บ้านสามีเราเป็นคนดีนะคะ ธรรมะธัมโม แต่เราเบื่อคำพูดกับความคิดบางอย่าง เช่น
1.ตอนนี้เราท้องใกล้จะคลอดแล้ว และหมอสั่งให้หยุดงาน เพราะเด็กไม่โตตามเกณฑ์ (หยุดก่อนกำหนดคลอด2.5เดือน)
แฟนเราก้อมาบอกที่บ้านเค้า(คือเราต้องมาบ้านนี้ทุกวันเสาร์เพื่อมากินข้าวเย็น).
แม่เค้าก้อพูดประมาณว่า จะหยุดทำไมทำๆไปเหอะ เดินบ้างทำงานบ้างจะได้แข็งแรง ไม่เป็นอะไรหรอกแค่นี้ ตอนเค้าท้องยังทำงานจนคลอดเลย ไม่เป็นอะไร
สามีก้อถามไปว่า "ตอนท้องแม่อายุเท่าไร"
แม่สามี "28"
สามี "นี่36 ห่างกันเป็นสิบปีร่างายมันไม่เฟรสเดิมคนอายุ28หรอก หมอก้อบอก"
แม่สามี "โอ๊ย อย่าเชื่อหมอมาก ใครๆเค้าก้อทำงานกัน"
เรา (อยากกลับบ้านเดี๋ยวนั้นเลย)

2.เรื่องเลี้ยงลูกหลังคลอด
หลังคลอดจะเลี้ยงลูกที่ไหน?  ใครๆก้อถาม
น้องสาวแฟน "จะมาอยู่บ้านนี้ป่าวละ จะได้เตรียมห้อง". (ในที่นี้คือ จะให้เราไปอยู่ห้องเค้า และเค้าจะไปนอนห้องพ่อแม่ ซึ้งใจเหมือนจะดีนะแต่ติดบางอย่าง...)
ลุง "มาอยู่ที่นี่แหละแม่เค้าจะได้ช่วยดู ช่วยหาอาหารให้ (หมายถึงทำกับข้าวให้กิน เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเลี้ยงลูกด้วยทำอะไรกินด้วย )
แม่สามี "อยู่บ้านนั้นแหละ ให้แม่เค้ามาช่วยดูก้อได้เพื่อเค้าอยากเลี้ยง"
เรา (เข้าใจนะว่าเค้าคงเกรงใจ ถ้าจะเอาหลานมาเลี้ยงบ้านนี้เลย แม่เราอาจไม่สะดวกใจ อาจอยากเลี้ยงหลาน เค้าเลยพูดแบบนี้ ).
เลยตอบไปว่า คงไม่รบกวนแม่หรอกคะเพราะที่บ้านแม่ต้องขายของ และมีหลานอยู่ (ลูกพี่สาวเรียนป.6แล้ว)คงไม่สะดวกคะ


เรามาคุยกะแฟนที่หลัง
เรา "อยากเลี้ยงลูกบ้านตัวเองอะ เพิ่งคลอดอยู่บ้านตัวเองดีกว่าทำอะไรสะดวกกว่า รู้ว่าอะไรอยู่ไหน อยู่บ้านคนอื่นเกรงใจ ไม่สะดวกด้วย หนวกหู ทังหมาทั้งคน
สามี "จะไหวเหรอ ให้แม่ให้น้ามาอยู่เป็นเพื่อนมั้ย"
เรา " เกรงใจอะ น้าเธอก้อไม่ปกติเท่าไร เดี๋ยวอุ้มลูกหล่นทำไงอะ ลูกคนนะไม่ใช่ลูกหมา มือเค้าสั่นขนาดนั้น"
สามี "หลังสามเดือนเอาไง ให้ลูกไปอยู่บ้านโน้นมั้ย(บ้านแม่เค้า)"
เรา " เคลียร์เรื่องหมาให้ก่อน ลูกจะอยู่ห้องไหน ยังไง สกปรกจะตาย หมาเดินเต็มในบ้าน แถมเอาหมาขึ้นไปนอนบนห้องอีก ><"
       เราเห็น เห็บ หมัดยังจับทิ้งได้ ถ้ามัไต่ลูกแล้วไม่มีใครเห็นลูกปัดออกเองได้ไหมละ ไหนพวกมันขี้ เยี่ยวในบ้านอีก เราเดินยังแขยงเท้าเลย แล้วถ้าลูกคลานละ อี้...
      ขนหมาอีกละ ร่วงเต็มเลย ฟุ้งเต็มบ้าน ลูกหายใจเข้าไป เป็นภูมิแพ้อีก แค่นี้ก้อสุดๆแล้ว"
สามี "อืม. เดี๋ยวต้องคุยกับที่บ้านก่อน"
เรา (คิดว่า เอาเหอะคุยมากี่ทีแล้วเรื่องหมา)

