สวัสดีครับ ผู้ที่หลงทางเผลอกดเข้ามาอ่านกระทู้รีวิวของผมทุกๆท่าน
ถ้าท่านคลิ๊กเข้ามาแล้วแสดงว่าท่านต้องสนใจเรื่อง "สารวัตรหมาบ้า" ไม่มากก็น้อย
บอกไว้ก่อนเลยว่า ชีวิตนี้ไม่เคยรีวิว อะไรซักอย่างในชีวิต แต่นี่เป็นบ่วงกรรมที่ทำไว้ครับ
(เผอิญว่า ยืมล๊อคอินของ nearonline ที่ใช้โพสอยู่ในขณะนี้ ในการจองตั๋วหนังเพื่อไปดูฟรีในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ ผมไม่ใช่ nearonline นะครับ มันส่งผมไปเป็นตัวแทนครับ) ตอนแรกก็ว่าจะช่วยสนับสนุน คุณชายอดัม ผู้กำกับสารวัตรหมาบ้าคนนี้เสียหน่อย แต่แล้วก็เกิดเปลี่ยนใจครับ เพราะว่า มีเพื่อนที่ไปดูรอบนี้เหมือนกัน ก็เลยนัดไปเจอกัน
นอกเรื่องมาซะยาว เพราะงั้นเดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลยก็แล้วกันนะครับ
ผมคงไม่ใช้คำว่ารีวิวเหมือนท่านอื่นๆก็แล้วกัน (เพราะจริงๆก็ไม่รู้ ขอบเขตของคำว่ารีวิวนะครับ)
สารวัตรหมาบ้า... ภาพยนตร์เรื่องนี้ เมื่อครั้งแรกที่พบสบตาเห็นบนโปสเตอร์ ก็รู้สึกแค่ว่า "โปสเตอร์สวยดีหว่ะ" แต่พอมาดู ภาพยนตร์ตัวอย่าง ตอนที่ไปดูภาพยนตร์เรื่องอื่นอยู่นั้น ก็รู้สึกว่า หนังเรื่องนี้น่าจะแรง(ในความรู้สึกตัวเอง) อาจจะดูเวอร์ๆ แต่น่าจะเป็นแอคชั่นแบบไทยสไตล์ คงไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่... เปิดเรื่องมาคงเป็นแบบ สืบสวนสอบสวน เดินเรื่องน่าเบื่อๆ สุดท้ายก็จับผู้ร้ายได้ เย่ จบ แฮปปี้เอนดิ้ง...
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้สามารถเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกเหล่านี้ของผมไปได้เกือบทั้งหมดครับ เพราะโดยนิสัย(สันดาน)การดูภาพยนตร์ของผมจะเป็นชนิดที่ว่า ชอบเดามันทุกอย่างครับ "เดี๋ยวมันต้องเป็นอย่างงี้แหละ" โช๊ะ!! "เดาถูกเว้ยเฮ้ย" แบบนี้ส่วนตัวผมเองก็จะรู้สึกหมดสนุก เหมือนกับมันเป็น ช่องเดินในเกมเศรษฐี ที่เราต้องเดินผ่าน แล้วถ้ามันหยุดช่องที่เราคิดไว้ มันก็ หมดสนุก แต่กับเรื่องนี้ เหมือนเดินไปเจอ ช่อง ? ตลอด (ในเกมเศรษฐีสมัยนี้ยังเป็นแบบนี้หรือเปล่าวะครับ ล่าสุดก็เล่นเมื่อนานมาแล้ว [เราแก่แล้วสินะ]) มันมีอะไรให้ลุ้นแล้วก็คอยบีบตลอดเลยครับ แล้วไอทีเราพยายามเดา เหมือนกับที่เราโรคจิต ทำมันกับทุกเรื่อง (ในที่นี้หมายถึงหนังทุกประเภทนะครับ หนังรัก หนังบู๊ บลาๆๆ) ถึงแม้ว่าผมจะเดาถูก ความสนุกหรือความประทับใจมันก็จะไปตกอยู่ตรง วิธีหรือ การพยายามสื่อสารของผู้กำกับ ส่งผ่านตัวละครในภาพยนตร์ มาให้คนดูได้เห็น อันนั้นจะชอบหรือไม่ชอบก็อีกเรื่องครับ
