ก่อนอื่นมาชม OP&ED2 กันก่อนไปเลย
OP : "Jiyuu no Tsubasa" (自由の翼) by Linked Horizon
ED : "great escape" by cinema staff
ภาพ OP สื่อถึงอะไรบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และแล้วศัตรูในครึ่งหลังนี้ก็ปรากฏกาย
อาร์มินที่เติบโตขึ้นกว่าแต่ก่อนและการจับกุมตัวศัตรูในหมู่มนุษย์ด้วยกันเอง
หน่วยสำรวจ
รีไวล์
เพทรา
ออลโล
เอ็ด จิน
กุนเธอร์
ก่อนจะปิดฉากด้วยกำแพงสีขาว
หลังสัปดาห์ที่แล้วพวกเราเจอ Gold E Requiem เข้าไปร่วม 1 สัปดาห์ในที่สุด เรื่องราวครึ่งหลังของ Attack on titan ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในตอนเริ่มต้นของเรื่องได้มีฉากออริจินอลของอนิเมะเข้าไปคือ ฉาก ผบ.พิคซิส คุยกับ เอลวิน เรื่องการพิจารณาคดีในวันนี้
และอีกฉากคือมีคำสั่ง มิคาสะ และ อาร์มิน ไปเป็นพยาน
อย่างคำที่ว่า " ข่าวสารคือสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต " เพราะมันทำให้คนเราได้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันไม่มีวันจบสิ้น ตั้งแต่ บ้านเมือง ข่าวฉาว เรื่องร้ายๆ ภัยธรรมชาติ และ การวนเวียนพกผันของเหตุการณ์ที่บางคนไม่อยากได้ยินอีก ในกรณีเรื่องนี้ก็คือข่าวนี้
" ไททัน 60 เมตรก่อการเกรียนเตะกำแพงชิ่งหนีรอบ 2 ทำให้กำแพง Wall Rose ในเขตเมืองทรอสต์ถูกไททันเข้าบุกยึดภายในเวลาเพียง 15 ชม. แต่ได้มีผู้กอบกู้สถานการณ์เอาไว้ได้สำเร็จจนกลายเป็นชัยชนะครั้งแรกของมนุษยชาติ "
แน่นอนหลังมีข่าวออกมา ก็ต้องมีกระแส ข่าวลือบ้าง โม้ทั้งเพ เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง บรรดาชาวเมืองใน Wall Shina ต่างเริ่มวิตกกันยกใหญ่ ที่โกหกมันไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก ก็เรื่องความสะดวกสบายของตัวเองที่อาจจะมีประชาชนเพิ่มมากขึ้นเพราะจะแห่เข้ามาอยู่ร่วมชายคากำแพงเดียวกับตัวเอง
( เห็นแก่ตัวเป็นสันดานโดยพื้นฐานของมนุษย์ )
แต่เพียงในข่าวปรากฏออกมาว่า
" ผู้ที่กอบกู้ไว้ได้คือไททันตัวนึง "
" หมายความว่าไททันเป็นพวกเดียวกับมนุษย์เหรอ ? "
นั้นแหละที่จะกลายเป็นเรื่องที่เกิดควบคู่ในตอนนี้ขึ้นมา
ในคุกใต้ดิน เอเลน ในตอนนี้ สถานะ = นักโทษรอขึ้นเขียง แม้จะขอไปห้องน้ำก็โดนด่ากลับใส่
" ดูสถานะของตัวแกเองซะบ้าง ไอ้ปีศาจ "
ในใจของเอเลน ไม่ได้คิดจะโกรธเคืองอะไร กลับกันกลับคิดว่า เรียกตัวเองแบบนั้นก็ไม่ผิดอะไร
พลางนึกไปถึงบรรดาเพื่อนร่วมรุ่น 104 ของตัวเองว่าตอนนี้คนอื่นจะเป็นยังไงบ้างนะ
แอนนี่เป็นแม่ศรีเรือนกับเค้าด้วยแฮะ ( ฉากหลังเบลละ ? )
ในคุกนี้ตัวเองไม่รู็เลยสักนิดว่าโดนจองจำมาแล้วร่วมกี่วันกี่สัปดาห์ จนคิดไปไกลว่า ตัวเองจะโดนจองจำชั่วชีวิตเป็นนักโทษขังลืมรึเปล่า
จนตอนนั้นเองที่ได้เกิดเรื่องประหลาดเข้าให้แล้ว
โครม!!!
