เคยไปกระบี่ เมื่อ 4 ปีก่อน โดน ตม. ห้ามเอาที่ตัดเล็บ,กรรไกร ขึ้นเครื่อง
แต่เมื่อวันก่อนไปกระบี่อีก ตม. ห้ามเอาของเหลวขึ้นเครื่อง ถ้าเกิน 100 ml. ให้ทิ้งเลย ไม่มีที่รับฝาก ของเราคือที่ล้างเครื่องสำอาง ซึ่งเหลือมีอยู่แค่ 20 ml. แต่มันอยู่ในขวด 150 ml. เราถามว่า แล้วอย่างนี้จะไปดูประกาศได้ที่ไหน เขาชี้ไปที่ป้าย stand ที่มีบอกไว้ เราบอกว่าไม่ใช่ เราหมายถึงว่ามีประกาศในเวปของ ตม.ไหม หรือประกาศที่ไหน จะได้จัดของถูก เขาบอกว่า ก็ดูที่ป้ายที่สนามบิน
เราเห็นว่ามีถุงพลาสติกมา เลยจัดการเทใส่ถุง จนท.ตม.บอกว่า ถึงจะเปลี่ยนภาชนะ ก็เอาขึ้นเครื่องไม่ได้ เพราะมันเคยอยู่ในขวด 150 ml. เราบอกว่าแต่นี่มันไม่ถึง 100 ml. สักหน่อย แล้วเปลี่ยนเป็นใส่ถุงแล้ว ขวดนั่นก็ทิ้งไป เขาเรียกหัวหน้ามา หัวหน้าเขาก็ให้ผ่าน
แต่กระเป๋าแฟนผ่านเครื่องสแกนมาได้ไงไม่รู้ ของเขามีแชมพูแพนทีนเกิน 100 ml. กับ conditioner เกิน 100 ml. แต่ไม่โดนตรวจ
แต่ตอนขากลับ สนามบินที่กระบี่เอากระเป๋าเขาผ่านเครื่องสแกน กลับบอกให้หยุด และตรวจกระเป๋าของเขา พบว่ามีแชมพูแพนทีนเกิน 100 ml. กับ conditioner เกิน 100 ml. ให้เอาทิ้ง
เราไม่ค่อยเดินทางหรอก ก็เลยโง่เรื่องอย่างนี้
บินภายในประเทศ จะเช็คว่า ตม. ไม่ให้อะไรขึ้นเครื่องบ้าง เช็คได้ที่ไหน
แต่เมื่อวันก่อนไปกระบี่อีก ตม. ห้ามเอาของเหลวขึ้นเครื่อง ถ้าเกิน 100 ml. ให้ทิ้งเลย ไม่มีที่รับฝาก ของเราคือที่ล้างเครื่องสำอาง ซึ่งเหลือมีอยู่แค่ 20 ml. แต่มันอยู่ในขวด 150 ml. เราถามว่า แล้วอย่างนี้จะไปดูประกาศได้ที่ไหน เขาชี้ไปที่ป้าย stand ที่มีบอกไว้ เราบอกว่าไม่ใช่ เราหมายถึงว่ามีประกาศในเวปของ ตม.ไหม หรือประกาศที่ไหน จะได้จัดของถูก เขาบอกว่า ก็ดูที่ป้ายที่สนามบิน
เราเห็นว่ามีถุงพลาสติกมา เลยจัดการเทใส่ถุง จนท.ตม.บอกว่า ถึงจะเปลี่ยนภาชนะ ก็เอาขึ้นเครื่องไม่ได้ เพราะมันเคยอยู่ในขวด 150 ml. เราบอกว่าแต่นี่มันไม่ถึง 100 ml. สักหน่อย แล้วเปลี่ยนเป็นใส่ถุงแล้ว ขวดนั่นก็ทิ้งไป เขาเรียกหัวหน้ามา หัวหน้าเขาก็ให้ผ่าน
แต่กระเป๋าแฟนผ่านเครื่องสแกนมาได้ไงไม่รู้ ของเขามีแชมพูแพนทีนเกิน 100 ml. กับ conditioner เกิน 100 ml. แต่ไม่โดนตรวจ
แต่ตอนขากลับ สนามบินที่กระบี่เอากระเป๋าเขาผ่านเครื่องสแกน กลับบอกให้หยุด และตรวจกระเป๋าของเขา พบว่ามีแชมพูแพนทีนเกิน 100 ml. กับ conditioner เกิน 100 ml. ให้เอาทิ้ง
เราไม่ค่อยเดินทางหรอก ก็เลยโง่เรื่องอย่างนี้