ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าของเราเป็นท้องแรก และอายุยังไม่มาก (ไม่ถึง 30) และได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับการฝากครรภ์หลายกระทู้ บอกตามตรงว่าหลายๆ คอมเม้นท์ก็ทำให้เราจิตตกกับการฝากท้องที่รามา เช่น การอัลตร้าซาวด์ที่โรงพยาบาลอื่นเค้าทำให้บ่อยมาก การอัลตร้าซาวด์ที่รามาไม่ดีบ้าง ฯลฯ

วันนี้เราได้อัลตร้าซาวด์ครั้งแรก (อายุครรภ์ 21 weeks) เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การฝากครรภ์ที่นี่ให้คุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการฝากครรภ์ที่นี่อยู่นะคะ

เราฝากครรภ์ที่คลีนิคธรรมดาและไม่มีหมอพิเศษสำหรับทำคลอด ตั้งแต่ 4 weeks จนถึงตอนนี้ 21 weeks  แล้วค่ะ จึงจะมาแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่ฝากท้องจนถึงอัลตร้าซาวด์ครั้งแรกนะคะ อาจยาวสักนิดนะคะ แต่จะทำสรุปไว้ให้ด้านล่าง (เนื่องจากเราอายุยังน้อย และครรภ์ไม่มีปัญหา จึงอาจไม่ได้รับการตรวจและการอัลตร้าซาวด์มากนักนะคะ)

มา รพ. ครั้งแรก ฝากท้อง [4 weeks]
สภาพเหมือนเด็กเอ๋อเลยคะ ทำอะไรไม่ถูก ถามตลอดทาง จนไปถึงแผนกฝากครรภ์ พยาบาลก็ถามว่าตรวจสอบการตั้งครรภ์มาหรือยังคะ เราตรวจมาแล้วคะพยาบาลก็ยื่นเอกสารให้กรอก เกี่ยวกับสามีและบุตร ให้ตั้งชื่อลูกชายหญิงเลยด้วย วันนั้นเราไม่ได้คิดชื่อมาก็เลยใส่ชื่อเล่นไว้ พยาบาลบอกว่าใกล้ๆ คลอดค่อยมาเปลี่ยนก็ได้ เสร็จแล้วก็ให้บัตรนัด กระป๋องเก็บปัสสาวะ (เก็บมายื่นคราวหน้า) และก็ให้ไปตรวจเลือด แล้วกลับบ้านได้ ความรู้สึกเราวันนั้นคือ "งง" คะ ว่าแค่นี้เองหรอ ไม่ให้พบหมอหน่อยหรอ แล้วยาบำรุงหล่ะ คำแนะนำให้การดูแลครรภ์ ฯลฯ แต่ด้วยความงงก็ไม่ได้ถามอะไร เจาะเลือดเสร็จกลับบ้าน

นัดครั้งแรก [5 weeks]
เอาบัตรนัดมายื่นแล้วก็นั่งรอคิว ถึงเวลาพยาบาลก็เรียกไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน ซักประวัติเล็กน้อย แล้วก็ให้เอากระป๋องปัสสาวะเปิดฝาวางทับบัตรคิว (ทับขอบๆ บัตรนะ อย่าทับตัวเลข เดี๋ยวพยาบาลมองไม่เห็นเลขแล้วจะโดนดุเอา) ที่เค้าเตอร์ด้านหลังพยาบาล (บัตรคิวจะได้มาสองใบ ใบนึงถือไว้รอเรียกคิว ส่วนอีกใบไว้กับกระป๋องปัสสาวะ) เสร็จแล้วก็ขึ้นไปรอที่ห้องอบรม พอคุณแม่ที่ฝากครรภ์ครั้งแรกมาครบ พยาบาลก็มาอธิบายเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงทั้งของคุณแม่และเด็กในครรภ์ การบำรุง อะไรควรหรือไม่ควรทาน อาการแพ้ ฯลฯ (และบอกล่วงหน้าว่าที่นี่การอัลตร้าซาวด์ไม่เน้นดูเพศ แต่จะเน้นดูความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ) และหากใครมีข้อสงสัยอะไรก็ถามได้เลยคะ พยาบาลใจดีมาก หลังจากนั้นก็ลงมาตรวจกับคุณหมอ พอได้พบคุณหมอก็จะมีการซักประวัติเกี่ยวกับโรคประจำตัว การแพ้ยา ประจำเดือนครั้งสุดท้าย แล้วก็ไปนอนบนเตียงเพื่อตรวจครรภ์ คุณหมดจะฟังเสียงหัวใจ และกดๆ ท้องเราเล็กน้อย และหมอก็จะสรุปให้ฟังว่าครรภ์เราปกติดีหรือไม่ มีน้ำตาลเกินหรือไม่ (แอบสงสัยว่าหมอรู้ได้ไง ไม่เห็นตรวจเลือดหรืออะไรเลย) และจะครบกำหนดคลอดเมื่อไหร่ หากมีข้อสงสัยอะไรก็ถามคุณหมอได้เลยคะ เสร็จแล้วคุณหมดก็จะสั่ง "โฟเลท" ไปให้ทานค่ะ
ปล.วันนี้เจออาจารย์หมอ พร้อมลูกศิษย์อีกสามคน แต่อาจารย์เป็นคนตรวจนะคะ