จู่ๆกับมีหญิงสาวที่อายุท่าทางจะแก่กว่าตัวเองอยู่หน่อย มือจับกรงเหล็ก หน้ายื่นเข้ามาทางซี่กรงด้วยสีหน้าคนใกล้คลั่งที่เหมือนได้เจอของรักอะไรสักอย่าง
ฉากเซอร์วิสขำๆของ ฮันซี่ โผล่มาเฉยเลยพี่น้อง!!!
ฮันซี่ โซเอะ และ ไมค์ คาซาเลียส 2 คนจากหน่วยสำรวจเดียวกับ รีไวล์ มารับถึงที่เพื่อคุมตัวไปข้างนอก
ตรงนี้แล้วแต่จะคิด แต่ส่วนตัวคิดว่า ไมค์ เปล่าเป็น Y แต่อย่างใดน่าจะเป็นบุคลิคเฉพาะตัวมากกว่า
( เหมือน บูจาราตี้ ที่มีวิธีตรวจจับว่าใครโกหกด้วยการดูสีหน้าและชิมรสเหงื่อ )
" อ๋ออย่าไปใส่ใจเลย นั้นเป็นเอกลักษณ์ของเค้าที่ชอบดมคนอื่น "
เมื่อพาคุมตัวมาถึงหน้าห้องๆหนึ่ง คำพูดสุดท้ายที่ ฮันซี่ พูดไว้คือ
" จากนี้พูดในสิ่งที่เธอคิดไว้แล้วก็ละกัน "
" แต่ตอนนี้ก็คงทำได้แต่เชื่อมั่นในตัวเธอเท่านั้น "
หลังว่าเสร็จประตูถูกเปิดพาไปยังห้องที่คนทุกคนจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี
แอ็ดดดดด
ภายในห้องโถงขนาดไม่ใหญ่มาก
เพดานมีภาพนักรบถืออาวุธเต็มมือกำลังเล่นงานศัตรูที่กำลังพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด ภายในนั้น สายตาและความรู้สึกของเอเลนรับรู้ได้ถึง
สายตาทุกคู่ที่แสดงถึงความตึงเครียด อึดอัดบรรยากาศที่ชวนเงียบจนหนาวสันหลัง
มันคือ " ห้องพิจารณาคดี " ของศาลทหาร มีคนที่ตัวเองคุ้นเคยอยู่ด้วยหาใช่ใครไม่
อาร์มินและมิคาสะ
เอลวิน
รีไวล์
ผบ.พิคซิส
ยาวไปถึง หัวหน้าสารวัตรทหาร
เพื่อไม่ให้เสียเวลานักขอรวบรัดไปเลยละกัน หลังตรึงเอเลนไว้กับเสาเหล็ก การพิจารณาคดีได้เริ่มต้นขึ้นทันทีเมื่อ ผบ.สูงสุด ของ 3 เหล่าทัพ ดาริส ซัคเกรย์ นั่งบนบังลังค์พิจารณาคดี
" เธอคือ เอเลน เยเกอร์ สินะ เธอคือทหารที่สาบานตนจะพร้อมสละชีวิตเพื่อบ้านเมืองใช่รึไม่ ? "
" กรณีคดีของเธอเป็นเรื่องไม่เคยมีมาก่อนจะใช้วิธีพิจารณาคดีปกติมาประยุกต์ก็ไม่ได้ เพราะงั้นเราจึงต้องประชุมทางทหาร
โดยอำนาจในการตัดสินทุกอย่างจะอยู่ที่ตัวชั้น "
เอเลนไม่แม้แต่จะสงสัยเลยสักนิดว่ามัน " หมายความว่าอะไร ? " นั้นก็คือ ชีวิตตัวเองจะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับการพิจารณาคดีนี้นั้นเอง
เริ่มการพิจารณาคดีกัน เริ่มต้น ผบ.สูงสุด พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังมีการกระจายข่าวนี้ออกไป
( อย่างที่ว่ามาข้างต้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นควบคู่กับไปในตอนนี้มันคือสิ่งนี้ )
" มีบางคนบอกว่า เธอเป็นนางเอกเรื่องนี้และรีไวล์คือพระเอก "
" แต่มีบางคนเรียกว่า เธอคือนางเอกเรื่องนี้และมิคาสะคือพระเอก "
เอ็ย!!! อันบนมุกครับ อันล่างของจริง
" มีบางคนเรียกเธอว่า เป็นผู้กอบกู้ "
