ด้วยเรื่องที่เจอกับตัวเอง เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน และลำบากใจพอควร...แต่หากว่าเราไม่ช่วย เราคงติดค้างในใจตลอดไป
เริ่มจากเรามักไปให้อาหารแมวจรแถวบ้านทุกหัวค่ำ ซึ่งเป็นทางผ่านก่อนถึงบ้านค่ะ จนเมื่อช่วงวันพืชมงคลที่ผ่านมา สังเกตเห็นแมวตัวหนึ่ง ตาเจ็บมากๆ คิดว่าถ้าไม่ช่วย คงตาบอดแน่ๆ จึงตัดสินใจพาไปหาหมอ ซึ่งคุณหมอที่ รพส.แถวบ้าน แนะนำให้พาไปที่ รพส.จุฬาฯ ในวันรุ่งขี้น ที่ต้องรีบ เพื่อให้แน่ใจว่าอาการจะไม่หนักไปกว่านี้ จนเกินเยียวยา
คุณหมอที่ รพส.จุฬา วินิจฉัยอาการป่วยว่า แมวเป็นแผลลึกลงไปในกระจกตา ลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อ มีโอกาสที่จะมองไม่เห็นสูง ในการรักษา จะให้ยาหยอดตาไปก่อน และนัดคิวผ่าตัด (มีคิวรอค่อนข้างมากค่ะ) ซึ่งเราได้ถามว่า ถ้ารักษาหายแล้ว แมวจะมองเห็นเป็นปกติหรือไม่ คุณหมอ บอกว่า จะมองเห็นเป็นปกติ แต่จะเป็นแผลเป็นในลูกตา
จากที่ต้องไปทุกสัปดาห์ และต้องนัดวันผ่าตัดตา กลับพบว่า การตอบสนองต่อยาที่รักษา เป็นไปในทางบวกที่ดีมาก จนกระทั่งถึงวันที่นัดผ่าตัดตา คุณหมอบอกว่า ไม่จำเป็นแล้ว และให้หยอดยารักษาเท่านั้น จนถึงวันที่นักครั้งสุดท้าย ได้พบกับอาจารย์ปราณี ซึ่งท่านออกตรวจพอดี และแจ้งว่า ไม่ต้องมาแล้ว แต่ต้องใส่คอลล่าร์ไปก่อน และต้องหยอดตาจนกว่ายาจะหมด ซึ่งขณะนี้ เราก็ยังฝากไว้ที่ รพส.แถวบ้านให้ช่วยดูแล รวมทั้งแผลที่หางที่เป็นมาแต่ต้นด้วย
จากแรกๆที่คิดเพียงว่า เมื่อรักษาหายจะพากลับไปไว้ที่เดิม เราฉุกคิดได้ว่า เมื่อสภาพตาของเค้าที่เพิ่งหายดี อาจจะไม่ 100% เต็ม แล้วถ้าติดเชื้อซ้ำอีกจะแย่กว่าเดิมไหม ดังนั้น จึงคิดหาบ้านให้ ซึ่งในสภาพที่อยู่อาศัยในขณะนี้ เราไม่สามารถรับเค้ามาเลี้ยงได้จริงๆ และจากที่ถามคนรอบๆตัว ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
จากที่เค้าต้องเผชิญชะตาชีวิต ที่เกือบตาจะบอดทั้ง 2 ข้างอยู่แล้ว แต่เราช่วยพาไปรักษาจนหายดี เราจึงขออยากขอบ้านที่อบอุ่น ที่ช่วยดูแลเค้าไปได้ตลอดชีวิต โปรดอย่าทอดทิ้งเค้า เรายินดีที่จะทำวัคซีนให้ครบทุกชนิด (ป้องกันพิษสุนัขบ้า, หวัดหัดแมว,ลูคิเมีย, FIP) ซึ่งขณะนี้เริ่มทำวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว และทำหมันในโอกาสต่อไป
น้องแมวเป็นเพศชาย อายุ 4 เดือนขณะที่พาไปรักษา อายุในขณะนี้ จึงประมาณ 5-6 เดือน เพราะเรารักษาไปร่วม 2 เดือน
ท่านที่สนใจโปรดติดต่อ หลังไมค์ หรือที่ line id : chb_aor (เบอร์โทร รบกวนขอทางหลังไมค์ หรือทาง Lines นะคะ)