เรื่องนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า ตัวละครทุกตัว มีกิมมิค มีความสำคัญ มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน และไม่ได้เด่น เพียงพระเอกหรือนางเอก เพียงคู่เดียว แต่ยังแบ่งบทบาท ทำให้คนดูรู้สึกอินได้มากขึ้น แล้วก็สำหรับใครที่ชอบ สไตล์ สับไปซ้อนมา ดูแล้วคิดตาม ลุ้นๆว่ามันจะเป็นแบบที่เราคิดหรือเปล่า(วะ) อันนี้ จะสนุกมาก
สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ "คนดูภาพยนตร์" ทุกคนควรดูครับ ย้ำนะครับว่าทุกคน เพราะเรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ถือว่า แหวกแนวสำหรับผมเหมือนกัน ผมไม่เคยดูหนังแอคชั่น ที่ผู้กำกับ สามารถทำให้ตัวละคร สื่อสารกับคนดูได้มากมายขนาดนี้
ข้อเสียที่ผมรู้สึกได้ก็มีไม่กี่อย่างครับ อย่างแรกคือ หนังยืด (อันนี้ผู้กำกับบอกเองเลยว่าอยากให้เป็น retro style แบบชนิดที่ว่า เปิด มอนิเตอร์เทียบกับ ภาพยนตร์สมัยก่อนกันเลยทีเดียว) คุณชายอดัมบอกว่า อยากให้กลิ่นอายมันเป็นแบบนั้น
หลายคนที่พูดถึง คริสตัล วี ที่ว่า นางเล่นไม่ขาดไม่อิน ผมว่าสำหรับผมแล้ว เธอทำออกมาได้ดีมากๆ คิดดูครับว่า คนที่พูดภาษาไทยได้ไม่ชัดมาเล่น แต่เล่นออกมาได้เฉียบ แล้วอารมณ์เธอเล่นขาดจริงๆ แต่มันจะไปขัดที่เธอต้องสื่อสารออกมาในรูปแบบของภาษาที่ไม่ใช่ภาษาที่เธอพูดได้ชัด อาจจะดูขัดๆ (นึกภาพว่าให้คนไทยที่พูดภาษาอังกฤษไม่คล่องเลย ไปเล่นหนังที่ต้องพูดภาษาอังกฤษทั้งเรื่องเลยก็แล้วกัน)
(คุณชายอดัม ถามหลังจากภาพยนตร์จบนะครับ ว่าถ้าไม่เอาคนนี้มาเล่น จะนึกถึงใคร ผมไม่ได้ตอบไปครับ แต่ในใจ มีที่คิดไว้อยู่แล้ว เธอคนนั้นก็คือ สาวกระแต - ศุภักษรนั่นเอง
ถ้าคุณชายมาอ่านก็อย่าลืมอ่านแล้วนึกภาพตามด้วยละกันนะครับ น่าจะเข้าใจนะว่าทำไมผมถึงเลือกเธอคนนี้)
อีกอย่างก็คือ มุมกล้องในช่วงแรกๆ มันเวียนหัวไปนิดครับ (เหมือนกำลังเล่นเคาเตอร์สไตร์ค) แต่พอได้คุยกับคุณชายแล้วเลยรู้ว่า การถ่ายทำในฉากนั้นมันลำบากมาก ด้วยสภาพแวดล้อมกับ พื้นผิวที่ไม่ได้เอื้ออำนวยกองถ่ายเลยแม้แต่น้อย
ว่าจะเขียนนิดเดียวก็ล่อไปซะเยอะเลย เรื่องตัวละครอื่นๆผมคงไม่พูดถึงนะครับ ขืนยาวกว่านี้ อีกนานแน่ๆครับกว่าจะจบ
รายละเอียดปลีกย่อยมีอีกเยอะ ทุกๆฉาก ผู้กำกับใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆครับ แต่อาจจะยังดีไม่พอสำหรับผู้ชมบางท่านที่คาดหวังไว้มากมาย // ถึงแม้ว่าจะไม่ตลาด แต่ไอที่ไม่ตลาดเนี่ยแหละครับ ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ ดิบ และดาร์คออกมาได้สุดๆ
