สารอะไรในข้าว ที่หนูกินแล้วตายใน 5 นาที ?

จากข่าว

http://hilight.kapook.com/view/88391

เนื้อข่าว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Suttipong Thamawuit

            สุทธิพงษ์ คนค้นฅน โพสต์แฉโรงสีเพื่อไทย บอกรายชื่อยี่ห้อข้าวอันตราย ทำหนูตายใน 5 นาที แต่เจ้าตัวออกมาลบข้อความ พร้อมกับบล็อกเฟซบุ๊กชั่วคราว

            กลายเป็นข่าวที่ถูกจับตามองเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อ นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ดำเนินรายการคนค้นฅน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suttipong Thamawuit เมื่อวานนี้ (9 กรกฎาคม 2556) ระบุถึงโรงสีข้าวรายใหญ่ของพรรคเพื่อไทย มีสารพิษตกค้าง และสารดังกล่าวไม่สามารถละลายน้ำได้ นอกจากนี้ยังจะทำให้หนูตายภายใน 5 นาที...
   
สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ

            "แล้วแต่พิจารณานะครับ ผมไม่ได้มีประโยชน์ได้เสีย โรงสีข้าวที่กำลังเตรียมส่งข้างในสต็อกออกจำหน่าย ให้กับผู้ผลิตรายใหญ่ ได้แก่.............. เป็นโรงสีของภาคอีสาน เป็นโรงงานของ ส.ส.เพื่อไทย คงจะมีสารพิษตกค้าง เพราะสารตัวนี้ไม่สามารถละลายในน้ำได้ หนูตายใน 5 นาที

            ห้ามซื้อ........ ทุกยี่ห้อ ตอนนี้ข้าวถูกจำหน่ายออกในนาม .......... เนื่องจากคนกลัวข้าวจากอีสาน และสต็อกต่อไปคือข้าวเสาไห้ ยี่ห้อ.......... ห้ามเด็ดขาด ............ ทุกประเภทห้ามทาน เป็นสต็อกจากต้นปีที่แล้ว จัดจำหน่าย"

            ทั้งนี้ เมื่อข้อความดังกล่าวถูกส่งต่อไป ชาวเน็ตต่างก็กดแชร์กันอย่างมากมาย และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหลายกระแส บ้างก็บอกว่า นายสุทธิพงษ์ จะปลอดภัยไหม ที่กล้าพาดพิงถึงพรรคเพื่อไทยออกสื่อขนาดนี้ บ้างก็ให้นายสุทธิพงษ์หาหลักฐานและข้อมูลมายืนยัน

            จากนั้น นายสุทธิพงษ์ ได้ลบข้อความดังกล่าวทิ้งไป และได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า...

สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ

            "เร็วกว่าไฟลามทุ่ง ถึงแม้ผมจะลบไปแล้ว เร็วที่สุดเท่าที่ผมจัดการได้ เมื่อเห็นผลของความสะเพร่าไปไกลเกินกว่าเจตนาแห่งสัมมาทิฐิและกุศลเจตนา อย่าให้และอย่าใช้ผมไปก่อกรรมกับใครเลยนะครับ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าผมสามารถลบความจริงทิ้งได้ และไม่ว่าใครก็ไม่สามารถลบกรรมทั้งดีทั้งชั่วทิ้งได้ โดยเฉพาะการกระทำกับชาวนาและข้าวปลาอาหาร"

            อย่างไรก็ดี ล่าสุด เฟซบุ๊กของ นายสุทธิพงษ์ ถูกบล็อกไปชั่วคราว ต่อจากนั้น ช่วงเช้าวันนี้ (10 กรกฎาคม 2556) นายสุทธิพงษ์ ได้เปิดเฟซบุ๊กอีกครั้ง พร้อมระบุข้อความว่า...

สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ

            "ที่ผ่านมา ผมปลีกตัวอยู่เงียบ ๆ ทำหน้าที่ของผมไป ภายใต้ความเป็นไปของโลกที่ตระหนักดีว่าทัดทานไม่ได้ แตะต้องไม่ได้ ถ้าไม่อยากเปลืองตัว ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าวังเวงเหลือเกิน แผ่นดินนี้ สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกวังเวง ไม่ใช่คลิปสนทนาที่บอกว่าตัดต่อ ไม่ใช่ผลของโครงการรับจำนำข้าวที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันทำให้คนมีดวงตาเห็นธรรมเหมือนกัน ไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกันต่อตัวท่านนายก ไปจนกระทั่งถึงการที่มีรัฐมนตรีมองว่าประชาชนเป็นขยะ ผมใช้โทรศัพท์เอไอเอสมาหลายปี ไม่เคยคิดเปลี่ยน รู้สึกสงสารท่านนายกอย่างไรก็ไม่เคยเปลี่ยน แต่ก็ไม่สามารถที่จะชื่นชมการแชร์ความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ได้หมายความว่าเราคิดเหมือนกันทุกอย่าง การไม่พูดถึงก็ไม่ได้หมายความว่าเห็นต่างไปเสียทั้งหมด คงถึงเวลาที่ต้องประกาศจุดยืนให้ทราบโดยทั่วกันว่า ผมเลือกข้างแล้วชัดเจน ว่าผมอยู่ข้างความถูกต้อง ถามว่าเอาอะไรมาวัดว่าถูกหรือผิด ตอบว่าเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ซึ่งความมืดบอดต่อสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนนี่เอง ที่ทำให้ผมรู้สึกวังเวง"