นัดครั้งที่ 3 [13 weeks]
วันนี้สามีมาด้วยค่ะ ดีใจจัง ^^ (ปกติไปคนเดียวคะ) แล้ววันนี้ก็ทำเหมือนเดิมคะ ยื่นบัตร ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน เสร็จแล้วพยาบาลก็ยื่นกระป๋องปัสสาวะมาให้ เครียดเลยคะ เราเพิ่งเข้าห้องน้ำมาเมื่อกี้นี้เอง คุณสามีหันมามองด้วยความเห็นใจพร้อมกับขวดน้ำ ดื่มไปครึ่งขวดแล้วยังไม่ปวดเลยคะ แต่อิ่มน้ำมากๆ ดื่มไม่ไหวแล้ว เลยลองไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ได้ปัสสาวะมา ^^ ก็เอาไปวางทับบัตรคิวเหมือนเดิมค่ะ แล้วก็นั่งรอหมอเรียก แต่ด้วยอานุภาพของน้ำครึ่งขวด เราเข้าห้องน้ำเป็นว่าเล่นเลย จนหมอเรียกแล้วเราไม่อยู่เลยโดนข้ามคิวไป พอได้พบหมอก็มีการซักอาการว่ามีอะไรผิดปกติไหม เลือดออกไหม มีอาการแพ้หรือเปล่า (เราไม่แพ้เลยคะ) แล้วหมอก็ให้ขึ้นเตียงตรวจครรภ์เหมือนเดิม คราวนี้หมอฟังเสียงหัวใจ แล้วก็คลำหาทารกว่าอยู่ตรงไหนคะ เพื่อดูว่ามีอาการรกเกาะต่ำหรือเปล่า แล้วหมอก็สรุปให้ฟังว่า ครรภ์ปกติดี ไม่มีภาวะรกเกาะต่ำ และให้เราถามข้อสงสัย เราก็ถามเกี่ยวกับพวกยาบำรุงต่างๆ ว่าทานได้ไหม โดยมีคุณสามีเข้าไปร่วมด้วยช่วยกันถามข้อสงสัยคะ และเนื่องจากไม่มีอาการแพ้แล้ว หมอจึงยังยาบำรุง "Obimin-AZ"
ปล.คราวนี้คิดว่าน่าจะเป็นหมอจบใหม่คะ (หมอคลำหาลูกเราไม่เจออ่ะ) แต่จะมีหมอรุ่นพี่คอยเดินดูและช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้คะ
ปล.2 จากข้อสงสัยครั้งที่แล้วเรื่องน้ำตาลในเลือด วันนี้เลยนั่งสังเกตุตอนพยาบาลตรวจปัสสาวะ เลยรู้ว่าเค้าไม่ได้แค่วัดระดับฮอร์โมน แต่จะมีการตรวจหาปริมาณน้ำตาลด้วย (พยาบาลเอาแทบวัดมาจิ้มตรวจเหมือนที่ตรวจการตั้งครรภ์เลยคะ)

