[กระทู้นี้ไม่ได้อยากโยงถึงการเมือง เรื่องการฮั้วประมูล โกงกันภายใน อันนั้นผมไม่ยุ่ง แต่กระทู้นี้สร้างมาเพื่ออยากให้ปรับความเข้าใจใหม่ว่าทีวีดิจิตอล เป็นมาตรฐานโลกที่คิดค้นขึ้นมาต่อยอดจากเดิม ทั่วโลกใช้กัน ยังไงก็ต้องใช้ มันก็ฟรีเหมือนเดิมนั่นแหละ มันไม่ใช่เครื่องมือโกง]



ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เกิดจากความรู้สึกไม่ดีที่คนไทยหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับทีวีดิจิตอล ว่าเป็นสิ่งเกินความจำเป็น ไม่ต้องมีก็ได้ หรือบอกว่าเป็นตัวทำให้เป็นช่องโหว่หาผลประโยชน์ โยงเข้าการเมืองกันไปเรื่อย ข้อความที่พิมพ์แบบเข้าใจผิด (โดยเฉพาะใน Kapook, Sanook, Manager มีเยอะเลย) เช่น

"ต่อไปนี้รากหญ้าประเทศไทยจะต้องซื้อทีวีจอแบนพร้อมกล่องทุกบ้าน ไม่งั้นไม่มีสิทธิดูฟรีทีวี ไม่เว้นแม้แต่คนเลี้ยงควายในนา
เป้ฯไงเชียร์ระบอบทักษิณที่มีนายทุนสามานย์อยู่ข้างหลัง"

"กล่องเยอะจริงๆทั้ง แกรมมี่ RS CTH True แต่ละกล่องก็มีช่องน่าดูไม่กี่ช่อง ภาระมาอยู่ที่ปชช.อีกแล้ว"


ขอเกริ่นยาวๆเลยว่า "ทีวีดิจิตอล" เป็นมาตรฐานใหม่ของระบบการส่งสัญญาณทีวี ที่ต่อยอดจากอนาล๊อก เพื่อเพิ่มความสามารถและลดข้อด้อยของระบบอนาล๊อกเดิม ซึ่งทีวีเป็นสื่อที่สำคัญอันดับต้นๆของโลก ควบคู่กับหนังสือพิมพ์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต ซึ่งคุณจะหนีมันไม่พ้นแน่ๆ ยังไงก็ต้องใช้มันอยู่ดี ที่ให้ออกอากาศควบคู่ทั้งอนาล๊อกและดิจิตอล เพื่อให้คุณปรับตัว เตรียมเก็บเงินซื้อของที่รองรับมาตรฐานใหม่ โดยมีมาตรฐานเก่ารองรับไว้ก่อน เรียกว่า การเปลี่ยนผ่าน นี่ก็ดีหนักหนาแล้วที่เค้าไม่หักดิบตัดสัญญาณทีวีอนาล๊อกทันทีที่เริ่มออกอากาศทีวีดิจิตอล

ทีวีดิจิตอลมีข้อดีที่มากกว่าทีวีอนาล๊อกเดิมซึ่งใช้กันมาหลายสิบปี ข้อดีหลักๆคือ
- สัญญาณส่งเป็นตัวเลข ไม่ได้เป็นคลื่นขึ้นๆลงๆ ทำให้สัญญาณเสถียร รบกวนน้อย ส่งสัญญาณได้ไกลกว่าเดิม(ในแรงส่งเท่าเดิม) สัญญาณต่ำแต่ภาพก็ยังชัด
- ไม่มีคลื่นรบกวน เช่น เม็ดหิมะ(Noise) หรือเส้นรบกวนต่างๆ
- รองรับภาพในระบบความชัดสูงหรือ HD โดยสามารถต่อยอดความละเอียดไปได้เรื่อยๆ ตามเทคโนโลยีแต่ละสมัย
- ระบบเสียงมีได้หลายภาษา (อนาล๊อกเดิมได้แค่2ภาษา), รองรับเสียงรอบทิศทาง หรือ Surround Sound, ซับหลายภาษา
- รองรับผังเวลารายการอิเล็กทรอนิกส์ (EPG), หน้าต่างข้อมูลรายการ และรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ (Datacasting) มีทั้งข้อมูลรายการ พยากรณ์อากาศ การจราจร เช็คหุ้นบบสดๆตลอดเวลา โดยระบบนี้มาพร้อมสัญญาณทีวี ไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ตก็ใช้ได้
- เวลาเครื่องไม่ต้องตั้งเอง สัญญาณทีวีจากสถานีจะตั้งให้เราอัตโนมัติ ปลั๊กหลุดเปิดทีวีใหม่ ไม่ต้องตั้งเวลาเอง จะตั้งเตือนหรือตั้งอัดรายการก็ทำได้ทันที ตามเวลาที่กำหนดไว้
- ใช้ช่องสัญญาณน้อยลงหลายเท่าทำให้ใส่ช่องได้มากกว่าเดิม 1เลขช่องอาจจะมีช่องทีวีรวมกัน 4-5ช่องได้ รองรับช่องใหม่ในอนาคต หรือช่องที่ต้องใช้ช่องสัญญาณสูง (เช่น ช่องความละเอียด 8K HD)
- เครื่องส่งสัญญาณกินไฟน้อยลง แรงส่ง 10KW ของอนาล๊อกเดิม แต่ดิจิตอลจะใช้แค่ 2KW ในระยะการส่งเท่ากัน ประหยัดไฟกว่าเห็นๆ