สัปดาห์ต่อมา
สามี " บ้านทำใหม่ๆเอาหมาเข้ามา ดูๆกระเบื้องเน่าหมดแล้ว มุงลวดอีก มันตะกุยจะขาดแล้วนั้น หือ..เหม็นด้วยนะ ไอ้ตัวไหนมาขี้เนี่ย!!"
แม่สามี "แบ่งๆกันอยู่ เราก้อชีวิตหนึ่ง เค้าก้อชีวิตหนึ่แบ่งกัน"
เรา (สาธุ ไม่เคยมีใครบอกเหรอคะว่าหมาแมวมีผลต่อเด็กอ่อน)

3.เรื่องเงิน
คือ สามีเราชอบชวนที่บ้านไปเที่ยวคะ กลัวเขาเบื่อกันเพราะมีแต่เกษียณ ชวนไปเมืองนอกบ้าง พวกลาว พม่า อินเดีย เอามาล่อแม่เค้าเพราะชอบแนวธรรมะ
เพราะเวลาชวนไป สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี เค้าก้อจะไม่ไปๆเปลืองโน้นนั้นนี้
ช่วงหลังขนาดชวนไปพม่า อินเดีย ยังบอกว่าดูเงินก่อน เฮ้อ!!
ที่น้องสาว(น้า) ไม่ทำงานทั้งสองคน กลับไม่พูดไม่ว่า แถมยังมาทุกครั้งให้เงินกลับไปทุกครั้ง ยังจ่ายค่าเทอมให้หลานๆอีกด้วย
ซึ่งเราว่า มันไม่ใช่อะ
น้าคนที่1 แม่ไม่ทำงาน แต่จมไม่ลง ให้ลูกนั่งแต่แท้กซี่ตลอด (เข้าใจนะคะว่าเค้าเคยรวยมากกกกกก ขนาดว่าเมื่อก่อนวันเกิดลูกชายจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมมณเทียรอะ). แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อะ ลูกเอนไม่ติด บ้านสามีก้อวิ่งเต้นหาที่เรียนให้ ได้ที่หนึ่งอายุใกล้กรุงเทพ ต้องพักหอ ค่าหอเดือนละ5000 ให้เงินมันใช้วันละ400โอ้ว.....มันเรียนจบจะได้ขนาดนี้เลยป่าวเนี่ย ไม่พ้นแม่สามีแอบอุปถัมภ์
น้าคนที่2 สามีมีปัญหาเรื่องธุรกิจ โทรมายืมเงินทั้งสามี ทั้งน้องให้วุ่น ให้ยืมไปก้อคืนไม่ตรงเวลา สั่งแม่ไปว่าไม่ให้ยืมแล้วนะ เพราะยืมแล้วคืนช้า ให้ยืมไปใหม่ยังไม่ได้คืน
แต่ปรากฎอม่เค้าไม่ให้สามีน้า แต่ให้น้าไปแทน
เราเข้าใจว่สงสารเด็กแต่เราว่ามันผิดทาง ผิดวิธีอะ

เฮ้อออออออออออออออออ