บันทึกที่เจ็ด
ผมรู้จักกับเธอทางอินเตอร์เน็ต
เป็นการรู้จักกันผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์
เธอเป็นคนคุยสนุก ตรงไปตรงมา
ตัวอักษรที่เธอพิมพ์มาหามักจะแฝงไว้ด้วยความน่ารัก
ถึงแม้ผมจะไม่เคยเห็นรูปเธอ ไม่รู้ว่าหน้าตาเธอเป็นแบบไหน
แต่ผมกลับรู้สึกดีทุกครั้งที่เราได้คุยกัน
ดิฉันรู้จักกับเขาทางอินเตอร์เน็ต
เป็นการรู้จักกันผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์
เขาเป็นคนคุยด้วยง่าย มีความรอบรู้
ตัวอักษรที่เขาพิมพ์ตอบมามักจะแฝงไว้ด้วยความเฉลียวฉลาด
ถึงแม้ดิฉันจะไม่เคยเห็นภาพเขา ไม่ทราบว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร
แต่ดิฉันอิ่มเอมใจทุกครั้งที่เราได้คุยกัน
ผมคุยกับเธออย่างถูกคอในหลายต่อหลายเรื่อง
ตั้งแต่การดูหนัง ฟังเพลง ร้านอาหารที่ชอบและอีกหลายๆอย่าง
การได้คุยกับคนที่สนใจอะไรคล้ายๆกัน ทำให้ผมมีความสุข
ผมรู้สึกหวั่นไหวในใจ ผมอาจจะหลงรักเธอ นั่นทำให้ผมรู้สึกผิด
ถึงเราจะมีเรื่องคุยกันมากมาย แต่ผมจะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องส่วนตัวเสมอ
เพราะที่จริงผมแต่งงานมีภรรยาแล้ว
ดิฉันคุยกับเขาอย่างสนิทสนมได้แทบทุกเรื่อง
เราคุยเรื่องหนังที่ชอบ เพลงที่ฟัง ร้านอาหารอร่อยและอื่นๆอีกมากมาย
การได้คุยกับคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน ทำให้ดิฉันมีความสุข
ดิฉันหัวใจพองโต ดิฉันคิดว่าตัวเองตกหลุมรัก นั่นทำให้ดิฉันรู้สึกผิด
ถึงเราจะมีเรื่องคุยกันมากมาย แต่ดิฉันจะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องส่วนตัวเสมอ
เพราะที่จริงดิฉันแต่งงานมีสามีแล้ว
แต่ในที่สุดผมก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการของตัวเอง
ผมตัดสินใจนัดเจอกับเธอที่ร้านอาหารที่เราทั้งคู่ชื่นชอบแห่งหนึ่ง
การไม่เคยเจอหน้าคร่าตากัน ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับผม
ผมหลงรักเธอในสิ่งที่เธอเป็น ผมตัดสินใจแล้ว
ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอพิมพ์ตอบรับนัดผม
แต่ในที่สุดดิฉันก็เพลี่ยงพล้ำให้กับความปรารถนาของตัวเอง
เขาพิมพ์ข้อความเชิญชวนดิฉันให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารที่เราชื่นชอบ
การไม่เคยเจอหน้าคร่าตากัน ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับดิฉัน
ดิฉันตกหลุมรักเขาในแบบที่เขาเป็น ดิฉันตัดสินใจแล้ว
ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ดิฉันตอบตกลงนัดเขา
ผมโทรศัพท์บอกภรรยาว่าวันนี้จะไปทานข้าวกับลูกค้า
โชคดีที่ภรรยาผมไม่ได้ถามอะไรมาก เธอบอกผมว่าเธอจะออกไปเจอเพื่อนเหมือนกัน
ผมจอดรถที่หน้าร้านอาหาร บอกพนักงานว่าขอโต๊ะสำหรับสองที่
บริกรพาผมมานั่งที่โต๊ะ ผมมาถึงก่อนเวลานัดหมายนิดหน่อย
ที่จริงผมไม่ได้คิดที่จะทำอะไรเกินเลย ผมเพียงแค่อยากเจอเธอสักครั้ง
ยังไงก็ตาม ผมตั้งใจจะบอกเธอว่าผมมีภรรยาแล้ว
ระหว่างนั่งรอ ผมตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมานานหลายปี
สามีดิฉันโทรศัพท์มาบอกว่าวันนี้จะต้องไปทานข้าวกับลูกค้า
โชคดีที่สามีดิฉันมีธุระเหมือนกัน ดิฉันจึงไม่ต้องอ้างอะไรมากในการจะออกจากบ้าน
ดิฉันนั่งแท็กซี่มาลงหน้าร้านอาหาร บอกพนักงานว่ามีเพื่อนมาก่อนแล้ว
ดิฉันเดินเข้าร้านมาด้วยตัวเอง อีกเพียงสองสามนาทีก็จะถึงเวลานัด
ที่จริงดิฉันไม่ได้คิดจะปล่อยให้มันเลยเถิด ดิฉันแค่รู้สึกอยากเจอเขาสักครั้ง
อย่างไรก็ตาม ดิฉันตั้งใจจะบอกเขาว่าดิฉันมีสามีแล้ว
