สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
เครื่อง Pajero Sport เป็นเครื่อง 2.5 เอามาเค้นแรงเพื่อสู้กับพวก 3.0
ถึงแรงม้าจะมากกว่าหน่อย แต่แรงบิดสู้ไม่ได้ ยิ่งช่วงรอบต่ำยิ่งสู้ไม่ได้
สรุปเรื่องเครื่อง Fortuner กินครับ แล้วทั้งคู่ตอนนี้ก็ยังติดล็อค 180 km/h
บนหน้าปัดเข็มอาจจะชี้แปะๆ 190 km/h ถ้าคันไหนเข็มอ่อนมากหน่อยก็จะขึ้นได้มากกว่านี้
ส่วนใครถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ต้องไปใส่กล่องปลดกันเอาเอง
เกียร์ 5AT ของ Pajero Sport ระบบในการทำงานยังเป็นแบบเกียร์ยุคเก่าอยู่
เหมือนกับเกียร์ 4AT ของ Fortuner รุ่นเก่า
ส่วน 5AT ของ Fortuner เป็นเกียร์ยุคใหม่มีลูกเล่นกับ lock-up มากขึ้น
เกียร์ Transfer ของ Pajero Sport มีดีตรงที่ปลด 2 ได้
แต่พอปลด 2 แล้ว ก็ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดกว่า Fortuner เลยกลายเป็นว่าข้อดีไม่มีความหมายอะไร
ในขณะที่ Fortuner ขับ 4 แบบกระจายแรงขับด้วย Torsen ได้ Traction ดีกว่า และแถมยังประัหยัดกว่า
แล้วในโหมด ขับ 4 แบบกระจายแรงขับ ของ Pajero Sport ก็ใช้ Viscous Coupling
เรื่องความทนทานก็สู้แบบเฟือง Torsen ไม่ได้ แล้วในการใช้งานจริงก็สู้ไม่ได้อีก
เพราะมันต้องรอใ้ห้ล้อปั่นฟรีก่อน มันถึงจะทำงาน แล้วตอนทำงานมันก็จับได้ไม่เต็ม
ถ้าใครเคยดูคลิปที่ Chev ทำเอาไว้ ก็คงจะเห็น
ช่วงล่างด้านหน้า Fortuner ทำมาเข้าท่ากว่าหน่อย แต่ถือว่าพอๆกัน
ช่วงล่างด้านหลัง อันนี้เป็นจุดแย่ของ Pajero Sport
เพราะรถขับหลังคานแข็งแบบคอยล์สปริง อย่างน้อยก็ต้องเป็นช่วงล่างแบบ 4 link
คือมีแขนคู่บน กับคู่ล่าง เพื่อคุมองศาเพลาท้าย
แต่ของ Pajero Sport ออกแบบมาแบบมักง่าย ไปใช้ช่วงล่างแบบ 2 link เหมือนพวกรถขับหน้า
ซึ่งมันจะคุมองศาเพลาไม่ได้เลย ผลคือในการใช้งานระยะยาวจะทำให้เฟืองท้าย เพลากลาง สึกหรอเร็ว
ส่วนเรื่องการเซ็ท สปริงกับโช้ค ของ Pajero Sport จะเซ็ทสปริงมาไปทางนิ่ม
แต่ขับจริงๆก็ไม่ได้นิ่มอะไร จังหวะเริ่มยุบก็ยังแข็งอยู่ แต่พอยุบแล้วมันก็จะยุบเยอะ
ในขณะที่ของ Fortuner นี่แก้มาแล้วไม่รู้กี่รอบ รอบล่าสุดก็ถือว่าทำมาดีขึ้นอีกหน่อย
สำหรับผมเดิมๆ ผมให้ Fortuner ดีกว่า เพราะอาการช่วงล่างมันเริ่มต้นนิ่มกว่า และกระชับกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคู่นี้ โช้คติดรถมา ก็ควรโยนทิ้งก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะที่คนคุยๆกันว่าดีๆ มันยังห่างไกลกับคำว่าดีจริงๆ
ลองหาโช้คในราคาระดับคู่ละหมื่นขึ้นมาเปลี่ยนใหม่หมด แล้วจะเห็นว่าอาการรถมันดีขึ้นแบบคนละเรื่อง
หลังจากนั้นถึงค่อยมาคุยเรื่องช่วงล่างใครดี ใครไม่ดี
เบรค ของ Fortuner ใส่มาอลังการงานสร้างมาก
เบรคหน้าเป็นแบบ 4 Pot พร้อมกับจานขนาด 320 mm
แต่เบรคอลังการกับรถใหญ่แบบนี้ ถ้าทดลมช่วยน้อยแป้นมันก็จะหนัก แต่ถ้าทดลมช่วยมากความแม่นยำมันก็จะลดลง
อันที่จริงถ้าเป็นคนที่ขับแล้วเข้าใจเบรค กดเบรคด้วยน้ำหนักที่ถูกต้อง เบรคเดิมๆถือว่าเหลือๆครับ
แต่ถ้าเป็นคนที่ชินกับแป้นเบรครถเล็กที่เบาๆมา จะทำให้เกิดอาการที่กดเบรคเบาเกินไปตลอด
แ้ล้วก็จะเกิดปัญหาสารพัดตามมา
ซึ่งวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ ก็แค่ใส่หม้อลมเบรคเสริมเข้าไปอีกใบ แป้นมันก็จะเบาขึ้น แค่นั้นจริงๆ