" แต่ก็มีบางคนเรียกเธอว่า ปีศาจจากอเวจี "
โดยการตัดสินคดีนี้ มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะปกปิดไม่ให้ประชาชนรู้ ซึ่งถ้าประกาศเรื่องของเธอให้รู้ มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกันที่อาจจะเกิดภัยคุกคามอย่างอื่นที่ไม่ใช่ไททัน แต่เป็นการจลาจล
โดยการตัดสินคดีนี้มีตัวเลือก ให้เธอว่าจะเข้ากองทัพไหน โดยมีอยู่ 2 ข้อคือ
- กองอวย รีไวล์ X เอเลน ( หน่วยสำรวจ )
- กองอวย เอเลน X มิคาสะ ( หน่วยสารวัตรทหาร )
แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นจะต้องมีการรับฟัง คำแถลงการณ์ ของ แต่ละฝ่ายกันก่อน
เริ่มต้นคือ กองอวย เอเลน X มิคาสะ (กองสารวัตรทหาร )
ปากคำเอาแบบสั้นๆคือ " ปั่นโดจิ้นมิคาสะเท่สุดใจขาดดิ้น ให้เอเลนหมดสิ้นความเป็นพระเอกไปในที่สุด เอ็ย!!! ชำแหละมันทุกซอกทุกมุมและกำจัดให้เร็วที่สุด "
อีกเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นคือ เรื่องของเอเลน....
ทางกลุ่มผู้มีอิทธิพลใหญ่ของกำแพงก็ได้รับรู้ไปแล้ว และ พวกนี้จะไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นเดียวกับตอนเหตุการณ์ Wall Maria พังไปเมื่อ 5 ปีก่อน และ พวกประชาชนใน Wall Rose ที่คิดเห็นในแง่ดีที่ว่าเอเลนคือผู้กอบกู้ จะลุกขึ้นมาก่อความไม่สงบ จนเรื่องจะเดือดร้อนมาถึง กองสารวัตรทหารในที่สุด
โดยการลงตีความสรุปแบบรวบรัดคือ " ให้ประชาชนรู้ไปว่าเอเลนคือผู้เสียสละเพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ "
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา
" ฆ่าตัดตอนมันไปเลยซะตั้งแต่ตอนนี้ดีที่สุด "
เอเลนรู้จักก็ไม่แปลกใจ เพราะคนที่พูดคือ กลุ่มลัทธิ " กำแพงสวย " นั้นเอง
มาถึงตาของกองอวย รีไวล์ X เอเลน ( หน่วยสำรวจ ) กล่าวโดยเอลวิน
- วาดโดจิ้น รีไวล์ X เอเลน ให้มากที่สุด เพื่อเอาใจกลุ่มตลาดที่เป็นสาวๆ ที่มีเกลื่อนโลก เอ็ย!!! จะขอนำตัวเอเลนเข้าหน่วยสำรวจและใช้พลังของไททันกอบกู้ Wall Maria คืนมา "
ที่เอลวินกล่าวมาประเด็นของเรื่องคือ การใช้พลังไททันของเอเลนกอบกู้ Wall Maria เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญที่ควรจะเพ่งไปเป็นจุดแรก โดยแผนการณ์ที่วางไว้คือ การเดินขบวนจากฝั่งเมืองคาราเนสไปถึงชิกันชินะ มีเท่านี้แหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้( อยากจะบ่น ตอนปัจจุบันหน้าบ้านเอเลนยังไม่มีแม้แต่จะได้ไปเห็นเลย โดนอุ้มเป็นเจ้าหญิงรอเจ้าชายมาช่วยอยู่ได้ )
( มีเสริมคือ ผบ.สูงสุดพูดกับ ผบ.พิคซิส ก่อนมีคนแทรก )
แผนการณ์นี้ใช่ว่าจะไม่มีใครค้าน จนเมื่อมีพูดแทรกขึ้นมา
