ในความเป็นจริงแล้วอาจตอบได้ว่า ทั้งสองส่วนนี้ support ซึ่งกันและกัน หรือไม่ก็ ทั้งสองเป็นงานคนละแผนกเอามาเทียบกันไม่ได้ แม้ว่าทีมงาน visual effect จะประกอบด้วย oscar winner หลายคนเช่น John Knoll และ Hal T. Hickel (Star Wars, Pirates of Caribbean), Shane Mahan (Iron Man), John Rosengrant (Real Steel) และ Clay Pinney (ID4, Star Trek) แต่อาจเป็นเพราะผมชอบ effect แบบฉับไวเหมือน transformers มากกว่า แต่ต้องยอมศิโรราบให้กับ ost จริงๆเพราะ Ramin Djawadi (ตอนแรกนึกว่าชื่อคนอินเดีย) เค้าจัดเต็มมากๆ ผมไม่มีปัญหาเลยกับการที่ตัวหนังเปิดเพลง theme ซ้ำไปซ้ำมา อันที่จริงพอผมกลับจากดูหนังเสร็จผมไปเปิดฟังเพิ่มใน youtube ด้วยซ้ำ น่าแปลกที่ตอนแรกผมคิดว่า soundtrack นี้แอบคล้าย real steel จนนึกว่าคนแต่งเพลงคนเดียวกัน แต่ความจริงแล้วเป็นคนเดียวกับที่แต่งให้ iron man + series Prison Break, Game of Thrones ต่างหาก
ส่วนเรื่องตัวหนังเองนี่ผมขอพูดในส่วนที่กระทู้อื่นยังไม่พูดถึงละกันครับ เกี่ยวกับแรงบันดาลใจจาก..
รูปภาพ The Colossus (อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ใน huffintong post "One of the first images that came to mind is an image that you wouldn't think would inspire a movie like this. It's a painting by Franciso Goya called "Colossus." It's a painting where you see this gigantic figure looming above a very small town. You know not referencing pop culture stuff, this was the first thing that came to mind when making Pacific Rim. Other then that everybody I hired to design, plan and animate are people who love giant monster movies and love robots, so we made it a point not to reference any particular work. We just tried to do our own interpretation of two genres that we love." แปลคร่าวๆว่ารูปนี้เป็นแรงบันดาลใจหลักของผู้กำกับ แต่การที่เรื่องนี้มันออกมาคล้ายกับเรื่องอื่นเยอะแยะมาจากทีมงานของผู้กำกับที่คลั่งไคล้สัตว์ประหลาดยักษ์+หุ่นยักษ์อยู่แล้วมากกว่า ไม่ได้มาจากตัวผู้กำกับเอง)
การดึงแรงบันดาลใจจากรูปวาดอันนี้ผมให้ผ่านนะครับ คือผมเห็นรูปวาดแล้วรู้สึกว่าตัวหนังสามารถถ่ายทอดอารมณ์จากรูปสู่ภาพยนตร์ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะบรรยากาศการต่อสู้นี่อารมณ์ประมาณนี้เลยครับ
อีกรูปคือ The Great Wave off Kanagawa (อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ใน variety " “I would say ‘Give me a Hokusai wave,’ ” says del Toro. “I think (the vfx team) did a tremendous job; we use the waves and weather in the movie very operatically.”)
