ขอเล่าเลยนะคะว่า เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาเราได้ซื้อบ้านมือสองหลังหนึ่ง เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งผนังเบาพร้อมที่ดินประมาณ 60 ตร.วา อายุบ้านประมาณ 20 ปีแล้วค่ะ ราคา 2 ล้านกลางๆ บ้านหลังนี้อยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี ย่านชุมชน หอพักนักศึกษา ใกล้มหาวิทยาลัย ใกล้สนามบิน หลังบ้านเป็นลำรางเล็กๆกว้างประมาณ 4-5 m. ด้วยความที่ตัวบ้านถูกสร้างมานานแสนนานแล้ว และตอนนี้ถนนหน้าบ้านก็ถูกถมจนสูงกว่าพื้นในบ้านประมาณ 50 cm. เวลาฝนตกหนักๆน้ำก็จะไหลจากถนนเข้าในบ้าน เจ้าของบ้านเดิมจึงแก้ปัญหาด้วยการเทคอนกรีตหน้าบ้านให้สูงกว่าถนน ตัวบ้านเราจึงมีลักษณะเป็นแอ่งกะละมัง ลึกประมาณ​ 50 cm.

      ปัญหาคือเวลาฝนตกหนักมากๆ จะมีน้ำซึมตามรอยต่อของกระเบื้องพื้น เจ้าของบ้านเดิมเค้าปล่อยให้คนเช่าค่ะ ทีนี้พอมาเกิดน้ำท่วมใหญ่ 2 ปีก่อน น้ำท่วมเข้าบ้าน ทำให้ผู้เช่าย้ายออกไป เจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจจะมาดูแล ก็ปล่อยเค้าทิ้งไว้อยู่อย่างนั้น จนเราไปเจอโดยบังเอิญ ในสภาพที่ทรุดโทรมมาก แต่โครงสร้างหลักๆยังโอเค ไม่มีรอยร้าวให้เห็น ปลวกไม่มี ปัญหาอยู่ตรงเรื่องของ ระบบไฟฟ้า ระดับพื้นภายในบ้านที่ส่งผลกับการระบายน้ำ และปัญหาน้ำซึมเท่านั้นค่ะ

       เราเองเรียนจบเพิ่งทำงานได้ประมาณ 2 ปี ด้วยความที่เราชอบทำเลแถวนี้ คุ้นเคยเพราะเรียนแถวนี้ด้วย และมีฝันเล็กๆอยากเปิดร้านข้าว ร้านขนม และสตูดิโอล้างอัดภาพเล็กๆ(ของแฟน) เนื่องจากถูกใจทำเลด้วย ราคาก็พออยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งไว้  จึงตัดสินใจติดต่อเจ้าของบ้าน ทำเรื่องกู้ บวกกับใช้เงินเก็บที่ตัวเองมีทั้งหมด ซื้อบ้านหลังนี้ค่ะ โดยทีแรกที่เราวางแผนไว้คือ เรากะจะรีโนเวทบ้านหลังนี้ ด้วยงบประมาณ 1 แสน 5 หมื่นบาท(เงินที่เหลือจากการดำเนินการเรื่องการโอนแล้ว)  เพื่อให้คนเช่าอยู่ เดือนละ 8 พันบาท ก่อนสัก 2-3 ปี (ส่วนตัวเรายังอยู่หอค่ะ เพราะยังไม่พร้อมจะอยู่บ้านทั้งหลังคนเดียว) แล้วพอเข้าปีที่ 3 เราก็จะย้ายเข้าอยู่ และดูสภาวะขณะนั้น ว่าเราพร้อมจะออกมาขายของมั้ย หรือจะทำงานออฟฟิศต่อไป

      แต่ปัญหามันมาเกิดตรงที่ว่า เรากลับมาคิดเรื่องนี้อีกครั้ง (จริงๆก็คิดมาตลอด คิดหลายเรื่อง คิดมากๆๆ ตั้งแต่ไปเจอบ้านหลังนี้) ว่าที่เราวางแผนไว้ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหรือเปล่า เพราะเท่ากับเราต้องใช้เงินเก็บทั้งหมด รีโนเวทบ้านใหม่ ซึ่งเป็นบ้านที่เราไม่ได้ออกแบบให้ตรงตามจุดประสงค์ของเรา เพียงแค่ออกแบบตามงบประมาณที่มี  ซึ่งค่อนข้างต้องจำกัดมากๆทั้งเรื่องวัสดุ และค่าแรง ผรม.เลยค่ะ  (ลืมบอกไปว่าเราเป็นสถาปนิกค่ะ) พอทำเสร็จก็ปล่อยเช่า เดือนละ 8 พัน 2 ปีได้เงินประมาณ 2 แสน กับปล่อยบ้านไว้อย่างนั้น ไม่เหนื่อยกับการต้องมาคุมหน้างาน ไม่มีความเสี่ยงอะไรเลย แล้วเอาเงิน 1 แสน 5 หมื่นที่มีไปโปะบ้านให้ต้นลดลง หรือไม่ก็เก็บไว้รวมกับเงินเก็บอีก 2 ปีที่ปล่อยบ้านไว้ เล้วเอามารีโนเวทตามที่เราต้องการไปเลย จะดีกว่ามั้ยน้อ...

       เรื่องของเรายาวมาก ไม่รู้ว่าเพื่อนๆอ่านแล้วจะงงกันรึป่าว แต่ที่เล่ามาทั้งหมด คือสิ่งที่เราคิดมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาค่ะ ตอนที่ทำเรื่องกู้ใหม่ๆก็เข้ามาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในนี้เหมือนกัน ครั้งนี้กลับมาขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆอีกครั้ง เพื่อนๆท่านใดมีความคิดเห็นอย่างไรแสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่เลยค่ะ เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะค่ะ

      ขอบคุณเพื่อนๆล่วงหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ

      ปล. ขออนุญาตแท็กห้องสินธรเพิ่มเติม เรื่องการวางแผนการเงินค่ะ