นัดครั้งที่ 4 อัลตร้าซาวด์ [21 weeks]
คราวนี้ไม่ได้ไปที่ตึกเดิมค่ะ เพราะต้องไปอัลตร้าซาวด์ที่ตึกสิริกิติ์ (อยู่ใกล้ๆ ตึกเก่านั่นแหละคะ) ชั้น 6 ห้อง 6201 ถ้าจำไม่ผิด เราไปยื่นบัตรนัด พยาบาลให้ใบเซ็นต์รับทราบเกี่ยวกับอัลตร้าซาวด์มาค่ะ เขียนเสร็จพยาบาลก็ให้ผ้ากันน้ำลายเด็กมา (ของที่ระลึกงาน BBB) และให้ไปทานข้าว (วันนี้เราไปเช้ามากเพราะไม่อยากรอคิวนานคะ) พอ 9 โมงหมอก็เรียกตรวจ เข้าไปก็นอนบนเตียงเปิดพุง ที่ปลายเท้าเราจะมีทีวีจอใหญ่แขวนไว้ให้เราดูผลซาวด์พร้อมๆ กับคุณหมอค่ะ (วันนี้เราเจอหมอผู้หญิง ตอนแรกนึกว่าชาวต่างชาติซะอีก) คุณหมอบีบเจลเย็นๆ ลงบนท้องเราแล้วก็เอาเครื่องมาถูๆๆ แล้วก็วัดค่าต่างๆ บอกให้พยาบาลจด เสร็จแล้วคุณหมอก็จะมาซาวด์พร้อมอธิบายให้เราฟังว่าส่วนนี้คืออะไร เป็นปากแหว่งเพดานโหว่หรือไม่ หัวใจเต้นปกติไหมแล้วก็ให้ฟังเสียงหัวใจด้วยค่ะ (เปิดออกลำโพง) หมอบอกไตดีทั้งสองข้างนะคะ (แอบงงว่าดูได้ด้วยหรอ) ของเราเห็นเพศคะ หมอก็บอกว่า "จู๋คะ" แอบฮาเล็กๆ ในใจ ให้ดูแขน ขา อายุครรภ์เป็นไปตามเกณฑ์ไหม เด็กน้ำหนักเท่าไหร่ และสุดท้ายหมอจำลองหน้าลูกของเราให้ดูเหมือนที่เค้าไปทำ 4D กันเลยคะ เราเลยไม่แน่ใจว่าการอัลตร้าซาวด์ของที่รามาเป็นแบบ 4D หรือเปล่า หรือมันมีระบบอื่นที่ทำแบบนี้ได้ด้วย เราได้ดูแบบหน้าตรงกับแบบหน้าข้างๆ แล้วหมอก็ยืนยันอีกทีว่าไม่มีอาการปากแหว่งเพดานโหว่คะ เสร็จแล้วก็รอเอกสารจากพยาบาล พยาบาลจะให้เราถือแฟ้มไปที่ตึกเก่าเอง (เราแอบเปิดดูแล้วก็ถ่ายผลตรวจส่งให้คุณสามี) แล้วก็ไปฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักเข็มแรก (เข็มต่อไปประมาณเดือนที่ 7-8) และก็รับยาบำรุง "Obimin-AZ" และก็ "แคลเซียม" แล้วกลับบ้านได้
ปล. วันนี้คุณหมอใจดีมาก ดูให้หมดจนเราไม่ต้องถามหรือขอดูเพิ่มเลยค่ะ (ตอนแรกคิดว่าเค้าจะไม่ดูปากแหว่งฯ ให้) แต่พยาบาลที่หน่วยอัลตร้าซาวด์แอบดุเล็กน้อย เลยไม่กล้าขอปริ้นซ์รูปตอนซาวด์เลย (กลัวโดนดุอ่ะ)

สรุปค่ะ
- คลีนิคธรรมดาจะไม่สามารถเลือกหมอที่ทำการตรวจได้ (แต่สำหรับคนที่มีหมอพิเศษเราไม่แน่ใจนะคะว่าจะได้ตรวจกับหมอคนเดิมหรือเปล่า) ถ้าฝากคลีนิคพิเศษที่ตึกพระเทพจะได้ตรวจกับหมอคนเดิมทุกครั้งคะ
- ที่นี่จะมีการตรวจครรภ์ในวันจันทร์ พุธ และศุกร์เท่านั้น หากมีข้อสงสัยก็มาถามพยาบาลในวันดังกล่าว เวลาราชการ ได้ค่ะ แต่หากมีเรื่องฉุกเฉินในวันอื่นๆ ต้องไปที่ตึกฉุกเฉินติดถนนพระรามที่ 6 แทน
- สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวที่อาจติดต่อสู่ลูกได้ คุณหมอจะส่งไปหาพยาบาลเพื่อให้คำแนะนำ ในวันนัดครั้งแรก
- พยาบาลที่หน่วยสูติตึกเก่า ใจดีเป็นกันเองมาก
- การอัลตร้าซาวด์ไม่แน่ใจว่าใช้ระบบอะไร แต่ได้ดูรูปจำลองเหมือน 4D ด้วย (ค่าซาวด์ 550 บาท)
- การอัลตร้าซาวด์ไม่แน่ใจว่าสามีจะเข้าไปดูด้วยได้หรือไม่ เพราะเราไปคนเดียวอ่ะคะ
- ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดใช้สิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของราชการได้ทั้งหมด ยกเว้น ค่ายาบำรุง "Obimin-AZ"

หวังว่าการรีวิวครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจสำหรับคุณแม่ท่านอื่นๆ บ้างนะคะ
ใครมีข้อมูลอะไรที่เราตกหล่นอะไรไปก็มาช่วยกันเพิ่มเติมข้อมูลนะคะ
หรือใครมีอะไรอยากจะถามก็ถามได้ค่ะ ^^