++++++++++ เ พี ย ง แ ค่ " ช วน" เ ลื อ ก........................... ++++++++++

กระทู้สนทนา
เห็น "ชวน หลีกภัย" บนเวทีทอล์คโชว์แล้ว.....ผมเสียดายฝีมือดนตรีแกเลยครับ

ชวนเป่า "ใช้ได้" ครับ
"ใช้ได้" ในระดับของนักการเมือง
ที่หาเวลาไปเรียนดนตรีและฝึกฝนเท่าที่จะทำได้



แต่ไทม์มิ่งของชวนยังต้องฝึกอีก
เพราะอาจดูแล้วจับจังหวะยังไม่แม่น

แต่ชวนก็เป่าได้ถูกตัวโน๊ตอยู่นะครับ

และยังมี "น้าต๋อง" คอยประคอง
เป่าลูกตอดเสริมเมโลดี้ให้โน๊ตของชวน
แถมบางช่วงยังเป่าโน๊ตตัวเดียวกับชวนเพื่อ "เพิ่มพลัง" ให้เพลงอีกด้วย

ในโลกนี้มีนักการเมืองหลายคน
ที่มีทักษะทางด้านดนตรีแบบที่เรานึกไม่ถึงครับ

"บิล คลินตัน" เป็นนักการเมืองที่เป่าแซ็คเก่ง
พี่แกเคยขึ้นเวทีโชว์ร่วมกับนักดนตรีอาชีพตามโิอกาส
บนเวทีดนตรี....ลีลาของคลินตันดูสง่างาม และ ภูมิฐานยิ่งกว่าเวทีปราศรัยซะอีก

ผมว่าพื้นฐานแบบ "บลูส์แจ๊ส" ของคลินตันถือว่าอยู่ในระดับดีเลยขอรับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



รูปหล่อ
เป่าแซ็คฯเก่ง
คารมคมคายดี
และเสน่ห์แบบหนุ่มใหญ่ล้นเหลือ

จึงไม่แปลกเลยที่อีหนู "มอนิก้า ลิววินสกี้" ยอมสูบ "ซิก้าร์ส่วนตัว" ของคลินตันจนกระฉ่อนไปทั่วโลก

"จอห์น เคอรี่"  เป็นอีกคนที่มีทักษะครับ
เคอรี่เป็นนักการเมืองในยุคเดียวกับคลินตัน และ บุช
และเป็นอีกคนที่เล่นกีต้าร์ได้ในระดับที่เรียกว่า "ใช้ได้"

เคอรี่เคยขึ้นเวทีในระหว่างหาเสียง
พร้อมๆกับกีต้าร์กิ๊บสัน แบบเซมิฮอลโล่ สีแดงสด (ผมอยากได้ซักตัว กำลังปะเหลาะเมียขอซื้ออยู่ แหะ แหะ)

ลีลาการ "ขย่มกีต้าร์"  ของเคอรี่
ผมว่าสามารถเป็น "ร็อคสตาร์" ในยุค 60 ได้เลย
"ทางดนตรี" ของเคอรี่ต่างจากคลินตันครับ เพราะเคอรี่ดูถนัดทางร็อคอะบิลลี่ ในขณะที่คลินตันมาทางสายบลูส์แจ๊สเลย



บุรุษอีกคนที่แม้ไม่ใช่นักการเมือง
แต่ถูกจัดอันดับให้เป็น "ผู้ทรงอิทธิพล" ยิ่งกว่านักการเมือง
และแถมยังมีทักษะในเรื่องของดนตรีชนิด "เมพขิงๆ" ก็คือตาลุง "อลัน กรีนสแปน" ครับ

ลุงกรีนสแปนที่เคยเป็นอดีตผู้ว่าฯเฟด
ผู้ซึี่งหากว่า "ขยับตัว" เมื่อไร เศรษฐกิจโลกสะเทือนเมื่อนั้นนั่นแหละครับ



หากไม่ได้เป็นนักการเงินแล้ว
อาชีพที่ดีที่สุดของลุงแกน่าจะเป็น "นักดนตรี" ครับ

กรีนสแปนในวัยหนุ่มเป็นเพื่อนกับ "สแตน เก็ทซ์" ครับ
สแตน เก็ทซ์ ที่ปัจจุบันเป็นนักแซ็คโซโฟนชื่อก้องโลกนั่นแหละ
(ใครชอบแซ็คลองไปหาอัลบั้ม "สแตน เก็ทซ์ เพลยส์ โจบิม" มาฟังนะครับ.....ลุงสแตนแกเป่าได้ขั้นเทพเลย)



ทั้งกรีนสแปน และ เก็ทซ์ ใช้ชีวิตในวัยหนุ่มด้วยกัน
ในห้องเรียนของสถาบันดนตรีจูลิยาร์ด ที่เป็นแหล่งผลิตคนแจ๊สชั้นนำ
ทั้งคู่ร่ำเรียนเขียนอ่านมาด้วยกันตั้งแต่ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย จนทะลุปรุโปร่งในตัวโน๊ต 7 ตัว

