วันนี้ผมขออุทิศเวลาสัก 1 ชั่วโมงมาวิเคราะห์มุมมอง การซื้อขายใน set
เพื่อหวังว่าจะมีคนแชร์ข้อมูลย้อยหลัง สัก 5 ปี หรือ 10 ปีให้ดูบ้าง
อาจกล่าวได้ว่าข้อมูลมีมากมายรอบตัวเรา ขึ้นกับว่าใครจะมองอย่างไร
การที่จะบอกว่าใครแพ้ใครชนะ ต้องบอกเวลากำกับไว้เสมอ เพราะ ไม่มีใครชนะถาวร
และแพ้ถาวร เพราะแก่นแท้ที่จริงของชีวิตคือความไม่แน่นอน และโลก เราเจริญได้ขึ้นทุกวันนี้ ก็เพราะความไม่แน่น่อน ซึ่งทำให้มนุษย์พัฒนาสิ่งต่างๆ ขึ้น เพื่อ จะเอา ชนะ ความไม่แน่นอนเหล่านี้ โลกเราถึงพัฒนาขึ้นมาได้
(หมายเหตุ การที่บอกว่าชนะหรือแพ้ในที่นี้ไม่รวมเงินปันผล หมายถึงมองในแง่ capital gain โฟกัสเฉพาะ 2 ปีนี้ นับจุดเริ่มต้นที่
18 ก.ค.2011)
บางที ถ้าให้ผมทายใน 5-10 ปี ผู้ชนะจริงๆ อาจเป็นกองทุน+ปอบ หรือต่างชาติก็ได้
มาดูข้อมูล
ใน 2 ปีย้อนหลัง การซื้อขายดังรูป
credit ข้อมูลจากเวปดีดี ที่เสียสละทุนทรัพย์มาแบ่งปันข้อมูล
http://siamchart.com/stock-summary/
จากภาพนับจาก 2 ปีที่แล้ว SET อยู่ที่ 1083 วันนั้นเป็นวันที่ 18-07-2011
ผ่านมา 2 ปี 12-07-2013 set ปิดที่ 1453 เพิ่มขึ้น 369 จุด รายย่อยขายสะสมไปสุทธิ -18609 ล้านบาท
ดูจากดอกศรที่ชี้คือ ช่วงที่รายย่อยเข้าซื้อ และช่วงนั้นดัชนีต่ำสุดที่ 855 จุด
จุดที่รายย่อยเริ่มรินเทขายเก็งกำไร ดัชนีอยู่ที่ 1283 จุด
2ปีที่ผ่านมา ถึง 12-07-2013 ฝรั่งขายสุทธิ -1058 ล้านบาท เท่ากับมายืน ณ จุดเดิม ส่วนกองทุน+ปอบ หากมองในแง่capital gain น่าจะขาดทุนสุด โดยซื้อสะสม +19749 ลบ
จริงๆแล้ว สงครามยังไม่จบ มันอาจแค่เพิ่งเริ่มต้น และคงไม่มีวันจบตราบที่โลกนี้ยังอยู่
(แชร์มุมองได้ครับ )
**********************************************************************
คติ
เทียนหลายพันเล่มจุดขึ้นได้จากเทียนเล่มเดียว
และอายุไขของเทียนเล่มนั้นจะไม่ถุกตัดทอนลง
ความสุขหาได้ลดลงจากการถุกแบ่งปันไม่
(พระพุทธเจ้า)
**********************************************************************
หากถุกใจ
กดบวก เพื่อส่งกระทู้ให้ผู้รู้จริงมาแชร์ข้อมูลจิ๊กซอว์ส่วนที่เหลือครับ ข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี 10 ปี
ปล. ฝากขอบคุณ คุณ roadtrip MR.messenger คุณหมอ JFK และอีกหลายๆคนที่เสียสละเวลามาให้ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ครับ
**ข้อมูลซื้อขายย้อนหลัง 2 ปี รายย่อย คือผู้ชนะ****
เพื่อหวังว่าจะมีคนแชร์ข้อมูลย้อยหลัง สัก 5 ปี หรือ 10 ปีให้ดูบ้าง
อาจกล่าวได้ว่าข้อมูลมีมากมายรอบตัวเรา ขึ้นกับว่าใครจะมองอย่างไร
การที่จะบอกว่าใครแพ้ใครชนะ ต้องบอกเวลากำกับไว้เสมอ เพราะ ไม่มีใครชนะถาวร
และแพ้ถาวร เพราะแก่นแท้ที่จริงของชีวิตคือความไม่แน่นอน และโลก เราเจริญได้ขึ้นทุกวันนี้ ก็เพราะความไม่แน่น่อน ซึ่งทำให้มนุษย์พัฒนาสิ่งต่างๆ ขึ้น เพื่อ จะเอา ชนะ ความไม่แน่นอนเหล่านี้ โลกเราถึงพัฒนาขึ้นมาได้
(หมายเหตุ การที่บอกว่าชนะหรือแพ้ในที่นี้ไม่รวมเงินปันผล หมายถึงมองในแง่ capital gain โฟกัสเฉพาะ 2 ปีนี้ นับจุดเริ่มต้นที่
18 ก.ค.2011)
บางที ถ้าให้ผมทายใน 5-10 ปี ผู้ชนะจริงๆ อาจเป็นกองทุน+ปอบ หรือต่างชาติก็ได้
มาดูข้อมูล
ใน 2 ปีย้อนหลัง การซื้อขายดังรูป
credit ข้อมูลจากเวปดีดี ที่เสียสละทุนทรัพย์มาแบ่งปันข้อมูล
http://siamchart.com/stock-summary/
จากภาพนับจาก 2 ปีที่แล้ว SET อยู่ที่ 1083 วันนั้นเป็นวันที่ 18-07-2011
ผ่านมา 2 ปี 12-07-2013 set ปิดที่ 1453 เพิ่มขึ้น 369 จุด รายย่อยขายสะสมไปสุทธิ -18609 ล้านบาท
ดูจากดอกศรที่ชี้คือ ช่วงที่รายย่อยเข้าซื้อ และช่วงนั้นดัชนีต่ำสุดที่ 855 จุด
จุดที่รายย่อยเริ่มรินเทขายเก็งกำไร ดัชนีอยู่ที่ 1283 จุด
2ปีที่ผ่านมา ถึง 12-07-2013 ฝรั่งขายสุทธิ -1058 ล้านบาท เท่ากับมายืน ณ จุดเดิม ส่วนกองทุน+ปอบ หากมองในแง่capital gain น่าจะขาดทุนสุด โดยซื้อสะสม +19749 ลบ
จริงๆแล้ว สงครามยังไม่จบ มันอาจแค่เพิ่งเริ่มต้น และคงไม่มีวันจบตราบที่โลกนี้ยังอยู่
(แชร์มุมองได้ครับ )
**********************************************************************
คติ
เทียนหลายพันเล่มจุดขึ้นได้จากเทียนเล่มเดียว
และอายุไขของเทียนเล่มนั้นจะไม่ถุกตัดทอนลง
ความสุขหาได้ลดลงจากการถุกแบ่งปันไม่
(พระพุทธเจ้า)
**********************************************************************
หากถุกใจ
กดบวก เพื่อส่งกระทู้ให้ผู้รู้จริงมาแชร์ข้อมูลจิ๊กซอว์ส่วนที่เหลือครับ ข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี 10 ปี
ปล. ฝากขอบคุณ คุณ roadtrip MR.messenger คุณหมอ JFK และอีกหลายๆคนที่เสียสละเวลามาให้ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ครับ