" ไททันบุกเข้ามาไม่ได้อีกแล้วเพราะอุดกำแพงปิดตายโดยสมบูรณ์ งั้นก็ไม่ต้องทำอะไรก็ได้แล้วนิ พวกแกอยากได้ดินแดนคืนมากขนาดนั้นเลยรึไงไอ้พวกสุนัขรับใช้กองทัพ "
ใช่แล้วคำกล่าวอ้างของกลุ่มคนที่เรียกว่า " กลุ่มโลกสวย " หวังแต่ได้กับได้ท่าเดียว
หลังโดนพวกโลกสวยว่าหนักไปหน่อยเดียว รีไวล์ ก็ได้พูดขึ้นมาด้วยหน้าสีหยาบๆ
" พูดได้ดีนิไอ้โลกสวย แกมีหลักฐานอะไรยืนยันว่า ไททันจะไม่บุกเข้ามาระหว่างกำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กำแพงกัน "
" "พวกแก" ที่แกพูดถึงคือคนทึ่คอยถวายความสุขสมบูรณ์จนพวกแกอ้วนเป็น อุตะด้ง แบบนี้ไม่ใช่รึไง ? "
แล้วคนที่อดอยากปากแห้งเพราะขาดแคลนพื้นที่เพาะปลูก ไอ้โลกสวยอย่างพวกแกเคยเห็นอกเห็นใจสักนิดเปล่า "
เพียงว่าไปไม่กี่ประโยค กลุ่มโลกสวย เริ่มชักจะล่าถอยไป แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะมีเรื่องขึ้นมาอีกเมื่อ
" ลัทธิกำแพงสวย " ได้เริ่มร่ายยาวไปเรื่อยแบบ ท่านผู้นำ บาทหลวง นิค ไปชุดใหญ่
" Wall Rose คือ สิ่งที่พระเจ้าทรงประทานมา พวกแกคิดจะปรังปรุงกับมันอีกเหรอ!!! แหกตาดูให้ดีเซ่ กำแพง นั่นคือภูมิปัญญาที่สติปัญญาของมนุษย์ไม่อาจก้าวล้ำเหนือกว่าไปได้ไม่ใช่รึยังไง "
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้( พูดบัพใส่กำแพงตัวเองเต็มที่เลยนะ พ่อศาสนากำแพงสวยกลัวเรื่อง ไททันฉาบปูน แดงขึ้นมาละสิ )
แน่นอนว่าเพราะอิทธิพลของลัทธิกำแพงสวยทำให้ ทางการทหารโดนผลกระทบไปไม่ใช่น้อย
" การเตรียมการรบบนกำแพงดำเนินไปอย่างล่าช้าเพราะพวก
นั้นแหละ ไอ้ลัทธิกำแพงสวย พูดไปก็ไม่มีค่าอะไรเพราะพวกนี้ได้รับการสนับสนุนจากพวกมีอิทธิพลอยู่แล้วเลยเหลิงได้ใจจนเป็นอย่างที่เห็น
(เมะเอาริโก้พูดแทน)
มีต่อ คห.7 - คห.9 ครับ
{{Attack on Titan}} Ep.14 OP&ED2 X ศาลทหาร X แอบเนียน X พิพากษา
OP : "Jiyuu no Tsubasa" (自由の翼) by Linked Horizon
ED : "great escape" by cinema staff
ภาพ OP สื่อถึงอะไรบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังสัปดาห์ที่แล้วพวกเราเจอ Gold E Requiem เข้าไปร่วม 1 สัปดาห์ในที่สุด เรื่องราวครึ่งหลังของ Attack on titan ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในตอนเริ่มต้นของเรื่องได้มีฉากออริจินอลของอนิเมะเข้าไปคือ ฉาก ผบ.พิคซิส คุยกับ เอลวิน เรื่องการพิจารณาคดีในวันนี้
และอีกฉากคือมีคำสั่ง มิคาสะ และ อาร์มิน ไปเป็นพยาน
อย่างคำที่ว่า " ข่าวสารคือสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต " เพราะมันทำให้คนเราได้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันไม่มีวันจบสิ้น ตั้งแต่ บ้านเมือง ข่าวฉาว เรื่องร้ายๆ ภัยธรรมชาติ และ การวนเวียนพกผันของเหตุการณ์ที่บางคนไม่อยากได้ยินอีก ในกรณีเรื่องนี้ก็คือข่าวนี้