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เอาแค่ว่า สารปนเปื้อนที่อยู่ในข้าวสาร ที่กล่าวอ้าง ว่าหนูกินแล้วตายใน 5 นาที มันคือสารอะไรครับ ?
ต่อให้เป็นเชื้อราในข้าว หรือ สารหนู
ก็ไม่น่าจะกินแล้วตายเร็วขนาดนี้นะครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เอาข้อมูลอีกด้านมาให้ดูแลกเปลี่ยนกันครับ

---------------------------------------------------------------
จาก http://thaienews.blogspot.com/

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญวงการตรวจสอบสินค้าการเกษตรรายหนึ่งได้ชี้แจงผ่านทางโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คว่า เรื่องที่นายสุทธิพงษ์อ้างถึงนั้นไม่เป็นความจริง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อมูลนี้ไม่จริงครับ สารรมควันเพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืชเป็นสารระเหิดออกฤิทธิ์ต่อระบบการหายใจต่อสิ่งมีชีวิต มี 2 ชนิดที่ใช้ในประเทศและทั่วโลก คือ

1.เม็ธทิลโบรไมด์ ออกฤิทธิ์ใน 24 ชม. หมดกลิ่นและสภาพใน 72 ชม.ราคาแพงมากเป็นยานำ้บรรจุถังระบายระเหยเป็นควัน ราคาแพงมาก กก.ละ380บาท ปัจจุบันเป็นสินค้าที่ควบคุมทั้งการจำหน่ายและการใช้ของกองวัตถุมีพิษ ต้องขออนุญาตก่อนใช้ ผลข้างเคียงคือทำลายชั้นบรรยากาศ ทั่วโลกจึงลดปริมาณการใช้ลง แต่เป็นสารที่ไ้ด้ผลมากที่สุด

2.อีกตัวคืออะลูมิเนี่ยมฟอสไฟด์ หรือฟอสฟิล เป็นชนิดเม็ด ใช้บรรจุุุงผ้าขาวบางแขวนตามกองข้าวห่างกัน3-4เมตรต่อจุด ปริมาณใช้ 1gm/ton ออกฤิทธิ์เต็มที่ใน72ชม.แล้วค่อยระเหยหมดไปภานใน7-10วัน

ทั้ง2ชนิดไม่มีสารตกค้างใดๆ พอเก็บผ้าคลุมรมยาสัก3วันมอดก็กลับมากินใหม่ แต่ไม่มีผลต่อไข่ของแมลง

ส่วนที่พบหนูและแมวตายนั้นเพราะมันไปซ่อนตัวในกองสินค้าก่อนการรมยา เมื่อกองสินค้าถูกคลุมผ้่าพลาสติกอย่างหนา และเจ้าหน้าที่ปล่อยยา สัตว์หายใจเข้าไป จึงถูกฤิทธิ์ยาทำลายระบบหายใจ จึงเสียชีวิต

คุณสมบัติเหมือนกับDDTกำจัดยุงและแมลงแต่แรงกว่าออกฆิทธิ์นานกว่าเท่านั้นเอง และใช้มากว่า50ปีแล้ว

อนึ่ง ชื่อโรงสีที่เอ่ยมาเป็นโรงสีในเขต อุบลฯ ยโสธร อำนาจเจริ ญและศีรษะเกษ ซึ่งเป็นถิ่นผลิตข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดีที่สุด และแพงที่สุดของเมืองไทย แต่กรณีที่ผู้แจ้งพบควรจะเป็นเขตภาคกลางและเหนือตอนล่างมากกว่า เพราะพัวพันกับการนำข้าวเก่าในคลังหลวงมาวนจำนำใหม่ และพอมีเรื่องก็นำมาผสมขาย แต่ผู้ผลิตบรรจุุึงขายไม่เล่นด้วย จึงปล่อยข่าวโจมตี


----------------------------------

**เพิ่มเติม**
แปะข่าวของ อ.ย. เพื่อความสบายใจในการกินข้าวครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ข้าวมีผลการวิจัยออกมานานแล้วว่ามีโทษร้ายแรงครับ ซึ่งสรุปเป็นข้อๆได้ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 7
สารที่หนูตายหลังกินใน5นาที คือสาร "เชื่อไม่คิด แชร์ไม่ใช้สมอง"
สารแก้พิษคือ "สติ"

#Me ถูกถีบออกนอกวง
ความคิดเห็นที่ 37
นาย ก : รู้ไหมครับ ข้าวไทยยิ้มอันตรายนะครับ
นาย ข : ห๊ะ จริงหรือครับ ??
นาย ก : จริงครับ ปนเปื้อน มีสารเคมีตกค้าง
นาย ข : ห๊ะ ขนาดนั้นเลยหรือครับ ?
นาย ก : กินไปนี่อาจจะตายได้ภายใน 5 นาทีเลยนะครับ
นาย ข : โหวววววว น่ากลัวยิ้มเลยครับ
นาย ก : โชคดีไม่ตายทันที ก็เป็นมะเร็งไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานครับ
นาย ข : เหยด แล้วมันจะมีทางแก้ไหมครับ ?
นาย ก : มีครับผม ทางแก้ง่ายนิดเดียวครับ
นาย ข : ทำไงครับ ????
นาย ก : ให้คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกครับ เป็นความหวังเดียวของประเทศชาติ

Cr. เพจ นี่มันตลกน่ะ ไม่ขำหรอ
ความคิดเห็นที่ 22
งุงิ คิคิ

ความคิดเห็นที่ 6
ถ้ารักเมืองไทยจริง และรักชาวนาไทยจริง ไม่ควรดิสเครดิตด้วยข้อมูลที่ไม่มีที่มาที่ไปอย่างนี้เลยนะครับ ถ้ามันไม่จริงก็เสียหายกันทั้งหมด ไม่ใช่แค่รัฐบาลซักหน่อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่