Pacific Rim : สนุกแต่ยังไม่อิ่ม (บทความนี้อาจเปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ ผู้ที่กลัวเสียอรรถรสในการชมโปรดข้ามไปเลย)

หนังต้องดูในปีนี้นอกจาก Man Of Steel แล้ว Pacific Rim ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พลาดไม่ได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นตัวอย่างหนังเรื่องนี้ ก็บอกกับตัวเองว่าต้องดูแต่อย่าไปคิดอะไรเยอะ ดูเอามัน แต่ครั้นหนังเข้าปั้บ เริ่มมี Review ตรงนั้น ตรงนี้ข้อสังเกตุต่างๆเริ่มหลั่งไหลเข้าหัวมาเรื่อย จนในที่สุดผมก็คาดหวังว่า หนังเรื่องนี้ต้องเป็น Super Robot แบบสุดโต่งแหงมๆ (คิดเองเออเอง ด้วยการประเมินจากข้อมูลที่ได้รับมา) และวันนี้เองก็ได้มีโอกาสเข้าไปดูด้วยตาตัวเองผลปรากฏว่า "สนุก ถูกใจ แต่ยังไม่อิ่มเอม"

หนังว่าด้วยการมาถึงของหายนะโลกจากการบุกของ "ไคจู" สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ ด้วย Public Enemy นี้เองทำให้โลกได้ร่วมมือกันเพื่อปกป้องตนเอง จนกระทั่งได้ "เยเกอร์" หุ่นรบขนาดยักษ์ที่เ้ข้ามาต่อต้าน และแน่นอนในการต่อสู้ทุกศึกสงครามต้องมีความสูญเสียเป็นข้อแลกเปลี่ยนเสมอ ตัวเอกของเรื่องจึงเป็นนักขับที่มีปมซึึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาแตกต่างจากคนอื่น (แต่น่าเสียดายที่หนังไม่ได้เลนประเด็นนี้ในทางบวกเลย มีแต่ทางก้านลบอย่างเดียว) การต่อสู้เกิดขึ้นบนหลักการเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์อย่างลงตัวแต่เรียบง่าย(จนเกินไป) เริ่มต้นและลงท้ายในแบบที่เราเดาได้ตลอดทั้งเรื่อง

ส่วนที่ทำได้ดี ในเรื่องคือ เหตุผลต่างๆ ดูมีน้ำหนัก มีความเป็นไปได้ สมเหตุสมผลในรูปแบบของมัน อาทิเช่น
"ไคจู" กำลังเป็นภัยคุกคามมนุษยชาติ (ในขณะเดียวกันก็ไม่ละเลยที่จะใส่แนวคิดการอนุรักษ์ธรรมชาติสอดแทรกเอาไว้ด้วย)
การ "ข้าม" ไปมาของไคจูกับโลก
การบังคับเยเกอร์ด้วยการเชื่อมโยงสมองของผู้ขับกับหุ่ยยนต์ และเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์อื่นๆ ในเรื่องนี้
Special Effect ต่างๆ ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะการเข้าบวกกันระหว่างหุ่นยนต์เยเกอร์กับไคจูขนาดยักษ์ ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย บนรูปแบบแมคคานิกพื้นฐาน ทำให้ฉากต่อสู้ดูง่ายแม้จะไม่ได้สะอาดตาแบบในหนังเซนไตของญี่ปุ่น แต่ก็ดูง่ายและรู้เรื่องกว่า Transformer ที่เหมือนกับเอาหุ่นมาหมุนเต้นระบำวูบวาบ แต่ไม่รู้เรื่องเลยว่ามันทำอะไรกัน เยเกอร์มีความกล้าและเจ๋งพอที่จะทำให้รู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไร และด้วยการหน่วงจังหว่ะที่เหมาะสม ทำให้ในแต่ละแอคชั่น ผมแอบลุ้น และเหนื่อยไปกับทุกหมัด ทุกทุบ ทุกหวด ตามจังหว่ะการขับ ประหนึ่งได้เชื่อมสมองแชร์เข้าไปกับเยเกอร์ด้วยก็ไม่ปาน (ยอมรับว่าเหนื่อยทุกครั้งที่มันออกมาอัดกัน)