" ไททัน 60 เมตรก่อการเกรียนเตะกำแพงชิ่งหนีรอบ 2 ทำให้กำแพง Wall Rose ในเขตเมืองทรอสต์ถูกไททันเข้าบุกยึดภายในเวลาเพียง 15 ชม. แต่ได้มีผู้กอบกู้สถานการณ์เอาไว้ได้สำเร็จจนกลายเป็นชัยชนะครั้งแรกของมนุษยชาติ "
แน่นอนหลังมีข่าวออกมา ก็ต้องมีกระแส ข่าวลือบ้าง โม้ทั้งเพ เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง บรรดาชาวเมืองใน Wall Shina ต่างเริ่มวิตกกันยกใหญ่ ที่โกหกมันไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก ก็เรื่องความสะดวกสบายของตัวเองที่อาจจะมีประชาชนเพิ่มมากขึ้นเพราะจะแห่เข้ามาอยู่ร่วมชายคากำแพงเดียวกับตัวเอง
( เห็นแก่ตัวเป็นสันดานโดยพื้นฐานของมนุษย์ )
แต่เพียงในข่าวปรากฏออกมาว่า
" ผู้ที่กอบกู้ไว้ได้คือไททันตัวนึง "
" หมายความว่าไททันเป็นพวกเดียวกับมนุษย์เหรอ ? "
นั้นแหละที่จะกลายเป็นเรื่องที่เกิดควบคู่ในตอนนี้ขึ้นมา
ในคุกใต้ดิน เอเลน ในตอนนี้ สถานะ = นักโทษรอขึ้นเขียง แม้จะขอไปห้องน้ำก็โดนด่ากลับใส่
" ดูสถานะของตัวแกเองซะบ้าง ไอ้ปีศาจ "
ในใจของเอเลน ไม่ได้คิดจะโกรธเคืองอะไร กลับกันกลับคิดว่า เรียกตัวเองแบบนั้นก็ไม่ผิดอะไร
พลางนึกไปถึงบรรดาเพื่อนร่วมรุ่น 104 ของตัวเองว่าตอนนี้คนอื่นจะเป็นยังไงบ้างนะ
แอนนี่เป็นแม่ศรีเรือนกับเค้าด้วยแฮะ ( ฉากหลังเบลละ ? )
ในคุกนี้ตัวเองไม่รู็เลยสักนิดว่าโดนจองจำมาแล้วร่วมกี่วันกี่สัปดาห์ จนคิดไปไกลว่า ตัวเองจะโดนจองจำชั่วชีวิตเป็นนักโทษขังลืมรึเปล่า
จนตอนนั้นเองที่ได้เกิดเรื่องประหลาดเข้าให้แล้ว
โครม!!!
จู่ๆกับมีหญิงสาวที่อายุท่าทางจะแก่กว่าตัวเองอยู่หน่อย มือจับกรงเหล็ก หน้ายื่นเข้ามาทางซี่กรงด้วยสีหน้าคนใกล้คลั่งที่เหมือนได้เจอของรักอะไรสักอย่าง
ฉากเซอร์วิสขำๆของ ฮันซี่ โผล่มาเฉยเลยพี่น้อง!!!
ฮันซี่ โซเอะ และ ไมค์ คาซาเลียส 2 คนจากหน่วยสำรวจเดียวกับ รีไวล์ มารับถึงที่เพื่อคุมตัวไปข้างนอก
ตรงนี้แล้วแต่จะคิด แต่ส่วนตัวคิดว่า ไมค์ เปล่าเป็น Y แต่อย่างใดน่าจะเป็นบุคลิคเฉพาะตัวมากกว่า
( เหมือน บูจาราตี้ ที่มีวิธีตรวจจับว่าใครโกหกด้วยการดูสีหน้าและชิมรสเหงื่อ )
" อ๋ออย่าไปใส่ใจเลย นั้นเป็นเอกลักษณ์ของเค้าที่ชอบดมคนอื่น "
เมื่อพาคุมตัวมาถึงหน้าห้องๆหนึ่ง คำพูดสุดท้ายที่ ฮันซี่ พูดไว้คือ
" จากนี้พูดในสิ่งที่เธอคิดไว้แล้วก็ละกัน "
" แต่ตอนนี้ก็คงทำได้แต่เชื่อมั่นในตัวเธอเท่านั้น "
หลังว่าเสร็จประตูถูกเปิดพาไปยังห้องที่คนทุกคนจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี
แอ็ดดดดด
ภายในห้องโถงขนาดไม่ใหญ่มาก
