เดิมทีเรามักจะบ่นประเทศไทย ตั้งแต่สนามบิน ยันห้องน้ำที่เก็บค่าเข้า 2 บาท อาหารริมฟุตบาท
และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งประเทศเกาหลี สิงคโปรที่ว่าดี แต่ก็หาจุดบอดที่สามารถเอามาบ่นได้ แต่ก็ไม่ดราม่านัก
ทว่าเราเพิ่งเดินทางกลับจากทริปยุโรป London-Scotland-Reutlingen-Paris ค่ะ
รู้สึกดีแค่กับ Scotland กับเมือง Reutlingen เมืองเล็กๆในเยอรมันที่สงบและสะอาดเหมือนกันค่ะ
คิดว่าสองเมืองนี้น่าอยู่มากส่วน London & Paris นี่คิดว่าไม่ถูกฉโลกกับเราเท่าไหร่นัก
แต่จะว่าไปลอนดอนยังน่าอยู่กว่าปารีสค่ะ จะเล่าอันไหนก่อนดี อัดอั้นทั้งคู่ค่ะ (แต่เอาจริงๆ ดราม่าที่ปารีสที่สุด)
ลอนดอนคนพลุกพล่านมากค่ะ มีข้อดีตรงที่อากาศดี มลพิษน้อย แต่เจอเก็บค่าห้องน้ำ 30 pence ทุกแห่งหน บ้างก็ 1 Pound
(ยกเว้นในห้างที่ฟรี)
แต่ที่ Victoria Bus Terminal ค่ะ...โอเคเก็บเงินเราไม่ว่า แต่ห้องน้ำดราม่าสุดๆค่ะ ซกมก โสโครกสุด
แม้จ่ายเงินไปแล้วเรายังขวัญผวารีบออกมาโดยพลัน ยอมอดทนอดกลั้นเดินหาห้องน้ำที่อื่นที่สกปรกน้อยกว่าแทน
ห้องน้ำหมอชิตหรือเอกมันบ้านเรายังสะอาดกว่าหลายสิบเปอร์เซ็นต์อยู่ค่ะ
ที่ปารีสก็สุดๆค่ะ อย่างแรกคือมลพิษเยอะมาก เหมือนบางกอกเลย หายใจแทบไม่ได้ ต้องกลั้นๆเอาไว้
โจรเยอะมากค่ะ แม้กลางวันแสกๆก็สามารถปล้นได้ เราเดินทางจากเยอรมันมาฝรั่งเศสโดยรถไฟ TGV
พอถึงสถานีแล้วเราก็นั่งลงพร้อมกับคุณแม่ โดยเราหยิบสมุดโน๊ตเล็กๆของเราออกจากกระเป๋าค่ะ
แต่ก็เอาแขนคล้องกระเป๋าและก็หนีบๆเอาไว้ที่แขน
ประกฎว่าอยู่ๆก็เหมือนมีคนดึงกระเป๋าเราค่ะ (ไม่แรงมาก แต่รู้สึกได้) เราเลยรีบหันไป แทบช็อคค่ะ
เห็นคนดำ ในเสื้อแจ๊คเก๊ตดำกำลังจับกระเป๋าเราอยู่ เราเลยกรี๊ดดังมากค่ะ แล้วเค้าก็พูดเบาๆเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า "ขอเงิน"
เรารีบบอกเลยว่า "นง นง นง ไม่ ไม่ ไม่" ดังจนคนละแวกนั้นหันมามองค่ะ
แล้วเข้าก็เดินจากไป...เราช็อคค่ะ
ส่วนเรื่องห้องน้ำ โถ...หาห้องน้ำยากมาก เข้าไปช็อปในห้าง คุณพระทั้งห้างมีห้องน้ำอยู่ที่เดียว คิวยาวราวสองกิโล
ดราม่ากว่านั้นคือราคา 1.50 EURO (60 BAHT!!!) ตกใจมากค่ะ (สองบาทบ้านเรา เรายังบ่น เจอหกสิบบาทเข้าไปนี่ช็อคเลย)
ดราม่ากว่านั้นค่ะ เนื่องจากช่วงนี้ตะวันตกดินช้ามากในประเทศแถบยุโรป กว่าจะมืดก็ล่อเข้าไปสี่ห้าทุ่ม
เราก็ลัลล้าช็อปปิ้งในดินแดนสรวงสวรรค์ของเราเพลินค่ะ ว่างๆก็ไปเดินริมแม่น้ำ พอถึงช่วงอุโงค์เท่านั้นล่ะค่ะ
กลิ่นปัสสาวะหึ่งมากกกกกกกกกก รับไม่ได้ นี่หรือดินแดนที่เขาว่ากันว่าพิศมัย ก็มิได้ต่างอะไรกับพุตบาทแถวบ้านเลย
พอจะกลับถึงโรงแรม เจออีกแล้วค่ะ พี่มืดนั่งยองๆ ปล่อยหนักตรงนั้นเลย หัวใจแทบวายยยย
กลับมาเลยรู้สึกรักบางกอก รัก Siam Paragon, The Mall, Central และอื่นๆอีกมากมายที่คิดไม่ออกที่เอื้อเฟื้อห้องน้ำให้ทุกชั้น ทุกโซน
รัก BTS & MRT ที่มีที่นั่งสะอาดๆ พื้นสะอาดๆ มีกลิ่นน้ำยาค่าเชื้อโรคอยู่ตลอด และคุณพี่ยามที่ห้ามไม่ให้เอาอาหารหรือน้ำเข้าไปรับประทานข้างใน