ถึงแรงม้าจะมากกว่าหน่อย แต่แรงบิดสู้ไม่ได้ ยิ่งช่วงรอบต่ำยิ่งสู้ไม่ได้
สรุปเรื่องเครื่อง Fortuner กินครับ แล้วทั้งคู่ตอนนี้ก็ยังติดล็อค 180 km/h
บนหน้าปัดเข็มอาจจะชี้แปะๆ 190 km/h ถ้าคันไหนเข็มอ่อนมากหน่อยก็จะขึ้นได้มากกว่านี้
ส่วนใครถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ต้องไปใส่กล่องปลดกันเอาเอง
เกียร์ 5AT ของ Pajero Sport ระบบในการทำงานยังเป็นแบบเกียร์ยุคเก่าอยู่
เหมือนกับเกียร์ 4AT ของ Fortuner รุ่นเก่า
ส่วน 5AT ของ Fortuner เป็นเกียร์ยุคใหม่มีลูกเล่นกับ lock-up มากขึ้น
เกียร์ Transfer ของ Pajero Sport มีดีตรงที่ปลด 2 ได้
แต่พอปลด 2 แล้ว ก็ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดกว่า Fortuner เลยกลายเป็นว่าข้อดีไม่มีความหมายอะไร
ในขณะที่ Fortuner ขับ 4 แบบกระจายแรงขับด้วย Torsen ได้ Traction ดีกว่า และแถมยังประัหยัดกว่า
แล้วในโหมด ขับ 4 แบบกระจายแรงขับ ของ Pajero Sport ก็ใช้ Viscous Coupling
เรื่องความทนทานก็สู้แบบเฟือง Torsen ไม่ได้ แล้วในการใช้งานจริงก็สู้ไม่ได้อีก
เพราะมันต้องรอใ้ห้ล้อปั่นฟรีก่อน มันถึงจะทำงาน แล้วตอนทำงานมันก็จับได้ไม่เต็ม
ถ้าใครเคยดูคลิปที่ Chev ทำเอาไว้ ก็คงจะเห็น
ช่วงล่างด้านหน้า Fortuner ทำมาเข้าท่ากว่าหน่อย แต่ถือว่าพอๆกัน
ช่วงล่างด้านหลัง อันนี้เป็นจุดแย่ของ Pajero Sport
เพราะรถขับหลังคานแข็งแบบคอยล์สปริง อย่างน้อยก็ต้องเป็นช่วงล่างแบบ 4 link
คือมีแขนคู่บน กับคู่ล่าง เพื่อคุมองศาเพลาท้าย
แต่ของ Pajero Sport ออกแบบมาแบบมักง่าย ไปใช้ช่วงล่างแบบ 2 link เหมือนพวกรถขับหน้า
ซึ่งมันจะคุมองศาเพลาไม่ได้เลย ผลคือในการใช้งานระยะยาวจะทำให้เฟืองท้าย เพลากลาง สึกหรอเร็ว
ส่วนเรื่องการเซ็ท สปริงกับโช้ค ของ Pajero Sport จะเซ็ทสปริงมาไปทางนิ่ม
แต่ขับจริงๆก็ไม่ได้นิ่มอะไร จังหวะเริ่มยุบก็ยังแข็งอยู่ แต่พอยุบแล้วมันก็จะยุบเยอะ
ในขณะที่ของ Fortuner นี่แก้มาแล้วไม่รู้กี่รอบ รอบล่าสุดก็ถือว่าทำมาดีขึ้นอีกหน่อย
สำหรับผมเดิมๆ ผมให้ Fortuner ดีกว่า เพราะอาการช่วงล่างมันเริ่มต้นนิ่มกว่า และกระชับกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคู่นี้ โช้คติดรถมา ก็ควรโยนทิ้งก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะที่คนคุยๆกันว่าดีๆ มันยังห่างไกลกับคำว่าดีจริงๆ
ลองหาโช้คในราคาระดับคู่ละหมื่นขึ้นมาเปลี่ยนใหม่หมด แล้วจะเห็นว่าอาการรถมันดีขึ้นแบบคนละเรื่อง
หลังจากนั้นถึงค่อยมาคุยเรื่องช่วงล่างใครดี ใครไม่ดี
เบรค ของ Fortuner ใส่มาอลังการงานสร้างมาก
เบรคหน้าเป็นแบบ 4 Pot พร้อมกับจานขนาด 320 mm
แต่เบรคอลังการกับรถใหญ่แบบนี้ ถ้าทดลมช่วยน้อยแป้นมันก็จะหนัก แต่ถ้าทดลมช่วยมากความแม่นยำมันก็จะลดลง
อันที่จริงถ้าเป็นคนที่ขับแล้วเข้าใจเบรค กดเบรคด้วยน้ำหนักที่ถูกต้อง เบรคเดิมๆถือว่าเหลือๆครับ
แต่ถ้าเป็นคนที่ชินกับแป้นเบรครถเล็กที่เบาๆมา จะทำให้เกิดอาการที่กดเบรคเบาเกินไปตลอด
แ้ล้วก็จะเกิดปัญหาสารพัดตามมา
ซึ่งวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ ก็แค่ใส่หม้อลมเบรคเสริมเข้าไปอีกใบ แป้นมันก็จะเบาขึ้น แค่นั้นจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
เปรียบเทียบสมรรถนะ ระหว่าง Toyota Fortunerกับ Pajero sport คันไหนเจ๋งกว่ากันคับ