เพดานมีภาพนักรบถืออาวุธเต็มมือกำลังเล่นงานศัตรูที่กำลังพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด ภายในนั้น สายตาและความรู้สึกของเอเลนรับรู้ได้ถึง
สายตาทุกคู่ที่แสดงถึงความตึงเครียด อึดอัดบรรยากาศที่ชวนเงียบจนหนาวสันหลัง
มันคือ " ห้องพิจารณาคดี " ของศาลทหาร มีคนที่ตัวเองคุ้นเคยอยู่ด้วยหาใช่ใครไม่
อาร์มินและมิคาสะ
เอลวิน
รีไวล์
ผบ.พิคซิส
ยาวไปถึง หัวหน้าสารวัตรทหาร
เพื่อไม่ให้เสียเวลานักขอรวบรัดไปเลยละกัน หลังตรึงเอเลนไว้กับเสาเหล็ก การพิจารณาคดีได้เริ่มต้นขึ้นทันทีเมื่อ ผบ.สูงสุด ของ 3 เหล่าทัพ ดาริส ซัคเกรย์ นั่งบนบังลังค์พิจารณาคดี
" เธอคือ เอเลน เยเกอร์ สินะ เธอคือทหารที่สาบานตนจะพร้อมสละชีวิตเพื่อบ้านเมืองใช่รึไม่ ? "
" กรณีคดีของเธอเป็นเรื่องไม่เคยมีมาก่อนจะใช้วิธีพิจารณาคดีปกติมาประยุกต์ก็ไม่ได้ เพราะงั้นเราจึงต้องประชุมทางทหาร
โดยอำนาจในการตัดสินทุกอย่างจะอยู่ที่ตัวชั้น "
เอเลนไม่แม้แต่จะสงสัยเลยสักนิดว่ามัน " หมายความว่าอะไร ? " นั้นก็คือ ชีวิตตัวเองจะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับการพิจารณาคดีนี้นั้นเอง
เริ่มการพิจารณาคดีกัน เริ่มต้น ผบ.สูงสุด พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังมีการกระจายข่าวนี้ออกไป
( อย่างที่ว่ามาข้างต้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นควบคู่กับไปในตอนนี้มันคือสิ่งนี้ )
" มีบางคนบอกว่า เธอเป็นนางเอกเรื่องนี้และรีไวล์คือพระเอก "
" แต่มีบางคนเรียกว่า เธอคือนางเอกเรื่องนี้และมิคาสะคือพระเอก "
เอ็ย!!! อันบนมุกครับ อันล่างของจริง
" มีบางคนเรียกเธอว่า เป็นผู้กอบกู้ "
" แต่ก็มีบางคนเรียกเธอว่า ปีศาจจากอเวจี "
โดยการตัดสินคดีนี้ มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะปกปิดไม่ให้ประชาชนรู้ ซึ่งถ้าประกาศเรื่องของเธอให้รู้ มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกันที่อาจจะเกิดภัยคุกคามอย่างอื่นที่ไม่ใช่ไททัน แต่เป็นการจลาจล
โดยการตัดสินคดีนี้มีตัวเลือก ให้เธอว่าจะเข้ากองทัพไหน โดยมีอยู่ 2 ข้อคือ
- กองอวย รีไวล์ X เอเลน ( หน่วยสำรวจ )
- กองอวย เอเลน X มิคาสะ ( หน่วยสารวัตรทหาร )
แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นจะต้องมีการรับฟัง คำแถลงการณ์ ของ แต่ละฝ่ายกันก่อน
เริ่มต้นคือ กองอวย เอเลน X มิคาสะ (กองสารวัตรทหาร )
ปากคำเอาแบบสั้นๆคือ " ปั่นโดจิ้นมิคาสะเท่สุดใจขาดดิ้น ให้เอเลนหมดสิ้นความเป็นพระเอกไปในที่สุด เอ็ย!!! ชำแหละมันทุกซอกทุกมุมและกำจัดให้เร็วที่สุด "
อีกเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นคือ เรื่องของเอเลน....