สรุปนะครับ สำหรับผม หนังเรื่องนี้ ดาร์ค ดิบ ถึงใจผมมากๆเลยครับ เป็นภาพยนตร์แอคชั่นที่ผมดูแล้วประทับใจที่สุดเรื่องนึง(ไม่ใช่แบบที่กระสุนแม่มยิงเป็นพันๆนัด แต่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย) ทุกอย่างมันทำให้รู้สึกถึงโลกความเป็นจริงครับ "เมื่อมีการชักปืนออกมา ปืนมันมีอำนาจที่จะตัดสินชีวิตคนนะ" นี่คือคำพูดของ คุณชายอดัม ผู้กำกับสารวัตรหมาบ้า
ทิ้งท้ายไว้นิดนึงครับ
สำหรับผมแล้ว การจะวัดผลว่าภาพยนตร์เรื่องที่ดูมา ถ้ามีคนถามคุณว่า หนังเรื่องนี้สนุกมั้ย เราก็ตอบไปตามความรู้สึกของตัวเองครับ เหมือนกับที่คุณกินอาหารนั่นแหละ "เฮ้ย อร่อยมั้ยวะ" บางคนก็ตอบว่า ไม่รู้ดิ ก็กินได้อะ คนที่ว่าอร่อยคือคนที่ได้กินอาหารในรสชาติที่ชอบมากกว่า สำหรับผมก็เหมือนกันครับ ถ้าถามว่า "สารวัตรหมาบ้า" สนุกมั้ย ผมจะตอบว่า สนุกมวากกกกกกก : )
ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่แพ้การโปรโมทของหนังฟอร์มใหญ่เรื่องอื่นๆ ที่พุ่งทะลักเข้ามา จนภาพยนตร์เรื่องนี้แทบจะหายไป ผมว่าเรื่องนี้ ไม่แพ้ใครง่ายๆแน่นอนครับ
จบการรีวิวครับ ขอบคุณทุกท่านที่หลงทางมาอ่านจนจบครับ
คนขับรถ
(สปอย) รีวิว สารวัตรหมาบ้า
ถ้าท่านคลิ๊กเข้ามาแล้วแสดงว่าท่านต้องสนใจเรื่อง "สารวัตรหมาบ้า" ไม่มากก็น้อย
บอกไว้ก่อนเลยว่า ชีวิตนี้ไม่เคยรีวิว อะไรซักอย่างในชีวิต แต่นี่เป็นบ่วงกรรมที่ทำไว้ครับ
(เผอิญว่า ยืมล๊อคอินของ nearonline ที่ใช้โพสอยู่ในขณะนี้ ในการจองตั๋วหนังเพื่อไปดูฟรีในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ ผมไม่ใช่ nearonline นะครับ มันส่งผมไปเป็นตัวแทนครับ) ตอนแรกก็ว่าจะช่วยสนับสนุน คุณชายอดัม ผู้กำกับสารวัตรหมาบ้าคนนี้เสียหน่อย แต่แล้วก็เกิดเปลี่ยนใจครับ เพราะว่า มีเพื่อนที่ไปดูรอบนี้เหมือนกัน ก็เลยนัดไปเจอกัน
นอกเรื่องมาซะยาว เพราะงั้นเดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลยก็แล้วกันนะครับ
ผมคงไม่ใช้คำว่ารีวิวเหมือนท่านอื่นๆก็แล้วกัน (เพราะจริงๆก็ไม่รู้ ขอบเขตของคำว่ารีวิวนะครับ)
สารวัตรหมาบ้า... ภาพยนตร์เรื่องนี้ เมื่อครั้งแรกที่พบสบตาเห็นบนโปสเตอร์ ก็รู้สึกแค่ว่า "โปสเตอร์สวยดีหว่ะ" แต่พอมาดู ภาพยนตร์ตัวอย่าง ตอนที่ไปดูภาพยนตร์เรื่องอื่นอยู่นั้น ก็รู้สึกว่า หนังเรื่องนี้น่าจะแรง(ในความรู้สึกตัวเอง) อาจจะดูเวอร์ๆ แต่น่าจะเป็นแอคชั่นแบบไทยสไตล์ คงไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่... เปิดเรื่องมาคงเป็นแบบ สืบสวนสอบสวน เดินเรื่องน่าเบื่อๆ สุดท้ายก็จับผู้ร้ายได้ เย่ จบ แฮปปี้เอนดิ้ง...
