ถ้าเป็นของประเทศไทย และเล่นแบบเก็งกำไร ไม่น่าสนใจครับ

เพราะว่า
1. ตลาดทองโลกเปิดตั้งแต่ตี5ปิดตี4 วันนึงเปิด23ชั่วโมง แต่ไทยไม่สามารถซื้อขายตลอดแบบนั้นได้
สมมติซื้อไปตอนบ่าย พอตลาดปิด ตกดึกตลาดอเมริกาทองร่วงหนัก ตื่นเช้ามาเหมือนโดนมัดมือชกให้ขาดทุน
จะออกตอนที่มันเพิ่งเริ่มลงก็ไม่ได้ คนที่ติดทองช่วงสงกรานต์จะทราบดี
2. ทองไทยต้องอิงค่าเงินด้วย ส่วนใหญ่ทองกับดอลล่าร์ก็จะไปตรงข้ามกัน อันนึงขึ้น อีกอันจะลง
เมื่อราคาทองขึ้น ดอลลาร์อ่อนลง ทำให้เงินบาทเมื่อเทียบแล้วแข็งค่าขึ้น ดังนั้นราคาทองไทยจะขึ้นไม่มาก เป็นต้น
หรือต่อให้ดอลล่าร์และทองโลกไม่ไปตรงข้ามกัน แต่เราก็ต้องดูปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อค่าเงินบาทอีก

ดังนั้นการดู2ปัจจัย และยังไม่สามารถเข้าหรือออกได้ทันการณ์ ถือว่าไม่เหมาะสำหรับการเก็งกำไรครับ

สำหรับคำถามว่าการเล่นทองไทยเหมาะกับใคร สำหรับผมคิดว่าเหมาะสำหรับคนที่ติดดอยทองแท่งครับ

โดยการถือทองคำแท่งมีข้อเสียคือ เราไม่ได้เงินปันผลหรือผลตอบแทนระหว่างถือเลย
อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการหายหรือโดนขโมยอีกด้วย
ดังนั้นสำหรับคนที่ถือทองคำแท่งตอนนี้ แล้วติดดอยอยู่ แต่ยังไม่อยากขาย
ผมแนะนำว่าให้ขายแล้วนำเงินไปLongในgold futureครับ

สมมติ เราซื้อทองตอนราคา20,000บาท จำนวน10บาท เป็นเงินจำนวน200,000บาท
ถ้าตอนนี้ราคาทองอยู่ที่15,000บาท แล้วคุณยังไม่อยากขาย จะรอให้มันกลับไป20,000บาทถึงจะขาย
ผมแนะนำให้ขายเอาเงิน150,000บาทออกมา แล้วไปLong gold future 10baht 1สัญญา
คุณจะต้องวางเงินขั้นต้น19,000บาท แต่เพื่อลดความผันผวน คุณอาจวางเงินจำนวน50,000บาท
ส่วนเงินอีก100,000นั้น ก็เอาไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย ถ้าสมมติ3% ก็จะได้ดอกเบี้ยปีละ3,000บาท
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะมีค่าเปลี่ยนสัญญาปีละ1ครั้ง ไม่เกิน100บาทต่อสัญญา

สรุป
ถ้าถือทองแท่ง จะไม่ได้ผลตอบแทนระหว่างถือ อีกทั้งเสี่ยงต่อการหาย
แต่ถ้าเปลี่ยนมาถือเป็นGold futureแทน จะได้ผลตอบแทนปีละ3,000บาท ไม่เสี่ยงต่อการหาย
ทั้ง2กรณีถือว่าเรามีทองในมือ10บาทเท่ากัน
(การในความเป็นจริงคงทำยาก เพราะถ้าขายเอาเงิน150,000มาเพื่อเปิดสถานะgold future
มันเหมือนกับเรารับรู้ขาดทุน พวกคนติดดอยมักทำใจไม่ได้)