ระหว่างเดินเข้าร้าน ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากในรอบหลายปี
ผมรู้สึกเสียววาบที่สันหลัง จุกแน่นที่หน้าอกเมื่อเห็นภรรยาผมเดินเข้าร้านมา
ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พยักหน้าเชื้อเชิญเธอให้มานั่งที่โต๊ะ
ผมโกหกภรรยาว่าลูกค้าเพิ่งโทรศัพท์มายกเลิกนัดไป
ผมรู้สึกอึดอัดและละอายใจ ภายในจิตใจผมเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ผมได้แต่ภาวนาให้เธออย่ามาตามที่นัดกันไว้เลย
ผมทานข้าวเย็นมื้อนั้นกับภรรยาอย่างเงียบๆ บรรยากาศอึมครึมผ่านไปอย่างเชื่องช้า
แต่แล้ววันนั้นก็ไม่มีผู้หญิงแปลกหน้าคนไหนเดินเข้าร้านมาเพียงลำพัง
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเปิดประตูรถให้ภรรยา
ดิฉันรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า หัวใจแทบวายเมื่อเห็นสามีดิฉันในร้าน
ดิฉันทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ต้องเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับเขา
ดิฉันโกหกสามีว่าเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่าติดธุระด่วนเมื่อสักครู่
ดิฉันรู้สึกอึดอัดและละอายใจ ภายในจิตใจดิฉันเต็มไปด้วยความสำนึกผิด
ดิฉันได้แต่ภาวนาให้เขาอย่ามาตามที่นัดกันไว้เลย
ดิฉันทานข้าวเย็นมื้อนั้นกับสามีอย่างเงียบๆ พยายามเก็บอาการวิตกกังวลเอาไว้
แต่แล้ววันนั้นก็ไม่มีผู้ชายแปลกหน้าคนไหนเดินเข้าร้านมาเพียงลำพัง
ดิฉันแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะขึ้นรถกลับกับสามี
คืนนั้นผมพิมพ์ถามเธอว่า "ทำไมไม่มาตามนัด?"
คืนนั้นดิฉันพิมพ์ถามเขาว่า "ทำไมไม่มาตามนัด?"
ดินสอหัก
12.07.13.20.15
บันทึกที่เจ็ด
ผมรู้จักกับเธอทางอินเตอร์เน็ต
เป็นการรู้จักกันผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์
เธอเป็นคนคุยสนุก ตรงไปตรงมา
ตัวอักษรที่เธอพิมพ์มาหามักจะแฝงไว้ด้วยความน่ารัก
ถึงแม้ผมจะไม่เคยเห็นรูปเธอ ไม่รู้ว่าหน้าตาเธอเป็นแบบไหน
แต่ผมกลับรู้สึกดีทุกครั้งที่เราได้คุยกัน
ดิฉันรู้จักกับเขาทางอินเตอร์เน็ต
เป็นการรู้จักกันผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์
เขาเป็นคนคุยด้วยง่าย มีความรอบรู้
ตัวอักษรที่เขาพิมพ์ตอบมามักจะแฝงไว้ด้วยความเฉลียวฉลาด
ถึงแม้ดิฉันจะไม่เคยเห็นภาพเขา ไม่ทราบว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร
แต่ดิฉันอิ่มเอมใจทุกครั้งที่เราได้คุยกัน
ผมคุยกับเธออย่างถูกคอในหลายต่อหลายเรื่อง
ตั้งแต่การดูหนัง ฟังเพลง ร้านอาหารที่ชอบและอีกหลายๆอย่าง
การได้คุยกับคนที่สนใจอะไรคล้ายๆกัน ทำให้ผมมีความสุข
ผมรู้สึกหวั่นไหวในใจ ผมอาจจะหลงรักเธอ นั่นทำให้ผมรู้สึกผิด
ถึงเราจะมีเรื่องคุยกันมากมาย แต่ผมจะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องส่วนตัวเสมอ
เพราะที่จริงผมแต่งงานมีภรรยาแล้ว
ดิฉันคุยกับเขาอย่างสนิทสนมได้แทบทุกเรื่อง
เราคุยเรื่องหนังที่ชอบ เพลงที่ฟัง ร้านอาหารอร่อยและอื่นๆอีกมากมาย
การได้คุยกับคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน ทำให้ดิฉันมีความสุข
ดิฉันหัวใจพองโต ดิฉันคิดว่าตัวเองตกหลุมรัก นั่นทำให้ดิฉันรู้สึกผิด
ถึงเราจะมีเรื่องคุยกันมากมาย แต่ดิฉันจะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องส่วนตัวเสมอ
เพราะที่จริงดิฉันแต่งงานมีสามีแล้ว
แต่ในที่สุดผมก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการของตัวเอง