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้สามารถเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกเหล่านี้ของผมไปได้เกือบทั้งหมดครับ เพราะโดยนิสัย(สันดาน)การดูภาพยนตร์ของผมจะเป็นชนิดที่ว่า ชอบเดามันทุกอย่างครับ "เดี๋ยวมันต้องเป็นอย่างงี้แหละ" โช๊ะ!! "เดาถูกเว้ยเฮ้ย" แบบนี้ส่วนตัวผมเองก็จะรู้สึกหมดสนุก เหมือนกับมันเป็น ช่องเดินในเกมเศรษฐี ที่เราต้องเดินผ่าน แล้วถ้ามันหยุดช่องที่เราคิดไว้ มันก็ หมดสนุก แต่กับเรื่องนี้ เหมือนเดินไปเจอ ช่อง ? ตลอด (ในเกมเศรษฐีสมัยนี้ยังเป็นแบบนี้หรือเปล่าวะครับ ล่าสุดก็เล่นเมื่อนานมาแล้ว [เราแก่แล้วสินะ]) มันมีอะไรให้ลุ้นแล้วก็คอยบีบตลอดเลยครับ แล้วไอทีเราพยายามเดา เหมือนกับที่เราโรคจิต ทำมันกับทุกเรื่อง (ในที่นี้หมายถึงหนังทุกประเภทนะครับ หนังรัก หนังบู๊ บลาๆๆ) ถึงแม้ว่าผมจะเดาถูก ความสนุกหรือความประทับใจมันก็จะไปตกอยู่ตรง วิธีหรือ การพยายามสื่อสารของผู้กำกับ ส่งผ่านตัวละครในภาพยนตร์ มาให้คนดูได้เห็น อันนั้นจะชอบหรือไม่ชอบก็อีกเรื่องครับ
เรื่องนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า ตัวละครทุกตัว มีกิมมิค มีความสำคัญ มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน และไม่ได้เด่น เพียงพระเอกหรือนางเอก เพียงคู่เดียว แต่ยังแบ่งบทบาท ทำให้คนดูรู้สึกอินได้มากขึ้น แล้วก็สำหรับใครที่ชอบ สไตล์ สับไปซ้อนมา ดูแล้วคิดตาม ลุ้นๆว่ามันจะเป็นแบบที่เราคิดหรือเปล่า(วะ) อันนี้ จะสนุกมาก
สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ "คนดูภาพยนตร์" ทุกคนควรดูครับ ย้ำนะครับว่าทุกคน เพราะเรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ถือว่า แหวกแนวสำหรับผมเหมือนกัน ผมไม่เคยดูหนังแอคชั่น ที่ผู้กำกับ สามารถทำให้ตัวละคร สื่อสารกับคนดูได้มากมายขนาดนี้
ข้อเสียที่ผมรู้สึกได้ก็มีไม่กี่อย่างครับ อย่างแรกคือ หนังยืด (อันนี้ผู้กำกับบอกเองเลยว่าอยากให้เป็น retro style แบบชนิดที่ว่า เปิด มอนิเตอร์เทียบกับ ภาพยนตร์สมัยก่อนกันเลยทีเดียว) คุณชายอดัมบอกว่า อยากให้กลิ่นอายมันเป็นแบบนั้น
หลายคนที่พูดถึง คริสตัล วี ที่ว่า นางเล่นไม่ขาดไม่อิน ผมว่าสำหรับผมแล้ว เธอทำออกมาได้ดีมากๆ คิดดูครับว่า คนที่พูดภาษาไทยได้ไม่ชัดมาเล่น แต่เล่นออกมาได้เฉียบ แล้วอารมณ์เธอเล่นขาดจริงๆ แต่มันจะไปขัดที่เธอต้องสื่อสารออกมาในรูปแบบของภาษาที่ไม่ใช่ภาษาที่เธอพูดได้ชัด อาจจะดูขัดๆ (นึกภาพว่าให้คนไทยที่พูดภาษาอังกฤษไม่คล่องเลย ไปเล่นหนังที่ต้องพูดภาษาอังกฤษทั้งเรื่องเลยก็แล้วกัน)