ผมก็ว่าอยู่ว่าทำไมมีฉากต่อสู้ในน้ำเยอะจัง แล้วทำไมคลื่นถึงได้บ้าคลั่งตลอดเวลาขนาดนี้ ที่แท้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพนี้นี่เอง เอาเป็นว่าผมให้ผ่านครับ
อันนี้คงไม่ต้องอ้างอิงว่ามาจากไหนเพราะตัว GLaDOS เองเข้าไป voice เป็น Jaeger AI เลย ซึ่งทางผู้กำกับเองก็ยืนยันว่าเคยเล่น Portal 1 และ 2 co-op กับลูกสาว (อ้างอิงจาก Ain't It Cool) แต่ประเด็นคือไคจูนี่แอบคล้ายตัวร้ายใน Half-Life 2 (เกมใน universe เดียวกัน) ว่าเป็นเอเลี่ยนล่าอาณานิคมที่บุกโลกผ่านทางรอยแยกมิติ แต่หนังถ่ายทอดพล็อตเรื่อง ณ จุดนี้ออกมาได้โหลมาก คนทั่วไปอาจเข้าใจได้ว่าพล็อตแบบนี้ก็อปจากไหนก็ได้มีเป็นร้อยๆเรื่อง ทั้งๆที่ใน half-life สามารถจับความ original ออกจากพล็อตโหลๆแบบนี้ได้ และให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ผมยังไม่ให้ Pacific Rim ผ่านจุดนี้เพราะยังมีคนจำนวนมากคิดว่าสัตว์ประหลาดธรรมดาเกินไปอยู่ (รวมถึงตัวผมเองด้วย)
ทีมงานทำเพลงประกอบ Pacific Rim แย่งซีนทีม Visual Effect มากๆ (และความเห็นด้านอื่นๆ)
ส่วนเรื่องตัวหนังเองนี่ผมขอพูดในส่วนที่กระทู้อื่นยังไม่พูดถึงละกันครับ เกี่ยวกับแรงบันดาลใจจาก..
รูปภาพ The Colossus (อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ใน huffintong post "One of the first images that came to mind is an image that you wouldn't think would inspire a movie like this. It's a painting by Franciso Goya called "Colossus." It's a painting where you see this gigantic figure looming above a very small town. You know not referencing pop culture stuff, this was the first thing that came to mind when making Pacific Rim. Other then that everybody I hired to design, plan and animate are people who love giant monster movies and love robots, so we made it a point not to reference any particular work. We just tried to do our own interpretation of two genres that we love." แปลคร่าวๆว่ารูปนี้เป็นแรงบันดาลใจหลักของผู้กำกับ แต่การที่เรื่องนี้มันออกมาคล้ายกับเรื่องอื่นเยอะแยะมาจากทีมงานของผู้กำกับที่คลั่งไคล้สัตว์ประหลาดยักษ์+หุ่นยักษ์อยู่แล้วมากกว่า ไม่ได้มาจากตัวผู้กำกับเอง)
การดึงแรงบันดาลใจจากรูปวาดอันนี้ผมให้ผ่านนะครับ คือผมเห็นรูปวาดแล้วรู้สึกว่าตัวหนังสามารถถ่ายทอดอารมณ์จากรูปสู่ภาพยนตร์ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะบรรยากาศการต่อสู้นี่อารมณ์ประมาณนี้เลยครับ
อีกรูปคือ The Great Wave off Kanagawa (อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ใน variety " “I would say ‘Give me a Hokusai wave,’ ” says del Toro. “I think (the vfx team) did a tremendous job; we use the waves and weather in the movie very operatically.”)
ผมก็ว่าอยู่ว่าทำไมมีฉากต่อสู้ในน้ำเยอะจัง แล้วทำไมคลื่นถึงได้บ้าคลั่งตลอดเวลาขนาดนี้ ที่แท้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพนี้นี่เอง เอาเป็นว่าผมให้ผ่านครับ
อันนี้คงไม่ต้องอ้างอิงว่ามาจากไหนเพราะตัว GLaDOS เองเข้าไป voice เป็น Jaeger AI เลย ซึ่งทางผู้กำกับเองก็ยืนยันว่าเคยเล่น Portal 1 และ 2 co-op กับลูกสาว (อ้างอิงจาก Ain't It Cool) แต่ประเด็นคือไคจูนี่แอบคล้ายตัวร้ายใน Half-Life 2 (เกมใน universe เดียวกัน) ว่าเป็นเอเลี่ยนล่าอาณานิคมที่บุกโลกผ่านทางรอยแยกมิติ แต่หนังถ่ายทอดพล็อตเรื่อง ณ จุดนี้ออกมาได้โหลมาก คนทั่วไปอาจเข้าใจได้ว่าพล็อตแบบนี้ก็อปจากไหนก็ได้มีเป็นร้อยๆเรื่อง ทั้งๆที่ใน half-life สามารถจับความ original ออกจากพล็อตโหลๆแบบนี้ได้ และให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ผมยังไม่ให้ Pacific Rim ผ่านจุดนี้เพราะยังมีคนจำนวนมากคิดว่าสัตว์ประหลาดธรรมดาเกินไปอยู่ (รวมถึงตัวผมเองด้วย)