จะเห็นได้ว่าข้อดีมีเยอะมาก คิดค้นก็ทำได้แล้ว แล้วทำไมจะไม่เอาละครับ ดีกว่าเห็นๆ ประหยัดทรัพยากรด้วย ทันสมัยขึ้นอีก ลบข้อจำกัดได้เยอะ และเป็นทางเลือกแทนทีวีดาวเทียม (หลายประเทศในโลกไม่มีการส่งฟรีทีวีขึ้นดาวเทียม) ประเทศที่เค้าคิดค้นระบบพวกนี้ไว้ เค้าก็เริ่มเอาระบบตัวเองไปใช้ในประเทศต่างๆ ตามแต่ละมาตรฐานซึ่งมันก็คล้ายๆกันแหละครับ จะไปต่างตรงลูกเล่นในระบบนิดหน่อย อย่างญี่ปุ่นก็ ISDB-T อเมริกาก็ ATSC-T ยุโรปก็ DVB-T, T2 ประเทศอื่นๆที่ไม่ได้คิดระบบเองอยากใช้อันไหนก็ไปปรึกษาและขอนำมาใช้

ตอนที่เริ่มออกอากาศแล้วก็บอกมาว่าจะปิดอนาล๊อกเดิมวันนู้นนะนี่นะ ทุกประเทศคนก็ประท้วงกันก็มีครับ บางคนบอกว่าเกินความจำเป็นบ้าง ทำให้มันยุ่งยากทำไม ผมจะยกตัวอย่างให้ครับว่าประเทศอื่นก็มีแบบเราเหมือนกันที่จะประท้วง แต่เค้าไม่ได้อิงการเมืองเลย เราควรให้ความรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องใช้ ทั่วโลกถือเป็นมาตรฐาน ผมลองยกตัวอย่างประเทศนึงซึ่งก็มีปัญหาเรื่องเปลี่ยนผ่านเหมือนกัน

นั่นก็คือที่ ญี่ปุ่น ตอนที่รัฐบาลประกาศเริ่มออกอากาศทีวีดิจิตอลวันที่ 1 ธ.ค. 2003 ใน3เมืองใหญ่ พร้อมกับบอกเส้นตายว่าจะปิดทีวีอนาล๊อกวันที่ 24 ก.ค. 2011 (กำหนดการนี้ไม่ได้เลื่อน ถึงวันก็ปิดจริง เพราะถือว่าให้วันเยอะพอสมควร แต่เกิดเหตุสึนามิ2011 3จังหวัดที่โดนผลกระทบหนักเลยเลื่อนเป็น 31 มี.ค 2012)

คนบ่นโอยกันพรึ่บ (โดยเฉพาะคนแก่) ว่าจะเปลี่ยนไปทำไม ทีวีที่บ้านก็ชัดอยู่แล้วสัญญาณรบกวนนิดหน่อยไม่เห็นเป็นไร บางคนก็บอกว่าหาเรื่องเสียเงินอีก รัฐบาลเลยเข้าไปช่วยให้ข้อมูล ช่วยดูแลต่างๆ มีการประชาสัมพันธ์ ใครปรับไม่เป็นหรือไม่รู้จะซื้ออุปกรณ์อันไหนก็จะมีเจ้าหน้าที่บอกให้ทั้งของรัฐเอง ของแต่ละช่องทีวี หรือแม้แต่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ให้ความร่วมมืออย่างดี คนจะได้ปรับตัวและเข้าใจ