ขอบ้านให้น้องแมวหวิดตาบอด รักษาหายดีแล้ว
เริ่มจากเรามักไปให้อาหารแมวจรแถวบ้านทุกหัวค่ำ ซึ่งเป็นทางผ่านก่อนถึงบ้านค่ะ จนเมื่อช่วงวันพืชมงคลที่ผ่านมา สังเกตเห็นแมวตัวหนึ่ง ตาเจ็บมากๆ คิดว่าถ้าไม่ช่วย คงตาบอดแน่ๆ จึงตัดสินใจพาไปหาหมอ ซึ่งคุณหมอที่ รพส.แถวบ้าน แนะนำให้พาไปที่ รพส.จุฬาฯ ในวันรุ่งขี้น ที่ต้องรีบ เพื่อให้แน่ใจว่าอาการจะไม่หนักไปกว่านี้ จนเกินเยียวยา
คุณหมอที่ รพส.จุฬา วินิจฉัยอาการป่วยว่า แมวเป็นแผลลึกลงไปในกระจกตา ลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อ มีโอกาสที่จะมองไม่เห็นสูง ในการรักษา จะให้ยาหยอดตาไปก่อน และนัดคิวผ่าตัด (มีคิวรอค่อนข้างมากค่ะ) ซึ่งเราได้ถามว่า ถ้ารักษาหายแล้ว แมวจะมองเห็นเป็นปกติหรือไม่ คุณหมอ บอกว่า จะมองเห็นเป็นปกติ แต่จะเป็นแผลเป็นในลูกตา
จากที่ต้องไปทุกสัปดาห์ และต้องนัดวันผ่าตัดตา กลับพบว่า การตอบสนองต่อยาที่รักษา เป็นไปในทางบวกที่ดีมาก จนกระทั่งถึงวันที่นัดผ่าตัดตา คุณหมอบอกว่า ไม่จำเป็นแล้ว และให้หยอดยารักษาเท่านั้น จนถึงวันที่นักครั้งสุดท้าย ได้พบกับอาจารย์ปราณี ซึ่งท่านออกตรวจพอดี และแจ้งว่า ไม่ต้องมาแล้ว แต่ต้องใส่คอลล่าร์ไปก่อน และต้องหยอดตาจนกว่ายาจะหมด ซึ่งขณะนี้ เราก็ยังฝากไว้ที่ รพส.แถวบ้านให้ช่วยดูแล รวมทั้งแผลที่หางที่เป็นมาแต่ต้นด้วย
จากแรกๆที่คิดเพียงว่า เมื่อรักษาหายจะพากลับไปไว้ที่เดิม เราฉุกคิดได้ว่า เมื่อสภาพตาของเค้าที่เพิ่งหายดี อาจจะไม่ 100% เต็ม แล้วถ้าติดเชื้อซ้ำอีกจะแย่กว่าเดิมไหม ดังนั้น จึงคิดหาบ้านให้ ซึ่งในสภาพที่อยู่อาศัยในขณะนี้ เราไม่สามารถรับเค้ามาเลี้ยงได้จริงๆ และจากที่ถามคนรอบๆตัว ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
จากที่เค้าต้องเผชิญชะตาชีวิต ที่เกือบตาจะบอดทั้ง 2 ข้างอยู่แล้ว แต่เราช่วยพาไปรักษาจนหายดี เราจึงขออยากขอบ้านที่อบอุ่น ที่ช่วยดูแลเค้าไปได้ตลอดชีวิต โปรดอย่าทอดทิ้งเค้า เรายินดีที่จะทำวัคซีนให้ครบทุกชนิด (ป้องกันพิษสุนัขบ้า, หวัดหัดแมว,ลูคิเมีย, FIP) ซึ่งขณะนี้เริ่มทำวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว และทำหมันในโอกาสต่อไป
น้องแมวเป็นเพศชาย อายุ 4 เดือนขณะที่พาไปรักษา อายุในขณะนี้ จึงประมาณ 5-6 เดือน เพราะเรารักษาไปร่วม 2 เดือน
ท่านที่สนใจโปรดติดต่อ หลังไมค์ หรือที่ line id : chb_aor (เบอร์โทร รบกวนขอทางหลังไมค์ หรือทาง Lines นะคะ)