รู้สึกเกลียดตัวเองมากตอนนี้ ทำยังไงดีคะ

เรื่องของเรื่องคือ ที่บ้านเลี้ยงน้องหมาอายุประมาณเจ็ดเดือน ค่อนข้างซนตามประสา เพราะคนอื่น ๆ ที่บ้านตามใจหมด มีเราคนเดียวที่ดุ เข้มงวด คือวันนี้ ไม่มีใครอยู่บ้าน เราก็ผิดเองที่ปิดประตูห้องไม่ดีพอ กลับมาบ้าน พบว่า เจ้าตัวดีแอบเข้าไปในห้อง คุ้ยถังขยะกระจายเกลื่อนห้อง ที่สำคัญมีร่องรอยกินพวกทิชชู่และสำลีเช็ดหน้าเข้าไปด้วย เราโมโหมาก และตกใจด้วยที่เห็นเค้ากินของพวกนี้ เลยใช้ฝ่ามือตีที่จมูกไปหลายที เจ้าตัวดีไม่ร้องสักแอะ ทำหน้าประมาณยอมรับว่าตัวเองผิด หลังจากนั้น เราก็งอนน้องหมา (รังเกียจตัวเองจริง ๆ)เท่ เวลาเค้าจะเข้ามาหาก็ชิงดุไปก่อน หยุดเลย ยังไม่หายโกรธแกนะ ประมาณเนี้ยน่ะค่ะ เราทำงานพิเศษเลิกสามทุ่มเป็นบางวัน บางวันคนในบ้านหลับหมด แต่ทุกวันจะมีอยู่คน(ตัว)เดียว ที่รอเรากลับบ้านทุกวัน วันนี้ก็เหมือนกัน เดินจะเข้าบ้าน เจ้าตัวดีมารอที่ประตูแล้ว กระดิกหางดีใจที่เรากลับบ้าน วนหน้าวนหลังแป๊บนึง แล้วก็ไปนอน ท่าจะง่วงแล้ว แต่ไม่ยอมนอนรอเรากลับบ้านอยู่ร้องไห้ โทษทีนะคะ เรื่องยาวไปหน่อย ทีนี้อยากจะปรึกษาว่า จะทำอย่างไรดี ถึงจะควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองได้บ้าง ใครมีวิธีฝึกควบคุมอารมณ์ให้เป็นคนใจเย็นขึ้น ( ทำไมนะ รู้ทั้งรู้ว่าเค้าซนตามประสาลูกสุนัขก็ยังห้ามไม่ให้โมโหไม่ได้อยู่ดี) ใครมีบทธรรมะ หรือบทความอะไรดี ๆ แนะนำกันบ้างนะคะ ตอนนี้รู้สึกเกลียดและรังเกียจตัวเองมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พาพันเศร้า
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ในทางพระพุทธศาสนานั้น มีกรรมฐานหลายกองที่ทำให้สามารถระงับความโกรธได้
แต่... ต้องบอกก่อนนะครับ ไม่ใช่ว่าเริ่มปฏิบัติปุ๊บ แล้วระงับได้ปั๊บนะ
มันจะเป็นการค่อยๆสะสม ค่อยเป็นค่อยไป

กรรมฐานกองแรก คือ พรหมวิหาร ๔ จริงๆแล้วคุณทำอยู่แล้ว เพราะมีความรักและเมตตาน้องหมา
เพียงแต่ไม่ตรงจุด สะเปะสะปะเกินไป เสมือนหนึ่งน้ำที่กระจายออก ขาดซึ่งกำลัง
เราก็เอาใหม่ รวมน้ำที่กระจายออกให้กลายเป็นน้ำที่พุ่งไปจุดเดียว
ตื่นเช้ามาก็ให้นึกเสมอว่า เราจะรักคนและสัตว์เสมือนหนึ่งว่ารักตัวเราเอง
คือ เราไม่ชอบอะไร เราก็จะไม่ทำกับใครทั้งนั้น เช่น เราไม่ชอบให้ใครมาด่า แม้ว่าเราจะผิด ก็น่าจะพูดกันดีๆ
เราก็ไม่ด่าใครเหมือนกัน เราจะพูดกับเขาดีๆ
และถ้าเราชอบอะไร เราก็จะทำกับคนอื่นอย่างนั้น เช่น เราชอบให้คนยิ้มให้เรา เราก็ยิ้มให้คนอื่น
ทำเรื่อยๆ ทำบ่อยๆ ทำเป็นประจำ จิตจะอ่อนโยน คลายความโกรธได้ง่ายขึ้น
จริงๆแล้วมันจะโกรธช้าลง มันจะเป็นตัวหน่วงความโกรธเอาไว้
และแม้จะโกรธแล้ว เราก็พิจารณาใหม่ว่า จริงๆแล้ว ไม่มีใครอยากทำอะไรให้เราโกรธ
ที่เขาทำก็ด้วยความพลั้งเผลอ หรืออาจจะเรียกง่ายๆว่าความโง่ของเขาเอง
ถ้าเราโกรธ เราก็ขาดเมตตาต่อตัวเอง เรียกง่ายว่าโง่อีกเหมือนกัน เพราะความโกรธนำมาซึ่งความทุกข์

กรรมฐานอีกกองที่มักจะใช้กันเสมอ เรียกว่า วรรณกสิณ หรือกสิณสี ได้แก่ กสิณสีขาว สีเขียว สีเหลือง สีแดง
คือการนำวัตุที่มีสีดังกล่าวสีใดสีหนึ่ง มานั่งจำภาพวัตถุนั้นๆ
โดยมากถ้ามีศรัทธาในพระพุทธศาสนา นิยมใช้พระพุทธรูปสีเหลือง(ทอง) หรือสีขาว มาใช้ดู ดูแล้วก็จำ
จำให้พอนึกภาพออก แล้วเราก็นึกถึงภาพนั้นตลอดเวลาที่เราว่าง ครั้งละ นาทีสองนาที หรือถ้าคล่องแล้วก็เปลี่ยนเป็น สิบนาทีหรือครึ่งชั่วโมง
เมื่อความโกรธเวียนมาหาเรา เราก็นึกภาพกสิณที่เราจำไว้ได้ นึกอยู่อย่างนั้นแหละ จะระงับความโกรธได้อย่างดี

ที่เขาปฏิบัติกันนั้น บางทีพิจารณาพรหมวิหาร ๔ มันไม่ทัน เขาเลยใช้วิธีจับภาพกสิณขึ้นมาก่อน พอจิตสงบดีแล้ว
(สังเกตได้จากลมหายใจของเราว่าช้าลงจนเป็นปกติ)
จึงค่อยๆพิจารณาพรหมวิหาร๔ เหตุและผล

แต่อย่าลืมว่า คนหรือหมาในปกครอง ถ้าทำผิดก็ต้องดุ เตือน ว่ากล่าวเหมือนกัน
แต่ควรทำด้วยจิตเมตตาปราณี เพื่อไม่ให้เขาทำผิดอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่