คนที่ชอบและรอทีวีดิจิตอลก็มีเยอะ ทั้งบอกว่าภาพสวยมาก สัญญาณชัดแจ๋วแม้บ้านอยู่เนินเขาจากเดิมที่ไม่ค่อยชัด แม้อุปกรณ์จะแพงหน่อย และยังต้องใช้กล่องเพราะทีวีสมัยนั้นยังไม่มีตัวรับทีวีดิจิตอลมาให้ในตัว เพราะเพิ่งเริ่มออกอากาศแต่ก็ถือว่าก็มีคนที่ตื่นเต้นและสนใจเกี่ยวกับทีวีดิจิตอลและภาพระบบ HD อยู่

พอผ่านมาเรื่อยๆ หลังจากทีวีดิจิตอลครอบคลุมทั้งประเทศในวันที่ 1 ต.ค. 2006 พอขึ้นมาปี 2007 ก็ได้มีการวิจัยและหาข้อมูลก็พบว่ายังมีอีกหลายบ้าน(หลักล้าน) ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ทีวีดิจิตอลซักที โดยก็ถึงกับมีการลดSaleกระจาย ทีวีที่เริ่มขายในปีนีก็ใส่ตัวรับทีวีดิจิตอล หรือ Digital TV Tuner ในตัว แถมต่อดาวเทียมระบบ BS/CS ให้ในตัวอีก (BS/CSประเทศอื่นไม่มีนะครับ สงวนเฉพาะญี่ปุ่น) ตัวรับทีวีอนาล๊อกก็ไม่ได้ตัดทิ้งไปไหน พอสำรวจผลใหม่ก็พบว่าคนเข้าใจแล้วเพราะมีการให้ข้อมูลอย่างทั่วถึง คนชอบกันด้วยซ้ำ แต่หลายคนอาจจะยังไม่พร้อม หรือเสียดายทีวีเก่า รอซื้อใหม่ที่เป็น LCD, Plasma TV กันเลยดีกว่า (ทีวีที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปี2012ขึ้นไป ตัดระบบอนาล๊อกออกแล้ว)

และในช่วงก่อนปิดอนาล๊อกไม่กี่วัน ก็มีการสำรวจถึงคนที่ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ทีวีดิจิตอล ผลออกมาว่าก็ยังมีคนที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอีกหลายบ้านเหมือนกัน (แต่น้อยแล้ว ลดลงกว่าปี2007เยอะ) เค้าก็ตัดสัญญาณตามแผนที่วางไว้เมื่อเกือบ10ปีที่แล้ว ซึ่งยังไงมันก็ต้องเปลี่ยน คนก็เข้าใจและก็ไปซื้อกล่องหรือทีวีใหม่มาใช้อยู่ดี จะดูทางเน็ตก็ไม่ได้ ในดาวเทียมก็ไม่มีฟรีทีวี มีแต่ช่องเสียเงินและเคเบิ้ล (ซึ่งมันก็คือ BS/CS นั่นแหละ ซื้อเครื่องมาก็เหมือนกับซื้อตัวรับทีวีดิจิตอลมาด้วยเลย)

***** ทีวีดิจิตอล เป็นพื้นฐานของการพัฒนาระบบโทรคมนาคมหลักของโลก นั่นก็คือทีวี พัฒนาให้ใหม่และดีขึ้น รัฐบาลแต่ละประเทศก็ยังไงก็ต้องทำ ต้องใช้ ต้องยอมรับว่ามันเป็นมาตรฐานโลกไปแล้ว แม้จะช้ากว่าประเทศอื่นแต่ก็ต้องรีบทำ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหากับอุปกรณ์รุ่นเก่าล้นตลาด หรือที่เรียกว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผมคิดว่าบ้านเรานั้นช้าพอสมควรสำหรับเรื่องนี้ (เกือบได้เป็นประเทศแรกๆในเอเซียที่ได้ใช้ทีวีดิจิตอล แต่โดนขัดขาบวกกับบอกว่าไม่จำเป็น ในปี 2001) ฉะนั้นขอบอกตรงๆเลยว่า ตัวระบบทีวีดิจิตอลไม่ใช่เครื่องมือของการโกงกิน หาผลประโยชน์ ของทั้งรัฐและเอกชน ที่จะกินผลประโยชน์ของเราก็คือ การประมูล การตั้งแผนธุรกิจต่างๆ คนวงใน ตรงนั้นแหละที่เป็นการโกงกัน ตัวระบบไม่เกี่ยวซักหน่อย ถ้าจะโทษไปโทษนักการเมืองนู่น ไม่ต้องโทษระบบว่าตัวระบบเป็นตัวกินผลประโยชน์ พวกคนข้างในที่วางแผนต่างๆนั่นแหละตัวกินผลประโยชน์ ทีวีดิจิตอลยังไงก็ต้องใช้ หนีไม่พ้นหรอก *****