ส่วนที่แย่ที่สุด คือ บทการดำเนินเรื่องที่ไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรโดดเด่น เมื่อมาเจอกับการปูทางเข้าไปหาดราม่าแบบถูลู่ ถูกัง บทพูดที่ทำยังไงก็ไม่รู้สึกฮึกเหิม และฉากกดระเบิดเดิมๆ ที่ชินตาและเดาได้ว่าเดี๋ยวมาแน่ เหล่านี้ทำให้ความรู้สึกที่กำลังคุกรุ่นจากฉากการหวดกับไคจูเกิดการฝ่อจนเกือบจะน่าเบื่อไปในบางจังหว่ะ ในส่วนของบทนี้เป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก ทั้งๆที่หนังปูปมอะไรต่างๆ ไว้มากมาย แต่กลับไม่ได้เอามาใช้เลย หนังเลือกที่จะโฟกัส "พลขับ" จนลืม "คน" อื่นๆ ไปเสียหมด
อีกประการหนึ่งคือเรื่องของไซส์ไคจู ไม่ว่ามันจะระดับ 2 3 4 หรือ 5 ผมก็ไม่เห็นความต่างของมันสักเท่าไหร่เลย ในความเห็นผม ไคจูที่เป็นไคลแมกซ์น่าจะเป็นอะไรที่อลังการกว่านี้

ส่วนประเด็นที่ทำให้ผมผิดหวังอีกอย่างคือความคิดว่า หนังเรื่องนี้เป็น Super robot แต่กลับไม่ใช่เลย ในเซ้นส์ของผมเยเกอร์นั้นมีความเป็น Real Robot อย่างมาก โดยเฉพาะสภาพที่เหลือจากการหวดกันระหว่างยิบซี แดนเจอ กับ เจ้าหัวมีด แล้วละก็ผมนึกถึง RX-78 ในสงคราม 1 ปี ขึ้นมาจับใจ... ไอ้การเชื่อมโยงสมองนั่นก็เป็นไอเดียที่ดีก็พาลให้คิดไปถึงระบบไซโคเฟรม ขึ้นมาเสียอีก
(อีกประการ ผมนึกถึงขบวนการ 5 สี ซึ่งในการขับหุ่นต้องการน้ำหนึ่งใจเดียว เราจะเห็นว่าเวลาออกอาวุธต่างๆ พลขับ 5 สี จะทำท่าเหมือนกัน ซึ่งในส่วนนี้หนังอาจอธิบายการกระทำเหล่านี้อยู่ด้วยก็ได้)

สุดท้ายกลับมาที่ความคาดหวังส่วนตัวว่าจะได้เจอหนัง Super Robot สุดอินดี้กลับ ก็ต้องพังทลายลงไป เพราะ Pacific Rim เป็นหนังหุ่นยนต์ที่มีความ Real สูงมากๆ แม้ว่าจะมีฉากที่แสดงความเคารพต่อ Super Robot รุ่นเก๋า อย่าง เกตเตอร์ มาชินเกอร์ ฯลฯ เช่น การประกอบคอกพิทคนขับเข้าทางส่วนหัว การปล่อยหมัดจรวด (ที่ไม่ได้ยิงออกไป แต่เป็นบูทสเตอร์เพิ่มแรงบวก) หรือแม้แต่ไม้ตายที่เด็ดขาดที่สุด คือ "ดาบ" ก็ตามที แต่ในทัศนะของผม Pacific Rim ยังห่างไกลกับการเป็น Super Robot (ซุปเปอร์โรบอทมันต้องยิงบีมจากร่างกายได้เซ่!!!!!!!!!!!!!! มันต้องมีพลังใจเหนือกว่าทุกพลังในจักรวาลเซ่!!!!!!!!!!!!!!!!!! มันต้องมีปาฏิหารย์เซ่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ซึ่งในเรื่องนี้...ไม่มี)
อย่างไรก็ตาม Pacific Rim ก็มีความกล้าบ้าบิ่นพอที่จะเป็นรอยเท้าแรก เปิดไลน์ภาพยนตร์หุ่นยักษ์ประจันบานได้อย่างน่าสนใจ และหวังลึกๆ ว่า ในเร็วๆนี้จะมีหนังหุ่นยนต์ยักษ์ที่ถอดเนื้อหาออกมาจากการ์ตูนจริงๆ .....เสียที

ป.ล.ถ้าผมดูหนังเรื่องนี้บนจุดยืนแรก ผมอาจจะรู้สึกสนุกกว่านี้ก็เป็นได้....

ดัดแปลงจากโพสต้นเรื่อง https://www.facebook.com/mrtapakon/posts/671729626173943?notif_t=like

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่