และแล้วก็ถึงวันที่ต้องสร้างดาวคนละดวง

กรีนสแปนตัดสินใจว่าอยากเป็นนักการเงิน
ในขณะที่เก็ทซ์ก็รู้ตัวว่าคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้หากไม่ได้เล่นดนตรี

การตัดสินใจในครั้งนั้น
เลยทำให้โลกได้มีนักการเงินที่มีอิทธิพลสูงสุดคนหนึ่งของโลก
ในขณะที่อีกฟากหนึ่งนั้นก็ทำให้เราได้นักดนตรีแจ๊สนามกระเดื่องคนหนึ่งของโลกเช่นกัน

ของไทยเราอีกคนก็ไม่น้อยหน้าครับ
"หม่อมพี่" ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนักดนตรีฝีมือดีเช่นกัน
ฝีมือการพรมนิ้วลงบนคีย์เพียโนของหม่อมพี่อยู่ในระดับ "โชว์ได้ไม่อายใคร"

เท่าที่ผมเคยดูจากภาพข่าวเก่าๆ
ทางดนตรีของ "หม่อมพีี่" ค่อนข้างไปทางคลาสสิคคัลครับ

ในขณะที่ "หม่อมน้อง" ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
ก็เป็นอีกคนทีีมีฝีไม้ลายมือทางด้านดนตรีเช่นกัน
แต่ของ "หม่อมน้อง" ค่อนข้างจะชัดเจนว่าเก่งทางด้านดนตรีไทย

"ป๋า" ก็เป็นอีกคน
ที่หลังๆหันไปเอาดีทางด้านดนตรี
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่งเพลงออกมาหลายเพลง
และซุ่มเรียนเพียโนจนสามารถขึ้นคอนเสิร์ทโชว์ลีลานิ้วได้อย่างไปวัดไปวาได้



แต่สไตล์ของ "ป๋า" ชัดเจนว่าเป็นลูกกรุงครับ

ส่วน "กร ทัพพะรังสี" มาไม่เหมือนใคร
เพราะคนอื่นเขาเป่าแซ็ค ดีดเพียโน กันส่วนใหญ่
แต่ "กร" เป็นมือเบสครับ และผมว่า "กร" ยังไม่เก่งเท่าไร



อีกทั้งแนวเพลงที่ "กร" เล่นมักเป็นแนวเพื่อชีวิตในแบบที่ไม่ซับซ้อนมากนัก

"โต้ง" ไกรศักดิ์ ชุณหวัณ คนนี้ชอบกีต้าร์ครับ
ผมเคยเห็นกีต้าร์ของไกรศักดิ์ที่เป็นแบบ ฮอลโล บอดี้ ....กีต้าร์เขาสวยมาก

แต่ฝีมือกีต้าร์ของ "โต้ง" นั้นตรงกันข้าม
เพราะเขาเล่นได้ "มั่วมาก" แบบจับทิศทางไม่ได้เลย
ไกรศักดิ์เล่นในแนว "บลูส์"ครับ และเคยขึ้นเวทีบ่่อยๆในแนวนี้



ผมเคยทัศนาฝีมือแกแบบติดขอบเวทีที่ "แซ็คโซโฟน"อนุสาวรีย์....แกเล่นได้ "มั่ว" จริงๆขอรับ

โซโล่ยืดยาว น่าเบื่อ แบบหาทางจบไม่ลง....
อาจเป็นเพราะฤทธิ์สุราก่อนขึ้นเล่นหรือเปล่าก็ไม่รู้

"ป๊อก" อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นมือกลองครับ
เป็นมือกลองที่ชอบดนตรีในยุคซิกซ์ตี้โดยเฉพาะ "สี่เต่าทอง"
ผมไม่เคยเห็นฝีมือหวดกลองของป๊อก เลยบอกไม่ได้ว่าเล่นดีหรือห่วยแค่ไหน

นักการเมืองล้วนแล้วแต่มีแง่มุมอื่นๆที่ทำให้เรานึกไม่ถึงทัั้งนั้น

มันทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
หากพวกเขาไม่เลือกทำงานการเมือง
และเลือกที่จะเป็นอย่างอื่นแล้วละก็....ชีวิตพวกเขาจะเป็นอย่างไร

หาก "ชวน หลีกภัย" เลือกอีกด้านที่เขาชอบ
เช่น เลือกที่จะเป็น "จิตรกร" สร้างงานบนผืนผ้าใบในแบบที่เขาเคยมีแรงบันดาลใจ
หรือ เลือกที่จะเป็น "นักดนตรี" ที่เขาเองก็พอจะมีฝีไม้ลายมือ มีทักษะที่น่าจะพัฒนาได้



เขาจะถูกจดจำงานศิลปะ
เขาจะถูกจดจำลมปากที่พ่นผ่านแซ็คตัวเก่ง
มากกว่าเรื่องราวของ ปรส. หรือ สปก.4-01 หรือเปล่าหนอ ????

ภาพ : กูเกิ้ล&ยูทูป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่