ทางกลุ่มผู้มีอิทธิพลใหญ่ของกำแพงก็ได้รับรู้ไปแล้ว และ พวกนี้จะไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นเดียวกับตอนเหตุการณ์ Wall Maria พังไปเมื่อ 5 ปีก่อน และ พวกประชาชนใน Wall Rose ที่คิดเห็นในแง่ดีที่ว่าเอเลนคือผู้กอบกู้ จะลุกขึ้นมาก่อความไม่สงบ จนเรื่องจะเดือดร้อนมาถึง กองสารวัตรทหารในที่สุด
โดยการลงตีความสรุปแบบรวบรัดคือ " ให้ประชาชนรู้ไปว่าเอเลนคือผู้เสียสละเพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ "
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา
" ฆ่าตัดตอนมันไปเลยซะตั้งแต่ตอนนี้ดีที่สุด "
เอเลนรู้จักก็ไม่แปลกใจ เพราะคนที่พูดคือ กลุ่มลัทธิ " กำแพงสวย " นั้นเอง
มาถึงตาของกองอวย รีไวล์ X เอเลน ( หน่วยสำรวจ ) กล่าวโดยเอลวิน
- วาดโดจิ้น รีไวล์ X เอเลน ให้มากที่สุด เพื่อเอาใจกลุ่มตลาดที่เป็นสาวๆ ที่มีเกลื่อนโลก เอ็ย!!! จะขอนำตัวเอเลนเข้าหน่วยสำรวจและใช้พลังของไททันกอบกู้ Wall Maria คืนมา "
ที่เอลวินกล่าวมาประเด็นของเรื่องคือ การใช้พลังไททันของเอเลนกอบกู้ Wall Maria เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญที่ควรจะเพ่งไปเป็นจุดแรก โดยแผนการณ์ที่วางไว้คือ การเดินขบวนจากฝั่งเมืองคาราเนสไปถึงชิกันชินะ มีเท่านี้แหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
( มีเสริมคือ ผบ.สูงสุดพูดกับ ผบ.พิคซิส ก่อนมีคนแทรก )
แผนการณ์นี้ใช่ว่าจะไม่มีใครค้าน จนเมื่อมีพูดแทรกขึ้นมา
" ไททันบุกเข้ามาไม่ได้อีกแล้วเพราะอุดกำแพงปิดตายโดยสมบูรณ์ งั้นก็ไม่ต้องทำอะไรก็ได้แล้วนิ พวกแกอยากได้ดินแดนคืนมากขนาดนั้นเลยรึไงไอ้พวกสุนัขรับใช้กองทัพ "
ใช่แล้วคำกล่าวอ้างของกลุ่มคนที่เรียกว่า " กลุ่มโลกสวย " หวังแต่ได้กับได้ท่าเดียว
หลังโดนพวกโลกสวยว่าหนักไปหน่อยเดียว รีไวล์ ก็ได้พูดขึ้นมาด้วยหน้าสีหยาบๆ
" พูดได้ดีนิไอ้โลกสวย แกมีหลักฐานอะไรยืนยันว่า ไททันจะไม่บุกเข้ามาระหว่างกำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กำแพงกัน "
" "พวกแก" ที่แกพูดถึงคือคนทึ่คอยถวายความสุขสมบูรณ์จนพวกแกอ้วนเป็น อุตะด้ง แบบนี้ไม่ใช่รึไง ? "
แล้วคนที่อดอยากปากแห้งเพราะขาดแคลนพื้นที่เพาะปลูก ไอ้โลกสวยอย่างพวกแกเคยเห็นอกเห็นใจสักนิดเปล่า "
เพียงว่าไปไม่กี่ประโยค กลุ่มโลกสวย เริ่มชักจะล่าถอยไป แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะมีเรื่องขึ้นมาอีกเมื่อ
" ลัทธิกำแพงสวย " ได้เริ่มร่ายยาวไปเรื่อยแบบ ท่านผู้นำ บาทหลวง นิค ไปชุดใหญ่
" Wall Rose คือ สิ่งที่พระเจ้าทรงประทานมา พวกแกคิดจะปรังปรุงกับมันอีกเหรอ!!! แหกตาดูให้ดีเซ่ กำแพง นั่นคือภูมิปัญญาที่สติปัญญาของมนุษย์ไม่อาจก้าวล้ำเหนือกว่าไปได้ไม่ใช่รึยังไง "
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แน่นอนว่าเพราะอิทธิพลของลัทธิกำแพงสวยทำให้ ทางการทหารโดนผลกระทบไปไม่ใช่น้อย
" การเตรียมการรบบนกำแพงดำเนินไปอย่างล่าช้าเพราะพวกนั้นแหละ ไอ้ลัทธิกำแพงสวย พูดไปก็ไม่มีค่าอะไรเพราะพวกนี้ได้รับการสนับสนุนจากพวกมีอิทธิพลอยู่แล้วเลยเหลิงได้ใจจนเป็นอย่างที่เห็น
(เมะเอาริโก้พูดแทน)
มีต่อ คห.7 - คห.9 ครับ