474923049251206.1073741921.365098623566983&type=1&theater
แสดงความคิดเห็น
กรุงทรอยมีจริงไหม ?