หลังจากไปเที่ยวยุโรปในครั้งนี้ กลับมาหลงรักประเทศไทยและผองเพื่อนประเทศในเอเซียมากขึ้นเลยค่ะ
และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งประเทศเกาหลี สิงคโปรที่ว่าดี แต่ก็หาจุดบอดที่สามารถเอามาบ่นได้ แต่ก็ไม่ดราม่านัก
ทว่าเราเพิ่งเดินทางกลับจากทริปยุโรป London-Scotland-Reutlingen-Paris ค่ะ
รู้สึกดีแค่กับ Scotland กับเมือง Reutlingen เมืองเล็กๆในเยอรมันที่สงบและสะอาดเหมือนกันค่ะ
คิดว่าสองเมืองนี้น่าอยู่มากส่วน London & Paris นี่คิดว่าไม่ถูกฉโลกกับเราเท่าไหร่นัก
แต่จะว่าไปลอนดอนยังน่าอยู่กว่าปารีสค่ะ จะเล่าอันไหนก่อนดี อัดอั้นทั้งคู่ค่ะ (แต่เอาจริงๆ ดราม่าที่ปารีสที่สุด)
ลอนดอนคนพลุกพล่านมากค่ะ มีข้อดีตรงที่อากาศดี มลพิษน้อย แต่เจอเก็บค่าห้องน้ำ 30 pence ทุกแห่งหน บ้างก็ 1 Pound
(ยกเว้นในห้างที่ฟรี)
แต่ที่ Victoria Bus Terminal ค่ะ...โอเคเก็บเงินเราไม่ว่า แต่ห้องน้ำดราม่าสุดๆค่ะ ซกมก โสโครกสุด
แม้จ่ายเงินไปแล้วเรายังขวัญผวารีบออกมาโดยพลัน ยอมอดทนอดกลั้นเดินหาห้องน้ำที่อื่นที่สกปรกน้อยกว่าแทน
ห้องน้ำหมอชิตหรือเอกมันบ้านเรายังสะอาดกว่าหลายสิบเปอร์เซ็นต์อยู่ค่ะ
ที่ปารีสก็สุดๆค่ะ อย่างแรกคือมลพิษเยอะมาก เหมือนบางกอกเลย หายใจแทบไม่ได้ ต้องกลั้นๆเอาไว้
โจรเยอะมากค่ะ แม้กลางวันแสกๆก็สามารถปล้นได้ เราเดินทางจากเยอรมันมาฝรั่งเศสโดยรถไฟ TGV
พอถึงสถานีแล้วเราก็นั่งลงพร้อมกับคุณแม่ โดยเราหยิบสมุดโน๊ตเล็กๆของเราออกจากกระเป๋าค่ะ
แต่ก็เอาแขนคล้องกระเป๋าและก็หนีบๆเอาไว้ที่แขน
ประกฎว่าอยู่ๆก็เหมือนมีคนดึงกระเป๋าเราค่ะ (ไม่แรงมาก แต่รู้สึกได้) เราเลยรีบหันไป แทบช็อคค่ะ
เห็นคนดำ ในเสื้อแจ๊คเก๊ตดำกำลังจับกระเป๋าเราอยู่ เราเลยกรี๊ดดังมากค่ะ แล้วเค้าก็พูดเบาๆเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า "ขอเงิน"
เรารีบบอกเลยว่า "นง นง นง ไม่ ไม่ ไม่" ดังจนคนละแวกนั้นหันมามองค่ะ
แล้วเข้าก็เดินจากไป...เราช็อคค่ะ
ส่วนเรื่องห้องน้ำ โถ...หาห้องน้ำยากมาก เข้าไปช็อปในห้าง คุณพระทั้งห้างมีห้องน้ำอยู่ที่เดียว คิวยาวราวสองกิโล
ดราม่ากว่านั้นคือราคา 1.50 EURO (60 BAHT!!!) ตกใจมากค่ะ (สองบาทบ้านเรา เรายังบ่น เจอหกสิบบาทเข้าไปนี่ช็อคเลย)
ดราม่ากว่านั้นค่ะ เนื่องจากช่วงนี้ตะวันตกดินช้ามากในประเทศแถบยุโรป กว่าจะมืดก็ล่อเข้าไปสี่ห้าทุ่ม
เราก็ลัลล้าช็อปปิ้งในดินแดนสรวงสวรรค์ของเราเพลินค่ะ ว่างๆก็ไปเดินริมแม่น้ำ พอถึงช่วงอุโงค์เท่านั้นล่ะค่ะ
กลิ่นปัสสาวะหึ่งมากกกกกกกกกก รับไม่ได้ นี่หรือดินแดนที่เขาว่ากันว่าพิศมัย ก็มิได้ต่างอะไรกับพุตบาทแถวบ้านเลย
พอจะกลับถึงโรงแรม เจออีกแล้วค่ะ พี่มืดนั่งยองๆ ปล่อยหนักตรงนั้นเลย หัวใจแทบวายยยย
กลับมาเลยรู้สึกรักบางกอก รัก Siam Paragon, The Mall, Central และอื่นๆอีกมากมายที่คิดไม่ออกที่เอื้อเฟื้อห้องน้ำให้ทุกชั้น ทุกโซน
รัก BTS & MRT ที่มีที่นั่งสะอาดๆ พื้นสะอาดๆ มีกลิ่นน้ำยาค่าเชื้อโรคอยู่ตลอด และคุณพี่ยามที่ห้ามไม่ให้เอาอาหารหรือน้ำเข้าไปรับประทานข้างใน