รอดตัวไปอีกครั้ง

ประมาณหนึ่งถึงสองเดือนเราต้องขับรถเดินทางไกลระยะทางเกือบพันกิโลไปกลับก็ร่วมสองพันกิโล  เผลอแป๊บเดียวก็เกือบเก้าปีแล้วที่ทำแบบนี้  ลองคำนวณดูก็ประมาณ 70 เที่ยวที่ขับรถขึ้นล่องกรุงเทพอีสานทะลุไปออกลาวเพื่องานของเรา  วันนี้ก็เช่นเคย ออกจากกรุงเทพตอนสายๆเย็นๆใกล้ค่ำก็มานอนเล่นเน็ทอยู่ที่โรงแรมเล็กๆในมุกดาหาร  พรุ่งนี้ไปต่ออีก

ที่จั่วหัวกระทู้ว่ารอดตัวไปอีกครั้งก็คือ เรื่องแรก รอดจากการถูกจับความเร็ว..... ก่อนโน้นยังงี่เง่าขับรถเร็ว โดนปรับทุกครั้งแหละครับ ทั้งขาขึ้นขาล่องโดนหมด อย่างน้อยก็หนึ่งหรือสองด่าน  ถูกเรียกก็เจรจากับคุณจ่าจ่ายไปร้อยนึงแกก็ยอมให้ไปต่อ แต่มาระยะหลังๆนี่ ร้อยนึงไม่ได้ซะแล้ว  ตำรวจทางหลวงได้ส่วนแบ่งจากค่าปรับด้วยพี่แกเลยเล่นเต็มๆสี่ร้อยบาท ผู้กองมาตั้งโต๊ะเซ็นใบสั่งอยู่ริมถนนเลย  เอ ชักแพงวุ๊ย เจอไปซักด่านสองด่านนี่หลายเงินนะ  อีกทั้งเจ๊รู้ดีคนสนิทกันก็คอยสำทับว่าจะบื้อขับเร็วไปทำไม ทั้งอันตรายทั้งถูกปรับเสียเงินโดยใช่เหตุ  เราก็ชักได้สติปัญญาเกิด เลยพยายามขับช้าลง เอาเป็นว่าไม่เกิน 120 ใหม่ๆก็ทำไม่ค่อยได้ ทำอยู่หลายทริปก็ชักชิน  วันนี้ขาขึ้นเจอด่านทั้งหมดสามด่าน ไม่โดนเรียกเลย  เห็นแต่ละด่านนี่พวกขับเร็วเกินกำหนดโดนปรับกันเป็นแถวด่านละหลายคัน  เราก็หัวเราะเยาะอยู่ในใจ แต่พอนึกได้ว่าสมัยก่อนตูก็โดนประจำ คนอื่นที่ผ่านได้ตลอดก็คงหัวเราะเยาะเราเหมือนกัน เลยต้องหุบปาก 555..555

เคยมีคนตั้งกระทู้แขวะตำรวจว่าการตั้งด่านเช็คความเร็วนี่ จุดประสงค์ก็เพื่อหาเงินแหละ  เราก็ว่างั้น แต่จะว่าตำรวจก็ไม่ได้  เราทำผิดกฏหมายนี่นา  นึกๆไปเราน่าจะแก้เผ็ดตำรวจที่ชอบตั้งด่านตรวจความเร็วเพื่อทำเงินได้นะ  ก็แค่ทุกคนขับไม่เกิน 120 จ่าแกก็เรียกปรับไม่ได้ ปล่อยให้จ่าตากแดดหัวแดงทั้งวันโดยปรับใครไม่ได้ซักเดือน คงสะใจไม่เบา  ลองดูมั๊ยครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่