ผมตัดสินใจนัดเจอกับเธอที่ร้านอาหารที่เราทั้งคู่ชื่นชอบแห่งหนึ่ง
การไม่เคยเจอหน้าคร่าตากัน ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับผม
ผมหลงรักเธอในสิ่งที่เธอเป็น ผมตัดสินใจแล้ว
ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอพิมพ์ตอบรับนัดผม
แต่ในที่สุดดิฉันก็เพลี่ยงพล้ำให้กับความปรารถนาของตัวเอง
เขาพิมพ์ข้อความเชิญชวนดิฉันให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารที่เราชื่นชอบ
การไม่เคยเจอหน้าคร่าตากัน ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับดิฉัน
ดิฉันตกหลุมรักเขาในแบบที่เขาเป็น ดิฉันตัดสินใจแล้ว
ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ดิฉันตอบตกลงนัดเขา
ผมโทรศัพท์บอกภรรยาว่าวันนี้จะไปทานข้าวกับลูกค้า
โชคดีที่ภรรยาผมไม่ได้ถามอะไรมาก เธอบอกผมว่าเธอจะออกไปเจอเพื่อนเหมือนกัน
ผมจอดรถที่หน้าร้านอาหาร บอกพนักงานว่าขอโต๊ะสำหรับสองที่
บริกรพาผมมานั่งที่โต๊ะ ผมมาถึงก่อนเวลานัดหมายนิดหน่อย
ที่จริงผมไม่ได้คิดที่จะทำอะไรเกินเลย ผมเพียงแค่อยากเจอเธอสักครั้ง
ยังไงก็ตาม ผมตั้งใจจะบอกเธอว่าผมมีภรรยาแล้ว
ระหว่างนั่งรอ ผมตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมานานหลายปี
สามีดิฉันโทรศัพท์มาบอกว่าวันนี้จะต้องไปทานข้าวกับลูกค้า
โชคดีที่สามีดิฉันมีธุระเหมือนกัน ดิฉันจึงไม่ต้องอ้างอะไรมากในการจะออกจากบ้าน
ดิฉันนั่งแท็กซี่มาลงหน้าร้านอาหาร บอกพนักงานว่ามีเพื่อนมาก่อนแล้ว
ดิฉันเดินเข้าร้านมาด้วยตัวเอง อีกเพียงสองสามนาทีก็จะถึงเวลานัด
ที่จริงดิฉันไม่ได้คิดจะปล่อยให้มันเลยเถิด ดิฉันแค่รู้สึกอยากเจอเขาสักครั้ง
อย่างไรก็ตาม ดิฉันตั้งใจจะบอกเขาว่าดิฉันมีสามีแล้ว
ระหว่างเดินเข้าร้าน ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากในรอบหลายปี
ผมรู้สึกเสียววาบที่สันหลัง จุกแน่นที่หน้าอกเมื่อเห็นภรรยาผมเดินเข้าร้านมา
ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พยักหน้าเชื้อเชิญเธอให้มานั่งที่โต๊ะ
ผมโกหกภรรยาว่าลูกค้าเพิ่งโทรศัพท์มายกเลิกนัดไป
ผมรู้สึกอึดอัดและละอายใจ ภายในจิตใจผมเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ผมได้แต่ภาวนาให้เธออย่ามาตามที่นัดกันไว้เลย
ผมทานข้าวเย็นมื้อนั้นกับภรรยาอย่างเงียบๆ บรรยากาศอึมครึมผ่านไปอย่างเชื่องช้า
แต่แล้ววันนั้นก็ไม่มีผู้หญิงแปลกหน้าคนไหนเดินเข้าร้านมาเพียงลำพัง
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเปิดประตูรถให้ภรรยา
ดิฉันรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า หัวใจแทบวายเมื่อเห็นสามีดิฉันในร้าน
ดิฉันทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ต้องเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับเขา
ดิฉันโกหกสามีว่าเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่าติดธุระด่วนเมื่อสักครู่
ดิฉันรู้สึกอึดอัดและละอายใจ ภายในจิตใจดิฉันเต็มไปด้วยความสำนึกผิด
ดิฉันได้แต่ภาวนาให้เขาอย่ามาตามที่นัดกันไว้เลย
ดิฉันทานข้าวเย็นมื้อนั้นกับสามีอย่างเงียบๆ พยายามเก็บอาการวิตกกังวลเอาไว้
แต่แล้ววันนั้นก็ไม่มีผู้ชายแปลกหน้าคนไหนเดินเข้าร้านมาเพียงลำพัง
ดิฉันแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะขึ้นรถกลับกับสามี
คืนนั้นผมพิมพ์ถามเธอว่า "ทำไมไม่มาตามนัด?"
คืนนั้นดิฉันพิมพ์ถามเขาว่า "ทำไมไม่มาตามนัด?"
ดินสอหัก
12.07.13.20.15