จัดกันทุกปี และ มีเสียชีวิต บาดเจ็บกันทุกปี
สำหรับงานประเพณี "บุญบั้งไฟ"
ในอดีต "บุญบั้งไฟ" จัดขึ้นเพื่อเป็นการบูชาเทวดา
เพื่อให้ฟ้าฝน อุดมสมบูรณ์ ก่อนที่จะเข้าหน้าทำนา
ทำการเกษตร ตามความเชื่อ
สมัยก่อน บั้งไฟ มันไม่ยาว ไม่ใหญ่เหมือนปัจจุบัน
แต่ยังไง ก็ยังดูอันตรายอยู่ดี
ยิ่งปัจจุบัน แข่นขัน กันใหญ่ขึ้น ยาวขึ้น
แต่อาศัยความรู้ ของชาวบ้าน จากที่เคยทำมา
โดยไม่รู้ว่า วิศกร เข้ามาควบคุม รับรองความปลอดภัย หรือไม่ ไม่รู้
แต่ถึงจะมี บั้งไฟก็ยังอันตรายอยู่ดี เพราะมันไม่มี ระบบขีปนาวุธ
ที่จะนำให้ไปตกกลางทะเล หรือ กำหนดจุดที่จะตก ไม่ได้
เพราะการแข่งขัน ทั้งยาวทั้งใหญ่ และ พุ่งแรงและ สูง
ผลก็ก็คือ บั้งไฟ ระเบิด ตายและ เสียชีวิต ทุกๆ ปี
เท่าที่ทราบ ยังไม่มีปีไหน ที่คนไม่ บาดเจ็บล้มตาย เพราะงานบั้งไฟ
และบางราย นอนอยู่ในกระท่อม หรือ ในบ้านอยู่ดีๆ
ก็ทะลุหลังคาลงมา โดนกระบาล เสียชีวิต
เคยมีข่าว เมื่อหลายปีก่อน ที่สกลนคร
เด็กวัยรุ่น นั่งกินเหล้า ในกระท่อมริมหนองหาน
ซึ่งห่างจากจุดที่จุดบั้งไฟ หลายร้อยเมตร พอสมควร
บั้งไฟที่จุดขึ้นฟ้า ผิดพลาดมันพุ่ง ไปในแนวขนานกับพื้นดิน
พุ่งชน ศรีษะ วัยรุ่นคนนั้น
หัวขาดกระเด็นไปตกที่หนองน้ำ อย่างน่าสยองขวัญ
อันตรายทุกปี ตายกัน ทุกปี แต่ก็ยังปล่อยให้จัดกันอยู่
ที่สำคัญบางครั้งการจุดบั้งไฟ ขึ้นไป แล้วควบคุมทิศทางไม่ได้
กระเด็นไปถูก ชาวบ้านทั่วไป ที่ไม่รู้เรื่องเลย ก็มี
ผมว่า ควรมีกฏหมาย เข้ามาควบคุม
จำกัดขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง และ ความยาว ของบั้งไฟ
ถ้าเป็นไปได้ สมควรยกเลิก "
ประเพณีสยองขวัญ" นี้เลยดีกว่า
ถ้ายกเลิกประเพณีไม่ได้ ควร จะมี กฏหมายห้ามมีการประกวด
บั้งไฟที่ใหญ่และ แรง เช่นบั้งไฟหมื่น และ บั้งไฟแสน ควรห้าม ไม่ให้จุดโดยเด็ดขาด
หรือไม่ก็ ให้หันมาแข่งขัน การจุดพลุ แทน ดีกว่ามั๊ย
ถ้าฝีมือดีๆ อาจจะได้ไปแข่งขันระดับโลก อีกต่างหาก...
<<.. บั้งไฟ.... ถึงเวลา ต้องมีกฏหมายควบคุม หรือยัง ??? ... >>
สำหรับงานประเพณี "บุญบั้งไฟ"
ในอดีต "บุญบั้งไฟ" จัดขึ้นเพื่อเป็นการบูชาเทวดา
เพื่อให้ฟ้าฝน อุดมสมบูรณ์ ก่อนที่จะเข้าหน้าทำนา
ทำการเกษตร ตามความเชื่อ
สมัยก่อน บั้งไฟ มันไม่ยาว ไม่ใหญ่เหมือนปัจจุบัน
แต่ยังไง ก็ยังดูอันตรายอยู่ดี
ยิ่งปัจจุบัน แข่นขัน กันใหญ่ขึ้น ยาวขึ้น
แต่อาศัยความรู้ ของชาวบ้าน จากที่เคยทำมา
โดยไม่รู้ว่า วิศกร เข้ามาควบคุม รับรองความปลอดภัย หรือไม่ ไม่รู้
แต่ถึงจะมี บั้งไฟก็ยังอันตรายอยู่ดี เพราะมันไม่มี ระบบขีปนาวุธ
ที่จะนำให้ไปตกกลางทะเล หรือ กำหนดจุดที่จะตก ไม่ได้
เพราะการแข่งขัน ทั้งยาวทั้งใหญ่ และ พุ่งแรงและ สูง
ผลก็ก็คือ บั้งไฟ ระเบิด ตายและ เสียชีวิต ทุกๆ ปี
เท่าที่ทราบ ยังไม่มีปีไหน ที่คนไม่ บาดเจ็บล้มตาย เพราะงานบั้งไฟ
และบางราย นอนอยู่ในกระท่อม หรือ ในบ้านอยู่ดีๆ
ก็ทะลุหลังคาลงมา โดนกระบาล เสียชีวิต
เคยมีข่าว เมื่อหลายปีก่อน ที่สกลนคร
เด็กวัยรุ่น นั่งกินเหล้า ในกระท่อมริมหนองหาน
ซึ่งห่างจากจุดที่จุดบั้งไฟ หลายร้อยเมตร พอสมควร
บั้งไฟที่จุดขึ้นฟ้า ผิดพลาดมันพุ่ง ไปในแนวขนานกับพื้นดิน
พุ่งชน ศรีษะ วัยรุ่นคนนั้น
หัวขาดกระเด็นไปตกที่หนองน้ำ อย่างน่าสยองขวัญ
อันตรายทุกปี ตายกัน ทุกปี แต่ก็ยังปล่อยให้จัดกันอยู่
ที่สำคัญบางครั้งการจุดบั้งไฟ ขึ้นไป แล้วควบคุมทิศทางไม่ได้
กระเด็นไปถูก ชาวบ้านทั่วไป ที่ไม่รู้เรื่องเลย ก็มี
ผมว่า ควรมีกฏหมาย เข้ามาควบคุม
จำกัดขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง และ ความยาว ของบั้งไฟ
ถ้าเป็นไปได้ สมควรยกเลิก "ประเพณีสยองขวัญ" นี้เลยดีกว่า
ถ้ายกเลิกประเพณีไม่ได้ ควร จะมี กฏหมายห้ามมีการประกวด
บั้งไฟที่ใหญ่และ แรง เช่นบั้งไฟหมื่น และ บั้งไฟแสน ควรห้าม ไม่ให้จุดโดยเด็ดขาด
หรือไม่ก็ ให้หันมาแข่งขัน การจุดพลุ แทน ดีกว่ามั๊ย
ถ้าฝีมือดีๆ อาจจะได้ไปแข่งขันระดับโลก อีกต่างหาก...