(คุณชายอดัม ถามหลังจากภาพยนตร์จบนะครับ ว่าถ้าไม่เอาคนนี้มาเล่น จะนึกถึงใคร ผมไม่ได้ตอบไปครับ แต่ในใจ มีที่คิดไว้อยู่แล้ว เธอคนนั้นก็คือ สาวกระแต - ศุภักษรนั่นเอง
ถ้าคุณชายมาอ่านก็อย่าลืมอ่านแล้วนึกภาพตามด้วยละกันนะครับ น่าจะเข้าใจนะว่าทำไมผมถึงเลือกเธอคนนี้)
อีกอย่างก็คือ มุมกล้องในช่วงแรกๆ มันเวียนหัวไปนิดครับ (เหมือนกำลังเล่นเคาเตอร์สไตร์ค) แต่พอได้คุยกับคุณชายแล้วเลยรู้ว่า การถ่ายทำในฉากนั้นมันลำบากมาก ด้วยสภาพแวดล้อมกับ พื้นผิวที่ไม่ได้เอื้ออำนวยกองถ่ายเลยแม้แต่น้อย
ว่าจะเขียนนิดเดียวก็ล่อไปซะเยอะเลย เรื่องตัวละครอื่นๆผมคงไม่พูดถึงนะครับ ขืนยาวกว่านี้ อีกนานแน่ๆครับกว่าจะจบ
รายละเอียดปลีกย่อยมีอีกเยอะ ทุกๆฉาก ผู้กำกับใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆครับ แต่อาจจะยังดีไม่พอสำหรับผู้ชมบางท่านที่คาดหวังไว้มากมาย // ถึงแม้ว่าจะไม่ตลาด แต่ไอที่ไม่ตลาดเนี่ยแหละครับ ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ ดิบ และดาร์คออกมาได้สุดๆ
สรุปนะครับ สำหรับผม หนังเรื่องนี้ ดาร์ค ดิบ ถึงใจผมมากๆเลยครับ เป็นภาพยนตร์แอคชั่นที่ผมดูแล้วประทับใจที่สุดเรื่องนึง(ไม่ใช่แบบที่กระสุนแม่มยิงเป็นพันๆนัด แต่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย) ทุกอย่างมันทำให้รู้สึกถึงโลกความเป็นจริงครับ "เมื่อมีการชักปืนออกมา ปืนมันมีอำนาจที่จะตัดสินชีวิตคนนะ" นี่คือคำพูดของ คุณชายอดัม ผู้กำกับสารวัตรหมาบ้า
ทิ้งท้ายไว้นิดนึงครับ
สำหรับผมแล้ว การจะวัดผลว่าภาพยนตร์เรื่องที่ดูมา ถ้ามีคนถามคุณว่า หนังเรื่องนี้สนุกมั้ย เราก็ตอบไปตามความรู้สึกของตัวเองครับ เหมือนกับที่คุณกินอาหารนั่นแหละ "เฮ้ย อร่อยมั้ยวะ" บางคนก็ตอบว่า ไม่รู้ดิ ก็กินได้อะ คนที่ว่าอร่อยคือคนที่ได้กินอาหารในรสชาติที่ชอบมากกว่า สำหรับผมก็เหมือนกันครับ ถ้าถามว่า "สารวัตรหมาบ้า" สนุกมั้ย ผมจะตอบว่า สนุกมวากกกกกกก : )
ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่แพ้การโปรโมทของหนังฟอร์มใหญ่เรื่องอื่นๆ ที่พุ่งทะลักเข้ามา จนภาพยนตร์เรื่องนี้แทบจะหายไป ผมว่าเรื่องนี้ ไม่แพ้ใครง่ายๆแน่นอนครับ
จบการรีวิวครับ ขอบคุณทุกท่านที่หลงทางมาอ่านจนจบครับ
คนขับรถ